คณะรักษาความสงบฯ ยังคงเดินหน้ากวาดล้างขยะพิษจากการเมือง เขย่าเก้าอี้ผู้บริหารองค์กรต่างๆ ยกพรมดูว่ามีอะไรเน่าเหม็นซ่อนเร้นไว้ให้สะสางมากน้อยเพียงใด อย่างที่ฝรั่งบอกว่า “หาซากโครงกระดูกซุกซ่อนในตู้” นั่นแหละ
ชาวบ้านเห็นความเปลี่ยนแปลงคือจำนวนตู้ม้า ตู้พนันบอล ตู้สารพัด ในหลายแหล่งซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพาตำรวจไปค้นจับกุม บางแห่งมีมากถึง 200 ตู้ ทำมาหากินมานาน ถ้าไม่มีรัฐประหารก็คงเป็นขุมทรัพย์ของพวกนอกกฎหมาย
โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายส่วนหนึ่งได้ประโยชน์ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจจับกุม ทิ้งค้างหมักหมมไว้นาน เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจใต้ดิน ซึ่งนับวันขยายตัว ขนาดเกือบพอฟัดพอเหวี่ยงกับเศรษฐกิจในภาคปกติ
ดังนั้นไม่แปลกที่มีเสียงเรียกร้องให้โยกนายทหารมือดี บารมีสูง มาเป็นผู้นำองค์กรตำรวจเหมือนในยุคจอมพลสฤษดิ์ ต่อเนื่องมาจนถึงหลังยุคถนอม-ประภาส แต่จะย้อนยุคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของตำรวจว่าเป็นอย่างไร
คณะ คสช.เร่งมือ แต่ยังไม่ทันใจชาวบ้าน หลังจากกุมอำนาจเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 22 จนถึงกลางเดือน ดูเหมือนนาน แต่ยังมีเรื่องค้างคาเยอะ มีทั้งเสียงเรียกร้องให้จัดการนั่นนี่โน่น ช่วงเดือนแรกต้องสร้างผลงานให้ปรากฏชัด
ทุกอย่างต้องให้เต็มสูบ ไม่ให้สงสัยว่ามีกรณีซูเอี๋ย เพิกเฉย!
การเร่งลงมือจัดการ โดยเฉพาะการขุดรากถอนโคนเครือข่ายกลุ่มผู้บริหารองค์กรแต่งตั้งโดยอำนาจเก่า พวกสมุนทรราช ขี้ข้าบักเหลี่ยมยังทำท่าเป็นพวกก้นหนาทากาว ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่มาจี้ให้ลาออก ก็แกล้งทำเป็นเซ่อ
ผู้บริหาร ประธานองค์กรรัฐวิสาหกิจซึ่งมองสัญญาณชัดว่าคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงพลิกผันแน่นอน ก็ยื่นใบลาออกโดยไม่โยกโย้ ไม่นานไม่ช้าจนเกินงาม จนดูเสียเกียรติภูมิ เพราะการลาออกยังดูดีกว่าการโดนปลดออกแน่
ประธาน ปตท. ประธานธนาคารกรุงไทย ยื่นใบลาออก รู้ดีว่าถ้ายังตื๊ออยู่นั้นจะทำให้หมดราคา แม้จะอาลัยอาวรณ์ พวกก้นทากาวยังเป็นเป้าหมายของ คสช.ต้องรีบจัดการโดยพลัน การทิ้งค้างคาไว้เกินเดือนจะทำให้ขาดความขลัง
โบราณว่าต้องตีเหล็กเมื่อร้อน จะได้ของดี ผลงานแบบนี้ได้ใจชาวบ้าน ที่ผ่านมาเพียงเรียกเสียงฮือฮาได้บ้าง แต่ยังไม่หนำใจ หลายองค์กรยังมีขี้ข้าในระบอบทักษิณเป็นตัวแสบ จนดูเหมือนว่าพวกนี้เส้นแข็ง รอดได้เพราะต่อรอง
มีหลายภารกิจซึ่งจะสะสางไม่ได้ภายใต้สภาวะธรรมดา หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยผู้กุมอำนาจรัฐซึ่งมาจากการหนุนของเครือข่ายทุกระดับ กุมเสียงผู้ลงคะแนน เป็นโครงสร้างของการเมืองน้ำเน่าเต็มไปด้วยการทุจริต
มีทั้งคอร์รัปชันอำนาจ และคอร์รัปชันเป็นตัวเงินและผลประโยชน์ต่างๆ
ช่วงนี้แกนนำเสื้อแดงกลุ่มล้มเจ้าเผาเมืองยุคระบอบทักษิณครองเมืองต่างพากันกบดาน ซุ่มเงียบ ใช้เงิน กลืนเลือด รอจังหวะเด้งกลับมาใหม่เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองหวนคืนสู่ระบบเลือกตั้ง ใช้เงินเบิกทางให้ได้กุมอำนาจรัฐ
การฟื้นตัวของระบอบทักษิณหลังจากการเมืองคืนสู่ระบบเลือกตั้งอีกครั้งจะนำพาบ้านเมืองเข้าสู่วงจรเดิม คือการแสดงออกด้วยการชุมนุมเดินขบวนต่อต้านขับไล่รัฐบาลกังฉิน เกิดม็อบชนม็อบ ไม่พ้นจากบ่วงกรรม
การเดินขบวนชุมนุม การแสดงออกทั้งความเห็น ข้อเขียน โดยสิทธิเสรีภาพเป็นสภาวะปกติของสังคมประชาธิปไตย แต่โครงสร้างจะต้องมีองค์ประกอบหลายประการเช่น สังคมต่อต้านคนหน้าด้าน มีระบบจัดการ
ไม่อย่างนั้น การรัฐประหารจะเป็นมาตรการขั้นสุดท้ายซ้ำซาก
นี่คือสภาวะที่ คสช.จะต้องมองให้ถึง ไม่ว่าจะเป็น 2-3 ปีจากนี้ไป เมื่อรัฐบาลเฉพาะกิจที่จะเกิดในเดือนกันยายน-ตุลาคม เพื่อจัดโครงสร้างปฏิรูปบ้านเมือง ทั้งเสียงเรียกร้องให้เร่งปฏิรูปที่ดิน การจำกัดถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน
คนไทยทุกคนควรมีส่วนเป็นเจ้าของแผ่นดินสำหรับการอยู่อาศัยและทำกินในภาคส่วนต่างๆ เป็นการอุจาดสุดๆ ที่บุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตามได้ถือครองที่ดินเป็นหมื่นๆ แสนๆ ไร่ ภายใต้เศรษฐกิจเสรี มือใครยาวสาวได้สาวเอา
คณะ คสช.มีภารกิจจำเป็นคือการปฏิรูปที่ดิน การจัดระบบเกษตรกรรมรากฐานของแผ่นดินเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้กับภาคอุตสาหกรรม ให้เกิดสมดุล เพื่อให้สังคมไทยสร้างความสุขให้เจ้าของแผ่นดินโดยเชื้อชาติ ไม่ใช่สร้างทุกข์
คณะ คสช.ต้องเร่งสร้างสุขอย่างยั่งยืน มากกว่าการคืนความสุขเพียงเฉพาะกรณี การฟื้นฟูกลไกกระบวนการยุติธรรมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพื่อให้ประชาชนศรัทธา หวังได้รับความเที่ยงธรรม คือประโยชน์สุขแท้จริง
สังคมไทยโหยหาโครงสร้างที่มีความยุติธรรม แทนคำเปรียบเปรยเจ็บแสบว่า “คุกมีไว้ขังคนจนกับคนไร้เส้นสาย” แม้แต่ในคุกก็ยังไร้ความเที่ยงธรรม มีสภาวะอภิสิทธิ์ กลุ่มอิทธิพล เป็นแหล่งเพาะอาชญากรรม แหล่งผลประโยชน์
จากนี้ไป คสช.จะต้องยิ่งแสดงความตั้งใจ ความจริงใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ทนต่อแรงกดดัน ไม่ให้เกิดความสงสัยเกี่ยวโยงผลประโยชน์ ใช้อำนาจเด็ดขาดตามเสียงเรียกร้องของประชาชนเพื่อพิสูจน์ว่าเอาจริง ไม่ซูเอี๋ย
ชาวบ้านเห็นความเปลี่ยนแปลงคือจำนวนตู้ม้า ตู้พนันบอล ตู้สารพัด ในหลายแหล่งซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพาตำรวจไปค้นจับกุม บางแห่งมีมากถึง 200 ตู้ ทำมาหากินมานาน ถ้าไม่มีรัฐประหารก็คงเป็นขุมทรัพย์ของพวกนอกกฎหมาย
โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายส่วนหนึ่งได้ประโยชน์ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจจับกุม ทิ้งค้างหมักหมมไว้นาน เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจใต้ดิน ซึ่งนับวันขยายตัว ขนาดเกือบพอฟัดพอเหวี่ยงกับเศรษฐกิจในภาคปกติ
ดังนั้นไม่แปลกที่มีเสียงเรียกร้องให้โยกนายทหารมือดี บารมีสูง มาเป็นผู้นำองค์กรตำรวจเหมือนในยุคจอมพลสฤษดิ์ ต่อเนื่องมาจนถึงหลังยุคถนอม-ประภาส แต่จะย้อนยุคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของตำรวจว่าเป็นอย่างไร
คณะ คสช.เร่งมือ แต่ยังไม่ทันใจชาวบ้าน หลังจากกุมอำนาจเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 22 จนถึงกลางเดือน ดูเหมือนนาน แต่ยังมีเรื่องค้างคาเยอะ มีทั้งเสียงเรียกร้องให้จัดการนั่นนี่โน่น ช่วงเดือนแรกต้องสร้างผลงานให้ปรากฏชัด
ทุกอย่างต้องให้เต็มสูบ ไม่ให้สงสัยว่ามีกรณีซูเอี๋ย เพิกเฉย!
การเร่งลงมือจัดการ โดยเฉพาะการขุดรากถอนโคนเครือข่ายกลุ่มผู้บริหารองค์กรแต่งตั้งโดยอำนาจเก่า พวกสมุนทรราช ขี้ข้าบักเหลี่ยมยังทำท่าเป็นพวกก้นหนาทากาว ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่มาจี้ให้ลาออก ก็แกล้งทำเป็นเซ่อ
ผู้บริหาร ประธานองค์กรรัฐวิสาหกิจซึ่งมองสัญญาณชัดว่าคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงพลิกผันแน่นอน ก็ยื่นใบลาออกโดยไม่โยกโย้ ไม่นานไม่ช้าจนเกินงาม จนดูเสียเกียรติภูมิ เพราะการลาออกยังดูดีกว่าการโดนปลดออกแน่
ประธาน ปตท. ประธานธนาคารกรุงไทย ยื่นใบลาออก รู้ดีว่าถ้ายังตื๊ออยู่นั้นจะทำให้หมดราคา แม้จะอาลัยอาวรณ์ พวกก้นทากาวยังเป็นเป้าหมายของ คสช.ต้องรีบจัดการโดยพลัน การทิ้งค้างคาไว้เกินเดือนจะทำให้ขาดความขลัง
โบราณว่าต้องตีเหล็กเมื่อร้อน จะได้ของดี ผลงานแบบนี้ได้ใจชาวบ้าน ที่ผ่านมาเพียงเรียกเสียงฮือฮาได้บ้าง แต่ยังไม่หนำใจ หลายองค์กรยังมีขี้ข้าในระบอบทักษิณเป็นตัวแสบ จนดูเหมือนว่าพวกนี้เส้นแข็ง รอดได้เพราะต่อรอง
มีหลายภารกิจซึ่งจะสะสางไม่ได้ภายใต้สภาวะธรรมดา หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยผู้กุมอำนาจรัฐซึ่งมาจากการหนุนของเครือข่ายทุกระดับ กุมเสียงผู้ลงคะแนน เป็นโครงสร้างของการเมืองน้ำเน่าเต็มไปด้วยการทุจริต
มีทั้งคอร์รัปชันอำนาจ และคอร์รัปชันเป็นตัวเงินและผลประโยชน์ต่างๆ
ช่วงนี้แกนนำเสื้อแดงกลุ่มล้มเจ้าเผาเมืองยุคระบอบทักษิณครองเมืองต่างพากันกบดาน ซุ่มเงียบ ใช้เงิน กลืนเลือด รอจังหวะเด้งกลับมาใหม่เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองหวนคืนสู่ระบบเลือกตั้ง ใช้เงินเบิกทางให้ได้กุมอำนาจรัฐ
การฟื้นตัวของระบอบทักษิณหลังจากการเมืองคืนสู่ระบบเลือกตั้งอีกครั้งจะนำพาบ้านเมืองเข้าสู่วงจรเดิม คือการแสดงออกด้วยการชุมนุมเดินขบวนต่อต้านขับไล่รัฐบาลกังฉิน เกิดม็อบชนม็อบ ไม่พ้นจากบ่วงกรรม
การเดินขบวนชุมนุม การแสดงออกทั้งความเห็น ข้อเขียน โดยสิทธิเสรีภาพเป็นสภาวะปกติของสังคมประชาธิปไตย แต่โครงสร้างจะต้องมีองค์ประกอบหลายประการเช่น สังคมต่อต้านคนหน้าด้าน มีระบบจัดการ
ไม่อย่างนั้น การรัฐประหารจะเป็นมาตรการขั้นสุดท้ายซ้ำซาก
นี่คือสภาวะที่ คสช.จะต้องมองให้ถึง ไม่ว่าจะเป็น 2-3 ปีจากนี้ไป เมื่อรัฐบาลเฉพาะกิจที่จะเกิดในเดือนกันยายน-ตุลาคม เพื่อจัดโครงสร้างปฏิรูปบ้านเมือง ทั้งเสียงเรียกร้องให้เร่งปฏิรูปที่ดิน การจำกัดถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน
คนไทยทุกคนควรมีส่วนเป็นเจ้าของแผ่นดินสำหรับการอยู่อาศัยและทำกินในภาคส่วนต่างๆ เป็นการอุจาดสุดๆ ที่บุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตามได้ถือครองที่ดินเป็นหมื่นๆ แสนๆ ไร่ ภายใต้เศรษฐกิจเสรี มือใครยาวสาวได้สาวเอา
คณะ คสช.มีภารกิจจำเป็นคือการปฏิรูปที่ดิน การจัดระบบเกษตรกรรมรากฐานของแผ่นดินเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้กับภาคอุตสาหกรรม ให้เกิดสมดุล เพื่อให้สังคมไทยสร้างความสุขให้เจ้าของแผ่นดินโดยเชื้อชาติ ไม่ใช่สร้างทุกข์
คณะ คสช.ต้องเร่งสร้างสุขอย่างยั่งยืน มากกว่าการคืนความสุขเพียงเฉพาะกรณี การฟื้นฟูกลไกกระบวนการยุติธรรมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพื่อให้ประชาชนศรัทธา หวังได้รับความเที่ยงธรรม คือประโยชน์สุขแท้จริง
สังคมไทยโหยหาโครงสร้างที่มีความยุติธรรม แทนคำเปรียบเปรยเจ็บแสบว่า “คุกมีไว้ขังคนจนกับคนไร้เส้นสาย” แม้แต่ในคุกก็ยังไร้ความเที่ยงธรรม มีสภาวะอภิสิทธิ์ กลุ่มอิทธิพล เป็นแหล่งเพาะอาชญากรรม แหล่งผลประโยชน์
จากนี้ไป คสช.จะต้องยิ่งแสดงความตั้งใจ ความจริงใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ทนต่อแรงกดดัน ไม่ให้เกิดความสงสัยเกี่ยวโยงผลประโยชน์ ใช้อำนาจเด็ดขาดตามเสียงเรียกร้องของประชาชนเพื่อพิสูจน์ว่าเอาจริง ไม่ซูเอี๋ย
