“ประยุทธ์” สุดเท่อีกหนึ่ง “กลางกลวง” แยกแยะถูก-ผิดไม่ออก !!

ผ่าประเด็นร้อน


ตอนแรกเกือบจะลืม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปแล้ว ว่ายังมีเขาอยู่ เพราะในสายตาของประชาชนไม่น้อยที่มองไม่เห็นความสำคัญของเขาเลย หรือจะเรียกว่า “หมดศรัทธา” ไปนานแล้วก็ได้ จนระยะหลังแทบไม่อยากพูดถึงอีก

แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เชื่อว่าหลายคนมีความหวังกับเขาไม่น้อย เพราะในสภาพที่บ้านเมืองกำลังชุลมุนวุ่นวายกับกลุ่มการเมืองของระบอบทักษิณ ที่กำลังยึดครองบ้านเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ หวังว่านายทหารที่เคยถูกเรียกว่า “ทหารเสือราชินี”และไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก น่าจะมีความอ่อนไหวกับพวกที่“หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” อย่างเป็นรูปธรรม และที่สำคัญเขาถูกคาดหวังว่าสามารถแยกแยะความถูกต้องได้ดี และยืนเคียงข้างแสดงจุดยืนสนับสนุนความถูกต้องดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็ต้องปฏิเสธความไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน แต่นี่กลายเป็นว่าเขาทำเป็นไม่เข้าใจ แล้วบอกว่าของ “อยู่ตรงกลาง” หรือไม่เช่นนั้นก็ให้ “เจรจากับผู้มีอิทธิพลที่ทำผิดกฎหมาย”เสียอีก

ด้วยหลักการ“ห่วยๆ”แบบนี้แหละที่ทำให้คนในสังคมที่ “ตื่นรู้”รู้สึกผิดหวัง เลิกคาดหวังกับเขาและค่อยๆลบเลือนไปจากความทรงจำ ต้องปล่อยให้เกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้แบบไร้คุณค่า

ก็จะไม่ไห้เลิกสนใจได้อย่างไร เพราะในเมื่อเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่า ทักษิณ ชินวัตร และ ระบอบทักษิณ เป็นอย่างไร รู้ดีว่ารัฐบาล“หุ่นเชิด” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุจริตคอร์รัปชันกันมโหฬารอย่างไร ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไรบ้าง และที่สำคัญยังเป็นรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม ถูกประชาชนนับล้านๆคนออกมาขับไล่แต่ยังหน้าด้านไม่ยอมไป ซึ่งอีกด้านหนึ่งที่รัฐบาลทรราชย์กลุ่มนี้ยังลอยหน้าท้าทายอยู่ได้จนถึงเวลานี้สาเหตุสำคัญก็มาจากการ “วางเฉย”ของผู้นำกองทัพบกแบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่แหละ

ด้วยบทบาทอย่างที่เห็นมันก็ช่วยไม่ได้ที่ชาวบ้านตื่นรู้ และรู้ทันพวกนักการเมืองขี้โกง และข้าราชการที่ยอมเป็นเครื่องมือของนักการเมืองชั่ว รวมไปถึงข้าราชการที่ขาดความกล้าหาญไร้ศักดิ์ศรี จะถูกมองอย่างหมิ่นแคลนและเสื่อมศรัทธา ส่วนจะว่าในจำนวนนั้นมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยหรือไม่ลองไปพิจารณากันเอาเอง และเชื่อว่าเจ้าตัวก็คงจะรับรู้ดีว่ามีกระแสความรู้สึกดังกล่าวหรือไม่

นั่นคือ ความรู้สึกต่อบทบาทและคาดหวังที่เคยมีต่อนายทหารคนนี้ จนนำมาสู่ความรู้สึกเฉยชา เสมือนว่ามีหรือไม่มีไม่ได้ต่างกัน จนลืมไปจากความรู้สึกไปนานไปแล้ว

อย่างไรก็ดี ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอีกรอบ ความหมายก็คงเดิมคือแต่ละฝ่ายลดความขัดแย้ง ถอยคนละก้าว และนำไปสู่การเจรจาเพื่อหาทางออก และอ้างว่าเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า และกล่าวทำนองว่า “เขาอยู่ตรงกลางมีความลำบากใจ”อะไรทำนองนั้น ขณะเดียวกันยังกล่าวเตือนว่า “อย่าทำลายกองทัพ และไม่มีใครมาซื้อกองทัพได้ ไม่ว่าจะนำผลประโยชน์อะไรมาแลกเปลี่ยน”

ฟังดูเผินๆ เป็นคำพูดที่เขาเรียกกันแบบบ้านๆ ว่า “โคตรเท่”เลย แต่ถึงอย่างไรมันผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง ไม่ต่างจากการบิดเบือนให้ความหมายกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะที่เขาสงสัยและกล่าวหาก็คือคนในกองทัพ เป็นนายทหารบางคนในกองทัพ อาจจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือเปล่าก็ไม่รู้ หลังจากได้ยินคลิปเสียง "ถั่งเช่า" ที่เชื่อว่าเป็นเสียงของ ทักษิณ ชินวัตร พูดกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ต่อมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้พูดว่า “ผมไว้ใจไอ้ตู่มากที่สุด” แน่นอนว่าที่สงสัยและกล่าวหาไม่ใช่กองทัพ แต่เป็นนายทหารและผู้ที่มาเป็นผู้นำกองทัพบางคนเท่านั้น

อย่างไรก็ดี นั่นอาจจะไม่ใช่ประเด็นเพราะสิ่งที่น่าผิดหวังยิ่งกว่าก็คือ คนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่อาจแยกแยะความถูกผิด ได้เลย ทั้งที่ในเรื่องดังกล่าวมันต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่ง เหมือนกับความดีความชั่ว จะเป็นกลางไม่ได้ จะให้เจรจากับคนชั่ว เจรจากับโจรที่กำลังปล้นบ้านตัวเองไม่ได้เป็นอันขาด ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีฐานะไม่ต่างจากผู้รักษากฎหมาย นอกจากไม่จับโจรแล้ว ยังบังคับให้เจ้าทุกข์ไปพูดคุยกับโจรอีก อ้างว่าเพื่อความสงบ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ และคนที่คิดแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้อีกด้วย

ดังนั้นคำพูดและท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ คราวนี้ก็เป็นแค่เพียงถ้อยคำเท่ๆ และเพียงแค่แสดงความไม่พอใจที่ตัวเองถูกตำหนิและถูกกล่าวหาในเรื่องที่มิชอบเท่านั้น ซึ่งมันไร้สาระสิ้นดี !!