ปล่อยแดงยกก๊วน "เต้น-ตู่"กลับบ้าน-"สนธิ"ยังถูกคุมตัวเด้ง"ธงทอง"ตั้ง"ปนัดดา"แทน

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ประยุทธ์"เชิญคณะที่ปรึกษาถกแบ่งงานรับผิดชอบวันนี้ ประเดิมปฏิรูปหน่วยงานมั่นคง ปรับโครงสร้างตำรวจ เพิ่มกำลังด้านการข่าว ปรับบทบาท ศอ.บต. พร้อมเร่งคลอดงบปี 58 คสช.ปล่อย "เต้น ตู่ วีระ เหวง ขวัญชัย" พร้อมแก๊งแดงกลับบ้าน แต่ "สนธิ" ยังถูกคุมตัวอยู่ เผยเรียกรายงานตัว 253 ปล่อยแล้ว 124 ไม่โผล่ 53 ราย สั่งปิด 100 เว็บไซต์ยุยง ปลุกปั่น วุ่น! เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ใช้งานไม่ได้ชั่วคราว ล่าสุด เด้ง "ธงทอง"เข้ากรุ ตั้ง "ปนัดดา"แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เชิญคณะที่ปรึกษาคสช. ที่ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธาน 2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองประธาน 3.ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองประธาน 4.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา 5.นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษา 6.นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา 7.นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ปรึกษา 8.พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ที่ปรึกษา 9.พล.อ.นภดล อินทปัญญา ที่ปรึกษา 10.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษาและเลขานุการ มาประชุมเพื่อจัดส่วนงาน กำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารงานของ คสช. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ

***เริ่มปฏิรูปงานด้านความมั่นคง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อหัวหน้า คสช. ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สนข.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร(กอ.รมน.) สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อชี้แจงแนวทางการกำกับดูแลและขับเคลื่อนการปฎิบัติงาน ให้เป็นไปตามนโยบายของหัวหน้า คสช.

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการปรับโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีขนาดเล็กลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งลดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง สำนักงานข่าวกรอง ให้พิจารณาบรรจุกำลังพลเพิ่มเติม เพื่อรองรับงานด้านการข่าว พร้อมทั้งแก้ไขกฎหมายบางฉบับ ของ กอ.รมน. รองรับการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และการบริหารจัดการกำลังพล ในส่วนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้ยึดกลไกศูนย์ปฎิบัติการอำเภอในการบูรณาการ เพื่อเชื่อมโยงกับงานด้านการพัฒนาและความมั่นคงตามระดับของพื้นที่ เช่น การเพิ่มปลัดอำเภอและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รวมทั้งการเพิ่มบทบาทกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

สำหรับสำนักงบประมาณ ให้จัดทำร่างงบประมาณประจำปี 2558 เสนอหัวหน้า คสช. รวมทั้งจะหารือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอมาตราการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2557 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าร้อยละ 95 ในเดือนก.ย.นี้ พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมายวิธีการงบประมาณให้มีความชัดเจนและครอบคลุมสามารถรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้

ในส่วนสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะรวบรวมแผนงานหรือโรดแมปของ คสช. จัดทำยุทธศาสตร์ หากมีเกิดความซ้ำซ้อน ให้เสนอให้หัวหน้า คสช. พิจารณาอีกครั้ง รวมทั้งต้องพิจารณาและนำเสนอความเป็นไปได้ และความเร่งด่วนในการจัดเขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายหัวหน้า คสช. รวมทั้งจะติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ เพื่อเสนอแนวทางสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ 2557

**คุม นปช.เข้าหอประชุม ทบ.

สำหรับความเคลื่อนไหวของการรายงานตัวและการปล่อยตัวของผู้ที่ถูกควบคุมตัวชั่วคราวนั้น เวลา 08.30 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.พาณิชย์ มายังหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ หลังครบกำหนด 7 วัน ในอำนาจการควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก

ต่อมา เวลา 09.10 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัว นายขวัญชัย ที่ยังคงนั่งรถวีลแชร์ พร้อมด้วยนายนิสิต และนายไชยา ขึ้นรถตู้ เดินทางออกไป ขณะที่นายนายณัฐวุฒิ นายจตุพร นพ.เหวง นายวีระกานต์ และพล.ต.อ.ประชา ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์

**กลุ่มธุรกิจการพนันรายงานตัว

ส่วนผู้ที่ คสช. มีคำสั่งที่ 25/2557 เรียกให้มารายงานตัวเพิ่ม 7 คน เวลา 10.00-11.00 น. ในวันเดียวกันนี้ ประกอบด้วย พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ จ.ส.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ นายสุวัฒน์ วุฒิศักดิ์ นายวิชา พร้อมเพรียงชัย นายธนิก มาสีพิทักษ์ นายกฤษณะ มานะการ และนายอิทธิพล สุขแป้น ซึ่งทั้งหมดได้ทยอยเข้ารายงานตัว รวมถึงนายมาลัยรักษ์ ทองชัย โฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ซึ่งถูกเรียกให้มารายงานตัวในวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 23/2557 แต่ไม่ได้มารายงานตัว ได้เดินทางมารายงานตัวในวันนี้เช่นเดียวกัน

**ยังคงเคอร์ฟิว ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่อาคารกำลังเอก ภายในสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวชี้แจงถึงกรณีการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาห้ามประชาชนออกจากเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ว่า คสช. ได้ขยายเวลาให้ข้อกำหนดเรื่องเวลา จาก 22.00-05.00 น. เป็น 00.01-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งและพัฒนาตามความเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยพล.อ.ประยุทธ์ คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดกับประชาชน ร้านอาหาร ผู้ประกอบการ ตลาดสด ที่ใช้เวลาในการขนส่งช่วงเช้ามืด จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หากสงบและเรียบร้อยจริง คสช. จะผ่อนปรนเพิ่มเติมเป็นระยะ

สำหรับกลุ่มประชาชนที่ประสงค์ดี ต้องการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ มอบสิ่งของ และยื่นหนังสือต่อ คสช. นั้น ทางกองทัพขอขอบคุณที่มีความปรารถนาดีต่อเจ้าหน้าที่ แต่ขณะนี้ คสช. ยังมีมาตรการห้ามชุมนุมเกิน 5 คนอยู่ จึงขอความร่วมมือ การจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ควรมีจำนวนคนเกินกว่าข้อกำหนดไว้ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องพยายามรักษากติกาให้เกิดความสงบเรียบร้อย

พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษก ทบ. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้ไป คสช. โดยฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายเศรษฐกิจ จะได้มีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรการเคอร์ฟิว ซึ่งอาจมีการพิจารณาเป็นรายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว หากไม่มีสถานการณ์ชุมนุมหรือสุ่มเสี่ยงต่อความขัดแย้ง ก็อาจมีการประกาศยกเลิกเป็นรายจังหวัด เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยว รวมทั้งลดผลกระทบต่อประชาชน

**รีรันคลิป"ตู่-เต้น" กินอยู่สุขสบาย

จากนั้น ทีมโฆษก คสช. ได้นำภาพวิดีทัศน์ความเป็นอยู่ของบุคคลต่างๆ ที่ถูกควบคุมตัวได้แก่ พล.ต.อ.ประชา นายจตุพร นายณัฐวุฒิ และนายวีระกานต์ รวมทั้ง นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่เปิดเผยสถานที่ เพื่อให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของผู้ที่ถูกควบคุมตัว โดยทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มและพูดคุยได้ตามปกติ

พ.อ.ณัฐวัฒน์ ได้เป็นผู้กล่าวบรรยายตามภาพว่า ที่ผ่านมา มีกระแสความเป็นห่วงบุคคลที่ถูกควบคุมตัวว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร โดยเมื่อ วันที่ 27พ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.พลาวุฒิ กลับเจริญ เจ้ากรมกิจการพลเรือน กองทัพบก ได้เดินทางไปเยี่ยม และพูดคุยกับบุคคลต่างๆ พร้อมกับเก็บภาพมาฝาก เพื่อให้เห็นว่าทุกคนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี รวมทั้งมีการปรับทัศนคติร่วมกัน ทั้งนี้ยืนยันว่า คสช.ดูแลทุกคนตามอัตภาพ ไม่มีการพันธนาการ หรือทำร้ายร่างกาย และขอชี้แจงกรณีของพล.ต.อ.ประชา ที่มีการรายงานข่าวว่าถูกรวบตัวได้ที่สนามบิน ซึ่งในความเป็นจริง พล.ต.อ.ประชา ทราบถึงการให้เข้ารายงานตัวในขณะที่อยู่ต่างประเทศ เมื่อเดินทางกลับมา ก็ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ทหารไปรับตัวมาตามเวลาที่กำหนด โดยไม่มีการเข้าจับกุมหรือรวบตัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า สาเหตุที่มีการชี้แจงถึงกรณีการเข้ารายงานตัวของ พล.ต.อ.ประชา เนื่องจากพล.ต.อ.ประชา ได้ทำหนังสือแจ้งมายังทีมโฆษกว่า ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมบันทึกเหตุการณ์โดยละเอียด หลังจากรับทราบว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ ศสช. ให้มารายงานตัว เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมหรือกระทำการใดรุนแรง

**เรียกรายงานตัว 253 คน ปล่อยแล้ว124 คน

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ รองโฆษก ทบ. กล่าวถึงตัวเลขผู้ที่ถูกเรียกรายงานตามประกาศของ คสช. ว่า ล่าสุด ณ วันที่ 27 พ.ค. มีทั้งสิ้น 253 คน ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มแรก คือ ผู้ที่เข้าร่วมการประชุม 7 ฝ่าย ในวันที่ 22 พ.ค. ก่อนที่จะมีการประกาศยึดอำนาจด้วย โดยถึงปัจจุบันมีผู้มารายงานตัว 200 คน ในจำนวนนี้มีผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว 124 คน ซึ่งทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการสร้างเข้าใจ ปรับทัศนคติเพื่อลดความขัดแย้ง และรับทราบเงื่อนไขในระหว่างได้รับการปล่อยตัว ที่เหลือ 76 คน ยังควบคุมตัวอยู่ ทั้งนี้ มีในส่วนของผู้ที่ยังไม่มารายงานตัวและแจ้งข้อขัดข้องรวม 53 คน

สำหรับบุคคลที่แสดงให้เห็นว่าขัดขืนจริงๆ บางส่วนได้มีมาตราการดำเนินการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มจากการระงับธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งขณะนี้มี 4 คน ประกอบด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ และ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ

"บุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว จะมีการลงนามในหนังสือว่าได้รับการปล่อยตัวจริง รวมทั้งมีบันทึกที่อยู่ว่าท่านจะพำนักที่ไหน เพื่อการประสานงาน และเป็นข้อตกลงและความเข้าใจร่วมกันว่าขอให้งดการแสดงความคิดเห็นที่ทำให้เกิดความสับสนในสังคม หรือการยุยงปลุกระดม และหากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ต้องแจ้ง คสช.ให้รับทราบด้วย โดยหากเข้าสู่กระบวนการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปตามที่หัวหน้า คสช.มอบหมาย กลุ่มบุคคลนี้จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างตามที่มีการตั้งศูนย์ขึ้น"พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าว

พ.อ.วินธัย กล่าวเสริมว่า บุคคลที่ถูกควบคุมตัวแต่ละคนนั้น มีระยะเวลาการคุมตัวไม่เท่ากัน ระหว่าง 3-7 วัน ส่วนกรณี นายณัฐวุฒิ นายจตุพร นายวีระกานต์ และบุคคลอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่ 22 พ.ค. แม้ขณะนี้จะครบกำหนดการคุมตัวตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกที่ระบุว่าไม่เกิน 7 วันแล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการของ คสช. ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป เนื่องจากบางคนมีกรณีถูกดำเนินคดีอื่นๆ ซึ่งอาจจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการควบคุมตามกฎอัยการศึก แต่จะไปอยู่ในฐานความผิดอื่นๆ ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ไม่ว่าจะเคยถูกเรียกหรือไม่เคย ถ้ามีพฤติกรรมที่จะนำไปสู่ความไม่สงบ เช่น ปลุกระดม ยุยงทั้งในทางลับ และเปิดเผย เมื่อมีหลักฐาน ก็จำเป็นต้องขอให้เข้ารายงานตัว

***ปล่อยแกนนำ นปช.กลับบ้านยกก๊วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนกระทั้ง เวลา 16.40 น. หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำแกนนำ นปช.ที่ถูกควบคุมตัวมายังหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ เป็นที่เรียบร้อย รวมถึงนายขวัญชัย นายนิสิต และนายไชยา ที่ก่อนหน้านี้ถูกนำตัวออกไปจากหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ และนำตัวกลับมาสอบปากคำอีกครั้งในช่วงบ่าย ได้รับการปล่อยตัวกลับทั้งหมด ทั้งนายจตุพร นายณัฐวุฒิ นายวีระกานต์ นพ.เหวง นางธิดา นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต นายขวัญชัย นายพายัพ ปั้นเกตุ นายมานิต จิตจันทร์กลับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และพ.ตท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ โดยทั้งหมดเดินทางกลับด้วยรถส่วนตัว ขณะที่นายณัฐวุฒิ มีภรรยาและบุตรชายมารับกลับ

จากนั้น เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารยังได้ปล่อยตัว พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีต รมช.คมนาคม และนางจารุพรรณ กุลดิลก อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บุตรสาว โดยมีนางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภริยา มารอรับ

โดย พล.ต.ท.ชัจจ์ เปิดเผยหลังได้รับการปล่อยตัวว่า ระหว่างที่ถํกควบคุมตัวทหารดูแลเป็นอย่างดี โดย คสช.ขอความร่วมมือไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้าน คสช.

ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังถูกควบคุมตัวที่ค่ายทหาร จ.ราชบุรี หลังจากถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ถูกเรียกเข้ารายงานตัว ตามคำสั่ง คสช.ที่ 25/2557 ทั้ง 7 คน หลังครบกำหนดเวลาเข้ารายงานตัว มีเพียงนายอิทธิพล สุขแป้น เท่านั้น ที่ไม่ได้มารายงานตัว ขณะที่ในวันเดียวกัน นายอนันต์ อัศวโภคิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.แลนด์แอนเฮาส์ ซึ่งไม่ได้เข้ารายงานตัว เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ตามคำสั่ง คสช.ที่ 14/2557 แต่ได้ยื่นคำร้องผ่อนผันไว้ว่า ติดภารกิจต่างประเทศ และได้เดินทางเข้ารายงานตัวแล้ว

** ปิดเว็บไซต์ กว่า 100 แห่ง

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการปิดกั้นช่องทางการสื่อสาร ที่เข้าข่ายทำให้เกิดความขัดแย้งทางอิเลคทรอนิกส์ หรือ ผ่านทางโซเชียลเนตเวิร์ก เพื่อไม่ให้ไปสู่สาธารณะ โดยมีการปิดเว็บไซต์ไปแล้วกว่า 100 แห่ง และหากสืบทราบไปถึงตัวบุคคลใดก็จะถือว่ามีความผิดด้วย นอกจากนี้ยังมีการจับตาการแสดงความคิดเห็นทางโซเชียลเนตเวิร์ก ของบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงการเคลื่อนไหวของ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ก็มีคณะทำงานติดตามอยู่ และอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อถามว่าจะมีบล็อก หรือดำเนินการต่อบัญชีทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ หลังจากที่มีการทวิตข้อความเป็นระยะ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้ทวิตเตอร์แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามถึงประกาศการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษา คสช. จำนวน 10 คน ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นประธานที่ปรึกษา พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนตัวทราบข่าวจากสื่อมวลชนเช่นกัน โดยในการประชุมเมื่อ วันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา หัวหน้า คสช.ได้มอบหมายให้ทีมโฆษกฯ ชี้แจงเฉพาะขั้นตอนการแต่งตั้ง และขอบเขตความรับผิดชอบของคณะที่ปรึกษาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกบุคลมาทำหน้าที่ที่ปรึกษานั้น พล.อ.ประยุทธ์ คัดเลือกจากดุลพินิจส่วนตัว เพื่อที่จะให้แต่ละให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ ที่สำคัญ

***คสช. เตือนเฟซบุ๊กวาสนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารของเครือโพสต์ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Wassana Nanuam ว่า ตนได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ของ คสช. เกี่ยวกับความเห็นในเฟซบุ๊ก โดยตนในฐานะเจ้าของเพจที่มีผู้ติดตามประมาณ 93,000 คน ต้องแสดงความรับผิดชอบ มิให้มีการแสดงความเห็นสร้างความแตกแยก

“คำเตือน...จาก คสช. กองทัพบกเตือนเฟสบุ๊ก วาสนา มีการแสดงความเห็นสร้างความแตกแยก แม้วาสนาจะทำหน้าที่ในการรายงานข่าวก็ตาม แต่มีคนมาแสดงความคิดเห็น ก่อให้เกิดความแตกแยก วาสนาต้องรับผิดชอบในฐานะเจ้าของเพจทาง ทบ. จึงขอความร่วมมือวาสนา ไม่ให้บุคคลเข้ามาคอมเมนท์ เพราะทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งวาสนาชี้แจงว่า ไม่อาจปิดคอมเมนท์ ของเพื่อน ทั้ง 5 พัน ในทางเทคนิคได้ ส่วนผู้ติดตามหลายหมื่นคนที่เข้ามาคอมเมนท์นั้น ได้ปิดคอมเม้นท์ไปแล้ว โดยบุคคลที่เป็นเพื่อนเข้ามาคอมเมนท์จะทะเลาะกันเอง เพราะมีทั้งสองสี

โดยก่อนหน้านี้ วาสนา ได้ออกประกาศในเฟซ ขอร้องไปแล้ว ไม่ให้ทะเลาะกัน แต่ไม่เป็นผล ดังนั้น วาสนาจึงขอรบกวนเพื่อนๆ ในการงดคอมเมนท์ เพื่อรักษาเพจวาสนานี้ ไว้อ่านข่าวทหารดีกว่าค่ะ แต่หากเพื่อนอยากคอมเมนท์ก็ไม่ว่ากัน ค่ะ ก็ไว้พบกันเมื่อชาติต้องการ แล้วกันนะ

***วุ่น! เฟซบุ๊ก-อินสตาแกรมใช้งานไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.55 น. วานนี้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยไม่สามารถเข้าสู่เว็บไซต์ www.facebook.com อันเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุดได้ โดยปรากฏว่า ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของทีโอที เมื่อพยายามเข้าสู่เว็บไซต์ดังกล่าว จะปรากฏข้อความว่า “ปิดชั่วคราว ตามคำสั่ง กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย”

นอกจากนี้ ยังพบว่า อินสตาแกรม (Instagram) เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่คนไทยนิยมใช้อันดับต้นๆ ก็ถูกปิดเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ทวิตเตอร์ @armypr_news ได้โพสต์ข้อความว่า “คสช. ยืนยันไม่มีนโยบายปิดระบบเฟซบุ๊ก มอบ ICT ตรวจสอบแก้ไขแล้ว ปรากฏเกิดจากข้อขัดข้องทางเทคนิคที่ gateway ขณะนี้กำลังแก้ไขคาดว่า 17.00 น. เปิดใช้ได้”

***อ้างเกตเวย์ล่ม-เรียกผู้ให้บริการหารือวันนี้

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. กรณีเกิดเหตุขัดข้องจากการใช้บริการทางเฟซบุ๊ก ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากข้อขัดข้องทางเทคนิค ซึ่ง คสช.ได้ประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และผู้ประกอบการไอเอสพี เพื่อให้เร่งแก้ไขให้ประชาชนเข้าใช้ในระบบได้ต่อไป โดยล่าสุดระบบสามารถทำงานได้ตามปกติแล้ว

นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวง ไอซีที กล่าวว่า ปัญหาการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต รวมถึงโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ไม่สามารถใช้งานได้ช่วงเวลาหนึ่ง เกิดขึ้นจากวงจรเชื่อมต่อระหว่างประเทศ (เกตเวย์) ที่เชื่อมเข้าประเทศไทยล่ม เนื่องจากปริมาณทราฟฟิกใช้งานในไทยสูงมาก ทางฝ่ายเทคนิคแจ้งว่าระบบสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติในเวลา 17.00 น. และในวันที่ 29 พ.ค. จะมีการเรียกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งหมดมาหารือเพื่อไม่ให้มีปัญหานี้อีก

“ขอยืนยันว่าไอซีทีไม่ได้สั่งบล็อกเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นการทั่วไป แค่ปิดเฉพาะเพจที่มีปัญหาเท่านั้น ส่วนที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ว่าผมสั่งปิด เพราะ คสช. เป็นคนสั่งนั้น ผมขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด”

ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวยืนยันว่า คสช. ยังไม่มีคำสั่งบล็อกการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะเป็น facebook twitter หรือ Line และทาง กสทช. ก็ยังไม่มีคำสั่งปิดกั้นการใช้งานใดๆ

**"มท."โยกสลับ 9 ผู้ว่าฯ-ผู้ตรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งให้ข้าราชการสังกัดกระทรวงในตำแหน่งผู้ว่าราชการ กระทรวงมหาดไทย และผู้ตรวจราชการกระทรวง จำนวน 9 ราย ไปรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ และผู้ตรวจราชการกระทรวง ประกอบด้วย

1.นายสมศักดิ์ สุวรรณจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้รักษาราชการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ให้รักษาราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น 3.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท 4.นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้รักษาราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี 5.นายสุริยะ ประสาทบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

6.นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดตาก 7.นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง 8.นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้รักษาราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา 9.นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ให้รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ โดยคำสั่งดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.เป็นต้นไป

***ปิดตาย! รื้อทิ้งสถานีวิทยุโกตี๋

วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ กสทช. และตำรวจ ได้เข้าไปรื้อถอนอุปกรณ์และเสาส่งสัญญาณสถานีวิทยุเพื่อมวลชน เรดการ์ด เรดิโอ คลื่น FM 105.65 MHz. ภายในซอยปิยนนท์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สถานีวิทยุชุมชนของนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ที่ถูกหมายจับคดีหมิ่นเบื้องสูง เป็นวันที่สอง โดยมี พล.ต.ท.ศิวราห์ รังสิตพรหมายกล รรท.ผบช.ภ.1 เดินทางไปตรวจสอบ

**"ชนินทร์"อ้างอยู่ดูไบ-โวตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง นายทหารสัญญาบัตร ที่ถูกปลดออกจากราชการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ผู้พันสู้ ตัวจริง ระบุว่า อยู่ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมระบุข้อความว่า ปรึกษาตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น และยังคงโพสต์ข้อความแสดงความเห็นต่อต้านการรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง

***เด้ง"ธงทอง"ตั้ง"ปนัดดา"แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.33 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 27/2557 เรื่องการแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้นายธงทอง จันทรางศุ พ้นตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ อีกหน้าที่หนึ่ง พร้อมกันนี้ ได้มีคำสั่งให้นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทน