เมื่อเช้าวานนี้ (15 พ.ค.) มีการหารือระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กับรัฐบาล ที่ หอประชุมกานตรัตน์ กองทัพอากาศ (ทอ.) โดยฝ่ายรัฐบาลนำโดย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ขณะที่ฝ่ายกกต.มากันครบทั้ง 5 คน รวมทั้งเลขาธิการกกต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมเริ่มไปได้ประมาณ 20 นาที โดยเรื่องที่หารือกันเป็นเรื่องของอุปสรรค ที่กกต.คาดว่าจะมีขึ้นในการเลือกตั้ง โดยยังไม่ทันได้เข้าเรื่องสำคัญคือ เรื่องผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี สามารถทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโองการ พ.ร.ฎ.ที่จะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้หรือไม่ ก็มีรายงานว่า กลุ่มกปปส.นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้บุกไปยังที่ประชุม เพื่อขอหารือกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เรื่องการหาทางออกจากวิกฤติของประเทศ ทำให้ที่ประชุมต้องล่มไปโดยปริยาย
**"สมชัย"เผยเลือกตั้ง20ก.ค.ไม่ทัน
ต่อมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารจัดการการเลือกตั้ง กล่าวว่า การประชุมระหว่างรัฐบาลกับ กกต.เกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ยุติลง เนื่องจากระหว่างการประชุม ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาปิดล้อม และไม่สามารถป้องกันได้ กกต. จึงเสนอให้มีการส่งตัวแทนไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ทางฝั่งรัฐบาลยังคงยืนยันว่า ให้มีการยกเลิกการประชุม ซึ่งขณะนั้น ที่ประชุมยังไม่ได้หารือรายละเอียดเรื่องการเลือกตั้งมากนัก โดยทางรัฐบาลได้เสนอให้มีการจัดการประชุม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์แทน
นายสมชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะนัดหมายหารือครั้งต่อไปเมื่อไร โดยรัฐบาลเสนอให้มีการหารือ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ปัญหาการเลือกตั้ง มีความซับซ้อนต้องมีการคุยในรายละเอียดมากกว่านี้ ซึ่งการออก พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง อาจไม่ทันวันที่ 20 ก.ค. ตามกำหนดเดิม
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังเดินทางมาที่หอประชุมกานตรัตน์ แต่ปรากฏว่า นายนิวัฒน์ธำรง พร้อมคณะรัฐมนตรี และกกต.ได้ประกาศยุติการประชุม และเดินทางออกนอกห้องประชุมไปแล้ว เนื่องจากถูกผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมากดดันเป็นจำนวนมาก และผู้ชุมนุมบางส่วนได้เข้ามายังพื้นที่บริเวณที่มีการหารือด้วย
โดยนายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้มีความตั้งใจที่จะมาขอพบ นายนิวัฒน์ธำรง เพื่อเจรจาหาทางออกให้ประเทศ เพราะมองว่า ต่างฝ่ายต่างก็เป็นตัวแทนของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหากได้มีโอกาสพบ ก็ได้วางกรอบที่จะพูดคุยไว้ 2-3 ข้อ ทั้งนี้ไม่ได้มองไปไกลถึงขั้นให้ นายนิวัฒน์ธำรง ลาออกจากตำแหน่ง แต่เบื้องต้นต้องการพบ ซึ่งก็ไม่ได้ขีดเส้นตายว่า ต้องพบกันในวันไหน พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะระบุว่า ต่อจากนี้ไปจะยกระดับติดตามการปฏิบัติภารกิจของนายนิวัฒน์ธำรง ไปในทุกๆที่ หรือไม่
**วุ่น!รถสห.นำขบวนฯ ชนกับรถกปปส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่แกนนำ กปปส.ประกาศให้มวลชนกระจายกำลังบริเวณรอบหอประชุมกานตรัตน์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. ได้นำมวลชนมาที่ ซอยรณนภากาศ 7 ซึ่งอยู่ด้านหลังหอประชุม จากนั้นได้มีรถขบวนสห.ที่ทางแกนนำคาดว่าจะเป็นรถนำขบวนของ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ทางแกนนำจึงได้ขวางไว้ ทำให้รถขบวนคันหนึ่งชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซของการ์ด กปปส. ที่จอดขวางอยู่ แล้วลากรถไปไกลกว่า 10 เมตร ทันทีที่คนขับรถขบวนของนายนิวัฒน์ธำรง เห็นว่าไม่สามารถขับไปได้ จึงได้ทิ้งรถหลบหนีไป
โดยทางกลุ่มกปปส.ได้อยู่เฝ้ารถดังกล่าวไว้โดยไม่มีการเข้าไปตรวจค้นรถแต่อย่างใด จนเมื่อมี สห.ของกองทัพอากาศมาถึงจุดเกิดเหตุ และยืนล้อมรถคันดังกล่าวไว้ พยายามไม่ให้มีการเข้าใกล้ หรือให้สื่อมวลชนทำข่าวในระยะประชิดรถ จากนั้นได้มีการเปิดรถ เพื่อขนถ่ายสิ่งของบางอย่างไปใส่ในรถของเจ้าหน้าที่ทหารแทน ซึ่งทางนายณัฐพล คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ ก็ได้ขับรถคันดังกล่าวออกไปจากพื้นที่เกิดเหตุทันที
ทั้งนี้ทาง ทอ.ได้ทำความเข้าใจกับการ์ด กปปส .แล้ว โดยยืนยันว่า รถ สห.ทอ.นำขบวนต้องทำตามหน้าที่อารักขา ได้ขับฝ่าจุดตรวจ การ์ด กปปส. แต่ยืนยัน รถ สห.ทอ.ไม่ได้ชนการ์ด คาดเป็นรถในขบวนโดยทาง ทอ.ได้ชี้แจง กับนายสุเทพแล้ว และไม่มีการติดใจกันแต่อย่างใด
** "วราเทพ"ให้เลื่อนเลือกตั้งไป 1 สัปดาห์
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกันระหว่างกกต.กับรัฐบาลในครั้งนี้ ทางกกต.แจ้งให้ทราบว่า มีการแก้ระเบียบกกต. เรื่องการรับสมัครการเลือกตั้งให้สามารถรับสมัครทางอินเตอร์เนตได้ ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วในวันนี้ ขณะที่รัฐบาลยืนยันกับกกต.ว่า หากมีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้งจะทำให้เกิดความมั่นใจให้กับประเทศ ทั้งนี้เมื่อไม่สามารถหาข้อยุติวันเลือกตั้งได้ จะทำให้ไม่สามารถออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งให้มีผลได้ทันภายในวันที่ 20-22 พ.ค.ได้ กำหนดวันเลือกตั้งเดิมที่ตั้งใจให้มีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. ก็อาจต้องเลื่อนออกไปประมาณ 1 สัปดาห์
**กกต.เสนอเลือกตั้งคู่ขนานปฏิรูป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ได้นำมวลชนเดินทางไปหารือกับกกต.ที่สำนักงานกกต. โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม และนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. ต้อนรับ และรับฟังข้อเสนอของ นายสุเทพ
ทั้งนี้ นายสุเทพ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกลไกการเลือกตั้งให้พรรคการเมือง และนักการเมือง ไม่เป็นตกเป็นเครื่องมือของนายทุน เอาผิดกับนโยบายประชานิยมที่ทำลายประเทศชาติ โดยให้กกต.ดำเนินการทั้งการแก้ไขระเบียบ หรือกฎหมายในประเด็นเหล่านี้ให้แล้วเสร็จ รวมถึงการปฏิรูปประเทศแล้วเสร็จ จึงค่อยจัดการเลือกตั้ง ถึงตอนนั้นทางประชาชน จะพร้อมไปเลือกตั้ง
จากนั้นประธานกกต.ได้มอบหมายให้ นายสมชัย ในฐานะที่รับผิดชอบดูแลงานด้านบริหารงานเลือกตั้ง นำเสนอแนวทางการเลือกตั้ง โดยนายสมชัย ได้ขอให้มีการแบ่งช่วงการปฏิรูปเป็น 2 ช่วง
ช่วงแรก ปฏิรูปในส่วนที่สามารถปรับแก้ในระเบียบกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนของการเลือกตั้งก่อน แล้วให้มีการเลือกตั้ง โดยมีข้อตกลงให้มีรัฐบาลที่ได้รับเลือกมาทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศ และลาออกใน 1 ปี เพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งการปฏิรูปทำได้สองส่วน ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง เมื่อยังไม่มีสภา สิ่งที่ต้องแก้กฎหมายก็ยังทำไม่ได้ ทำได้เพียงข้อขำกัดตามอำนาจของ กกต. ในการออกระเบียบ ส่วนกติกาใหญ่จำเป็นต้องใช้สภา จึง ไม่อาจคิดได้ว่า จะปฏิรูปได้เสร็จทั้งหมดก่อนวันเลือกตั้ง
นายสมชัยย้อน ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ กปปส. จะยอมให้มีการเลือกตั้งในเวลาที่ไม่ช้าเกินไป อาจเป็น 3-5 เดือน ภายใต้เหตุการณ์ที่สังคมช่วยสร้างเงื่อนไขว่า การเลือกตั้งนั้นไม่ทำให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ไม่เป็นผลว่า จะไม่ให้นักการเมืองที่เป็นปัญหาเข้ามา เพราะหากกำหนดนานเกิน ฝ่ายสนับสนุนการเลือกตั้ง คงยอมไม่ได้ หากทุกฝ่ายตกลงได้ เช่นยอมให้ 3 เดือน ก็อาจเป็นช่วงที่ฝ่ายการเมืองต้องไม่มีอำนาจกำกับดูแลข้าราชการประจำ ยอมให้กลุ่มเฉพาะกิจมาดูแลระบบราชการ โดย กกต. ดูแลการเลือกตั้งให้สำเร็จ
"เมื่อเช้ายังได้ถามนายนิวัฒน์ธำรง ว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า รัฐมนตรีทั้งคณะไม่ต้องลาออก แต่ไม่ต้องทำงาน จะลากิจลาป่วยไป แล้วให้ปลัดกระทรวงทำงานไป แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ผมยังมองว่าถ้ากปปส. ยอมรับเงื่อนไข ก็จะเป็นโจทย์ใหม่ที่ กกต. สามารถไปคุยกับรัฐบาล และไปกำหนดวันเลือกตั้ง ที่ทำให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และยอมรับกติกาที่ กกต. กำหนด และช่วยกันสร้างบรรยากาศประชาธิปไตยการเลือกตั้ง ไม่ขัดขวางฝ่ายใดไปหาเสียงในทุกพื้นที่ มวลชนทั้งสองฝ่ายยอมหยุด หรือจากนั้นอาจมีข้อตกลงว่าเลือกตั้งแล้วอยู่ 1 ปี ปฏิรูปแล้วยุบสภาก็ว่ากันไป"
นายสมชัย กล่าวอีกว่าหากไม่ให้มีทางออก ปัญหาจะตกอยู่ที่ประเทศชาติ หากถอยหลังไปเรื่อยๆ ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้ในภูมิภาคนี้ เพราะการลงทุนชะงักงันไปหมด ถามว่าประเทศไทยจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งถ้ากปปส.รับข้อเสนอนี้ ตนก็จะส่งข่าวไปยังรัฐบาล
** "สุเทพ"ไม่รับข้อเสนอกกต.
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้รับการตอบรับจากนายสุเทพ โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนไม่อาจทนให้พรรคการเมืองที่มีนายทุนเป็นเจ้าของเข้ามาครอบงำประเทศอีกแล้ว หาก กกต.แก้ไขปัญหาให้พรรคการเมืองไม่เป็นพรรคของนายทุนได้ เช่น คุมการใช้จ่ายเงินของพรรคว่าเงินนั้นต้องได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ใช้เงินผิดต้องยุบพรรค ยุบแล้วเปลี่ยนชื่อตั้งพรรคอีกไมได้ ไม่ให้นักโทษหนีคดีไปต่างประเทศ มาบงการพรรคการเมืองในประเทศได้จนทำให้ฆาตกร คนชั่วร้าย เจ้าของอาบอบนวด ก็เข้าไปเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ ประชาชนจึงจะยอมไปเลือกตั้ง
"ผมอาจเห็นต่างจากอาจารย์สมชัย ว่าถ้าจะต้องเสียเวลามาก แต่ทำให้กระบวนการได้มาตรฐาน ผมว่ามันคุ้มค่า ไม่ใช่แค่ทำตามหน้าที่ให้ได้ ทั้งที่รู้ว่าผลจะออกมาแย่ ผมว่าไม่ทำดีกว่า ผมเห็นด้วยว่าเปลี่ยนแปลงอยาก แต่ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเราและคนรุ่นลูกหลานเราก็จะอยู่กันลำบาก”
ด้านนายสมชัย กล่าวว่าสิ่งที่ต้องชั่งน้ำหนักคือ แนวทางที่ 1 มีการเลือกตั้งใน 3 เดือนข้างหน้า ภายใต้หลักประกันพอสมควร และมีเงื่อนไขผูกพันว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะต้องทำอะไรต่อ หรือแนวทางที่ สอง ต้องมีรัฐบาลตัวจริง มาจากไหนไม่รู้ อยู่ไป1-2 ปี ค่อยแก้ปัญหา หลังจากนั้นค่อยให้ประชาชนเลือกอีกที ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่า แนวทางไหนที่จะประสพความสำเร็จ การที่กปปส. สู้ต่อไปเรื่อยๆ อาจได้รัฐบาลตามที่ต้องการ แต่ยังมีการสู้ต่อในสังคมไทยต่อไปๆ อีกฝ่ายก็ระดมมวลชนเข้ามาต่อสู้ 2 ปีก็ไม่มีทางสงบ รัฐบาลใหม่ก็ต้องหนีรายวัน ไม่มีเวลาแก้ปัญหาได้ เหมือนกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กปปส. จึงต้องคิดว่า อะไรเป็นแนวทางที่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ
นายสุเทพ กล่าวว่า ปัญหาอยู่ที่ต้องปฏิรูปต้นน้ำ คือพรรคการเมือง เมื่อพรรคชั่วก็ส่งคนชั่วลงเลือกตั้ง ประชาชนก็ไม่มีโอกาสเลือกคนดี แก้เล็กแก้น้อยไม่มีปัญหา แต่แก้แล้วได้คนดีหรือไม่ ถ้าต้องรอ 10 ปีประเทศจะเสียอะไรก็ไม่เท่า 2 –3 ปีที่ผ่านมาเขาโกงจนเสียหายไปถึงลูกหลาน ถ้ากลัวคนจะประท้วงไม่สงบ ก็ประท้วงแบบพวกตนสิ จะไปเสียหายอะไร
“พวกผมยังนั่งลุ้นว่าพรุ่งนี้วุฒิสภา จะกล้าตัดสินใจรับภาระหานายกฯ คนใหม่ให้ประเทศหรือไม่ ถ้าได้อย่างนั้นก็โชคดี ได้แล้วจะอยู่ทำงานนานแค่ไหน พวกผมไม่เข้าไปแทรกแซง เพราะเขาเป็นสภาบันนิติบัญญัติ สิ่งนี้พวกผมรับได้ แต่หากหากพรุ่งนี้ค่ำๆ ประธานวุฒิสภาบอกว่าทำไม่ได้ ก็เป็นกรรมของพวกผมที่ต้องทำเอง ต้องทำต่อ นัดประชาชนรวมพลทั้งประเทศ ถึงเวลาทวงคืออธิปไตย เพราะต้องทำให้ถึงที่สุด มีสองอย่างคือทำสำเร็จก็ได้ประเทศที่ดี ถ้าไม่สำเร็จคือพวกผมก็ไปเข้าคุก เพราะวันนี้ถือว่าประชาชนสู้กับศัตรูของประเทศอยู่"
นายสุเทพ ยังกล่าวว่า ขอให้ กกต.ทำการบ้านไว้สำหรับการต้องแก้กฎหมายเพื่อปฏิรูปการเลือกตั้ง เพราะหากสถานการณ์เดินหน้าเลือกตั้งไม่ได้ วุฒิสภาก็น่าจะทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ภายใต้แนวคิดในภาวะที่ไม่ปรกติ ที่ต้องใช้ทรัพยากรเท่าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ได้
"การเลือกตั้งแบบที่ กกต. คิดอาจต้องใช้เวลาถึง 10 เดือน 11 เดือน ซึ่งประเทศชาติก็เสียหาย เพราะคน 15–20 จังหวัด อย่างน้อยก็ยังไม่พร้อมที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และไม่คิดว่า กกต. จะทำยังไงให้เลือกตั้งสำเร็จได้ ผมอยู่ในสนามเลือกตั้งมานาน ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย การเลือกตั้งก็ไม่มีทางเดินหน้าได้ ผมเชื่อว่าอย่างน้อย 5 เดือน 6 เดือน จัดไม่ได้"
นายแซมดิน เลิศบุตร แกนนำ คปท. กล่าวว่าถึง กกต. จะไปหารือฝ่ายรัฐบาล แต่ขอบอกว่าจะสูญเงินงบประมาณเปล่า ๆ โอกาสที่จะได้ ส.ส. ครบ 95 % เรียกว่าไม่มีเลยหากประชาชนไม่เอาด้วย ขอให้ช่วยทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงก่อน
ภายหลังการหารือ นายสมชัย แถลงว่า การหารือกับนายสุเทพ กกต.พยายามเสนอแนวทางแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ต่างคนก็ต้องต่างทำหน้าที่ ส่วนจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ขึ้นกับการคุยกับรัฐบาลก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมเริ่มไปได้ประมาณ 20 นาที โดยเรื่องที่หารือกันเป็นเรื่องของอุปสรรค ที่กกต.คาดว่าจะมีขึ้นในการเลือกตั้ง โดยยังไม่ทันได้เข้าเรื่องสำคัญคือ เรื่องผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี สามารถทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโองการ พ.ร.ฎ.ที่จะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้หรือไม่ ก็มีรายงานว่า กลุ่มกปปส.นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้บุกไปยังที่ประชุม เพื่อขอหารือกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เรื่องการหาทางออกจากวิกฤติของประเทศ ทำให้ที่ประชุมต้องล่มไปโดยปริยาย
**"สมชัย"เผยเลือกตั้ง20ก.ค.ไม่ทัน
ต่อมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารจัดการการเลือกตั้ง กล่าวว่า การประชุมระหว่างรัฐบาลกับ กกต.เกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ยุติลง เนื่องจากระหว่างการประชุม ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาปิดล้อม และไม่สามารถป้องกันได้ กกต. จึงเสนอให้มีการส่งตัวแทนไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ทางฝั่งรัฐบาลยังคงยืนยันว่า ให้มีการยกเลิกการประชุม ซึ่งขณะนั้น ที่ประชุมยังไม่ได้หารือรายละเอียดเรื่องการเลือกตั้งมากนัก โดยทางรัฐบาลได้เสนอให้มีการจัดการประชุม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์แทน
นายสมชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะนัดหมายหารือครั้งต่อไปเมื่อไร โดยรัฐบาลเสนอให้มีการหารือ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ปัญหาการเลือกตั้ง มีความซับซ้อนต้องมีการคุยในรายละเอียดมากกว่านี้ ซึ่งการออก พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง อาจไม่ทันวันที่ 20 ก.ค. ตามกำหนดเดิม
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังเดินทางมาที่หอประชุมกานตรัตน์ แต่ปรากฏว่า นายนิวัฒน์ธำรง พร้อมคณะรัฐมนตรี และกกต.ได้ประกาศยุติการประชุม และเดินทางออกนอกห้องประชุมไปแล้ว เนื่องจากถูกผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมากดดันเป็นจำนวนมาก และผู้ชุมนุมบางส่วนได้เข้ามายังพื้นที่บริเวณที่มีการหารือด้วย
โดยนายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้มีความตั้งใจที่จะมาขอพบ นายนิวัฒน์ธำรง เพื่อเจรจาหาทางออกให้ประเทศ เพราะมองว่า ต่างฝ่ายต่างก็เป็นตัวแทนของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหากได้มีโอกาสพบ ก็ได้วางกรอบที่จะพูดคุยไว้ 2-3 ข้อ ทั้งนี้ไม่ได้มองไปไกลถึงขั้นให้ นายนิวัฒน์ธำรง ลาออกจากตำแหน่ง แต่เบื้องต้นต้องการพบ ซึ่งก็ไม่ได้ขีดเส้นตายว่า ต้องพบกันในวันไหน พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะระบุว่า ต่อจากนี้ไปจะยกระดับติดตามการปฏิบัติภารกิจของนายนิวัฒน์ธำรง ไปในทุกๆที่ หรือไม่
**วุ่น!รถสห.นำขบวนฯ ชนกับรถกปปส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่แกนนำ กปปส.ประกาศให้มวลชนกระจายกำลังบริเวณรอบหอประชุมกานตรัตน์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. ได้นำมวลชนมาที่ ซอยรณนภากาศ 7 ซึ่งอยู่ด้านหลังหอประชุม จากนั้นได้มีรถขบวนสห.ที่ทางแกนนำคาดว่าจะเป็นรถนำขบวนของ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ทางแกนนำจึงได้ขวางไว้ ทำให้รถขบวนคันหนึ่งชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซของการ์ด กปปส. ที่จอดขวางอยู่ แล้วลากรถไปไกลกว่า 10 เมตร ทันทีที่คนขับรถขบวนของนายนิวัฒน์ธำรง เห็นว่าไม่สามารถขับไปได้ จึงได้ทิ้งรถหลบหนีไป
โดยทางกลุ่มกปปส.ได้อยู่เฝ้ารถดังกล่าวไว้โดยไม่มีการเข้าไปตรวจค้นรถแต่อย่างใด จนเมื่อมี สห.ของกองทัพอากาศมาถึงจุดเกิดเหตุ และยืนล้อมรถคันดังกล่าวไว้ พยายามไม่ให้มีการเข้าใกล้ หรือให้สื่อมวลชนทำข่าวในระยะประชิดรถ จากนั้นได้มีการเปิดรถ เพื่อขนถ่ายสิ่งของบางอย่างไปใส่ในรถของเจ้าหน้าที่ทหารแทน ซึ่งทางนายณัฐพล คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ ก็ได้ขับรถคันดังกล่าวออกไปจากพื้นที่เกิดเหตุทันที
ทั้งนี้ทาง ทอ.ได้ทำความเข้าใจกับการ์ด กปปส .แล้ว โดยยืนยันว่า รถ สห.ทอ.นำขบวนต้องทำตามหน้าที่อารักขา ได้ขับฝ่าจุดตรวจ การ์ด กปปส. แต่ยืนยัน รถ สห.ทอ.ไม่ได้ชนการ์ด คาดเป็นรถในขบวนโดยทาง ทอ.ได้ชี้แจง กับนายสุเทพแล้ว และไม่มีการติดใจกันแต่อย่างใด
** "วราเทพ"ให้เลื่อนเลือกตั้งไป 1 สัปดาห์
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกันระหว่างกกต.กับรัฐบาลในครั้งนี้ ทางกกต.แจ้งให้ทราบว่า มีการแก้ระเบียบกกต. เรื่องการรับสมัครการเลือกตั้งให้สามารถรับสมัครทางอินเตอร์เนตได้ ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วในวันนี้ ขณะที่รัฐบาลยืนยันกับกกต.ว่า หากมีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้งจะทำให้เกิดความมั่นใจให้กับประเทศ ทั้งนี้เมื่อไม่สามารถหาข้อยุติวันเลือกตั้งได้ จะทำให้ไม่สามารถออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งให้มีผลได้ทันภายในวันที่ 20-22 พ.ค.ได้ กำหนดวันเลือกตั้งเดิมที่ตั้งใจให้มีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. ก็อาจต้องเลื่อนออกไปประมาณ 1 สัปดาห์
**กกต.เสนอเลือกตั้งคู่ขนานปฏิรูป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ได้นำมวลชนเดินทางไปหารือกับกกต.ที่สำนักงานกกต. โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม และนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. ต้อนรับ และรับฟังข้อเสนอของ นายสุเทพ
ทั้งนี้ นายสุเทพ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกลไกการเลือกตั้งให้พรรคการเมือง และนักการเมือง ไม่เป็นตกเป็นเครื่องมือของนายทุน เอาผิดกับนโยบายประชานิยมที่ทำลายประเทศชาติ โดยให้กกต.ดำเนินการทั้งการแก้ไขระเบียบ หรือกฎหมายในประเด็นเหล่านี้ให้แล้วเสร็จ รวมถึงการปฏิรูปประเทศแล้วเสร็จ จึงค่อยจัดการเลือกตั้ง ถึงตอนนั้นทางประชาชน จะพร้อมไปเลือกตั้ง
จากนั้นประธานกกต.ได้มอบหมายให้ นายสมชัย ในฐานะที่รับผิดชอบดูแลงานด้านบริหารงานเลือกตั้ง นำเสนอแนวทางการเลือกตั้ง โดยนายสมชัย ได้ขอให้มีการแบ่งช่วงการปฏิรูปเป็น 2 ช่วง
ช่วงแรก ปฏิรูปในส่วนที่สามารถปรับแก้ในระเบียบกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนของการเลือกตั้งก่อน แล้วให้มีการเลือกตั้ง โดยมีข้อตกลงให้มีรัฐบาลที่ได้รับเลือกมาทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศ และลาออกใน 1 ปี เพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งการปฏิรูปทำได้สองส่วน ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง เมื่อยังไม่มีสภา สิ่งที่ต้องแก้กฎหมายก็ยังทำไม่ได้ ทำได้เพียงข้อขำกัดตามอำนาจของ กกต. ในการออกระเบียบ ส่วนกติกาใหญ่จำเป็นต้องใช้สภา จึง ไม่อาจคิดได้ว่า จะปฏิรูปได้เสร็จทั้งหมดก่อนวันเลือกตั้ง
นายสมชัยย้อน ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ กปปส. จะยอมให้มีการเลือกตั้งในเวลาที่ไม่ช้าเกินไป อาจเป็น 3-5 เดือน ภายใต้เหตุการณ์ที่สังคมช่วยสร้างเงื่อนไขว่า การเลือกตั้งนั้นไม่ทำให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ไม่เป็นผลว่า จะไม่ให้นักการเมืองที่เป็นปัญหาเข้ามา เพราะหากกำหนดนานเกิน ฝ่ายสนับสนุนการเลือกตั้ง คงยอมไม่ได้ หากทุกฝ่ายตกลงได้ เช่นยอมให้ 3 เดือน ก็อาจเป็นช่วงที่ฝ่ายการเมืองต้องไม่มีอำนาจกำกับดูแลข้าราชการประจำ ยอมให้กลุ่มเฉพาะกิจมาดูแลระบบราชการ โดย กกต. ดูแลการเลือกตั้งให้สำเร็จ
"เมื่อเช้ายังได้ถามนายนิวัฒน์ธำรง ว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า รัฐมนตรีทั้งคณะไม่ต้องลาออก แต่ไม่ต้องทำงาน จะลากิจลาป่วยไป แล้วให้ปลัดกระทรวงทำงานไป แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ผมยังมองว่าถ้ากปปส. ยอมรับเงื่อนไข ก็จะเป็นโจทย์ใหม่ที่ กกต. สามารถไปคุยกับรัฐบาล และไปกำหนดวันเลือกตั้ง ที่ทำให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และยอมรับกติกาที่ กกต. กำหนด และช่วยกันสร้างบรรยากาศประชาธิปไตยการเลือกตั้ง ไม่ขัดขวางฝ่ายใดไปหาเสียงในทุกพื้นที่ มวลชนทั้งสองฝ่ายยอมหยุด หรือจากนั้นอาจมีข้อตกลงว่าเลือกตั้งแล้วอยู่ 1 ปี ปฏิรูปแล้วยุบสภาก็ว่ากันไป"
นายสมชัย กล่าวอีกว่าหากไม่ให้มีทางออก ปัญหาจะตกอยู่ที่ประเทศชาติ หากถอยหลังไปเรื่อยๆ ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้ในภูมิภาคนี้ เพราะการลงทุนชะงักงันไปหมด ถามว่าประเทศไทยจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งถ้ากปปส.รับข้อเสนอนี้ ตนก็จะส่งข่าวไปยังรัฐบาล
** "สุเทพ"ไม่รับข้อเสนอกกต.
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้รับการตอบรับจากนายสุเทพ โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนไม่อาจทนให้พรรคการเมืองที่มีนายทุนเป็นเจ้าของเข้ามาครอบงำประเทศอีกแล้ว หาก กกต.แก้ไขปัญหาให้พรรคการเมืองไม่เป็นพรรคของนายทุนได้ เช่น คุมการใช้จ่ายเงินของพรรคว่าเงินนั้นต้องได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ใช้เงินผิดต้องยุบพรรค ยุบแล้วเปลี่ยนชื่อตั้งพรรคอีกไมได้ ไม่ให้นักโทษหนีคดีไปต่างประเทศ มาบงการพรรคการเมืองในประเทศได้จนทำให้ฆาตกร คนชั่วร้าย เจ้าของอาบอบนวด ก็เข้าไปเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ ประชาชนจึงจะยอมไปเลือกตั้ง
"ผมอาจเห็นต่างจากอาจารย์สมชัย ว่าถ้าจะต้องเสียเวลามาก แต่ทำให้กระบวนการได้มาตรฐาน ผมว่ามันคุ้มค่า ไม่ใช่แค่ทำตามหน้าที่ให้ได้ ทั้งที่รู้ว่าผลจะออกมาแย่ ผมว่าไม่ทำดีกว่า ผมเห็นด้วยว่าเปลี่ยนแปลงอยาก แต่ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเราและคนรุ่นลูกหลานเราก็จะอยู่กันลำบาก”
ด้านนายสมชัย กล่าวว่าสิ่งที่ต้องชั่งน้ำหนักคือ แนวทางที่ 1 มีการเลือกตั้งใน 3 เดือนข้างหน้า ภายใต้หลักประกันพอสมควร และมีเงื่อนไขผูกพันว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะต้องทำอะไรต่อ หรือแนวทางที่ สอง ต้องมีรัฐบาลตัวจริง มาจากไหนไม่รู้ อยู่ไป1-2 ปี ค่อยแก้ปัญหา หลังจากนั้นค่อยให้ประชาชนเลือกอีกที ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่า แนวทางไหนที่จะประสพความสำเร็จ การที่กปปส. สู้ต่อไปเรื่อยๆ อาจได้รัฐบาลตามที่ต้องการ แต่ยังมีการสู้ต่อในสังคมไทยต่อไปๆ อีกฝ่ายก็ระดมมวลชนเข้ามาต่อสู้ 2 ปีก็ไม่มีทางสงบ รัฐบาลใหม่ก็ต้องหนีรายวัน ไม่มีเวลาแก้ปัญหาได้ เหมือนกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กปปส. จึงต้องคิดว่า อะไรเป็นแนวทางที่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ
นายสุเทพ กล่าวว่า ปัญหาอยู่ที่ต้องปฏิรูปต้นน้ำ คือพรรคการเมือง เมื่อพรรคชั่วก็ส่งคนชั่วลงเลือกตั้ง ประชาชนก็ไม่มีโอกาสเลือกคนดี แก้เล็กแก้น้อยไม่มีปัญหา แต่แก้แล้วได้คนดีหรือไม่ ถ้าต้องรอ 10 ปีประเทศจะเสียอะไรก็ไม่เท่า 2 –3 ปีที่ผ่านมาเขาโกงจนเสียหายไปถึงลูกหลาน ถ้ากลัวคนจะประท้วงไม่สงบ ก็ประท้วงแบบพวกตนสิ จะไปเสียหายอะไร
“พวกผมยังนั่งลุ้นว่าพรุ่งนี้วุฒิสภา จะกล้าตัดสินใจรับภาระหานายกฯ คนใหม่ให้ประเทศหรือไม่ ถ้าได้อย่างนั้นก็โชคดี ได้แล้วจะอยู่ทำงานนานแค่ไหน พวกผมไม่เข้าไปแทรกแซง เพราะเขาเป็นสภาบันนิติบัญญัติ สิ่งนี้พวกผมรับได้ แต่หากหากพรุ่งนี้ค่ำๆ ประธานวุฒิสภาบอกว่าทำไม่ได้ ก็เป็นกรรมของพวกผมที่ต้องทำเอง ต้องทำต่อ นัดประชาชนรวมพลทั้งประเทศ ถึงเวลาทวงคืออธิปไตย เพราะต้องทำให้ถึงที่สุด มีสองอย่างคือทำสำเร็จก็ได้ประเทศที่ดี ถ้าไม่สำเร็จคือพวกผมก็ไปเข้าคุก เพราะวันนี้ถือว่าประชาชนสู้กับศัตรูของประเทศอยู่"
นายสุเทพ ยังกล่าวว่า ขอให้ กกต.ทำการบ้านไว้สำหรับการต้องแก้กฎหมายเพื่อปฏิรูปการเลือกตั้ง เพราะหากสถานการณ์เดินหน้าเลือกตั้งไม่ได้ วุฒิสภาก็น่าจะทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ภายใต้แนวคิดในภาวะที่ไม่ปรกติ ที่ต้องใช้ทรัพยากรเท่าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ได้
"การเลือกตั้งแบบที่ กกต. คิดอาจต้องใช้เวลาถึง 10 เดือน 11 เดือน ซึ่งประเทศชาติก็เสียหาย เพราะคน 15–20 จังหวัด อย่างน้อยก็ยังไม่พร้อมที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และไม่คิดว่า กกต. จะทำยังไงให้เลือกตั้งสำเร็จได้ ผมอยู่ในสนามเลือกตั้งมานาน ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย การเลือกตั้งก็ไม่มีทางเดินหน้าได้ ผมเชื่อว่าอย่างน้อย 5 เดือน 6 เดือน จัดไม่ได้"
นายแซมดิน เลิศบุตร แกนนำ คปท. กล่าวว่าถึง กกต. จะไปหารือฝ่ายรัฐบาล แต่ขอบอกว่าจะสูญเงินงบประมาณเปล่า ๆ โอกาสที่จะได้ ส.ส. ครบ 95 % เรียกว่าไม่มีเลยหากประชาชนไม่เอาด้วย ขอให้ช่วยทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงก่อน
ภายหลังการหารือ นายสมชัย แถลงว่า การหารือกับนายสุเทพ กกต.พยายามเสนอแนวทางแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ต่างคนก็ต้องต่างทำหน้าที่ ส่วนจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ขึ้นกับการคุยกับรัฐบาลก่อน