นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาเรื่องกำหนดนัดหมายกับผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่ได้มีการประสานเรื่องการหารือเกี่ยวกับการออก ร่าง พ.ร.ฏ. แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้งส.ส.เป็นการทั่วไป ซึ่งแต่เดิมได้มีการประสานว่า จะหารือกันในวันที่ 9 พ.ค. แต่กกต.ทั้ง 5 คน ติดภารกิจไม่สามารถที่จะหารือในวันนั้นได้ กกต.จึงจะขอเชิญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนรมว.มหาดไทย ,กระทรวงกลาโหม, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร, และ ศึกษาธิการ มาหารือที่สำนักงานกกต. ในวันพุธ ที่ 14 พ.ค. เวลา 14.00 น. โดยจะมีการหารือในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมายว่า ใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว และข้อความใน มาตรา 4 ของ ร่าง พ.ร.ฎ ฉบับนี้ ที่ยังมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่ระหว่าง กกต.กับคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการจะกำหนดให้สามารถเลื่อนวันเลือกตั้งได้ไว้ด้วยนั้น หากวันที่ 14 พ.ค. ได้ข้อยุติ ก็อาจทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งได้ในวันดังกล่าว และจะไม่กระทบต่อการกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค. แต่หากการหารือยังไม่ได้ข้อยุติ ก็อาจจะต้องมีการเลื่อนวันเลือกตั้งที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งทุกอย่างจะมีความชัดเจนวันที่ 14 พ.ค.
ส่วนกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้ทำหนังสือ ลงวันที่ 6 พ.ค.57 ถึงรัฐบาลว่า ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และการเลือกตั้งครั้งต่อไป รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจะต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากไม่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมั่น รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ และที่ผ่านมากกต. ก็จัดการเลือกตั้งอย่างรอบคอบ แต่ครั้งต่อไปต้องรอบคอบมากขึ้น ซึ่งเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ ก็จะนำมาพูดคุยในการหารือด้วย
**ชี้"นิวัฒน์ธำรง"ไม่มีอำนาจแทนนายกฯ
นายคำนูณ สิทธิสนาม ส.ว.สรรหา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมวงพาณิชย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯ จะเป็นผู้ลงนามทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโฮงการ พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 มาตรา 5 กำหนดให้ “นายกรัฐมนตรี”และประธาน กกต. เป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกา
“คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 2/2557 วินิจฉัยโดยเสียงข้างมาก ให้การกำหนดวันเลือกตั้งใหม่เป็นอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบร่วมกันของ“นายกรัฐมนตรี”และประธาน กกต.
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2557 วินิจฉัยว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภา พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ให้เป็น 2 กุมภาพันธ์ 25567 (มาตรา 4) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การจะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่แทนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จึงเป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันของ“นายกรัฐมนตรี” และ ประธานกกต. โดยการตราพระราชกฤษฎีกา แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 ในมาตรา 4 เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2549
ประเด็นพิจารณาคือในขณะนี้ไม่มี“นายกรัฐมนตรี”มีแต่ “รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี”เท่านั้น
และการปฏิบัติหน้าที่แทนไม่สามารถกระทำแทนได้ในทุกเรื่อง!
**"พงศ์เทพ" ยันลงนามรับสนองฯได้
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปฎิบัติหน้าที่ของ นายนิวัฒน์ธำรง ที่ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี สามารถลงนามรับสนองพระบรมราชโองการหรือทูลเกล้าฯได้หรือไม่ ว่า รองนายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี สามารถทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีได้ทุกประการ เช่นเดียวกับกรณีที่นายกฯยังอยู่ในตำแหน่ง หรือเดินทางไปต่างประเทศ หรือไม่สบาย ตาม พ.ร.บ.ระเบียบว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน ระบุให้มีผู้ที่ทำหน้าที่แทน ซึ่งจะทำหน้าที่แทนนายกฯ ทุกอย่าง รวมทั้งการลงนามสนองพระบรมราชโองการ และการนำเรื่องต่างๆขึ้นทูลเกล้าฯ
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาก็ได้ลงนามสนองพระบรมราชโองการในหลายเรื่องมาโดยตลอด แม้กระทั่งกรณีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย เช่น การลงนามรับสนองพระบรมราชโองการที่ตนทำเป็นประจำ อาทิ การแต่งตั้งอธิการบดี ตำแหน่งศาสตราจารย์ ตนก็ต้องลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแทนนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ดังนั้น เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาก็มีรองนายกรัฐมนตรีหลายท่านที่ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
**"จารุพงศ์"ฟันธงไม่มีการเลือกตั้ง
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.จะขอเข้าหารือกับรัฐบาล เรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.ว่า ครม.เห็นว่า ควรจะเร่งรัดให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งเป็นถือเป็นหน้าที่ของกกต. ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล อย่าเบี่ยงเบนประเด็นว่าเป็นพันธกิจ และหน้าที่ของรัฐบาล หรือโยนว่าเป็นความไม่พร้อมของรัฐบาลไม่ได้ อย่าผลักภาระให้รัฐบาล เราพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ดังนั้นการหาทางออกเรื่องนี้ต้องไปถามกกต. ทั้งหากการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปก็จะส่งผลกระทบแน่ เพราะรัฐบาลจะต้องรักษาการไปจนกว่าจะมีรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งเราไม่อยากให้ช้า
"หน้าที่จัดการเลือกตั้ง เป็นของกกต.ดังนั้นถ้าจะต้องรับผิดชอบ กกต.ตั้งรับผิดชอบ ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองอยากให้มีการเลือกตั้งเร็วทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์และความจริงใจของกกต.มากกว่า แต่ส่วนตัวผมมองว่าจะไม่มีการเลือกตั้งแน่นอน เพราะดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาหลายอย่าง หากจะมีการเลือกตั้งที่สมบูรณ์ มันก็คงจะสมบูรณ์ไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้พอจะเลือกตั้งอีกทีก็เลื่อนไปจนถึงวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 ถึง 60 วัน ก็ถือว่าไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ และเวลานี้จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ รัฐบาลก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้คนที่ทำให้ไม่มีการเลือกตั้งไม่ใช่ผม และรัฐบาลแน่นอน เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น บอกได้เลยว่าไม่ได้เกิดมาจากฝั่งรัฐบาล แต่เป็นใครพวกคุณรู้ดี" นายจารุพงศ์ กล่าว
ส่วนกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้ทำหนังสือ ลงวันที่ 6 พ.ค.57 ถึงรัฐบาลว่า ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และการเลือกตั้งครั้งต่อไป รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจะต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากไม่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมั่น รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ และที่ผ่านมากกต. ก็จัดการเลือกตั้งอย่างรอบคอบ แต่ครั้งต่อไปต้องรอบคอบมากขึ้น ซึ่งเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ ก็จะนำมาพูดคุยในการหารือด้วย
**ชี้"นิวัฒน์ธำรง"ไม่มีอำนาจแทนนายกฯ
นายคำนูณ สิทธิสนาม ส.ว.สรรหา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมวงพาณิชย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯ จะเป็นผู้ลงนามทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโฮงการ พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 มาตรา 5 กำหนดให้ “นายกรัฐมนตรี”และประธาน กกต. เป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกา
“คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 2/2557 วินิจฉัยโดยเสียงข้างมาก ให้การกำหนดวันเลือกตั้งใหม่เป็นอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบร่วมกันของ“นายกรัฐมนตรี”และประธาน กกต.
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2557 วินิจฉัยว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภา พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ให้เป็น 2 กุมภาพันธ์ 25567 (มาตรา 4) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การจะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่แทนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จึงเป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันของ“นายกรัฐมนตรี” และ ประธานกกต. โดยการตราพระราชกฤษฎีกา แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 ในมาตรา 4 เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2549
ประเด็นพิจารณาคือในขณะนี้ไม่มี“นายกรัฐมนตรี”มีแต่ “รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี”เท่านั้น
และการปฏิบัติหน้าที่แทนไม่สามารถกระทำแทนได้ในทุกเรื่อง!
**"พงศ์เทพ" ยันลงนามรับสนองฯได้
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปฎิบัติหน้าที่ของ นายนิวัฒน์ธำรง ที่ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี สามารถลงนามรับสนองพระบรมราชโองการหรือทูลเกล้าฯได้หรือไม่ ว่า รองนายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี สามารถทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีได้ทุกประการ เช่นเดียวกับกรณีที่นายกฯยังอยู่ในตำแหน่ง หรือเดินทางไปต่างประเทศ หรือไม่สบาย ตาม พ.ร.บ.ระเบียบว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน ระบุให้มีผู้ที่ทำหน้าที่แทน ซึ่งจะทำหน้าที่แทนนายกฯ ทุกอย่าง รวมทั้งการลงนามสนองพระบรมราชโองการ และการนำเรื่องต่างๆขึ้นทูลเกล้าฯ
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาก็ได้ลงนามสนองพระบรมราชโองการในหลายเรื่องมาโดยตลอด แม้กระทั่งกรณีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย เช่น การลงนามรับสนองพระบรมราชโองการที่ตนทำเป็นประจำ อาทิ การแต่งตั้งอธิการบดี ตำแหน่งศาสตราจารย์ ตนก็ต้องลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแทนนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ดังนั้น เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาก็มีรองนายกรัฐมนตรีหลายท่านที่ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
**"จารุพงศ์"ฟันธงไม่มีการเลือกตั้ง
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.จะขอเข้าหารือกับรัฐบาล เรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.ว่า ครม.เห็นว่า ควรจะเร่งรัดให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งเป็นถือเป็นหน้าที่ของกกต. ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล อย่าเบี่ยงเบนประเด็นว่าเป็นพันธกิจ และหน้าที่ของรัฐบาล หรือโยนว่าเป็นความไม่พร้อมของรัฐบาลไม่ได้ อย่าผลักภาระให้รัฐบาล เราพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ดังนั้นการหาทางออกเรื่องนี้ต้องไปถามกกต. ทั้งหากการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปก็จะส่งผลกระทบแน่ เพราะรัฐบาลจะต้องรักษาการไปจนกว่าจะมีรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งเราไม่อยากให้ช้า
"หน้าที่จัดการเลือกตั้ง เป็นของกกต.ดังนั้นถ้าจะต้องรับผิดชอบ กกต.ตั้งรับผิดชอบ ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองอยากให้มีการเลือกตั้งเร็วทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์และความจริงใจของกกต.มากกว่า แต่ส่วนตัวผมมองว่าจะไม่มีการเลือกตั้งแน่นอน เพราะดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาหลายอย่าง หากจะมีการเลือกตั้งที่สมบูรณ์ มันก็คงจะสมบูรณ์ไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้พอจะเลือกตั้งอีกทีก็เลื่อนไปจนถึงวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 ถึง 60 วัน ก็ถือว่าไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ และเวลานี้จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ รัฐบาลก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้คนที่ทำให้ไม่มีการเลือกตั้งไม่ใช่ผม และรัฐบาลแน่นอน เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น บอกได้เลยว่าไม่ได้เกิดมาจากฝั่งรัฐบาล แต่เป็นใครพวกคุณรู้ดี" นายจารุพงศ์ กล่าว
