โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
หลังจากชุมนุมยืดเยื้อยาวนานกว่า 6 เดือน กำนันสุเทพตัดสินใจประกาศระดมมวลมหาประชาชนเพื่อวันเผด็จศึก เริ่มต้นจากพิธีกรรมวันที่ 5 เดือนนี้ และลากยาวอีกรอบเพื่อเปิดฉากแตกหักวันที่ 14 เป็นต้นไป จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าร่วม
ถ้ามามากแล้ว ต้องดูความอึดว่าจะทำให้นางปูซั่มและขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมพ้นจากอำนาจโดยไม่ทิ้งรากเหง้าเพื่อรักษาการ เล่นเกมยื้อเพื่ออยู่ต่ออีกหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้นกำนันสุเทพจะประกาศจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยใช้อำนาจประชาชนได้สำเร็จมั้ย
การที่เริ่มจากวันที่ 5 เดินขบวนจากจากสวนลุมฯ ไปทำพิธีหน้าวัดพระแก้ว จนถึงสนามหลวง ร่วมกับสหายร่วมแนวคือกองทัพธรรม กองทัพประชาชน กลุ่มคปท. ซึ่งปักหลักอยู่ข้างทำเนียบไทยคู่ฟ้า ทำให้นางปูซั่มไปทำงานไม่ได้หลายเดือนแล้ว
กลายเป็นนางปูซั่มเร่ร่อน ไม่สามารถมีโต๊ะนั่ง เก็บของใช้ส่วนตัวได้!
ศึกแตกหักกับรัฐบาลนางปูซั่มและเครือข่ายบักเหลี่ยมครั้งนี้กำนันสุเทพหวังผลต่อเนื่องจากคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช. กรณีโกงกินในโครงการจำนำข้าว และศาลรัฐธรรมนูญกรณีที่ครม. นางปูซั่มโยกนายถวิล เปลี่ยนศรีไปจากเก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคง
ถ้าไม่มีอะไรผิดเพี้ยน หรือบักเหลี่ยมแผลงฤทธินอกระบบจนเกินต้าน ทั้ง ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญย่อมไม่มองเป็นอื่น นอกจากเห็นว่านางปูซั่มและคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยไม่ต้องเหลือใครใน ครม. เป็นเชื้อชั่วต่อเนื่องเพื่อยื้อจนกว่าจะมีนายใหม่
กำนันสุเทพก็เปิดไต๋ให้กลุ่มก๊วนขี้ข้าบักเหลี่ยมได้รับรู้แล้ว เพื่อให้เตรียมตัวรับสถานการณ์ให้สมน้ำสมเนื้อ ฝ่ายศูนย์รวมอาชญากรสั่วคงระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ส่วนหนึ่งเพื่อปกป้องรัฐบาลนางปูซั่ม และหวังอมเบี้ยเลี้ยงตำรวจยังชีพต่อไปอีกนาน
การชุมนุมโดยสงบ สันติ อหิงสานั้นแม่นางปูซั่มชอบมาก ไม่เดือดร้อน เพราะไม่มีเผาบ้านเผาเมืองเหมือนพวกเสื้อแดงลัทธิบูชาส้นตีนและส้วมเหนือหัว ซึ่งจะซ้ำรอยที่ถนนอักษะเริ่ม 6 พค. 1 วันหลังจากวันฉัตรมงคลซึ่งกำนันสุเทพนัดใส่เสื้อเหลืองสู้ศึก
การกดดันครั้งนี้ยังคงไม่มีผลต่อรัฐบาลนางปูซั่ม เว้นแต่ว่าตัวนางและก๊วนต้องตกเก้าอี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ยังมีคำถามว่านางจะไปแต่โดยดี หรือมีลีลาอ้อยอิ่ง เปิดช่องให้เกิดมลภาวะแทรกซ้อน เช่นการลุกฮือของมวลชนบูชาส้นตีนแดงและการจ้างชาวรากหญ้า
มวลชนของกำนันสุเทพจะมามากแค่ไหน ระดับหมื่น แสน หรือหลายล้าน ถ้าจะมา จะเริ่มเมื่อไหร่ จากวันที่ 5 แล้วบางตา จนถึงวันเผด็จศึก คือ 14 พ.ค. ความลำบากในการดึงมวลชนจำนวนมหาศาลให้ชุมนุมระยะ 8 วันถือว่าไม่ง่ายในการคงระดับไว้
กำนันยังอุบไต๋ ไม่บอกว่ายุทธการขั้นสุดท้ายจะทำอย่างไรเอานางปูซั่มให้อยู่!
และถ้านางปูซั่มไม่ออก จะทำอย่างไร ถ้าออกแต่ทิ้งเชื้อชั่วไว้รักษาการต่ออีก จะทำอย่างไร เมื่อกำนันสุเทพยังไม่อยากรบกวนกองทัพให้ออกมาร่วมขับไล่รัฐบาลชั่ว – ประเด็นนี้น่าพิศวง ผู้นำกองทัพอยู่ได้อย่างไรโดยไม่เห็นความผิด ทุจริตของนักการเมือง
ยิ่งไม่ใส่ใจตามติดขบวนการหยามเจ้า ล้มเจ้า อย่างจริงจัง เพียงแต่แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ทำให้ประชาชนสงสัยว่าทำไมกองทัพจำกัดหน้าที่และความรักชาติน้อยกว่าคำปฏิญาณซึ่งชาวบ้านได้ชมในวันสวนสนามบริเวณลานพระรูปหลายปีก่อน
หรือว่าไม่มีงานสวนสนามเอิกเกริก ความรู้สึกรักชาติ ปกป้องสถาบันหลัก จึงเจือจางลงพร้อมกับความเข้มข้นของฤทธิถั่งเช่า ยาโด๊ปราคาแพง และปัจจัยเย้ายวนจำนวนมหาศาล บันดาลสุข ทำให้ลืมหน้าที่ จิตสำนึกด้านดี พร่ำแต่คำว่าต้องไปเลือกตั้ง
เอาเถอะเมื่อศึกครั้งนี้มุ่งแตกหัก เป็นวันเผด็จศึก ประชาชนคนรักชาติต้องออกมาให้เยอะกว่าทุกครั้ง เพื่อสนับสนุนกำนันสุเทพและแกนนำของเวทีอื่นๆ ใครชอบไปเวทีไหนก็ร่วมที่นั่น ถือว่าเป็นภาระเพื่อชาติ ขุดรากถอนโคนโคตรเหง้านักการเมืองโกงชาติ
ถ้ากำนันสุเทพแพ้ ถอดใจ ต้องยอมรับว่าแพ้ทางลีลามารยา ความหน้าด้านของนางปูซั่ม ว่าเหลือกำลังรับจริงๆ อาจเปิดทางให้คนอื่นขออาสาเข้ามาเป็นแกนนำแทน เพื่อหักเหลี่ยม หักขานางปูซั่ม ซึ่งยังคงเดินกะเผลกๆ ชาวบ้านสงสัยว่ายังเจ็บจริงแน่หรือ
ถ้ากำนันยอมแพ้นางปูซั่มคงนอนตายตาไม่หลับ ตายไปก็ไม่กล้าตากหน้าไปพบกับวีรชนและบุพการี รวมทั้งผู้กล้าซึ่งได้พลีชีพเพื่อชาติ และการทำพิธีสัตยาธิษฐานคงไม่ทำให้นางปูซั่มสะท้าน เพราะความเย็นชาของนางนั้นไม่เป็นรองสัตว์เลือดเย็นอื่นๆ
แต่กำนันสุเทพยังคงหวังว่า ถ้าทั้ง ปปช. และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นโทษต่อนางปูซั่ม และนางยังดื้อ ก็ย่อมเป็นเหตุผลเพียงพอให้กำนันสุเทพไปกดดันผู้นำกองทัพให้แสดงจุดยืนว่าคิดอย่างไร จะยอมให้คนชั่วโกงกินบ้านเมืองอยู่กุมอำนาจรัฐอีกหรือ
บอกก่อนหน้านี้แล้วว่า เพียงแค่ผู้นำกองทัพกล้าหาญ ใจถึง กระซิบข้างหูนางปูซั่มว่า “ไปเถอะ ถ้ายังอยู่ กองทัพไปสนับสนุน และไม่รับรองความปลอดภัย” ก็น่าจะเพียงพอ ขบวนการบักเหลี่ยมคงไม่หวังว่ากองกำลังตำรวจจะกล้าค้ำบัลลังก์ต่อไป
เรื่องอะไรจะปล่อยให้ผู้นำกองทัพยักกระสาย เล่นลีลายื้อ หาเหตุผลทื่อๆ อยู่จนถึงวันเกษียณอายุสิ้นเดือนกันยายน โดยไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์บ้านเมือง และยังจะกินบำนาญจากเงินภาษีของประชาชนต่อไปอีก แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีกองทัพไว้ทำไม
อยากรู้จริงๆ ว่าผู้นำกองทัพคิดอย่างไรกับนักการเมืองชั่ว และการต่อสู้ของประชาชน มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามทหารแสดงความรักชาติในฐานะประชาชน หรือจะรักชาติเมื่อเริ่มวันแรกของการเกษียณอายุเท่านั้น เพราะไม่มีวินัยกองทัพมัดตัวต่อไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น แสดงว่าถ้าระบบของบ้านเมืองไม่บกพร่อง ก็เป็นเพราะเรามีผู้นำกองทัพถูกครอบงำด้วยความบกพร่อม ทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครดี ใครชั่ว หรือถ้าเช่นนั้นผู้นำองค์กรก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดได้อย่างไร เมื่อรักชาติน้อยกว่าชาวบ้านธรรมดา
คงต้องให้ประชาชนถามดังๆ ว่า อยู่ต่อไปเพื่ออะไรถ้าทำตัวไร้ค่า ไม่ทำหน้าที่?