xs
xsm
sm
md
lg

งมศพชุดแรก เรือเฟอร์รี ตาย58สูญ244

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักประดาน้ำสามารถเข้าไปภายในเรือเฟอร์รีที่ล่มและงมศพชุดแรกออกจากเรือได้แล้ว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 58 ราย ยังสูญหายอีก 244 คน ขณะที่ครอบครัวเหยื่อโกรธแค้นกับความล่าช้าและข้อมูลที่สับสนของทางการมากขึ้น ด้านอัยการเตรียมขยายเวลาการควบคุมตัวกัปตันและลูกเรืออีก 2 คน เพื่อพิจารณาหาสาเหตุที่ทำให้เรือล่ม

เรือเซวอลที่ออกเดินทางจากอินชอนไปยังเกาะเจจูในระยะทาง 400 กิโลเมตร ท่ามกลางสภาพอากาศสงบขณะที่เรือเลี้ยว เอียงอย่างรวดเร็ว และเริ่มจมลงเมื่อเช้าวันพุธ (16)
รายงานการสอบสวนระบุว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้ควบคุมเรือคือผู้ช่วยต้นเรือที่ไม่มีประสบการณ์ในน่านน้ำบริเวณดังกล่าว รวมถึงไม่เคยบังคับเรือขณะกระแสน้ำแปรปรวน และกัปตันก็ไม่ได้อยู่บนสะพานเรือ

ในบรรดาผู้โดยสารและลูกเรือ 476 คนนั้น เป็นนักเรียนและครูจากโรงเรียนมัธยมในเมืองอันซานถึง 339 คน

เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งเผยว่า นักประดาน้ำสามารถเข้าไปในเรือเฟอร์รีส่วนที่จมอยู่ได้เป็นครั้งแรกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (19) และอีกครั้งช่วงกลางวันวันอาทิตย์ ทำให้สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ 19 ศพ และปฏิบัติการกู้ภัยกลายสภาพเป็นการค้นหาและระบุตัวตนผู้เสียชีวิต ทำลายความหวังของญาติหลายคนที่เชื่อว่า อาจมีผู้โดยสารรอดชีวิต
จำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์อยู่ที่ 58 ราย สูญหายอีก 244 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก

เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งยังให้สัญญาว่า จะยังไม่ใช้เครนยักษ์ลอยน้ำ 3 ตัวที่ถูกส่งไปถึงจุดเกิดเหตุนอกชายฝั่งด้านใต้ของเกาหลีใต้ตั้งแต่หลายวันก่อนเพื่อยกเรือเฟอร์รีขึ้นจนกว่าจะแน่ใจว่า ไม่มีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่ในเรือ

ทั้งนี้ เรือเซวอลที่ใช้งานมา 20 ปีใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงจมลง ทว่า ผู้โดยสารได้รับคำสั่งให้อยู่ในเคบินกระทั่งสายเกินการณ์ จึงมีผู้รอดชีวิตเพียง 174 คน

อัยการ หยาง จุง-จิน เผยว่า กำลังพยายามสืบสวนว่า มีการละเลยหน้าที่นอกเหนือจากนี้หรือไม่ และกำลังพิจารณาขอขยายเวลาควบคุมตัวกัปตันและลูกเรืออีก 2 คนออกไปอีก 10 วัน

หยางเสริมว่า ได้เรียกตัวบุคคลอื่นอีก 10 คนมาสอบสวนเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ในจำนวนนี้รวมถึงลูกเรือคนอื่นๆ และเจ้าหน้าที่บริษัทชองแฮจิน มารีน ซึ่งเป็นเจ้าของเรือเซวอล
อนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลี จุน-ซก กัปตันเรือวัย 69 ปี ถูกจับกุมและตั้งข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่และละเมิดกฎหมายพาณิชย์นาวีซึ่งกำหนดให้กัปตันเรือต้องดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ออกทีวี ลีอธิบายว่า ที่สั่งอพยพล่าช้าเพราะกลัวว่า ผู้โดยสารจะถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากพัดหายไปในทะเล อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้อธิบายว่า เหตุใดจึงกระโดดหนีจากเรือทั้งที่ผู้โดยสารได้รับคำสั่งไม่ให้ออกจากเคบิน

นอกจากนี้ ตำรวจยังจับกุมนายท้ายวัย 55 ปี และผู้ช่วยต้นเรือหญิงวัย 26 ปีที่ไม่มีประสบการณ์ ซึ่งรับผิดชอบสะพานเรือขณะเกิดเหตุ

ผู้ช่วยต้นเรือหญิงผู้นี้ทำงานในเส้นทางอินชอน-เจจูเพียง 6 เดือน และควบคุมเรือในเส้นทางดังกล่าวครั้งแรกในวันเกิดเหตุ

ข้อมูลการติดตามเรือระบุว่า เรือหักเลี้ยวกะทันหันขณะผ่านหมู่เกาะขนาดเล็กนอกชายฝั่งทางใต้ ซึ่งอาจส่งผลให้สินค้าขนาดใหญ่ที่บรรทุกมา ซึ่งรวมถึงรถกว่า 150 คัน เคลื่อนที่และทำให้เรือเอียงและจมลงในที่สุด

ขณะเดียวกัน ญาติผู้สูญหายราว 200 คนปะทะกับตำรวจระหว่างพยายามเดินขบวนจากเกาะจินโดเพื่อไปประท้วงหน้าทำเนียบประธานาธิบดีที่กรุงโซล แต่สุดท้ายถูกผลักดันให้ถอยกลับ

ทั้งนี้ ครอบครัวเด็กนักเรียนกว่า 500 คนที่รอฟังข่าวอยู่ในโรงยิมบนเกาะจินโด ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานปฏิบัติการค้นหา มานาน 4 วัน 4 คืน ไม่พอใจมากขึ้นกับการทำงานที่ล่าช้าและการให้ข้อมูลที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยครั้ง

นอกจากนั้น วันศุกร์ที่ผ่านมา (18) ยังมีผู้พบศพผู้ช่วยครูใหญ่ของโรงเรียนนี้ที่ผูกคอตายนอกโรงยิม เนื่องจากรู้สึกผิดและเสียใจกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดยครูผู้นี้เดินทางไปกับเรือเซวอลด้วยแต่เป็นผู้รอดชีวิตกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือ

***ญาติเหยื่อเรือเฟอร์รียังไม่ชัดใช้เครนยกเรือ
4 วันหลังจากเหตุการณ์เรือโดยสารล่ม ญาติผู้โดยสารเรือเฟอร์รีเซวอลได้แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ในวันนี้(20) สนับสนุนการยุติปฎิบัติการค้นหา และอนุญาตให้ใช้เครนยกเรือขึ้นจากผิวน้ำ และในระหว่างช่วงที่ประสบภัย นานาชาติต่างร่วมแสดงความเสียใจมายังเกาหลีใต้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เกาหลีเหนือไม่มีท่าทีออกมาเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้

มีเครนขนาดยักษ์ 5 อันปรากฏอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ ปาร์ก กึน เฮ ได้ให้คำมั่นกับญาติผู้สูญหายอีกหลายร้อยชีวิตว่า จะอนุญาตให้ยกเลิกการค้นหาก็ต่อเมื่อความหวังในการพบผู้รอดชีวิตได้หมดไปแล้ว
หลังจากที่ในวันนี้(20) ทางเจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้จำนวนมากกว่า 13 ราย มีญาติของผู้โดยสารเป็นจำนวนมากตั้งความหวังว่า อาจจะยังมีผู้รอดชีวิตหลงเหลือติดในช่องอากาศภายในลำเรือ และเกรงว่าหากยกเรือขึ้นจะทำให้ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ตกเป็นอันตราย แต่ในขณะที่ญาติของผู้โดยสารอีกฝ่ายปลงใจว่า ญาติของพวกเขาคงจะไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้แล้ว จากการยืนยันที่ทางทีมนักประดาน้ำสามารถงมช่วยศพออกมาได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น “ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องใช้ครนยกเรือเฟอร์รีขึ้น” ลี พ่อของนักเรียนในเรือเฟอร์รีเซวอลให้ความเห็น และกล่าวต่อว่า “เป็นทางเลือกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ศพลอยออกไปไกล หรือป้องกันไม่ให้เน่าเปื่อย”

ทั้งนี้ ลูกชายของลีเป็นหนึ่งในนักเรียนจำนวน 352 คนจากโรงเรียนมัธยมปลายแดนวอนที่โดยสารมากับเรือเฟอร์รีเซวอลที่อับปางลงในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่ทว่าทางการเกาหลีใต้ยังเกรงที่จะประกาศยกเลิกปฎิบัติการค้นหา เพราะเกรงจะเพิ่มความโกรธแค้นให้กับญาติของเหยื่อที่ต่างโกรธแค้นที่เจ้าหน้าที่รับมือต่อวิกฤตเรือโดยสารล่มได้ช้าและไม่มีประสิทธิภาพ โดยพบว่ามีญาติของผู้โดยสารบางคนได้ขอให้ทางยามฝั่งเกาหลีใต้ใช้เครนยกเรือขึ้น แต่ญาติผู้โดยสารคนอื่นได้ปฎิเสธไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำเช่นนั้น

“มันเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้ายังมีผู้รอดชีวิตอีกคนที่ยังติดอยู่ในนั้น” ชัง ฮี-ซุก แม่ของนักเรียนที่สูญหายเผยกับเอเอฟพี และเสริมว่า “นักประดาน้ำต้องนำผู้รอดชีวิตพวกนั้นออกมา”

และในช่วงเช้าวันนี้(20) มีผู้ประท้วงญาติผู้โดยสารเรืออับปางร่วม 200 คนได้ออกเดินขบวนจากเกาะจินโดไปยังทำเนียบน้ำเงินของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในกรุงโซลที่มีระยะทางถึง 420 กม. แต่ภายหลังพวกเขาต้องถอยหลังกลับเพราะโดนสกัดจากตำรวจปราบจลาจล มีผู้ประท้วงบางรายโดนใส่กุญแจมือ

แจง ชูล-ซุน วัย 37 ปี ที่มารดาได้สูญหายจากเหตุการณ์นี้มีความต้องการให้พบร่างผู้เสียชีวิตก่อนที่จะเปื่อย แต่เขาไม่ต้องการให้ใช้เครนยกเรือขึ้น หากวิธีนีเป็นการปิดโอกาสรอดชีวิตของผู้โดยสารที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ “เราต้องไม่พูดถึงการใช้เครนยก” แจง ชูล-ซุน กล่าว

และเอเอฟพีได้รายงานว่า เกาหลีเหนือไม่มีปฎิกริยาในเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นกับเกาหลีใต้แต่อย่างใด ที่ถึงแม้บรรดาผู้นำชาติต่างๆทั่วโลกถึง 45 คนต่างส่งสารแสดงความเสียใจต่อเกาหลีใต้ก็ตาม

ทั้งนี้ สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ KCNA ได้รายงานว่า ในช่วงเย็นวันเกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารเฟอร์รีล่มนั้น ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน กำลังเพลิดเพลินกับการแสดงของคณะโมรานบอง (Moranbong) ที่โด่งดังซึ่งเป็นคณะหญิงล้วน และในวันเสาร์(19) สำนักข่าว KCNA เพียงแต่รายงานถึงอุบัติเหตุเรือโดยสารเกาหลีใต้ล่มว่า “คร่าชีวิตผู้โดยสารจำนวนมาก” และได้รายงานอ้างอิงข้อมูลจากสื่อเกาหลีใต้ถึงความโกรธแค้นของญาติผู้โดยสารเรือต่อความว่องไวในการรับเหตุภัยพิบัติของเกาหลีใต้

และการเฉยชาของเกาหลีเหนือสร้างความโกรธแค้นให้กับนักท่องเน็ตเกาหลีใต้ “เราไม่ต้องการความเห็นใจจากคนอย่างพวกคุณ แต่อย่างน้อยคนอย่างพวกคุณก็น่าจะหาคำพูดเพื่อแสดงความเสียใจได้บ้าง” หนึ่งในนักท่องเน็ตโพสต์ความเห็นในNaver.com. ที่โด่งดังในเกาหลีใต้ และมีอีกคนโพสต์ต่อว่า “ในขณะที่คนทั้งโลกต่างแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต แต่สิ่งที่เกาหลีเหนือทำช่างน่าละอาย “หัดเป็นมนุษย์ซะบ้าง!!!”
กำลังโหลดความคิดเห็น