เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยเกาหลีใต้ยังคงเร่งค้นหาผู้โดยสารอีกเกือบ 300 คนที่สูญหายในอุบัติเหตุเรือเฟอร์รีอับปางเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ขณะที่ข้อความซึ่งเด็กนักเรียนมัธยมส่งถึงครอบครัวเพื่อบอกเล่าความหวาดกลัว ความรัก และความท้อแท้สิ้นหวังของพวกเขาในนาทีสุดท้ายก่อนเรือจมถูกนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อเกาหลีใต้ ท่ามกลางความเศร้าสลดต่อโศกนาฏกรรมเรืออับปางที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 20 ปี
ผู้โดยสารเกือบ 300 คนบนเรือเฟอร์รี “เซวอล” ซึ่งอับปางลงนอกชายฝั่งเกาหลีใต้เมื่อเช้าวานนี้ (16) ยังคงสูญหาย ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมที่กำลังจะเดินทางไปทัศนศึกษายังเกาะเชจู (Jeju) สถานตากอากาศชื่อดังของแดนโสมขาว
“ผมส่งข้อความนี้เผื่อจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก แม่ครับ ผมรักแม่” นี่คือข้อความที่ ชิน ยัง-จิน นักเรียนชายคนหนึ่ง ส่งถึงคุณแม่ของเขาในขณะที่เรือเฟอร์รีกำลังจะจม และถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อเกาหลีใต้อย่างกว้างขวาง
แม่ของชิน ตอบลูกชายกลับไปว่า “โอ... แม่ก็รักลูกเหมือนกัน” โดยไม่ทราบเลยว่า ในขณะนั้นลูกของเธอกำลังตกอยู่ระหว่างความเป็นความตาย
การสื่อสารระหว่าง ชิน กับคุณแม่ของเขามีจุดจบอย่างแฮปปีเอนดิง เมื่อเขาโชคดีเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตในจำนวน 179 คนที่ได้รับการช่วยเหลือก่อนที่เรือจะพลิกคว่ำ
แต่ผู้โดยสารบนเรืออีกหลายร้อยคนไม่โชคดีเช่นนั้น
คิม วูง-กี วัย 16 ปี ได้ส่งข้อความถึงพี่ชาย หลังจากที่เรือเฟอร์รีเริ่มเอียงไปทางกราบซ้ายอย่างน่ากลัว โดยบอกว่า “ตอนนี้พื้นห้องที่ผมอยู่เอียงประมาณ 45 องศาแล้ว สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยดี”
พี่ชายพยายามปลอบไม่ให้คิมเสียขวัญ โดยบอกว่าหน่วยกู้ภัยกำลังเดินทางไปช่วย
“อย่าตกใจนะ ทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ แล้วทุกอย่างจะดีเอง” เขาส่งข้อความกลับไปหาน้องชายบนเรือ
นั่นคือข้อความสุดท้ายที่สองพี่น้องติดต่อหากัน และคิม วูง-กี ก็เป็นหนึ่งในผู้โดยสาร 287 คนที่ยังค้นหาไม่พบ
เป็นที่น่าเสียใจ เพราะคำแนะนำของพี่ชาย คิม ตรงกับคำพูดของลูกเรือคนหนึ่ง ซึ่งสั่งให้ผู้โดยสารทุกคนอยู่กับที่ในขณะที่เรือกำลังจะจม
ญาติผู้โดยสารหลายรายรู้สึกโกรธแค้น และเชื่อว่าคำแนะนำเช่นนี้เป็นสาเหตุให้ผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่สามารถหนีออกมาได้หลังจากที่เรือพลิกคว่ำ
สถานการณ์ที่น่าหวาดกลัวถูกสรุปเอาในข้อความของเด็กสาววัย 18 ปีคนหนึ่ง ซึ่งสื่อเกาหลีใต้ระบุนามสกุลของเธอว่า ชิน
“พ่อคะ ไม่ต้องห่วงนะ หนูใส่เสื้อชูชีพแล้ว และอยู่กับเพื่อนๆ อีกหลายคน เรายังอยู่ในโถงกลางของเรือ”
คุณพ่อของชินรีบส่งข้อความกลับไปบอกให้บุตรสาวหนีออกมาด้านนอก แต่ก็สายเกินไปแล้ว
“พ่อคะ หนูออกไปไม่ได้ เรือมันเอียงมากเลย ในโถงกลางมีคนอัดแน่นเต็มไปหมด” เธอตอบไว้ในข้อความสุดท้าย
พ่อแม่บางคนพยายามติดต่อลูกๆ จนได้ในนาทีสุดท้ายที่พวกเขาพยายามหนีเอาชีวิตรอด
“เธอบอกฉันว่าเรือเอียงแล้ว และเธอมองอะไรไม่เห็นเลย” คุณแม่คนหนึ่งเผยต่อหนังสือพิมพ์ ดองอาอิลโบด้วยอาการโศกเศร้า
“เธอบอกว่ายังไม่ได้สวมชูชีพ จากนั้นสายก็ตัดไป”
เรือเฟอร์รี “เซวอล” ระวางขับน้ำ 6,825 ตัน ลำนี้ได้เกิดเอียงข้างอย่างรุนแรง จากนั้นก็พลิกคว่ำและจมลงห่างจากด้านใต้ของเกาะบยุงปุงไปราวๆ 20 กิโลเมตร ภายในเวลาราว 2 ชั่วโมงหลังจากส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 07.00 น.ตามเวลาในไทย)