เอเอฟพี - 4 วันหลังจากเหตุการณ์เรือโดยสารล่ม ญาติผู้โดยสารเรือเฟอร์รีเซวอลได้แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ในวันนี้ (20) สนับสนุนการยุติปฏิบัติการค้นหา และอนุญาตให้ใช้เครนยกเรือขึ้นจากผิวน้ำ และในระหว่างช่วงที่ประสบภัย นานาชาติต่างร่วมแสดงความเสียใจมายังเกาหลีใต้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เกาหลีเหนือไม่มีท่าทีออกมาเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้
มีเครนขนาดยักษ์ 5 อันปรากฏอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ ปาร์ก กึน เฮ ได้ให้คำมั่นกับญาติผู้สูญหายอีกหลายร้อยชีวิตว่า จะอนุญาตให้ยกเลิกการค้นหาก็ต่อเมื่อความหวังในการพบผู้รอดชีวิตได้หมดไปแล้ว
หลังจากที่ในวันนี้ (20) ทางเจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้จำนวนมากกว่า 13 ราย มีญาติของผู้โดยสารเป็นจำนวนมากตั้งความหวังว่าอาจจะยังมีผู้รอดชีวิตหลงเหลือติดในช่องอากาศภายในลำเรือ และเกรงว่าหากยกเรือขึ้นจะทำให้ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ตกเป็นอันตราย
แต่ในขณะที่ญาติของผู้โดยสารอีกฝ่ายปลงใจว่า ญาติของพวกเขาคงจะไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้แล้ว จากการยืนยันที่ทางทีมนักประดาน้ำสามารถงมช่วยศพออกมาได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น “ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องใช้ครนยกเรือเฟอร์รีขึ้น” ลี พ่อของนักเรียนในเรือเฟอร์รีเซวอลให้ความเห็น และกล่าวต่อว่า “เป็นทางเลือกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ศพลอยออกไปไกล หรือป้องกันไม่ให้เน่าเปื่อย”
ทั้งนี้ลูกชายของลีเป็นหนึ่งในนักเรียนจำนวน 352 คนจากโรงเรียนมัธยมปลายแดนวอนที่โดยสารมากับเรือเฟอร์รีเซวอลที่อับปางลงในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ทว่าทางการเกาหลีใต้ยังเกรงที่จะประกาศยกเลิกปฏิบัติการค้นหา เพราะเกรงจะเพิ่มความโกรธแค้นให้กับญาติของเหยื่อที่ต่างโกรธแค้นที่เจ้าหน้าที่รับมือต่อวิกฤตเรือโดยสารล่มได้ช้าและไม่มีประสิทธิภาพ โดยพบว่ามีญาติของผู้โดยสารบางคนได้ขอให้ทางยามฝั่งเกาหลีใต้ใช้เครนยกเรือขึ้น แต่ญาติผู้โดยสารคนอื่นได้ปฏิเสธไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำเช่นนั้น
“มันเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้ายังมีผู้รอดชีวิตอีกคนที่ยังติดอยู่ในนั้น” ชัง ฮี-ซุก แม่ของนักเรียนที่สูญหายเผยกับเอเอฟพี และเสริมว่า “นักประดาน้ำต้องนำผู้รอดชีวิตพวกนั้นออกมา”
และในช่วงเช้าวันนี้ (20) มีผู้ประท้วงญาติผู้โดยสารเรืออับปางร่วม 200 คนได้ออกเดินขบวนจากเกาะจินโดไปยังทำเนียบน้ำเงินของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในกรุงโซลที่มีระยะทางถึง 420 กม. แต่ภายหลังพวกเขาต้องถอยหลังกลับเพราะโดนสกัดจากตำรวจปราบจลาจล มีผู้ประท้วงบางรายโดนใส่กุญแจมือ
แจง ชูล-ซุน วัย 37 ปี ที่มารดาได้สูญหายจากเหตุการณ์นี้มีความต้องการให้พบร่างผู้เสียชีวิตก่อนที่จะเปื่อย แต่เขาไม่ต้องการให้ใช้เครนยกเรือขึ้น หากวิธีนีเป็นการปิดโอกาสรอดชีวิตของผู้โดยสารที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ “เราต้องไม่พูดถึงการใช้เครนยก” แจง ชูล-ซุน กล่าว
และเอเอฟพีได้รายงานว่า เกาหลีเหนือไม่มีปฏิกริยาในเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นกับเกาหลีใต้แต่อย่างใด ที่ถึงแม้บรรดาผู้นำชาติต่างๆ ทั่วโลกถึง 45 คนต่างส่งสารแสดงความเสียใจต่อเกาหลีใต้ก็ตาม
ทั้งนี้ สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ KCNA ได้รายงานว่า ในช่วงเย็นวันเกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารเฟอร์รีล่มนั้น ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน กำลังเพลิดเพลินกับการแสดงของคณะโมรานบอง (Moranbong) ที่โด่งดังซึ่งเป็นคณะหญิงล้วน และในวันเสาร์ (19) สำนักข่าว KCNA เพียงแต่รายงานถึงอุบัติเหตุเรือโดยสารเกาหลีใต้ล่มว่า “คร่าชีวิตผู้โดยสารจำนวนมาก” และได้รายงานอ้างอิงข้อมูลจากสื่อเกาหลีใต้ถึงความโกรธแค้นของญาติผู้โดยสารเรือต่อความว่องไวในการรับเหตุภัยพิบัติของเกาหลีใต้
และการเฉยชาของเกาหลีเหนือสร้างความโกรธแค้นให้กับนักท่องเน็ตเกาหลีใต้ “เราไม่ต้องการความเห็นใจจากคนอย่างพวกคุณ แต่อย่างน้อยคนอย่างพวกคุณก็น่าจะหาคำพูดเพื่อแสดงความเสียใจได้บ้าง” หนึ่งในนักท่องเน็ตโพสต์ความเห็นใน Naver.com. ที่โด่งดังในเกาหลีใต้ และมีอีกคนโพสต์ต่อว่า “ในขณะที่คนทั้งโลกต่างแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต แต่สิ่งที่เกาหลีเหนือทำช่างน่าละอาย “หัดเป็นมนุษย์ซะบ้าง!!!”