xs
xsm
sm
md
lg

"ป๋า"ปัดคนกลาง เชื่อ"ปู-เทือก"ไม่ฟัง ปชป.แนะขรก.ก้าวข้าม"ปึ้ง"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ป๋าเปรม" เชื่อ"สุเทพ-ยิ่งลักษณ์" ไม่ฟังตัวเองพูด ปัดคนกลางเจรจา ฝาก ผบ.ตร. อดทนทำงาน "ปู"เหวี่ยงใส่"มาร์ค" อ้างรธน.ระบุ ยุบสภาแล้วต้องรักษาการต่อ ไม่ใช่ไม่รับอำนาจศาลฯ แค่ตั้งข้อสังเกตเรื่องมาตรฐาน ด้าน"สุเทพ" นำมวลชนรำลึกถึง"พล.อ.ร่มเกล้า" และทหารที่เสียชีวิต

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (10 เม.ย.) ที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดโครงการ "สานใจไทยสู่ใจใต้" ครั้งที่ 21 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ครอบครัวอุปถัมภ์ เข้าร่วมงานต้อนรับเยาวชนทั้ง 240 คน จาก จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล ที่จะได้ร่วมเรียนรู้วิถีชีวิต การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ จาก 10 จังหวัดภาคกลาง ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 เม.ย.นี้

โดยพล.อ.เปรมให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ทาง ผบ.เหล่าทัพ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เข้าร่วมพีธีเปิดโครงการ เพราะท่านเห็นความสำคัญของโครงการว่า จะเป็นโครงการที่จะมีส่วนช่วยชาติบ้านเมืองของเราในทางใดทางหนึ่ง พวกเยาวชนเป็นคนไทยเหมือนตน ผบ.เหล่าทัพ รองปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นสิ่งที่เราต้องจดจำว่า เราเป็นเจ้าของประเทศนี้เท่าเทียมกันกับคนอื่นๆ เรามีหน้าที่เหมือนกันคือ การดูแลชาติของเรา ดูแลพี่น้องคนไทยด้วยกันให้มีความรัก ความสามัคคี ช่วยพัฒนาชาติบ้านเมืองของเรา และนำความสุขร่มเย็นมาสู่พื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ อยากให้เยาวชนทั้งหลายเข้าใจว่า ทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ หน้าที่คือ การพัฒนาประเทศ ไม่สร้างปัญหาให้ประเทศ เป็นคนดีของชาติ พ่อแม่ สังคม และเราจะช่วยกันสร้างคนดีให้มากที่สุด จนคนในประเทศเราต้องยืนเบียดกัน แม้จะนับถือศาสนาอิสลาม แต่ไม่ได้ตัดความเป็นเจ้าของประเทศนี้ ขอให้เข้าใจว่า พวกเธอเป็นคนไทยเหมือนกัน มีหน้าที่เหมือนกัน คือดูแลประเทศของเราให้มีความมั่นคง ยั่งยืน ร่มเย็น สงบสุข ขอให้ทุกคนหวงประเทศให้มากๆ จะได้ช่วยกันดูแลประเทศให้สงบสุข

หลังเปิดโครงการ ผู้สื่อข่างพยายามสัมภาษณ์ พล.อ.เปรม ถึงทางออกของบ้านเมืองที่กำลังมีวิกฤติอยู่ในขณะนี้ แต่ พล.อ.เปรม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า " อยากให้สื่อนำเสนอในสิ่งที่ดีต่อประเทศ และช่วยชาติบ้านเมือง"

เมื่อถามถึงกรณีที่บางฝ่ายอยากให้ พล.อ.เปรม เรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. มาพูดคุย เพื่อแก้ปัญหา พล.อ.เปรม กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินมาก่อน เพิ่งจะได้ยินจากสื่อเป็นคนแรก เมื่อถามว่าท่านจะลองเชิญทั้ง 2 คน มาพูดคุยหรือไม่ เพราะทั้งสองฝ่าย น่าจะฟังท่าน พล.อ.เปรม หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “คุณคิดว่า เขาจะฟังผมหรือ”

เมื่อถามต่อว่า เพราะ พล.อ.เปรม เป็นที่เคารพรักของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากขณะนี้ไม่มีใครคุยกับสองฝ่ายได้ พล.อ.เปรม กล่าวว่า “ตัวผมเองก็โดนเหมือนกัน”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะเชิญ พล.อ.เปรม มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง พล.อ.เปรม ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เพียงแต่ยิ้มเท่านั้น ทั้งนี้ก่อนที่พล.อ.เปรม จะเดินกลับเข้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ โดยมี ผบ.เหล่าทัพ เดินไปส่งนั้น พล.อ.เปรม ได้มีการพูดคุยกับผบ.เหล่าทัพ เล็กน้อย ก่อนจะหันมากล่าวกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ว่า “อดทนหน่อยนะ แต่ต้องทำต่อไป”

** "ปู"ยกรธน.สั่งสอน"มาร์ค"

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าว ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ตนลาออก เพื่อลดความขัดแย้งว่า นายอภิสิทธิ์ คงทราบถึงบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ว่ารัฐบาลที่มีการยุบสภาแล้ว ต้องมีหน้าที่ในการปฏิบัติงานต่อ เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ ทราบตรงนี้ดี และเป็นสิ่งที่ตนต้องปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลยุบสภา คือการคืนอำนาจให้ประชาชนทั้งประเทศ เพื่อประชาชนจะได้มีส่วนร่วมในการที่จะใช้อำนาจ และสิทธิของตนเอง ในการที่จะตัดสิน หาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้นำของประเทศ ผ่านกระบวนการประชาธิปไตย คือ การเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่าอำนาจที่คืนให้ประชาชนนั้น เราไม่มีกติกา คงจะต้องมีการใช้วิธีการใด ที่จะทำให้เกิดการยอมรับ

**ไม่ปฏิเสธศาล แค่ตั้งข้อสังเกต

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่านายกฯ ไม่ยอมรับอำนาจศาลฯจะชี้แจงอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราใช้คำว่า ตั้งข้อสังเกต และเราหวังว่าทุกท่านจะยึดหลักความเสมอภาค และความเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า เราปฏิเสธการรับอำนาจฝ่ายยุติธรรม เป็นเพียงข้อสังเกต ข้อสงสัย ถ้าผู้ที่รู้ สามารถตอบให้คลายความสงสัยได้ จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ และทำให้คนที่รับฟังคลายความกังวลได้

เมื่อถามว่า ส่วนตัวกังวลใจกับคำวินิจฉัยของศาลรธน. ที่จะออกมาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ว่าใครที่เจอคดี หรือข้อกล่าวหา ต้องมีความกังวลเหมือนกัน ถ้าการตัดสินเป็นไปอย่างยุติธรรม เชื่อว่าทุกคนยอมรับได้

"บางครั้งเรามีความทุกข์ เรามีปัญหาต่างๆ ถ้าเรามองแต่ความทุกข์ ปัญหาจะมารุมเร้ากับเรา บางครั้งถ้าเรามองปัญหาไปในทางบวกบ้าง ปล่อยวางบ้าง และพยายามที่จะเอาใจเราไปเข้าใจในหัวอกคนอื่นบ้าง บางครั้งก็ต้องพยายามที่จะเข้าใจในบทบาทแต่ละฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องใช้วิธีการอย่างมีสติและต้องนิ่ง เพื่อที่จะใช้สติปัญญาต่างๆ ในการแก้ปัญหาด้วยความสุขุม รอบคอบ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า มาถึงวันนี้คิดว่าการเลือกตั้ง จะสามารถเดินหน้าไปได้หรือไม่ เพราะ กกต. ยังไม่รับปาก นายกฯกล่าวว่า ต้องถามว่าเราจะปล่อยให้ประเทศเราเป็นอย่างนี้หรือ ไม่มีคำตอบแม้กระทั้งว่า เราจะกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร จึงอยากให้คนไทยทุกคน ได้ร่วมกันทำให้กติกาต่างๆ เริ่มเดิน เพราะถ้าเราไม่มีการเลือกตั้งเลย ไม่มีการช่วยกันแก้ปัญหา แล้วเราจะทำอย่างไร วันนี้ทุกคนเห็นว่าปัญหาต่างๆของบ้านเมืองมีมากมาย การแข่งขันภาคเอกชนต่างๆ เดือดร้อน จึงอยากให้ทุกคนมาช่วยกันแก้ปัญหา

เมื่อถามว่า วันที่ 22 เม.ย. ทาง กกต.นัดหารือกับพรรคการเมืองเรื่องการเลือกตั้ง คิดว่า นานเกินไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันที่คุยไม่เป็นประเด็นเท่าเจตนารมณ์ร่วมกัน ที่จะทำให้การเลือกตั้งนั้นเกิดขึ้นได้

**จวก"ปู"จงใจสร้างความสับสน

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตำหนิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก สร้างความสับสนในสังคม ด้วยการทำลายความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนสับสนว่า ตัวเองกำลังถูกองค์กรอิสระกลั่นแกล้ง ทั้งที่ความจริงนายกฯ รู้อยู่แล้ว แต่ยังสร้างความสับสนมาโดยตลอด คือ กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ ครม. คืนตำแหน่งเลขาฯสมช. ให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี เหตุใดทำไมต้องดำเนินการในศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการทำเกินอำนาจหน้าที่ กลั่นแกล้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งที่ความจริง คือ การย้ายนายถวิล มีขึ้นเพื่อนำ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ออกจาก ผบ.ตร. เพราะถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอม ก็ไม่สามารถย้ายได้ จึงต้องทำให้ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติว่างลง เพื่อให้ตำแหน่ง ผบ.ตร. ว่าง จะได้ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ มาเป็น ผบ.ตร. การกระทำดังกล่าว จึงผิดชัดเจน เพราะเป็นการใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพวก และญาติตัวเอง ซึ่งศาลปกครองสูงสุดชี้แล้วว่า เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐบาลก็ยอมคืนตำแหน่งภายในเวลา 45 วัน ซึ่งการเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 (2) จึงถือว่าข้อเท็จจริงยุติ

เมื่อ ส.ว.เสนอเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 91 ศาลรัฐธรรมนูญต้องรับไว้พิจารณา ถ้าไม่รับ ก็ผิดรัฐธรรมนูญ คำกล่าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเป็นการใส่ร้ายศาลรัฐธรรมนูญอย่างน่ารังเกียจมาก เพราะรู้ดีว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งทีได้ข้อยุติแล้ว จากคำสั่งของศาลปกครอง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ สามารถวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นสถานภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผลทันที ไม่สามารถเป็นนายกฯรักษาการได้อีกต่อไป การอ้างว่า พ้นจากตำแหน่งนายกฯ มาเป็นรักษาการ ไม่สามารถวินิจฉัยได้นั้น เป็นการบิดเบือนที่น่ารังเกียจ

" ถ้าตายแล้วยังรักษาการได้ ก็ต้องเอาศพไปตั้งที่ทำเนียบรัฐบาล หรือลาออกแล้ว ยังให้รักษาการต่อ ทำไม่ได้ เช่นเดียวกับกรณีที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ต้องพ้นตำแหน่งทันทีตาม รธน. มาตรา 106 (9) ซึ่งเป็นเรื่องการขาดคุณสมบัติความเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถรักษาการได้อีกต่อไป” นายวิรัตน์ กล่าว

** ปชป.แนะขรก.ก้าวข้าม"ปึ้ง"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะเรียกประชุมปลัดกระทรวง หลังจากมี 2 ปลัดกระทรวง เปิดกระทรวงต้อนรับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ว่า ถ้าปลัดกระทรวงได้แสดงความคิดเห็นตรงไปตรงมาร่วมกันว่า ทุกกระทรวง ทบวง กรม ทำหน้าที่ในฐานะข้าราชการของแผ่นดิน โดยทำเพื่อพยายามลดบรรยากาศให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ไม่ได้มีอะไรตรงไหนเลยที่เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐ ถ้าปลัดกระทรวงช่วยกันยืนยันอย่างนี้ จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองโดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อเปิดโอกาสเจรจา หาคำตอบที่เป็นทางออกของประเทศ แต่น่าเสียใจที่รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ยังไม่อยากให้ประเทศพ้นวิกฤตเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า โดย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะที่ปรึกษา ศอ.รส. ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ปลัดกระทรวงพบกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นั้น เป็นการแสดงความเห็นแก่ตัว ปิดกั้นโอกาสประเทศ เพราะต้องการอยู่ในอำนาจโดยไม่สนใจว่าความเสียหายจะเกิดกับประเทศอย่างไร ถือเป็นการปิดประตูประเทศเพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง จึงเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศ ก้าวข้ามพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลชุดนี้ ร่วมมือเดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศ ซึ่งตนเชื่อว่า กปปส. พร้อมรับฟังความเห็นประชาชนกลุ่มอื่น ทีไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือพรรคการเมือง

" เราต้องสละพรรคเพื่อไทย ที่สนับสนุนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีพฤติกรรมสนับสนุนการทุจริต คอร์รัปชั่น อย่างชัดเจน พยายามให้ร้าย ป.ป.ช. อย่างต่อเนื่อง การไม่ยอมรับการตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่คิดปฏิรูปพาประเทศเดินหน้า จึงถึงเวลาต้องก้าวข้ามพรรคการเมืองที่เห็นแก่ตัว มีความคิดล้าหลัง ขอให้ข้าราชการอย่าใส่ใจกับนักการเมืองเห็นแก่ตัวอีกต่อไป" นายชวนนท์ กล่าว

**พท.ยื่นเอาผิด"สุเทพ"รัฏฐาธิปัตย์

นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และผู้ที่เกี่ยวข้องจากการชุมนุมได้ใช้สิทธิเสรีภาพ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจโดยมิชอบหรือไม่ โดยขอให้สอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการให้ นายสุเทพ ยุติการชุมนุม ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 2, 6, 8 และ 195 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา113 และ 116 จากกรณีที่ นายสุเทพ แถลงเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่าจะตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ออกคำสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เป็นคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิวัติ ที่จะเสนอทูลเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และครม. อีกทั้งยังจะเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้งด้วยตัวเอง ถือเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย และละเมิดพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ อันเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายสุเทพ ยุติการตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ และยุติการชุมนุม พร้อมทั้งขอให้ศาลวินิจฉัย และทำการไต่สวนฉุกเฉิน และทำการคุ้มครองชั่วคราว และระงับยับยั้ง อย่างเร่งด่วน

นายสิงห์ทอง กล่าวว่า ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ตนจะเดินทางมายื่นคำร้องคัดค้าน กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับพิจารณาคำร้องของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และพวก ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี กรณีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเห็นว่านายไพบูลย์ ไม่มีอำนาจในการยื่นคำร้องดังกล่าว และศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีอำนาจในการรับคำร้องไว้พิจารณา

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยกคำร้องของพรรคเพื่อไทย หากศาลไม่รับคำร้อง จะเดินทางมายื่นคำร้องอีกหรือไม่ นายสิงห์ทอง กล่าวว่า ที่ตนมายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะต้องการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม และจะยื่นไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะวันนี้ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีความเป็นกลาง มีการสมคบคิดกับกลุ่มการเมือง และพรรคการเมือง อีกทั้งยังมีการตัดตอนคำร้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตก ทำให้ประชาชนไม่เชื่อใจองค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรมของต่างประเทศ ยังมองว่ารัฐบาลชุดนี้ถูกปฏิวัติเงียบโดยองค์กรอิสระ

"ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระต่างๆ ยังไม่มีความเป็นธรรม ต่อไปตนอาจจะถือคบเพลิงเข้ามาในองค์กรอิสระ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่า ขณะนี้องค์กรอิสระ ตกอยู่ในยุคมืด เป็นต้นเหตุความขัดแย้ง ใช้กฎหมายไล่ล่าคน" นายสิงห์ทอง กล่าว

**"สุเทพ"นำมวลชนรำลึก"พล.อ.ร่มเกล้า"

เมื่อวานนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ได้นำมวลชนจากสวนลุมพินี เคลื่อนขบวนไปยัง กรมชลประทาน ปากเกร็ด ซึ่งผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ไปทำงานที่นั่น เพื่อเชิญชวนให้ข้าราชการออกมาต่อสู้ร่วมกับกปปส.

จากนั้นได้เคลื่อนขบวนไปที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เพื่อประกอบพิธีรำลึกถึง ข้าราชการทหาร และเจ้าหน้าที่ที่ต้องเสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจที่ถนนราชดำเนิน ในวันที่ 10 เม.ย. 53 ที่ผ่านมา รวมทั้ง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา10.00 น.วานนี้ ที่วัดบวรนิเวศน์วรวิหาร มีพิธีทำบุญครบรอบ 4 ปี การเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ( พล.ร. 2 รอ.) และทหารที่เสียชีวิตระหว่างการปฎิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณ สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน และ โรงเรียนสตรีวิทยา เมื่อวันที่ 10 เม.ย. โดยมีครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ยังมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ. ) นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และตัวแทนผู้บัญชาการทหารบก เดินทางมาร่วมงานด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น