เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (9 เม.ย.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนลงพื้นที่ว่า ตนจะเดินลงไปติดตามสถานการณ์ความรุนแรงว่า จะแก้ไขปัญหากันอย่างไร ทั้งนี้ไม่อยากให้วิจารณ์และคงไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เพราะเหตุการณ์เกิดเช่นนี้มานานแล้ว และเราพยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด หากยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ เขาก็ยังยืนยันการแบ่งแยกดินแดน ตราบใดที่ยังไม่ได้ข้อยุติ และยังมีการสร้างความรุนแรง เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่รัฐ คนไทยพุทธ ส่วนตัวผู้บังคับบัญชา มีการเปลี่ยนแปลงตามขั้นตอนตามลำดับ ก่อนหน้านี้ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เคยระบุว่า เหตุการณ์ส่อเค้าความรุนแรง ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เพื่อให้เกิดปัญหาช่วงสงกรานต์ ที่มีวันหยุดติดต่อหลายวัน จึงต้องไปดูว่า จะมีมาตรการอย่างไรป้องกันให้มากที่สุด พร้อมทั้งประสานงานการช่วยเหลือ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
"ทำไมต้องไปคิดว่า การเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 จึงทำให้เกิดเหตุระเบิดที่ ยะลา เป็นคนละเรื่องกัน ผมไม่ได้ปกป้องแม่ทัพฯ คนที่ขึ้นมาในระดับแม่ทัพภาค มีความดี มีฝีมือ ความรู้ ความสามารถ ในการป้องกันตัวเอง เขาอยู่รอดปลอดภัยจนมาเป็นแม่ทัพ ถือว่าไม่ธรรมดา โดยเหตุการณ์ที่มีความรุนแรง คือใกล้วันสงกรานต์ และครบรอบเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งเขาพยายามทำให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจที่ถูกระเบิดนั้น เป็นของคนไทยพุทธ เน้นธุรกิจค้าปลีก และค้าส่ง ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อต้องการข่มขู่คนไทยพุทธ ให้ออกจากพื้นที่ พร้อมแสดงศักยภาพ ลดความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ และยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ เพื่อยกระดับไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งผมได้สั่งการให้แม่ทัพภาค ได้พูดคุยกับย่านการค้าว่า จะดำเนินการอย่างไร โดยจะเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ส่วนร้านค้า ก็ต้องติดกล้องซีซีทีวี " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
**เชื่อโจรใต้บึ้มเรียกร้องความสนใจ
ที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หลังเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 57 ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยมีพล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4, ผู้แทนเลขาธิการ ศอ.บต., ผู้แทนผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุม
โดยก่อนการประชุม ผบ.ทบ.ได้มอบเงินให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ จ.ยะลา จำนวน 6 ราย
หลังจากนั้น พล.อ.ยุทธ์ศักดิ์ ได้กล่าวถึงกรณีที่คนร้ายลอบวางระเบิดและก่อเหตุความวุ่นวายหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า เป็นความพยายามก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ และเพื่อให้รัฐหันมาสนใจ และนำไปสู่การเปิดฉากการเจรจาขึ้นอีกครั้งหลัง หลังการเจรจาเพื่อสันติภาพยุติบทบาทลง หลังจากที่ไทยประสบปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่รัฐอาจละเลยต่อการแก้ไขปัญหานี้ไป อีกทั้งการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และการเปลี่ยนผ่านในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวเลขาฯสมช. จาก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร มาเป็น นายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งหมายความว่าคณะทำงานต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ส่วนเวทีเจรจาสันติภาพนั้น ขณะนี้ได้ยุตินานเกินไปจนทำให้เหมือนกันว่ารัฐ และกอ.รมน.ไม่ได้สนใจ หรือให้ความสำคัญกับพื้นที่นี้ ซึ่งการลงพื้นที่ของตนในวันนี้ พร้อมกับ ผบ.ทบ.นั้น ก็จะไปหารือถึงประเด็นนี้ด้วย เพื่อที่จะนำมาจัดรูปแบบใหม่ ว่าต้องเร่งเปิดเวทีเจรจาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีก เพราะเหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจประชาชนในพื้นที่
**ให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึง การดูแลความปลอดภัย และการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ว่า แผนมีอยู่แล้ว เรื่องการควบคุมปัญหามีอย่างเดียวคือ เมื่อภารกิจมันมากขึ้น มีภารกิจอื่นที่ต้องไปเสริมในระหว่างเวลานั้น เช่น มีข่าว มีข้อมูล หรือต้องไปพิสูจน์ทราบ กำลังบางส่วนก็ต้องถูกดึงออกมาจากภารกิจในเชิงรับกำลังตรงนี้ก็ต้องลดลง นี่คือประเด็นที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการปรับกำลังกันตลอดเวลา ซึ่งหน่วยแต่ละหน่วยก็ต้องปรับกันอยู่แล้ว
ประเด็นที่สอง แผนต่างๆ มีแผนรองรับ แผนเผชิญเหตุในยามปกติ หรือเมื่อสถานการณ์จะส่อเค้าความรุนแรงเค้าก็จะมีการปรับเป็นลำดับที่สอง ลำดับที่สาม ซึ่งจะต้องมาไล่ว่าลำดับที่หนึ่ง สอง สาม ที่ว่ามันอยู่ครบไหม อยู่กันยังไง และกำลังพลที่ประกอบการทำงานมีทั้งกำลังพลเรือน และทหาร ทั้งอาสาสมัคร ทั้งตำรวจประจำท้องที่ ต้องไล่ดูว่าครบหรือไม่ อยู่กันครบหรือไม่ และกล้อง CCTV เป็นยังไง แหล่งข่าวประชาชนเฝ้าระวังเป็นยังไง ตนจะพิจารณาให้หมด และในส่วนนี้เชื่อว่าถ้าทุกคนที่อยู่ในวงจักรเดียวกัน และเดินไปพร้อมๆ กันมันก็จะช่วยกันได้มาก
"ผมเองอยากจะฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันเฝ้าระวัง และระวังตัวเอง การสัญจรไปมาในการวิกาล และช่วยกันเฝ้าดูสิ่งที่ผิดปกติ ซึ่งวันนี้ในเขตเมืองยุทธวิธีเค้าเปลี่ยนไป เค้าไม่ใช้ระเบิดลูกใหญ่ เค้าใช้ระเบิดลูกเล็ก หรือระเบิดปิงปองถือเข้ามา นั่นคือสิ่งที่เค้าทำในวันนี้ ท่านต้องดูอย่าให้ใครเอาของ หรืออะไรที่ผิดปกติมาวางไม่ว่าจะในห้าง ในร้านค้าก็ตาม และฝากถึงกล้องวงจรปิด ถ้าเสียก็ให้รีบจัดการซ่อม เพราะเค้าต้องการทำลายเศรษฐกิจของเรา ต้องการแยกไทยพุทธ และไทยมุสลิม ต้องการเล่นงานเจ้าหน้าที่" ผบ.ทบ กล่าว
**เผยคลิปวินาทีระทึกกดบึ้มป่วนเมืองยะลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ อาสาสมัครกู้ชีพสันติปัตตานี ได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ วินาทีเกิดเหตุระเบิดในเมืองยะลา เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน รถยนต์ และทรัพย์สินหลายอย่าง รวมทั้งสร้างความตื่นตระหนกเกรงจะไม่ปลอดภัยในชีวิตให้กับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อีกครั้ง ซึ่งการระเบิดนี้ถูกระบุว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบถังแก๊สบ้าน ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม น้ำหนักประมาณ 80-100 กิโลกรัม ผสมผสานกับน้ำมันเบนซินขนาด 30 ลิตร ก่อนจะจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์
**กอ.รมน.หนุนเจรจาสันติภาพ
เมื่อเวลา 15.30 น. วานนี้ พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวภายหลังการประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หน่วยบัญชาการเฉพาะกิจ จ.ยะลา (บก.ฉก.ยะลา) ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. เข้าร่วมการประชุม ว่า ผบ.ทบ.ได้สั่งการเพิ่มเติมในส่วนการรักษาความปลอดภัยในเขตเมืองหลักทางเศรษฐกิจ ที่เดิมมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะ ผอ.รมน.จังหวัด เป็น ผอ.รปภ.จังหวัด และขอปรับเพิ่มเติมให้ ผบ.ฉก.จังหวัด เข้าร่วมรับผิดชอบด้วยอย่างชัดเจน โดยจัดกำลังร่วม 3 ฝ่าย เสริมด้วยกำลังประชาชน และกองหนุนเคลื่อนที่เร็ว กระจายกันวางกำลังให้สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว สำหรับ ผบ.พื้นที่ ให้กำหนดความรับผิดชอบในแต่ละเขตตั้งแต่ยามปกติ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผบ.หน่วยทหาร หรือตำรวจที่ใกล้ที่สุด รีบเข้าแก้ไขสถานการณ์ในฐานะ ผบ.เหตุการณ์ กรณีข้อจำกัดของรถกระเช้าดับเพลิงให้ประสานกระทรวงที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาขั้นต้น โดยหาทางปรับเกลี่ยจากจังหวัดอื่นก่อน พร้อมกับประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมให้การสนับสนุน
"ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากเงื่อนไขสะสมมาช้านาน ทุกภาคส่วนล้วนปรารถนาให้ความสันติสุขให้กลับคืนมาโดยเร็ว แต่การแก้ไขปัญหาต้องลดเงื่อนไข ควบคู่กับการทำงานทุกมิติ จึงจำเป็นใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะด้านการพัฒนา และด้านการศึกษา ในส่วนของการพูดคุยสันติภาพ ทางกอ.รมน. พร้อมสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไป ตามยุทธศาสตร์ที่กำหนด เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง" โฆษกกอ.รมน. กล่าว
** ซัด"ภราดร" เจรจาลับโจรใต้
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า เหตุระเบิดที่จ.ยะลา เกิดจากมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง เลขาฯสมช. จากตนเองมาเป็น นายถวิล เปลี่ยนศรี ทำให้มีคำถามว่า
1. พล.ท.ภราดร ไปแอบเจรจาอะไรกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างรัฐบาล กับโจรใต้ โดยที่ประชาชนไม่รู้หรือไม่
2. หาก พล.ท.ภราดร เกษียณปัญหาภาคใต้จะแก้ไม่ได้ ใช่หรือไม่ ทั้งนี้ในขณะที่ พล.ท.ภราดร ยังอยู่ในตำแหน่งเลขาฯสมช. ก็เกิดเหตุรุนแรงเช่นเดียวกัน
3. รัฐบาลจะรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนภาคใต้อย่างไร นอกจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อ้างว่าจะรักษาประชาธิปไตย
4. นายกฯ จะลงพื้นที่วันไหน อย่างน้อยถ้าไม่กล้าลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ก็ควรไปดูแลทหารในฐานะ รมว.กลาโหม
"ทำไมต้องไปคิดว่า การเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 จึงทำให้เกิดเหตุระเบิดที่ ยะลา เป็นคนละเรื่องกัน ผมไม่ได้ปกป้องแม่ทัพฯ คนที่ขึ้นมาในระดับแม่ทัพภาค มีความดี มีฝีมือ ความรู้ ความสามารถ ในการป้องกันตัวเอง เขาอยู่รอดปลอดภัยจนมาเป็นแม่ทัพ ถือว่าไม่ธรรมดา โดยเหตุการณ์ที่มีความรุนแรง คือใกล้วันสงกรานต์ และครบรอบเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งเขาพยายามทำให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจที่ถูกระเบิดนั้น เป็นของคนไทยพุทธ เน้นธุรกิจค้าปลีก และค้าส่ง ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อต้องการข่มขู่คนไทยพุทธ ให้ออกจากพื้นที่ พร้อมแสดงศักยภาพ ลดความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ และยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ เพื่อยกระดับไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งผมได้สั่งการให้แม่ทัพภาค ได้พูดคุยกับย่านการค้าว่า จะดำเนินการอย่างไร โดยจะเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ส่วนร้านค้า ก็ต้องติดกล้องซีซีทีวี " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
**เชื่อโจรใต้บึ้มเรียกร้องความสนใจ
ที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หลังเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 57 ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยมีพล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4, ผู้แทนเลขาธิการ ศอ.บต., ผู้แทนผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุม
โดยก่อนการประชุม ผบ.ทบ.ได้มอบเงินให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ จ.ยะลา จำนวน 6 ราย
หลังจากนั้น พล.อ.ยุทธ์ศักดิ์ ได้กล่าวถึงกรณีที่คนร้ายลอบวางระเบิดและก่อเหตุความวุ่นวายหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า เป็นความพยายามก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ และเพื่อให้รัฐหันมาสนใจ และนำไปสู่การเปิดฉากการเจรจาขึ้นอีกครั้งหลัง หลังการเจรจาเพื่อสันติภาพยุติบทบาทลง หลังจากที่ไทยประสบปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่รัฐอาจละเลยต่อการแก้ไขปัญหานี้ไป อีกทั้งการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และการเปลี่ยนผ่านในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวเลขาฯสมช. จาก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร มาเป็น นายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งหมายความว่าคณะทำงานต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ส่วนเวทีเจรจาสันติภาพนั้น ขณะนี้ได้ยุตินานเกินไปจนทำให้เหมือนกันว่ารัฐ และกอ.รมน.ไม่ได้สนใจ หรือให้ความสำคัญกับพื้นที่นี้ ซึ่งการลงพื้นที่ของตนในวันนี้ พร้อมกับ ผบ.ทบ.นั้น ก็จะไปหารือถึงประเด็นนี้ด้วย เพื่อที่จะนำมาจัดรูปแบบใหม่ ว่าต้องเร่งเปิดเวทีเจรจาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีก เพราะเหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจประชาชนในพื้นที่
**ให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึง การดูแลความปลอดภัย และการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ว่า แผนมีอยู่แล้ว เรื่องการควบคุมปัญหามีอย่างเดียวคือ เมื่อภารกิจมันมากขึ้น มีภารกิจอื่นที่ต้องไปเสริมในระหว่างเวลานั้น เช่น มีข่าว มีข้อมูล หรือต้องไปพิสูจน์ทราบ กำลังบางส่วนก็ต้องถูกดึงออกมาจากภารกิจในเชิงรับกำลังตรงนี้ก็ต้องลดลง นี่คือประเด็นที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการปรับกำลังกันตลอดเวลา ซึ่งหน่วยแต่ละหน่วยก็ต้องปรับกันอยู่แล้ว
ประเด็นที่สอง แผนต่างๆ มีแผนรองรับ แผนเผชิญเหตุในยามปกติ หรือเมื่อสถานการณ์จะส่อเค้าความรุนแรงเค้าก็จะมีการปรับเป็นลำดับที่สอง ลำดับที่สาม ซึ่งจะต้องมาไล่ว่าลำดับที่หนึ่ง สอง สาม ที่ว่ามันอยู่ครบไหม อยู่กันยังไง และกำลังพลที่ประกอบการทำงานมีทั้งกำลังพลเรือน และทหาร ทั้งอาสาสมัคร ทั้งตำรวจประจำท้องที่ ต้องไล่ดูว่าครบหรือไม่ อยู่กันครบหรือไม่ และกล้อง CCTV เป็นยังไง แหล่งข่าวประชาชนเฝ้าระวังเป็นยังไง ตนจะพิจารณาให้หมด และในส่วนนี้เชื่อว่าถ้าทุกคนที่อยู่ในวงจักรเดียวกัน และเดินไปพร้อมๆ กันมันก็จะช่วยกันได้มาก
"ผมเองอยากจะฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันเฝ้าระวัง และระวังตัวเอง การสัญจรไปมาในการวิกาล และช่วยกันเฝ้าดูสิ่งที่ผิดปกติ ซึ่งวันนี้ในเขตเมืองยุทธวิธีเค้าเปลี่ยนไป เค้าไม่ใช้ระเบิดลูกใหญ่ เค้าใช้ระเบิดลูกเล็ก หรือระเบิดปิงปองถือเข้ามา นั่นคือสิ่งที่เค้าทำในวันนี้ ท่านต้องดูอย่าให้ใครเอาของ หรืออะไรที่ผิดปกติมาวางไม่ว่าจะในห้าง ในร้านค้าก็ตาม และฝากถึงกล้องวงจรปิด ถ้าเสียก็ให้รีบจัดการซ่อม เพราะเค้าต้องการทำลายเศรษฐกิจของเรา ต้องการแยกไทยพุทธ และไทยมุสลิม ต้องการเล่นงานเจ้าหน้าที่" ผบ.ทบ กล่าว
**เผยคลิปวินาทีระทึกกดบึ้มป่วนเมืองยะลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ อาสาสมัครกู้ชีพสันติปัตตานี ได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ วินาทีเกิดเหตุระเบิดในเมืองยะลา เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน รถยนต์ และทรัพย์สินหลายอย่าง รวมทั้งสร้างความตื่นตระหนกเกรงจะไม่ปลอดภัยในชีวิตให้กับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อีกครั้ง ซึ่งการระเบิดนี้ถูกระบุว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบถังแก๊สบ้าน ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม น้ำหนักประมาณ 80-100 กิโลกรัม ผสมผสานกับน้ำมันเบนซินขนาด 30 ลิตร ก่อนจะจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์
**กอ.รมน.หนุนเจรจาสันติภาพ
เมื่อเวลา 15.30 น. วานนี้ พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวภายหลังการประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หน่วยบัญชาการเฉพาะกิจ จ.ยะลา (บก.ฉก.ยะลา) ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. เข้าร่วมการประชุม ว่า ผบ.ทบ.ได้สั่งการเพิ่มเติมในส่วนการรักษาความปลอดภัยในเขตเมืองหลักทางเศรษฐกิจ ที่เดิมมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะ ผอ.รมน.จังหวัด เป็น ผอ.รปภ.จังหวัด และขอปรับเพิ่มเติมให้ ผบ.ฉก.จังหวัด เข้าร่วมรับผิดชอบด้วยอย่างชัดเจน โดยจัดกำลังร่วม 3 ฝ่าย เสริมด้วยกำลังประชาชน และกองหนุนเคลื่อนที่เร็ว กระจายกันวางกำลังให้สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว สำหรับ ผบ.พื้นที่ ให้กำหนดความรับผิดชอบในแต่ละเขตตั้งแต่ยามปกติ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผบ.หน่วยทหาร หรือตำรวจที่ใกล้ที่สุด รีบเข้าแก้ไขสถานการณ์ในฐานะ ผบ.เหตุการณ์ กรณีข้อจำกัดของรถกระเช้าดับเพลิงให้ประสานกระทรวงที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาขั้นต้น โดยหาทางปรับเกลี่ยจากจังหวัดอื่นก่อน พร้อมกับประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมให้การสนับสนุน
"ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากเงื่อนไขสะสมมาช้านาน ทุกภาคส่วนล้วนปรารถนาให้ความสันติสุขให้กลับคืนมาโดยเร็ว แต่การแก้ไขปัญหาต้องลดเงื่อนไข ควบคู่กับการทำงานทุกมิติ จึงจำเป็นใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะด้านการพัฒนา และด้านการศึกษา ในส่วนของการพูดคุยสันติภาพ ทางกอ.รมน. พร้อมสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไป ตามยุทธศาสตร์ที่กำหนด เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง" โฆษกกอ.รมน. กล่าว
** ซัด"ภราดร" เจรจาลับโจรใต้
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า เหตุระเบิดที่จ.ยะลา เกิดจากมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง เลขาฯสมช. จากตนเองมาเป็น นายถวิล เปลี่ยนศรี ทำให้มีคำถามว่า
1. พล.ท.ภราดร ไปแอบเจรจาอะไรกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างรัฐบาล กับโจรใต้ โดยที่ประชาชนไม่รู้หรือไม่
2. หาก พล.ท.ภราดร เกษียณปัญหาภาคใต้จะแก้ไม่ได้ ใช่หรือไม่ ทั้งนี้ในขณะที่ พล.ท.ภราดร ยังอยู่ในตำแหน่งเลขาฯสมช. ก็เกิดเหตุรุนแรงเช่นเดียวกัน
3. รัฐบาลจะรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนภาคใต้อย่างไร นอกจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อ้างว่าจะรักษาประชาธิปไตย
4. นายกฯ จะลงพื้นที่วันไหน อย่างน้อยถ้าไม่กล้าลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ก็ควรไปดูแลทหารในฐานะ รมว.กลาโหม