รองโฆษก ปชป.จวก “อำมาตย์เต้น” แหลน้ำขุ่นๆ แดงตื้บพระเหตุเฉพาะหน้า ยกเหตุตกใจเผาเมือง ยิ่งมัดกล้าทำไม่กล้ารับไม่เป็นลูกผู้ชาย ย้อนสอบ “ถวิล” ขึ้นเวทีม็อบ ต้องสอบ รมต.ขี้ข้าขึ้นเวทีแดง ฉะนายกฯ อย่าอ้าง รธน.บางมาตรา เพื่อยื้ออำนาจ ท้ากล้าเดินตลาดดูค่าครองชีพพุ่งหรือไม่
วันนี้ (26 มี.ค.) นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ อ้างว่าคนเสื้อแดงทำร้ายพระเพราะเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าว่า เป็นการแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ แสดงว่านายณัฐวุฒิสนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรง เพราะพฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะในปี 2553 นายณัฐวุฒิอ้างว่าคนเผาเมืองคือคนขี้ตกใจ มาปีนี้บอกคนทำร้ายพระเป็นสถานการณ์เฉพาะหน้า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นลูกผู้ชาย ไม่ยอมรับผิดชอบต่อความผิดที่ทำไปแล้ว
“ถือเป็นพฤติกรรมโชว์ห่วย แต่นายณัฐวุฒิคิดว่าเป็นการโชว์สวย ค้านสายตาคนทั้งประเทศ”
นายจุฤทธิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิยังมีการเสนอให้สอบวินัยนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรณีขึ้นเวที กปปส.ว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะจะได้มีการสอบสวนรัฐมนตรีทุกคนที่ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงด้วย จะได้ไม่สองมาตรฐาน ใครที่มีพฤติกรรมแบ่งแยกประเทศก็ให้ปลดจากรัฐมนตรี แม้ว่าจะเป็นรักษาการก็สามารถปลดออกจากตำแหน่งได้ โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ขอให้ส่องกระจกดูตัวเองหยุดใช้อำนาจข่มขู่ข้าราชการ อย่าทำตัวเหมือนหอเอนปิซา เพราะสุดท้ายรัฐบาลจะล้มไม่สามารถอยู่ยั้งยืนยงได้
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อ้างว่าต้องอยู่ในตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญนั้น นายจุฤทธิ์กล่าวว่า อย่าเลือกปฏิบัติตามมาตราที่เป็นประโยชน์กับตัวเองเท่านั้น เพราะการยอมรับการตรวจสอบจาก ป.ป.ช. อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ การดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลต้องทำทั้งสิ้น ที่สำคัญคือการแสดงออกของ กปปส.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลต้องไม่คิดว่าเป็นศัตรู ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทั้ง 309 มาตรา ไม่ใช่อ้างเฉพาะบางมาตราเพื่อรักษาอำนาจ
นายจุฤทธิ์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาทางออกให้กับประเทศชาติ แก้ปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโครงการจำนำข้าวที่ในขณะนี้มีการเร่งระบายข้าวในราคาถูกเพียงกิโลกรัมละ 10 บาท แต่คนไทยต้องซื้อข้าวในราคากิโลกรัมละ 50 บาท
“ขอถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กล้าเดินตลาดสดหรือไม่ ขอให้ไปดูราคาสินค้าว่าแพงอย่างไร ถ้าต้นทุนข้าวอยู่ที่ 10 บาท แต่ขาย 50 บาท ส่วนต่าง 40 บาทอยู่ที่ใคร จะต้องมีการตรวจสอบให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมด้วย”