รองโฆษก ปชป.บี้ “จับกังเหลิม” จัดการกุ๊ยแดง กวป.รุมกระทืบพระ ซัดพฤติกรรมทำลายเมืองพุทธ ปล่อยปละถือว่าให้ท้าย ไล่ยุบ ศอ.รส. จวก “อำมาตย์เต้น” เพ้อชื่อนายกฯ คนกลาง ย้อนมีแต่นายกฯ คนกร่าง จี้หยุดสาวกป่วนองค์กรอิสระ ดักอย่าโบ้ย กกต.-พรรค ย้ำต้องร่วมแก้เลือกตั้งปัญหา พร้อมชดใช้เหตุโมฆะ ชี้รุนแรงอยู่แก้ไม่ได้ ป้อง หน.ปชป.หวังเสียบเก้าอี้ผู้นำ
วันนี้ (25 มี.ค.) นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานและสวัสดิการสังคม ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. ดำเนินการกับกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. ที่รุมทำร้ายพระสงฆ์บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.โดยด่วน เพราะเป็นพฤติกรรมที่ทำลายภาพลักษณ์ประเทศชาติที่เป็นเมืองพุทธอย่างรุนแรง หากไม่มีการดำเนินการใดๆ เท่ากับปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่งใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย หากไม่ตรวจสอบจะถือว่ากำลังให้ท้ายคนทำผิดและควรพิจารณาว่า ศอ.รส.ควรทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ และ พ.ร.บ.ความมั่นคงคุ้มในราชอาณาจักร ให้การคุ้มครองชีวิตคนไทยและพระสงฆ์ได้หรือไม่
ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ออกมาระบุถึงรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนกลางว่า เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่านายณัฐวุฒิ กำลังสับสนกับบทบาทตัวเอง และใช้จินตนาการขายฝันเพื่อสร้างความวุ่นวายในสังคมเท่านั้น และยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เป็นนายกฯ คนกลางอย่างแน่นอน เพราะนายอภิสิทธิ์ต้องการเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น
“ขณะนี้มีนายกฯ คนกร่างที่รักษาประชาธิปไตยแต่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ชาติ ผมขอให้นายกฯ คนกร่างในขณะนี้หยุดสนับสมุนบริวารไปขัดขวางการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ จนทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อย่างกรณีที่ ป.ป.ช.มีการกดดันจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้และส่อว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้นด้วย เพราะนายกฯ คนกร่างเป็นคู่ขัดแย้ง ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบอยู่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จึงฝากไปถึงนายณัฐวุฒิว่า ไม่ต้องคิดว่าจะเอาใครมาเป็นนายกคนกลางแต่ให้คิดว่าจะทำอย่างไรให้นายกคนกร่างออกจากประเทศไทย”
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หยุดผลักภาระไปให้ กกต.ในการแก้ปัญหาจัดการเลือกตั้งเพราะรัฐบาลต้องร่วมรับผิดชอบด้วย โดยต้องร่วมเจรจาในฐานะเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน รวมถึงรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายกว่า 3,800 ล้านบาทที่สูญเสียไปทั้งที่ กกต.เตือนรัฐบาลหลายครั้งว่าจะเป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่าเนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ และขอให้เลิกโทษพรรคประชาธิปัตย์เพราะคนที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐบาล ที่สำคัญคือรัฐบาลต้องส่งสัญญาณถึงฝ่ายของตัวเองให้หยุดใช้ความรุนแรง มิเช่นนั้นการเลือกตั้งจะแก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ถ้ายังมีการใช้ความรุนแรงอยู่อย่างในปัจจุบัน
