ASTVผู้จัดการรายวัน-ลือหึ่ง! "แม้ว"ยอมถอย ยื่นเงื่อนไข "ปู-ตระกูลชิน" วางมือการเมือง งดลงเลือกตั้ง ดัน "พงศ์เทพ" ปาตี้ลิสต์เบอร์ 1 นั่งนายกฯ ปฏิรูปการเมืองภายให้เสร็จใน 1 ปี "ปึ้ง"ยันเพื่อไทยไม่ถึงทางตัน เลือกตั้งเมื่อไรก็ชนะ "บิ๊กตู่"วอนคู่ขัดแย้ง "ปู-เทือก"เสียสละ ปัญหาทุกอย่างจบ ไม่งั้นบ้านเมืองก็จะถูกแช่แข็งต่อไป ด้าน "ปู"โพสต์เฟซรับลูกทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งส.ส.วันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมพิจารณาข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีการประเมินว่า ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างแน่นอน ทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือถึงทางออกในเรื่องนี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตัดสินใจที่จะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอมถอย ด้วยการไม่ลงรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยจะให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 แทน และพร้อมที่จะให้เป็นนายกฯ เพื่อผลักดันการปฏิรูปการเมืองให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 1 ปี แต่ในช่วงนี้ จะยังไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่
นอกจากนี้ เพื่อตัดข้อครหาตระกูลชินวัตรยึดประเทศ จึงจะให้คนในตระกูลชินวัตร รวมถึงนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ ก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อ โดยเงื่อนไขทั้งหมดนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขอเจรจาทางลับกับตัวแทนพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งคู่ขัดแย้ง หากทุกฝ่ายเห็นพ้องกับเงื่อนไขดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะประกาศท่าทีการไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งทันที ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องการให้การหารือได้ข้อยุติก่อนที่ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งการยอมถอยครั้งนี้ เป็นเพราะพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการให้เกิดการปฏิวัติ
** "ปึ้ง"มั่นใจ พท.ยังไม่ถึงทางตัน
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจถอดใจ ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า นายกฯ ยังไม่ได้พูดกับตน แต่คิดว่านายกฯ ไม่น่าจะตัดสินใจแบบนั้น นายกฯ เป็นผู้นำที่รักษาระบอบประชาธิปไตย และวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นการบริหารของนายกฯ ที่ทำด้วยความจริงใจ 2 ปีกว่าที่บริหารประเทศ ก็มีผลงานให้เห็น นายกฯ ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยหรือท้อ ขณะเดียวกันเห็นว่านายกฯ สู้ โดยเฉพาะสู้กับระบอบประชาธิไตยให้เดินต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าครั้งหน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ลงเลือกตั้งจริง พรรคเพื่อไทย จะหาเสียงเลือกตั้งลำบากหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าประชาชนเชื่อมั่นพรรค ไม่ว่าผู้นำพรรคจะเป็นใครก็ตาม เชื่อว่าประชาชนยังเลือก และให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสะดุดทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่ถึงทางตันเรื่องตัวบุคคลแน่นอน จะมีคนขึ้นมาแทน และคิดว่าคนตระกูลชินวัตร จะยังไม่ออกจากการเมืองในห้วงเวลานี้ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
"วันนี้ถามว่าตระกูลชินวัตรทำอะไรผิด ไม่มีข้อห้ามให้คนชินวัตรลงการเมือง นอกจากจะเขียนไว้ในรัฐธรมรมนูญอย่างที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พยายามจะเขียน พร้อมยืนยัน ระบอบทักษิณไม่มีเป็นตัวเป็นตน เป็นเพียงการอ้างกันขึ้นมาเพื่อให้ติดปาก ฝากถึงกำนันสุเทพ เตรียมตัวผูกคอตายได้แล้ว ถ้าแพ้แล้วมีการเลือกตั้งเมื่อไร กำนันสุเทพ ไม่ต้องไปติดคุก ไม่ต้องรับโทษ ขอให้ผูกคอตายตามที่สัญญาไว้ ผมจะหาสถานที่ให้ผูกคอเอง อาจเป็นสนามหลวง เพื่อให้คนได้เห็นกันเยอะๆ ลูกผู้ชายพูดคำไหนต้องคำนั้น" นายสุรพงษ์กล่าว
***"บิ๊กตู่"วอนคู่ขัดแย้งเสียสละทุกอย่างจบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และกลุ่มแนวทางประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะนัดชุมนุมใหญ่ ว่า หากไม่มีการทำผิดกฎหมาย ก็สามารถชุมนุมได้ เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ แต่มองว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการทำผิดด้วยกันทั้งคู่ ส่วนที่กังวลว่าจะมีการปะทะกันนั้น แกนนำทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในกรอบ และไม่ให้มีการเผชิญหน้า หรือการปะทะกัน รวมถึงการใช้อาวุธต่อกัน แต่วันนี้แกนนำยังไม่สามารถควบคุมตรงนี้ได้ และสุ่มเสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งผู้ที่บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มาร่วมชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต่างเชื่อมั่นว่า ฝ่ายตัวเองถูกต้องและชอบธรรม ถือว่าเป็นความคิดที่บริสุทธิ์ของประชาชน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับแกนนำ ผู้รักษากฎหมายว่าจะปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องเพิ่มจุดตรวจความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า ถือว่ามีความจำเป็นที่ต้องคงไว้ ส่วนจะเพิ่มหรือไม่ ต้องดูที่เหตุการณ์ หากมีเหตุการณ์รุนแรงมาก ก็จัดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการดูแลศาลและองค์กรอิสระ โดยจะขออนุมัติจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เพราะกองทัพบก มีตัวแทนเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่เสื้อแดงกดดันให้ทหารประกาศกฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กฎอัยการศึกมีไว้เพื่อระงับเหตุร้าย จลาจล ตนไม่อยากจะให้ใช้ยาแรง แต่ถ้าคนไข้ดื้อยา ยาอะไรก็เอาไม่อยู่ ต่อให้มีร้อยกฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อฟังกฎหมาย ต้องถอยกลับมาฟังกฎหมายแล้วสู้กันตามนั้น ถ้าไม่เอากฎหมายเป็นหลักแล้วจะสู้กันด้วยคนหมู่มากหรืออย่างไร จะให้เป็นเหมือนสมัยอดีตที่รบกัน ใครมีกำลังมากกว่าก็ชนะหรือไม่
"คนไทยเป็นคนสบายๆ เป็นคนที่ค่อนข้างศิลปิน ใช้อารมณ์เป็นหลัก ตัดสินอะไรง่ายๆ จะรัก ชอบ หรือเกลียดใครก็ไม่นาน อย่างนี้ต้องมีหลักการของตัวเอง ต้องมีวิสัยทัศน์ไปข้างหน้าว่าประเทศชาติจะเดินได้อย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร ใครจะเป็นผู้เสียสละ ใครจะเป็นผู้ยอมเล็กน้อยเพื่อให้ได้ความสงบสุขคืนมา แต่ผมไม่รู้ว่า ใครจะต้องเป็นคนเสีย และใครเป็นคนยอม ถ้าคิดว่าเสียเปรียบ หรือพ่ายแพ้ ไม่มีวันจบ แต่ถ้าคิดว่า เสียสละ ไม่ว่าจะเป็นใคร มันก็คือ เหตุการณ์จบ แล้วค่อยไปแก้กันต่อ ดีกว่าเอามายันกันอย่างนี้ ถ้ารบกันทั้งสองฝ่ายเจ็บตายทั้งคู่ และจะไม่มีใครได้อะไร ไม่มีใครชนะ บ้านเมืองก็นิ่งสนิทอยู่แบบนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณี น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่ากองทัพไม่ดำเนินการต่อผู้จาบจ้วงสถาบันฯ และจะยื่นคำร้องต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดกับ ผบ.ทบ. ฐานละเว้นการปฏิบัติที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า กองทัพบกได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว และตำรวจออกหมายเรียกแล้ว ทหารไม่สามารถออกมาจับกุมหรือปิดเว็บไซต์ได้ เราดำเนินการทุกคดีที่มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมีคณะทำงานทำมาตลอด แต่ก็ต้องทำภายใต้กฎหมาย
***"ปู"โพสเฟซสอดรับคำขอ"บิ๊กตู่"
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 15.11 น. เฟซบุ๊ก “Yingluck Shinawatra” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้โพสต์ข้อความภายหลังการหารือกับเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย โดยได้ระบุตอนหนึ่งว่า เสถียรภาพทางการเมือง ความเป็นประชาธิปไตย และความต่อเนื่องในการบริหารราชการ มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในมิติที่จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับต่างประเทศ โอกาสที่เสียไปแล้วจะนำกลับคืนมาได้ยาก ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน คือ หยุดความเสียโอกาสและความเสียหายไว้เพียงเท่านี้ โดยการกลับเข้าสู่ระบบและกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด
อนึ่ง ข้อความที่เฟซบุ๊ก น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โพสต์ มีความสอดรับกับที่พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์เรียกร้องให้คู่ขัดแย้งระหว่าง นปช. ที่มีรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์สนับสนุน กับกลุ่ม กปปส. ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการ ยอมเสียสละ เพื่อให้ได้ความสงบสุขคืนมา และให้ประเทศชาติเดินหน้า
***ว่อนไลน์วอน"แม้ว"อย่าโหดร้ายกับประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (26 มี.ค.) ได้มีการเผยแพร่ข้อความที่ระบุว่าเป็นข้อความในไลน์สำหรับหัวหน้าส่วนราชการ ใน จ.อำนาจเจริญ ของรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญคนใหม่ ที่ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนำเอาข้อเขียนของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Paul McIntosh มาโพตส์ซ้ำมีข้อความพาดหัวว่า "ถึงคุณทักษิณ ที่ผมเคยเคารพรัก" โดยมีเนื้อหาโดยสรุปเป็นการต่อว่าคนเสื้อแดง และอดีตนายกรัฐมนตรีในเรื่องความจงรักภักดี พร้อมกับขอให้อย่าโหดร้ายกับประเทศไทยนักเลย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญคนใหม่ คือ นายบุญยืน คำหงส์ ที่เพิ่งได้รับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นคำสั่งมหาดไทยที่ 684/2556 จำนวน 28 ราย โดยมีชื่อนายบุญยืน ย้ายจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ โดยนายบุญยืน เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา
***นายกฯต้องหยุดใช้อำนาจตามอำเภอใจ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แนวทางในการแก้วิกฤตการเมืองในปัจจุบัน ทุกภาคส่วนควรจะให้ความร่วมมือในการหาข้อสรุปร่วมกันที่จะขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยความแตกต่างระหว่างรัฐบาลและประชาชน อยู่ที่ประชาชนต้องการเห็นการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง ส่วนรัฐบาลยังต้องการเดินทางเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ไม่ฟังเสียงประชาชนที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงก่อนการเลือกตั้ง เป็นความเห็นต่างที่ยังไม่มีจุดจบลงได้ง่ายๆ
"ประชาชนจำนวนมาก ไม่ยอมรับความชอบธรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอ้างว่าต้องรักษาประชาธิปไตย เป็นการอ้างกฎเกณฑ์เมื่อตัวเองได้เปรียบ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายให้ดูที่เจตนารมณ์ จึงเป็นการเลือกบังคับใช้กฎหมายตามอำเภอใจ ทำให้ประชาชนหมดศรัทธา ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ก็ต้องเริ่มจับตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายมาดำเนินคดี ไม่ใช่เป็นนายกฯ หุ่นเชิดให้พี่ชาย และต้องสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ ในการเร่งรัดคดี ไม่ใช่เร่งเฉพาะคดีฝ่ายตรงข้าม"นายชวนนท์กล่าว
***จี้สอบรัฐมนตรีขึ้นเวทีเสื้อแดงด้วย
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลเสนอให้มีการสอบวินัยนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กรณีขึ้นเวที กปปส. ว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะจะได้มีการสอบสวนรัฐมนตรีทุกคน ที่ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงด้วย จะได้ไม่สองมาตรฐาน ใครที่มีพฤติกรรมแบ่งแยกประเทศ ก็ให้ปลดจากรัฐมนตรี แม้ว่าจะเป็นรักษาการก็สามารถปลดออกจากตำแหน่งได้ โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ขอให้ส่องกระจกดูตัวเอง หยุดใช้อำนาจข่มขู่ข้าราชการ อย่าทำตัวเหมือนหอเอนปิซซ่า เพราะสุดท้ายรัฐบาลจะล้ม ไม่สามารถอยู่ยั้งยืนยงได้