“ประยุทธ์” ควง รมช.กลาโหมลงใต้ ไม่วิจารณ์ป่วนหนักเหตุเปลี่ยนตัว มทภ. 4 ยันคนละเรื่อง เผย ผบ.คนก่อนรับส่อเดือดอยู่แล้ว หวังกระทบวงกว้าง ไล่ไทยพุทธ พร้อมหาทางป้องกัน เยียวยา สั่งคุยย่านการค้า เพิ่ม รปภ.ติดซีซีทีวี ยันหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งพัฒนา แต่เจอภัยแทรกซ้อนทำพิษ ขอให้จับตาโจรใต้ปรับใช้แผนบึ้มเน้นเพลิงไหม้ จนท.ต้องปรับตาม จี้ตั้ง ศปก.อำเภอ ป้องกันเหตุ
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก และคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อติดตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนลงพื้นที่ว่า ตนจะเดินลงไปติดตามสถานการณ์ความรุนแรงว่าจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร ทั้งนี้ไม่อยากให้วิจารณ์และคงไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เพราะเหตุการณ์เกิดเช่นนี้มานานแล้ว และเราพยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด หากยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ เขาก็ยังยืนยันการแบ่งแยกดินแดน ตราบใดที่ยังไม่ได้ข้อยุติและยังมีการสร้างความรุนแรงเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่รัฐ คนไทยพุทธ ส่วนตัวผู้บังคับบัญชามีการเปลี่ยนแปลงตามขั้นตอนตามลำดับ ก่อนหน้านี้ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เคยระบุว่าเหตุการณ์ส่อเค้าความรุนแรงตั้งแต่เดือนที่แล้วเพื่อให้เกิดปัญหาช่วงสงกรานต์ที่มีวันหยุดติดต่อหลายวัน จึงต้องไปดูว่าจะมีมาตรการอย่างไรป้องกันให้มากที่สุด พร้อมทั้งประสานงานการช่วยเหลือ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
“ทำไมต้องไปคิดว่าการเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 จึงทำให้เกิดเหตุระเบิดที่ยะลา เป็นคนละเรื่องกัน ผมไม่ได้ปกป้องแม่ทัพฯ คนที่ขึ้นมาในระดับแม่ทัพภาคมีความดี มีฝีมือ ความรู้ ความสามารถในการป้องกันตัวเอง เขาอยู่รอดปลอดภัยจนมาเป็นแม่ทัพถือว่าไม่ธรรมดา โดยเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงคือใกล้วันสงกรานต์ และครบรอบเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งเขาพยายามทำให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจที่ถูกระเบิดนั้น เป็นของคนไทยพุทธ เน้นธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งที่มีขนาดใหญ่ เพื่อต้องการข่มขู่คนไทยพุทธให้ออกจากพื้นที่ พร้อมแสดงศักยภาพ ลดความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ และยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ เพื่อยกระดับไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งผมได้สั่งการให้แม่ทัพภาค ได้พูดคุยกับย่านการค้าว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยจะเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ส่วนร้านค้าก็ต้องติดกล้องซีซีทีวี ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รัฐบาลทุกชุดพยายามเร่งพัฒนาในส่วนที่เรียกร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม การพัฒนาขั้นพื้นฐานเฉพาะหน้าให้เร็วที่สุด รวมถึงกรณีที่ได้รับการพัฒนาที่ล่าช้าเกินไป อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าภัยแทรกซ้อน เช่น ยาเสพติด เป็นปัญหาที่มีผลต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ บางครั้งทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้การปรับยุทธศาสตร์ต่างๆ ในขณะนี้เริ่มดีขึ้น แต่ไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากให้ทุกคนเฝ้าระวังเพราะเขตเมืองที่เริ่มมีปัญหา โดยฝ่ายตรงข้ามใช้ระเบิดขนาดเล็ก แต่เน้นให้เกิดเพลิงไหม้ โดยการเน้นไปที่เขตชุมชน และใช้คนก่อเหตุจำนานน้อย ถือเป็นการปรับยุทธวิธีการก่อเหตุ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการปรับยุทธวิธีตาม เพื่อแก้ไขปัญหากันต่อไป นอกจากนี้ตนยังได้เรียกร้องไปยัง พลเรือน ตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครองต่างๆ ให้ช่วยกัน โดยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการประจำอำเภอ โดยให้นายอำเภอเป็นคนดูแล โดยมีกำลังทหารไปดูแลในเรื่องยุทธการ เพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์ในแต่ละอำเภอให้ได้