ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ฉาวโฉ่แบบปิดไม่ปิด กรณีวงโยธวาทิต “Max Percussion Theater” จากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่ไปแข่งขันในรายการ Color Guard Netherlands (CGN) ประเภท Marching World Class ที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และติดตามล้วงลึกถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพราะสังคมเกิดความคลางแคลงใจในความพยายามกระเสือกกระสนของครูและนักเรียนวงโยธวาทิตกว่า 30 คน ที่ไปนั่งขอเงินจาก “ตัน ภาสกรนที” จำนวน 3.1ล้านบาทเมื่อช่วงกลางดึก(23 มี.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปแข่งขันวงโยธวาทิตรายการระดับโลกที่ประเทศเนเธอร์แลนด์และอเมริกา และนำมาซึ่งสียงวิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม จนถูกตราหน้าว่าเป็นวงโยฯของทาน รวมทั้งสงสัยว่าพวกเขาต้องการไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ หรือมีอะไรแอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่?
โดยเฉพาะประเด็น คลิปเสียงในชื่อ “วณิพกพเนจร” ที่มีผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 กับเด็กวงโยธวาทิต 2 คน สนทนากัน ถูกเผยแพร่ออกมาทำให้เรื่องราวกระจ่างชัดว่ามีการเดินทางไปแข่งขันครั้งนี้มีการวางแผนกันเป็นขบวนการ ออกแนวต้มตุ๋น ลวงโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อเงินสปอนเซอร์ที่จะได้จากเอกชนอีกราว 9 ล้านบาท ถึงขนาดมีการปรึกษากันว่าทำยังไงก็ได้ ให้วงโยธวาทิตของโรงเรียนสตรีวิทยา 2ได้ไปแข่งขันสร้างชื่อเสียงกลับมา เพราะนี่ช่องทางง่ายๆที่เอกชนจะควักเงินสนับสนุนให้ บวกลบคูณหารแล้วกำไรเห็นๆ !!
นี่คือบางช่วงบางตอนของบทสนทนาดังกล่าว
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่า ผอ. "...ทำยังไงก็ตาม ทำไปเลย ผอ.ไม่สนหรอก เพราะ ผอ.ชี้แจงผู้สื่อข่าวไปแล้ว เดี๋ยวนี้ไม่มีเทวดาอะไร โทร.มาหาผมเลย ทุกทีมันต้องโทร.มายิกๆ..."
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่า ผอ. : "...มีทางเดียวที่จะไปได้ ครูเห็นทางสว่างคือ ยืมเงินเอกชนไป ได้ถ้วยกลับมาเมื่อไรนะ ไอ้พวกนี้มันเทให้หมดหน้าตัก แล้วเราจะได้เงินฟรีอีกประมาณ 8-9 ล้าน..."
สุดท้ายบทสนทนาก็ได้ข้อสรุปตรงที่จะมีการขอยืมเงินจาก 'เสี่ยตัน' เจ้าของธุรกิจชาเขียว ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
เด็กวัยรุ่นชาย : "...คือผมคิดไม่ออกเลยเวลานี้ นอกจากจะทำอะไรบ้าๆ (ผู้ชายที่ถูกเรียกว่า ผอ. : ครูอ่ะตื้อหมดแล้ว ตื้อมาหลายวันแล้ว) ถ้าเราไม่แบบ..ไปอยู่หน้าอิชิตัน.."
เด็กวัยรุ่นชายอีกคน พูดแทรก : " เขาจะมีธุรกิจแหล่งใหญ่ตรงทองหล่ออ่ะครับ เราก็ไปนั่งคุกเข่าเลยสัก 3 ชั่วโมง ผมว่ายังไงเรื่องนี้ต้องถึงคุณตัน บอกคุณตัน ขอยืมเงิน 3.1 ล้านบาท กลับมาคืนกี่บาทว่าไป (ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าผอ.: เอาหลักฐานไปให้เขาดูด้วย) เราดึงไวนิลตรงสปอร์ตคอมเพล็กซ์ไปยืนกาง แล้วผมจะ โทร.เรียกหนังสือพิมพ์มา "
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่า ผอ. : "...จะทำอะไรก็ทำ แต่อย่าบอกว่า ผอ.กับรอง ผอ. อยู่เบื้องหลังนะ" ก่อนจะกำชับอีกครั้งว่า "บอกไปว่า ผอ.ก็จะผูกคอตายอยู่แล้ว เอาหลักฐานให้ดูเลย แล้วพวกเราก็มาเรียกร้องขอความเมตตาธรรมจากผู้ใจบุญ ด้วยความคิดพวกผมเอง..."
หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก 'นายพงศกร เลิศศักดิ์วรกุล' หนึ่งในสมาชิกวงโยธวาทิต ออกมายอมรับว่าเสียงคลิปดังกล่าวเป็นเสียงของตนเองจริง พร้อมทั้งระบุชัดว่ามีผู้อำนวยการและรองผู้อำนายการร่วมพุดคุยวาวแผนในครั้งนี้ด้วย
“ยอมรับว่าคลิปเสียงเป็นของจริง ซึ่งมีบุคคลพูดคุยอยู่ในคลิป 5 คน คือ ผม (นายพงศกร) ผู้อำนวยการโรงเรียน และรองผู้อำนวยการรองเรียน รวมถึงนักเรียนที่อยู่ในวงฯ ซึ่งเป็นการพูดคุยในเวลา 18.00 น.ของวันที่ 23 มี.ค. สองวันก่อนกำหนดเดินทางไปแข่งขัน เพื่อหาวิธีหาเงินไปจ่ายค่าตั๋วให้ได้ก่อนเวลา 9.00 น.ของวันที่ 24 มี.ค. ถึงตอนนี้ผมต้องกราบขอโทษสังคม ขอโทษศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันด้วยที่ทำอะไรไม่เหมาะสมลงไป เพราะเหตุการณ์จวนตัวจึงทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดลงไป ทั้งนี้เรื่องการขอเงินต่างๆ ผมขอให้ผู้อำนวยการจะเป็นผู้ตอบดีกว่า” นายอนุสรณ์กล่าว ในช่วงหนึ่งของการแถลงต่อสื่อมวลชน หลังจากที่วงโยธวาทิต 'Max Percussion Theater' ของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน
ขณะที่บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ที่ร่วมวางแผนตบทรัพย์รับเงินในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น 'นายเพชรพงศ์ ตรีเทพา' ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 หรือสุภาพสตรีที่เป็นรองผู้อำนวยการ นั้นต่างก็หลบหลี้หนีหน้า ปล่อยให้เด็กๆเผชิญชะตากรรมกันจามลำพัง !!
นอกจากนั้นยังมีกรณีการเปิดรับออร์เดอร์สั่งซื้อสินค้าแบรนด์เนมอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ที่เรียกกันว่า Pre-Order ของ 'นายพงศกร เลิศศักดิ์วรกุล' นักดนตรีและผู้ร่วมฝึกสอน ที่ร่วมเดินทางไปแข่งขันวงโยธวาทิตในครั้งนี้ ซึ่ง่ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ว่าจริงๆแล้วเป้าหมายในการดิ้นรนเพื่อเดินทางไปเนเธอแลนด์ของเด็กๆเหล่านี้นั้นต้องการจะไปแข่งขันแพื่อสร้างชื่อให้กับโรงเรียนอย่างที่กล่าวอ้าง หรือแค่ต้องไปเที่ยวช็อปปิ้ในต่างประเทศแบบง่ายๆ ไม่ต้องลงทุน ?
นายพงศกร เลิศศักดิ์วรกุล ที่ถูกวิจารณ์ถึงความไม่ที่พฤติกรรมไม่เหมาะสมในประเด็นดังกล่าว ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า
“การแถลงข่าวในวันนี้ ผมจะพูดในส่วนของตัวเองเท่านั้น เกี่ยวกับการเปิดรับพรีออเดอร์ เนื่องจากผู้ใหญ่สั่งไม่ให้พูดอะไรที่มากกว่านี้ โดยในส่วนของการรับพรีออเดอร์นั้น ผมขอยอมรับผิดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากเมื่อมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ ก็อยากให้เพื่อนๆ ฝากซื้อของเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของธุรกิจแต่อย่างใด”
งานนี้แม้แต่นักการตลาดตัวยง อย่าง 'ตัน ภาสกรนที' ผู้บริหารอิชิตัน ที่ว่ากันว่าสามารถใช้ทุกช่วงเวลานาทีให้กลายเป็นช่องทางการโฆษณาโปรโมตสินค้าได้อย่างแนบเนียน ก็ถึงกับอึ้ง ทึ่ง เสียว เมื่อเจอกับกลยุทธ์ตบทรัพย์ของทีมโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่ไปนั่งดราม่ากดดันขอยืมเงินสี่ยตันถึงหน้าตึกบริษัทจนกระทั่งมืดค่ำ จนเสี่ยตันจำใจต้องควักเงิน 3.1 ล้านให้ไปแบบไม่เต็มแม้แต่น้อย ยิ่งมาเจอคลิปฉาวของนักเรียนและ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่วางแผนจับเสือมือเปล่า ด้วยการส่งเด็กมาชูป้ายไถเงินเป็นค่าเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ เพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่จากสปอนเซอร์ที่พร้อมจะจ่ายหลังจากที่วงโยธวาทิตวงนี้ได้รางวัลกลับมา ก็ทำเอาเสี่ยตันถึงกับของขึ้น จนต้องออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ตัน ภาสกรนที' ตำหนิติเตียนพฤติกรรมที่ไร้ยางอายของ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2
“ครู นักเรียน และ โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ไม่เกี่ยว ส่วนน้องๆ กลุ่มนี้ก็ควรจะโดนตำหนิ และเป็นบทเรียนของชีวิต ด้วยวุฒิภาวะยังน้อย ก็น่าให้อภัย สำหรับท่าน ผอ.ก็โตโตกัน แล้ว… ถ้าคลิปที่ฟังเป็นเรื่องจริงนะ ฝากไปบอกด้วยว่า เงินน่ะไม่ใช่ของบริษัทและพ่อแม่ผม ถูกต้องแล้ว แต่เป็นเงินส่วนตัวของเมียกู… เข้าใจตรงกันนะ” ข้อความจากนายตัน ที่ฝากถึง ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2
อย่างไรก็ตาม กรณีการแข่งขันลวงโลก ดรามาตบทรัพย์ ของวงโยธวาทิตสตรีวิทยา 2 ครั้งนี้ ได้กลายเป็นเรื่องฉาวที่วิจารณ์กันสนั่นในโลกออนไลน์
สมาชิกโลกไซเบอร์ที่เกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นอย่าง จ่าพิชิต ขจัดพาลชน แสดงทัศนะด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่า " จากดราม่าวงโยฯ พ่อแม่พี่น้องคงเห็นกันแล้วนะครับว่าคอร์รัปชัน มันหยั่งรากลึกลงในสังคมไทยสุดๆ แล้ว ขนาดหน่ออ่อนของสังคมอย่างเยาวชนไทย ยังติดเชื้อชั่วนี้กันถ้วนหน้าถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างกับการคอร์รัปชัน ไอ้หน่ออ่อนที่ใบหงิกๆ งอๆ เหล่านี้นี่แหละครับ ที่จะเป็นอนาคตของชาติ แล้วอนาคตของชาติที่มีเยาวชนแบบนี้จะเป็นยังไง คำตอบง่ายๆ ไม่มีอนาคตครับ"
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์วงโยธวาทิตฉาวของโรงเรียนสตรีวิทย์ 2 ในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ระดับ ผอ.โรงเรียน กลายเป็นผู้บ่มเพาะความคิดและวิธีการในการใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แก่เด็กเสียเอง จึงน่าเป็นห่วงว่านอกจากทุกวันนี้เรามีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และผู้ประกอบการเอกชนที่รวมหัวกันทุจริตคอร์รัปชั่น จนสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล ในอนาคตประเทศไทยคงจะกลายเป็นประเทศที่ถุกตราหน้าว่าคอร์รัปชั่นมากที่สุดในโลก และประเทศนี้คงจะไม่เหลืออะไรไว้ในให้คนในชาตินอกจาก 'หนี้สิน' และ'ความยากจน' หากเราไม่รีบกวาดล้างปัญหาคอร์รัปชั่นที่หยั่งรากลึกในสังคมไทยเสียตั้งแต่วันนี้ !!