คณะวงโยฯ สตรีวิทยา 2 ถึงไทยแล้ว! “พงศกร” โชว์แมนรับเสียงในคลิปเป็นตัวเองจริงปัดระบุตัวตนที่เหลือ อึ้ง! ไม่รู้ถูกอัดคลิป ขณะที่ “อนุสรณ์” ลั่นขอใช้สิทธิไม่ตอบคำถามขอหารือก่อน ฟาก รอง ผอ.-เด็กเครียดหลบสื่อ ด้าน “จาตุรนต์” จี้ สพฐ.เร่งควานหาตัว “พชรพงศ์” ผอ.โรงเรียนฯออกมาเคลียร์ปัญหาโดยเร็ว ยันไม่ก้าวล่วงให้เป็นอำนาจ สพฐ.และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามเหมาะสม ฟาก ผอ.สพม.กทม.2 คาดเป็นช่วงรับ นร.จึงไม่สะดวกรับสาย ย้ำจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อได้ ชี้มีเวลา 15 วันหากติดต่อไม่ได้ก็มีมาตรการจัดการ
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.15 น.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะวงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 หรือ วง “Max Percussion Theater” จำนวนกว่า 60 คน ซึ่งประกอบด้วย อาจารย์ผู้ควบคุมทีม ศิษย์ปัจจุบันโรงเรียนสตรีวิทยา 16 คนและคณะ ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยโดยสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ส (Emirates Airlines) 376 เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ดูไบ เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นและมาถึงประเทศเวลาประมาณ 13.00 น.ภายหลังไปร่วมแข่งขันในรายการ “Color Guard Nederland (CGN)” ประเภท “Marching World Class” ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยได้รับรางวัลชนะเลิศซึ่งเป็นทีมเดียวที่ไปแข่งในประเภทนี้ ซึ่งตลอดช่วง 1-2 สัปดาห์มานี้ วงโยฯ โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคม อาทิ การไปขอเงินจากนักธุรกิจชื่อดัง “ตัน ภาสกรนที” จำนวน 3.1 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าเดินทาง กระทั่งล่าสุดกรณีมีการปล่อยคลิปเสียงชื่อ “วณิพกพเนจร” ซึ่งเป็นคลิปเสียงสนทนาความยาว 21.21 นาที เปิดประเด็นพูดคุยกันเรื่องแผนการหาเงินจากภาคเอกชน ซึ่งเสียงที่ปรากฏในคลิป ประกอบไปด้วย เด็กผู้ชาย 2 คน รอง ผอ.ผู้หญิง 1 คน และผู้ชายที่ถูกเรียกว่า ผอ.อีก 1 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทันทีที่ นายอนุสรณ์ พรเนรมิตร ผู้ควบคุมทีม และนางชนิกา หวังกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ได้นำคณะนักเรียนและผู้ร่วมทีมออกมาบริเวณทางออก ผู้สื่อข่าวทุกแขนงทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ได้พยายามขอสัมภาษณ์ แต่เด็กๆ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่ นางชนิกา มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา โดยพยายามก้มหน้าหลบผู้สื่อข่าวจนเข็นรถไปชนกับเสา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าวทั้งสิ้น
ขณะที่ นายอนุสรณ์ ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่า ขอใช้สิทธิไม่พูดอะไรในเวลานี้ เพราะยังไม่พร้อม และจะขอกลับไปปรึกษากันก่อน เมื่อพร้อมแล้วจึงจะเปิดแถลงข่าวโดยให้สื่อมวลชนติดต่อมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าระหว่างเดินทางแข่งขันก็ได้รับทราบข่าวสารจากประเทศไทย รวมทั้งกรณีข่าวคลิปด้วย ซึ่งทำให้เด็กๆ ตกใจและเสียใจ แต่ยังไม่ขอตอบคำถามว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของนายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผอ.โรงเรียนฯ จริงหรือไม่ รวมทั้งเป็นเสียงของตนจริงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องลึกต้องหารือก่อนและตอบทีเดียวในการแถลงข่าว
ด้าย นายพงศกร เลิศศักดิ์วรกุล หนึ่งในสมาชิกวง กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปชื่อ “วณิพกพเนจร” ออกมาเปิดเผยถึงเบื้องหลังการขอเงิน “ตัน ภาสกรนที” ว่า ยอมรับว่าในคลิปดังกล่าวมีเสียงตนด้วย ซึ่งเหตุการณ์วันดังกล่าวตนและเพื่อนเดินทางเพื่อขอเข้าพบพบผู้บริหารโรงเรียน เพื่อจะขอโทษกรณีที่ตนโพสต์ภาพคุกเข่าตากฝนและเขียนจดหมายถึงผู้บริหารผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำไปโดยไม่ปรึกษาก่อน และ ผอ.โรงเรียนได้ชี้แจงเรื่องต่างๆ ให้ฟัง ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้อัดคลิปเสียงดังกล่าวและหลุดออกไปได้อย่างไร รู้สึกตกใจที่มีคลิปเสียงหลุดออกมา และรอดูว่าผู้ใหญ่จะจัดการอย่างไร
“ผมยอมรับว่าผมอยู่ในคลิปนั้นด้วย แต่ผมบอกไม่ได้ว่ามีใครอยู่ในคลิปนั้นบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องที่รุนแรง”
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และเร็วๆ นี้คงจะได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่า เรื่องดังกล่าวอาจไม่ใช่เป็นเรื่องกฎระเบียบเพียงอย่างเดียว แต่ควรดูในเรื่องของความเหมาะสม เป็นเรื่องความรู้สึกของคนในสังคม ที่เมื่อมีข้อมูลรั่วไหลออกมาก็อาจทำให้คนรับไม่ได้มากพอสมควร ดังนั้นจึงต้องไปดูภาพรวมว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร แต่ที่เป็นห่วงคือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็กที่ร่วมเดินทางไปแข่งขัน และครูผู้สอน ที่มีความตั้งใจเดินทางไปแข่งขัน ซึ่งควรได้รับกำลังใจ และการสนับสนุน จึงอยากให้สังคมแยกแยะ เพราะที่ผ่านมาก็มีวงโยธวาทิตจากหลายโรงเรียนที่มีศักยภาพ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ และยังมีศักยภาพที่จะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้อีกหลายแห่ง
“แม้ปัญหาดังกล่าวจะมีความซับซ้อน แต่ขอให้ สพฐ.เร่งหาสาเหตุ และหาทางพูดคุยกับทั้งทางเขตพื้นที่ฯ และผอ.โรงเรียนเพื่อให้ได้สรุปโดยเร็ว ไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้ โดยเฉพาะต่อขวัญกำลังใจ ความมุ่งมั่นของครู นักเรียน และผู้สนับสนุนทั้งหลาย ซึ่งในที่นี้รวมไปถึงวงอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ส่วนตัว คงไม่ลงไปตัดสินอะไร เป็นเรื่องที่หน่วยงานต้นสังกัดต้องดำเนินการแก้ปัญหา เวลานี้คงไม่ใช่แค่เรื่องระเบียบอย่างเดียว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเขตพื้นที่ฯ สพฐ.สมาคมศิษย์เก่า สมาคมผู้ปกครอง ครู นักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จะต้องร่วมกันแก้ปัญหาให้อยู่ในร่องในรอยที่เหมาะที่ควรและเป็นที่ยอมรับ ที่พูดไม่ได้หมายความว่าระเบียบไม่สำคัญ ระเบียบก็สำคัญแต่กรณีนี้ อาจจะไม่ใช่ข้อสำคัญลำดับแรกเมื่อเทียบกับความเหมาะสม และความเป็นที่ยอมรับ อะไรที่ผู้ถูกกล่าวหาผู้ถูกตำหนิเห็นว่ามีความคลาดเคลื่อนก็ควรจะออกชี้แจง” นายจาตุรนต์ กล่าวและว่า ส่วนที่ นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผอ.โรงเรียนฯ ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตัวเองหรือไม่ คงต้องให้ สพฐ.ตอบ ส่วนที่ยังไม่สามารถติดต่อ ผอ.โรงเรียนฯ ได้เข้าใจว่าอาจจะติดภารกิจ ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุอะไร แต่ สพฐ.คงจะพยายามหาทางติดต่อ และทำให้เรื่องนี้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว
นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า กรณีที่มีกล่าวอ้างชื่อตนในคลิปเสียง ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตามขั้นตอนในการทำเรื่องเสนอของบประมาณก็จะต้องทำหนังสือมาถึงนายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.และส่งเรื่องต่อมาให้ตนพิจารณาในฐานะผู้กำกับดูแล จากนั้นตนก็จะส่งเรื่องไปยังสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน (สกก.) สพฐ.ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงพิจารณาว่ามีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กำหนดหรือไม่ เพื่อของบกลางไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจาก สพฐ.ไม่มีงบสนับสนุนดังกล่าว ที่ผ่านมาก็ดำเนินการแบบนี้ ซึ่งก็มีบ้างที่การพิจารณางบประมาณไม่ทันเวลาที่เด็กจะเดินทางไปแข่ง อย่างกรณีของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 แต่ส่วนใหญ่โรงเรียนจะแก้ปัญหาโดยออกงบไปก่อน และ สพฐ.จะสนับสนุนให้ส่วนหนึ่งในภายหลัง โดยในส่วนของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ทาง สพฐ.ก็พิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น แล้วพบว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ดังนั้นคงไม่ได้รับการสนับสนุนแน่นอน
ขณะที่ นายสัจจา ศรีเจริญ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กทม.เขต 2 กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้คณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง ลงไปหาข้อมูลที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 โดยจะรีบสรุปและส่งรายงานข้อเท็จจริงไปยัง สพฐ.ต่อไป ทั้งนี้เข้าใจว่าสังคมกำลังจับตามองเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางเขตพื้นที่ฯ เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่คงต้องใช้เวลา และบูรณาการหลายอย่างร่วมกัน รวมถึงกรณีร้องเรียนอื่นๆ ของ นายพชรพงศ์ มาประกอบด้วย แต่ตอนนี้คงไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ว่ามีเรื่องใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนไม่ได้ติดต่อไปยัง นายพชรพงศ์ แต่ตามระเบียบราชการแล้ว หากหายไปเกิน 15 วันทางหน่วยงานต้นสังกัดก็ต้องดำเนินการตามระเบียบ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะติดภารกิจ เพราะอยู่ในช่วงของการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ ม.4 จึงอาจจะไม่สะดวกรับสาย