หลังถูกกองทัพสื่อมวลชนปักหลักรอคอยการกลับมาของเหล่าวงโยธวาทิตที่ถูกสังคมตราหน้าว่า “แก๊งวณิพก” หลังมัดมือชกขอยืมเงิน “ตัน ภาสกรนที” หรือ ตัน อิชิตัน ไปกว่า 3.1 ล้านบาท จากนั้นเรื่องราวซ่อนเร้นที่ซุกใต้พรมก็ถูกขุดคุ้ยสาวไส้ออกมาให้เห็นแทบจะทุกขด กระนั้น ก่อนที่เรื่องจะซาลงและเด็กๆ วงโยฯ กลุ่มนี้จะได้กลับมาอย่างภาคภูมิ กลับปรากฏหลักฐานที่เชื่อว่ากลุ่มปลาเน่าไม่น่าจะดิ้นหลุด นั่นคือคลิปเสียงแฉแผนการไถเงินทั้งหมด ทำเอาเหล่าบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้หดหัวกันไปหมด และวันนี้เมื่อช่วงบ่าย กลุ่มวงโยฯ ที่ชาวไทยต้องการตัวมากที่สุดในขณะนี้ ก็ได้เดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย
สายตรงวงโยฯ เฉลยข้อข้องใจ
ทันทีที่เท้าแตะพื้น ทางทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ก็ได้รีบต่อสายตรงไปยังหนึ่งในแก๊งวณิพก “พงศกร” หรือ บุ๊ก นักดนตรีวัย 25 จาก “Max Percussion Theater” วงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา ก่อนจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเวลา 17.00 น. ที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2
- ตอนนี้ทราบข่าวทั้งหมดแล้วใช่มั้ย
ใช่ครับ ตอนนี้ผมก็คิดว่ามีประเด็นคำถามอยู่สักสิบข้อได้ที่ต้องตอบกับสังคม ของผมเองก็มีประเด็นส่วนตัวอยู่หนึ่งข้อคือเรื่องที่ผมโพสต์เรื่องพรีออเดอร์ในอินสตาแกรม
- ในอินสตาแกรมเป็นตัวเราเองจริงๆ ใช่มั้ยที่โพสต์
ใช่ครับ แต่ว่าที่ผมโพสต์เป็นเพราะผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คือผมจะโพสต์ให้เพื่อนๆ เพราะปกติเวลาผมไปต่างประเทศเนี่ยก็จะมีเพื่อนๆ ฝากซื้อของอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็เลยโพสต์ไปว่า ครั้งนี้ถ้ามีใครอยากจะซื้อของ ผมก็เปิดพรีออเดอร์ให้นะ คือโพสต์ให้มันดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้เปิดกิจการขายเพื่อทำกำไร เพราะทุกทีที่ซื้อมาก็ขาดทุนอยู่แล้ว ด้วยเรื่องค่าเรตเงินด้วย เรื่องความเป็นเพื่อนกันด้วยครับ แล้วของกลับมามันก็มีแค่ 3-4 ชิ้นครับ ไม่ได้มีขนาดถึงว่าเป็นล็อตใหญ่
- ครั้งนี้หิ้วอะไรกลับมาบ้าง
ครั้งนี้ผมไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลยครับ ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักชิ้นเดียว เพราะว่าไม่ได้ไปไหน คือตามตารางเดิมเนี่ย ทางพี่ผู้จัดการไปโพสต์ว่าจะมีการทัวร์ยุโรปหนึ่งสัปดาห์ก่อน คำว่าทัวร์ในความหมายของนักดนตรีคือทัวร์นาเมนต์ (Tournament) ครับ ไปแสดงทัวร์ตามที่ต่างๆ ก่อน ไม่ใช่ไปทัวร์ไปเที่ยว พอผมได้รับแจ้งตารางว่าจะต้องไปประเทศนี้ ประเทศนี้ ก็เลยคิดว่าผมน่าจะได้มีโอกาสออกไปดูของมาให้ แค่นั้นเอง แล้วก็โดนโจมตีว่าเปิดเป็นพรีออเดอร์ทำแบบใหญ่โต
- แล้วเรื่องที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเลือกลงสนามบินที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ทั้งที่ต้องไปแข่งที่เนเธอร์แลนด์
อันนี้ทางบริษัททัวร์เค้ารออธิบายอยู่แล้วว่าทำไมต้องลงแฟรงก์เฟิร์ต ผมก็อยากฟังเหตุผลเหมือนกัน ทางทัวร์จัดการหมดครับ ได้ยินมาว่าเป็นเพราะเรื่องของน้ำหนักของเครื่องดนตรีที่จะเอาไปแข่งขันมันลงที่แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งอันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยเลยจริงๆ
- คลิปเสียงแฉที่แชร์ว่อนในขณะนี้ล่ะ ไม่ได้ตัดต่อใช่มั้ย
คลิปเสียงจริงครับผม ซึ่งมันหลุดออกมาได้ยังไงเนี่ย ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบนะครับ ไม่ทราบเลยจริงๆ ครับ แล้วมันจะมีเสียงที่เหมือนกันอยู่สองคนนะครับ เสียงผมกับเสียงพี่อีกคนมันคล้าย (ลากเสียงยาว) กัน ซึ่งเราคุยแค่ว่าจะทำยังไงให้เราได้ไป
และนั่นเป็นคำตอบสุดท้ายที่ทางทีมข่าวได้รับ ก่อนจะได้ยินเสียงจากปลายเสียงพูดขึ้นมาอย่างร้อนรนว่า “โอ้ยย ผมโดนรุมแล้วครับตอนนี้ มีแต่พี่ๆ นักข่าว...”
กองเชียร์ รุมล้อมดูตัวแก๊งวณิพก
หลังจากที่สายตัดไป ทางทีมงานพยายามติดต่อกลับไปยังบุ๊กอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับถูกตัดสายทิ้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาที่น้องได้เอื้อนเอ่ยเป็นประโยคสุดท้าย แน่นอน ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่กองทัพสื่อมวลชนจะเฮละโลกันไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อคว้านเอาคำตอบจากกลุ่มเด็กวงโยฯ ที่สร้างชื่อเสียงในต่างแดน แต่กลับสร้างชื่อเสียฉาวโฉ่ไว้ในประเทศบ้านเกิดตัวเอง
ทั้งนี้ ได้รับรายงานมาจากสถานที่เกิดเหตุจริงว่า ทันทีที่ นายอนุสรณ์ พรเนรมิตร ผู้ควบคุมทีม และนางชนิกา หวังกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ได้นำคณะนักเรียนและผู้ร่วมทีมออกมาบริเวณทางออก ผู้สื่อข่าวทุกแขนงทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ได้พยายามขอสัมภาษณ์ แต่เด็กๆ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่นางชนิกามีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา โดยพยายามก้มหน้าหลบผู้สื่อข่าวจนเข็นรถไปชนกับเสา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าวทั้งสิ้น
ขณะที่นายอนุสรณ์ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่า ขอใช้สิทธิไม่พูดอะไรในเวลานี้ เพราะยังไม่พร้อม และจะขอกลับไปปรึกษากันก่อน เมื่อพร้อมแล้วจึงจะเปิดแถลงข่าวโดยให้สื่อมวลชนติดต่อมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าระหว่างเดินทางแข่งขันก็ได้รับทราบข่าวสารจากประเทศไทย รวมทั้งกรณีข่าวคลิปด้วย ซึ่งทำให้เด็กๆ ตกใจและเสียใจ แต่ยังไม่ขอตอบคำถามว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของนายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผอ.โรงเรียนฯ จริงหรือไม่ รวมทั้งเป็นเสียงของตนจริงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องลึกต้องหารือก่อนและตอบทีเดียวในการแถลงข่าว
นอกจากนั้น เด็กหนุ่มที่ถือเป็นกระบอกเสียงชั้นดีของวงโยธวาทิต Max Percussion Theater อย่างบุ๊ก-พงศกร ที่ทีมงานขาดการติดต่อไปแล้วนั้น ก็เพียงได้แต่พูดอ้อมแอ้มต่อหน้าสื่อมวลชนที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังว่า “ผมยอมรับว่าผมอยู่ในคลิปนั้นด้วย แต่ผมบอกไม่ได้ว่ามีใครอยู่ในคลิปนั้นบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องที่รุนแรง” ทั้งนี้ยังระบุอีกด้วยว่า เหตุการณ์วันดังกล่าวตนและเพื่อนเดินทางเพื่อขอเข้าพบผู้บริหารโรงเรียน เพื่อจะขอโทษกรณีที่ตนโพสต์ภาพคุกเข่าตากฝนและเขียนจดหมายถึงผู้บริหารผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำไปโดยไม่ปรึกษาก่อน และ ผอ.โรงเรียนได้ชี้แจงเรื่องต่างๆ ให้ฟัง ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้อัดคลิปเสียงดังกล่าวและหลุดออกไปได้อย่างไร รู้สึกตกใจที่มีคลิปเสียงหลุดออกมา และรอดูว่าผู้ใหญ่จะจัดการอย่างไร
ความจริง ยังเป็นสิ่งไม่ปรากฏ
หลังชาวแก๊งวณิพก สตรีวิทยา 2 จัดการกับปัญหาชีวิตตนเอง ณ สนามบินสุวรรณภูมิเสร็จสิ้น กลุ่มวงโยธวาทิตก็ขอออกตัวเผ่นกลับไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ย่านลาดพร้าว โดยมียานพาหนะเป็นรสบัสจำนวน 2 คัน ไร้ซึ่งพิธีแห่แหนโชว์ความภาคภูมิใจใดใด ถึงแม้จะกลับมาในฐานะวงโยธวาทิตผู้ “ชนะเลิศ” ในรายการแข่งขัน “Color Guard Nederland (CGN)” ประเภท “Marching World Class” ก็ตาม
นอกจากนั้นยังทิ้งประเด็นปัญหาที่สังคมต้องการคำตอบไว้อย่างไม่ไยดี หลังอ้างว่าจะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมในเวลา 17.00 น. แต่ทว่าเมื่อใกล้เวลาขีดเส้นตาย เฉลยความสงสัย กลับมีการประกาศเปลี่ยนใจขอยกเลิกแถลงจากผอ.เสียดื้อๆ และทิ้งเด็กน้อยตาดำๆ ที่น่าจะยังคงเหน็ดเหนื่อยจากการแข่งขันและการเดินทางมาต่อสู้ตอบคำถามกับสื่อมวลชนโดยลำพัง
เมื่อถึงเวลาขึ้นเขียงเชือดตามกำหนด ก็ได้มีการตอบคำถามเพียงเล็กน้อยกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอเพื่อเค้นความจริงกับกรณีฉาวโฉ่ครั้งนี้ โดยนายอนุสรณ์กล่าวว่า ยอมรับว่าคลิปเสียงนั้นเป็นของจริง ซึ่งมีบุคคลพูดคุยอยู่ในคลิป 5 คน คือ ตน นายพงศกร นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียน และนางชนิกา หวังกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมนายจาฎุพจน์ ไม่ขอเปิดเผยนามสกุล หนึ่งในสมาชิกวงฯ รวมถึงขอกราบขอโทษสังคม ขอโทษศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันด้วยที่ทำอะไรไม่เหมาะสมลงไป เพราะเหตุการณ์จวนตัวจึงทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด และสำหรับเงินล้านที่ยืมคุณตันไปนั้น จะนำมาคืนแน่นอน
ส่วนนายจาฎุพจน์ก็กล่าวว่า ยอมรับว่าสิ่งที่พวกเราทำมาไม่ถูกต้องอย่างแรง ต้องกราบขอโทษสังคมด้วยที่ทำตัวเหมือนขอทาน ซึ่งพวกเราไม่มีเจตนาขอเงินไปท่องเที่ยวถึงแม้จะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่อยากให้สังคมเหมารวมวงโยธวาทิตอื่นๆ ไปด้วย เช่นเดียวกับนายวุฒิพงษ์ ไตรรัตนวนิช อาจารย์สอนดนตรี และผู้ช่วยผู้ควบคุมวง ก็กล่าวขอโทษทุกคน รวมถึงศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่เด็กไปตอบกระทู้จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบัน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก
สุดท้าย บุ๊ก-พงศกร ผู้ที่คอยตอบคำถามเป็นด่านหน้าของวงอยู่เสมอๆ กล่าวว่า คลิปการพูดคุยที่มีการนำออกมาเผยแพร่นั้นพวกตนตั้งใจไปแสดงความขอโทษ เพราะก่อนหน้านี้ได้โพสต์รูปคุกเข่าขอเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนจึงตั้งใจไปขอโทษผู้ใหญ่ว่าไม่ได้ปรึกษาใคร และเมื่อได้พบทางผู้ใหญ่ก็ได้ชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ในคลิปก็จะได้ยินเสียงว่าให้ถ่ายรูปเลย พวกตนเลยเอามือถือถ่ายคลิปเอกสารไว้และไม่ได้ใช้มือถือในการอัดเสียงไว้และยืนยันว่าคลิปเสียงที่ปล่อยออกมาพวกตนไม่ได้เป็นคนปล่อย อย่างไรก็ตาม อยากจะขอโทษคุณตันที่พวกตนทำให้เดือดร้อน
ชาวเน็ตโกรธเกรี้ยว คุณหลอกดาว!!
เมื่อคำตอบที่คาใจยังไม่ได้รับการแถลงไข ถึงแม้กลุ่มแก๊งวงโยฯ วณิพกจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยแล้วก็ตาม ชาวโลกออนไลน์ต่างก็โกรธเกรี้ยวและยิ่งแสดงความไม่พอใจมากขึ้น
“คนไทยอายเพราะมีพวกมึงที่อ้างชื่อประเทศไทยไปทำตัวกากๆ ตอแหล ปล้นเงินคนอื่นยามดึก พรีออเดอร์อีก”
“เมื่อไหร่มันจะเลิกใช้คำว่า ทำเพื่อคนไทย ทำเพื่อประเทศไทยวะ ที่พวกมึงทำเนี่ยผลประโยชน์ตัวเองล้วนๆ แม่ง เหี้ยจริงๆ”
“ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า พฤติกรรมของพวกแก มันน่ายี้มาก เหม็นหึ่งไปทั้งประเทศ อย่าลืมซื้อปี๊บแจกคนละ 2 ใบนะ ใช้สลับกัน หมั่นตากแดด เพราะกลิ่นยี้ มันแรงจริงๆ”
“พวกที่แรกที่ออกมาโพสต์เข้าข้างวงโยฯ พวกเดียวกัน ป่านนี้เงิบกันไปเป็นแถบๆ สมัยนี้อย่ามาอ้างความเป็นเด็กเลย โตจนอยู่มัธยมรู้แล้วว่าอันไหนขี้ อันไหนเยี่ยว! 55555 พวกเมิงสมรู้ร่วมคิดกันหมดทั้งหัวหงอกหัวดำ!”
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่แสดงอาการขุ่นเคืองใจกับมหกรรมวณิพกหลอกลวงคนไทยระดับโลก ซึ่งนอกจากคำก่นด่า สาปแช่งอย่างเจ็บแสบแล้ว ถึงขนาดที่ว่าเอารายชื่อของกลุ่มวงโยฯ Max Percussion Theater มาประจานว่อนเน็ตกันเลยทีเดียว นอกจากนั้น ไม่ว่ากลุ่มวงโยฯ เหล่านี้ จะออกมาพูดมากล่าวอะไร ก็ถูกจับจ้อง จับผิด เพราะทุกคำตอบที่ออกมาต่างดูมีช่องโหว่และดูจะเป็นเพียงแค่คำลวงที่ปั้นแต่งออกมาเป็นฉากๆ หรือถ้าเรียกภาษาง่ายๆ คงต้องกล่าวว่า แถจนสีข้างถลอกปอกเปิกไปหมดแล้ว
อย่างที่ทางทีมข่าวได้ช่วยไขปริศนาที่ว่า “ทำไมเลือกลงสนามบินที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ทั้งที่ต้องไปแข่งที่เนเธอร์แลนด์” ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาสร้างความฉงนมากกว่าเดิม เมื่อบุ๊ก-พงศกร กล่าวตอบแต่เพียงสั้นๆ ว่า ทางทัวร์เป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้หมด โดยที่พวกเขาไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยเลยจริงๆ แต่ทว่าทางผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งในเว็บไซต์เมเนเจอร์ กลับได้ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่านี่อาจเป็นคำโกหกคำโตอีกเรื่องที่ไม่ต่างจากหลากคำลวงก่อนหน้านี้
“เรื่องที่ขอไปลงแฟรงก์เฟิร์ต ไม่น่าจะเกี่ยวกับบริษัททัวร์นะคะ บริษัททัวร์จะทำตามคำร้องขอของผู้โดยสาร ไม่ใช่จัดแจงให้ผู้เดินทางตามอำเภอใจของบริษัททัวร์ และยิ่งลงคนละประเทศกันเลย นึกภาพสิค่ะคนเป็น 50-60 คนจะทุลักทุเลยังไง ถ้าเขาส่งคุณไปลงอีกที่ ที่ไม่ใช่จุดหมาย มันห่างกันเกือบ 400 กิโลฯ นะคะ (แต่มันจะรื่นเริงถ้าหากเป็นความประสงค์ของคนเดินทางเอง จงใจอยากจะไปลงที่นั่นตั้งแต่แรก) และต่อให้ถึงจะเป็นในเครือเชงเกน คุณทะลุหากันได้ก็ตามทีเถอะค่ะ แล้วถามว่าถ้าลงแฟรงค์เฟิร์ต ขนของกลับมาที่เนเธอร์แลนด์อีก มันมีค่าขนส่งค่าใช้จ่ายนะคะ อันนี้ดิฉันไม่เคลียร์ค่ะในฐานะลูกเรือ งง เกี่ยวอะไรกับน้ำหนักเครื่องดนตรี ระบบการให้น้ำหนักสัมภาระของสายการบินนั้น “ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสนามบินค่ะ” ยกเว้นอเมริกา นี่จะทำการตรวจเช็กกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร ขนาด น้ำหนัก เข้มหน่อย ทุกสายการบินจึงให้น้ำหนักเป็นระบบนับชิ้นสัมภาระ Piece Concept เพื่อง่ายต่อการตรวจเช็ก
ส่วนลงที่เนเธอร์แลนด์นั้น มันไม่ได้แตกต่างจากแฟรงก์เฟิร์ต เพราะมีทั้งให้เป็นแบบสัมภาระรวม Weight Concept คือไม่นับชิ้นแต่รวมกันแล้วไม่เกินตามน้ำหนักที่กำหนด และใช้ระบบนับชิ้นสัมภาระ 1 คนต่อกี่ชิ้นก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อบัตรโดยสารกับสายการบินไหน ก็ต้องตาม Baggage policy สายการบินนั้นๆ หรือถ้าเกินมาเยอะก็ต้องจ่ายค่า Extra Baggage Charge ตามเรตของสายการบินที่คุณโดยสารไปด้วย หรือจะส่งเป็น Cargo ไปก็สุดแล้วแต่ แต่ไม่มีหรอกค่ะถ้าลงสนามบินนี้จะได้น้ำหนักเยอะและไม่โดนเรียกเก็บเพราะนั่นคุณจะเจอตั้งแต่ตอนเช็กอินที่ประเทศไทยแล้วค่ะ มันไม่ใช่ประเด็นน่ะ อย่าตอบแบบเหมือนคนอื่นเขาโง่กันหน่อยเลยค่ะ แล้วพวกคุณจะไม่ทักท้วงเลยหรือไง จะไปเนเธอร์แลนด์ แต่เขาดันให้ไปลงแฟรงก์เฟิร์ตแทน ทำยังกะใกล้ๆ กัน ฟังไม่ขึ้นอ่ะ..”
สุดท้าย มหากาพย์ “แก๊งวงโยฯ วณิพก” ก็ยังคงเป็นเรื่องเล่าเอามาขุดคุ้ยไม่จบสิ้น ในเมื่อไม่ว่าใครหน้าไหน ตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนยันไปจนถึงสมาชิกในวง รวมไปถึงตัวละครหน้าใหม่ที่ถูกดึงลงมาร่วมวงอยู่เรื่อยๆ ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องและถูกใจมาตอบสังคมได้...
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
สายตรงวงโยฯ เฉลยข้อข้องใจ
ทันทีที่เท้าแตะพื้น ทางทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ก็ได้รีบต่อสายตรงไปยังหนึ่งในแก๊งวณิพก “พงศกร” หรือ บุ๊ก นักดนตรีวัย 25 จาก “Max Percussion Theater” วงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา ก่อนจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเวลา 17.00 น. ที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2
- ตอนนี้ทราบข่าวทั้งหมดแล้วใช่มั้ย
ใช่ครับ ตอนนี้ผมก็คิดว่ามีประเด็นคำถามอยู่สักสิบข้อได้ที่ต้องตอบกับสังคม ของผมเองก็มีประเด็นส่วนตัวอยู่หนึ่งข้อคือเรื่องที่ผมโพสต์เรื่องพรีออเดอร์ในอินสตาแกรม
- ในอินสตาแกรมเป็นตัวเราเองจริงๆ ใช่มั้ยที่โพสต์
ใช่ครับ แต่ว่าที่ผมโพสต์เป็นเพราะผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คือผมจะโพสต์ให้เพื่อนๆ เพราะปกติเวลาผมไปต่างประเทศเนี่ยก็จะมีเพื่อนๆ ฝากซื้อของอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็เลยโพสต์ไปว่า ครั้งนี้ถ้ามีใครอยากจะซื้อของ ผมก็เปิดพรีออเดอร์ให้นะ คือโพสต์ให้มันดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้เปิดกิจการขายเพื่อทำกำไร เพราะทุกทีที่ซื้อมาก็ขาดทุนอยู่แล้ว ด้วยเรื่องค่าเรตเงินด้วย เรื่องความเป็นเพื่อนกันด้วยครับ แล้วของกลับมามันก็มีแค่ 3-4 ชิ้นครับ ไม่ได้มีขนาดถึงว่าเป็นล็อตใหญ่
- ครั้งนี้หิ้วอะไรกลับมาบ้าง
ครั้งนี้ผมไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลยครับ ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักชิ้นเดียว เพราะว่าไม่ได้ไปไหน คือตามตารางเดิมเนี่ย ทางพี่ผู้จัดการไปโพสต์ว่าจะมีการทัวร์ยุโรปหนึ่งสัปดาห์ก่อน คำว่าทัวร์ในความหมายของนักดนตรีคือทัวร์นาเมนต์ (Tournament) ครับ ไปแสดงทัวร์ตามที่ต่างๆ ก่อน ไม่ใช่ไปทัวร์ไปเที่ยว พอผมได้รับแจ้งตารางว่าจะต้องไปประเทศนี้ ประเทศนี้ ก็เลยคิดว่าผมน่าจะได้มีโอกาสออกไปดูของมาให้ แค่นั้นเอง แล้วก็โดนโจมตีว่าเปิดเป็นพรีออเดอร์ทำแบบใหญ่โต
- แล้วเรื่องที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเลือกลงสนามบินที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ทั้งที่ต้องไปแข่งที่เนเธอร์แลนด์
อันนี้ทางบริษัททัวร์เค้ารออธิบายอยู่แล้วว่าทำไมต้องลงแฟรงก์เฟิร์ต ผมก็อยากฟังเหตุผลเหมือนกัน ทางทัวร์จัดการหมดครับ ได้ยินมาว่าเป็นเพราะเรื่องของน้ำหนักของเครื่องดนตรีที่จะเอาไปแข่งขันมันลงที่แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งอันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยเลยจริงๆ
- คลิปเสียงแฉที่แชร์ว่อนในขณะนี้ล่ะ ไม่ได้ตัดต่อใช่มั้ย
คลิปเสียงจริงครับผม ซึ่งมันหลุดออกมาได้ยังไงเนี่ย ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบนะครับ ไม่ทราบเลยจริงๆ ครับ แล้วมันจะมีเสียงที่เหมือนกันอยู่สองคนนะครับ เสียงผมกับเสียงพี่อีกคนมันคล้าย (ลากเสียงยาว) กัน ซึ่งเราคุยแค่ว่าจะทำยังไงให้เราได้ไป
และนั่นเป็นคำตอบสุดท้ายที่ทางทีมข่าวได้รับ ก่อนจะได้ยินเสียงจากปลายเสียงพูดขึ้นมาอย่างร้อนรนว่า “โอ้ยย ผมโดนรุมแล้วครับตอนนี้ มีแต่พี่ๆ นักข่าว...”
กองเชียร์ รุมล้อมดูตัวแก๊งวณิพก
หลังจากที่สายตัดไป ทางทีมงานพยายามติดต่อกลับไปยังบุ๊กอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับถูกตัดสายทิ้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาที่น้องได้เอื้อนเอ่ยเป็นประโยคสุดท้าย แน่นอน ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่กองทัพสื่อมวลชนจะเฮละโลกันไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อคว้านเอาคำตอบจากกลุ่มเด็กวงโยฯ ที่สร้างชื่อเสียงในต่างแดน แต่กลับสร้างชื่อเสียฉาวโฉ่ไว้ในประเทศบ้านเกิดตัวเอง
ทั้งนี้ ได้รับรายงานมาจากสถานที่เกิดเหตุจริงว่า ทันทีที่ นายอนุสรณ์ พรเนรมิตร ผู้ควบคุมทีม และนางชนิกา หวังกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ได้นำคณะนักเรียนและผู้ร่วมทีมออกมาบริเวณทางออก ผู้สื่อข่าวทุกแขนงทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ได้พยายามขอสัมภาษณ์ แต่เด็กๆ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่นางชนิกามีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา โดยพยายามก้มหน้าหลบผู้สื่อข่าวจนเข็นรถไปชนกับเสา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าวทั้งสิ้น
ขณะที่นายอนุสรณ์ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่า ขอใช้สิทธิไม่พูดอะไรในเวลานี้ เพราะยังไม่พร้อม และจะขอกลับไปปรึกษากันก่อน เมื่อพร้อมแล้วจึงจะเปิดแถลงข่าวโดยให้สื่อมวลชนติดต่อมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าระหว่างเดินทางแข่งขันก็ได้รับทราบข่าวสารจากประเทศไทย รวมทั้งกรณีข่าวคลิปด้วย ซึ่งทำให้เด็กๆ ตกใจและเสียใจ แต่ยังไม่ขอตอบคำถามว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของนายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผอ.โรงเรียนฯ จริงหรือไม่ รวมทั้งเป็นเสียงของตนจริงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องลึกต้องหารือก่อนและตอบทีเดียวในการแถลงข่าว
นอกจากนั้น เด็กหนุ่มที่ถือเป็นกระบอกเสียงชั้นดีของวงโยธวาทิต Max Percussion Theater อย่างบุ๊ก-พงศกร ที่ทีมงานขาดการติดต่อไปแล้วนั้น ก็เพียงได้แต่พูดอ้อมแอ้มต่อหน้าสื่อมวลชนที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังว่า “ผมยอมรับว่าผมอยู่ในคลิปนั้นด้วย แต่ผมบอกไม่ได้ว่ามีใครอยู่ในคลิปนั้นบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องที่รุนแรง” ทั้งนี้ยังระบุอีกด้วยว่า เหตุการณ์วันดังกล่าวตนและเพื่อนเดินทางเพื่อขอเข้าพบผู้บริหารโรงเรียน เพื่อจะขอโทษกรณีที่ตนโพสต์ภาพคุกเข่าตากฝนและเขียนจดหมายถึงผู้บริหารผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำไปโดยไม่ปรึกษาก่อน และ ผอ.โรงเรียนได้ชี้แจงเรื่องต่างๆ ให้ฟัง ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้อัดคลิปเสียงดังกล่าวและหลุดออกไปได้อย่างไร รู้สึกตกใจที่มีคลิปเสียงหลุดออกมา และรอดูว่าผู้ใหญ่จะจัดการอย่างไร
ความจริง ยังเป็นสิ่งไม่ปรากฏ
หลังชาวแก๊งวณิพก สตรีวิทยา 2 จัดการกับปัญหาชีวิตตนเอง ณ สนามบินสุวรรณภูมิเสร็จสิ้น กลุ่มวงโยธวาทิตก็ขอออกตัวเผ่นกลับไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ย่านลาดพร้าว โดยมียานพาหนะเป็นรสบัสจำนวน 2 คัน ไร้ซึ่งพิธีแห่แหนโชว์ความภาคภูมิใจใดใด ถึงแม้จะกลับมาในฐานะวงโยธวาทิตผู้ “ชนะเลิศ” ในรายการแข่งขัน “Color Guard Nederland (CGN)” ประเภท “Marching World Class” ก็ตาม
นอกจากนั้นยังทิ้งประเด็นปัญหาที่สังคมต้องการคำตอบไว้อย่างไม่ไยดี หลังอ้างว่าจะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมในเวลา 17.00 น. แต่ทว่าเมื่อใกล้เวลาขีดเส้นตาย เฉลยความสงสัย กลับมีการประกาศเปลี่ยนใจขอยกเลิกแถลงจากผอ.เสียดื้อๆ และทิ้งเด็กน้อยตาดำๆ ที่น่าจะยังคงเหน็ดเหนื่อยจากการแข่งขันและการเดินทางมาต่อสู้ตอบคำถามกับสื่อมวลชนโดยลำพัง
เมื่อถึงเวลาขึ้นเขียงเชือดตามกำหนด ก็ได้มีการตอบคำถามเพียงเล็กน้อยกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอเพื่อเค้นความจริงกับกรณีฉาวโฉ่ครั้งนี้ โดยนายอนุสรณ์กล่าวว่า ยอมรับว่าคลิปเสียงนั้นเป็นของจริง ซึ่งมีบุคคลพูดคุยอยู่ในคลิป 5 คน คือ ตน นายพงศกร นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียน และนางชนิกา หวังกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมนายจาฎุพจน์ ไม่ขอเปิดเผยนามสกุล หนึ่งในสมาชิกวงฯ รวมถึงขอกราบขอโทษสังคม ขอโทษศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันด้วยที่ทำอะไรไม่เหมาะสมลงไป เพราะเหตุการณ์จวนตัวจึงทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด และสำหรับเงินล้านที่ยืมคุณตันไปนั้น จะนำมาคืนแน่นอน
ส่วนนายจาฎุพจน์ก็กล่าวว่า ยอมรับว่าสิ่งที่พวกเราทำมาไม่ถูกต้องอย่างแรง ต้องกราบขอโทษสังคมด้วยที่ทำตัวเหมือนขอทาน ซึ่งพวกเราไม่มีเจตนาขอเงินไปท่องเที่ยวถึงแม้จะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่อยากให้สังคมเหมารวมวงโยธวาทิตอื่นๆ ไปด้วย เช่นเดียวกับนายวุฒิพงษ์ ไตรรัตนวนิช อาจารย์สอนดนตรี และผู้ช่วยผู้ควบคุมวง ก็กล่าวขอโทษทุกคน รวมถึงศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่เด็กไปตอบกระทู้จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบัน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก
สุดท้าย บุ๊ก-พงศกร ผู้ที่คอยตอบคำถามเป็นด่านหน้าของวงอยู่เสมอๆ กล่าวว่า คลิปการพูดคุยที่มีการนำออกมาเผยแพร่นั้นพวกตนตั้งใจไปแสดงความขอโทษ เพราะก่อนหน้านี้ได้โพสต์รูปคุกเข่าขอเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนจึงตั้งใจไปขอโทษผู้ใหญ่ว่าไม่ได้ปรึกษาใคร และเมื่อได้พบทางผู้ใหญ่ก็ได้ชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ในคลิปก็จะได้ยินเสียงว่าให้ถ่ายรูปเลย พวกตนเลยเอามือถือถ่ายคลิปเอกสารไว้และไม่ได้ใช้มือถือในการอัดเสียงไว้และยืนยันว่าคลิปเสียงที่ปล่อยออกมาพวกตนไม่ได้เป็นคนปล่อย อย่างไรก็ตาม อยากจะขอโทษคุณตันที่พวกตนทำให้เดือดร้อน
ชาวเน็ตโกรธเกรี้ยว คุณหลอกดาว!!
เมื่อคำตอบที่คาใจยังไม่ได้รับการแถลงไข ถึงแม้กลุ่มแก๊งวงโยฯ วณิพกจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยแล้วก็ตาม ชาวโลกออนไลน์ต่างก็โกรธเกรี้ยวและยิ่งแสดงความไม่พอใจมากขึ้น
“คนไทยอายเพราะมีพวกมึงที่อ้างชื่อประเทศไทยไปทำตัวกากๆ ตอแหล ปล้นเงินคนอื่นยามดึก พรีออเดอร์อีก”
“เมื่อไหร่มันจะเลิกใช้คำว่า ทำเพื่อคนไทย ทำเพื่อประเทศไทยวะ ที่พวกมึงทำเนี่ยผลประโยชน์ตัวเองล้วนๆ แม่ง เหี้ยจริงๆ”
“ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า พฤติกรรมของพวกแก มันน่ายี้มาก เหม็นหึ่งไปทั้งประเทศ อย่าลืมซื้อปี๊บแจกคนละ 2 ใบนะ ใช้สลับกัน หมั่นตากแดด เพราะกลิ่นยี้ มันแรงจริงๆ”
“พวกที่แรกที่ออกมาโพสต์เข้าข้างวงโยฯ พวกเดียวกัน ป่านนี้เงิบกันไปเป็นแถบๆ สมัยนี้อย่ามาอ้างความเป็นเด็กเลย โตจนอยู่มัธยมรู้แล้วว่าอันไหนขี้ อันไหนเยี่ยว! 55555 พวกเมิงสมรู้ร่วมคิดกันหมดทั้งหัวหงอกหัวดำ!”
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่แสดงอาการขุ่นเคืองใจกับมหกรรมวณิพกหลอกลวงคนไทยระดับโลก ซึ่งนอกจากคำก่นด่า สาปแช่งอย่างเจ็บแสบแล้ว ถึงขนาดที่ว่าเอารายชื่อของกลุ่มวงโยฯ Max Percussion Theater มาประจานว่อนเน็ตกันเลยทีเดียว นอกจากนั้น ไม่ว่ากลุ่มวงโยฯ เหล่านี้ จะออกมาพูดมากล่าวอะไร ก็ถูกจับจ้อง จับผิด เพราะทุกคำตอบที่ออกมาต่างดูมีช่องโหว่และดูจะเป็นเพียงแค่คำลวงที่ปั้นแต่งออกมาเป็นฉากๆ หรือถ้าเรียกภาษาง่ายๆ คงต้องกล่าวว่า แถจนสีข้างถลอกปอกเปิกไปหมดแล้ว
อย่างที่ทางทีมข่าวได้ช่วยไขปริศนาที่ว่า “ทำไมเลือกลงสนามบินที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ทั้งที่ต้องไปแข่งที่เนเธอร์แลนด์” ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาสร้างความฉงนมากกว่าเดิม เมื่อบุ๊ก-พงศกร กล่าวตอบแต่เพียงสั้นๆ ว่า ทางทัวร์เป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้หมด โดยที่พวกเขาไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยเลยจริงๆ แต่ทว่าทางผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งในเว็บไซต์เมเนเจอร์ กลับได้ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่านี่อาจเป็นคำโกหกคำโตอีกเรื่องที่ไม่ต่างจากหลากคำลวงก่อนหน้านี้
“เรื่องที่ขอไปลงแฟรงก์เฟิร์ต ไม่น่าจะเกี่ยวกับบริษัททัวร์นะคะ บริษัททัวร์จะทำตามคำร้องขอของผู้โดยสาร ไม่ใช่จัดแจงให้ผู้เดินทางตามอำเภอใจของบริษัททัวร์ และยิ่งลงคนละประเทศกันเลย นึกภาพสิค่ะคนเป็น 50-60 คนจะทุลักทุเลยังไง ถ้าเขาส่งคุณไปลงอีกที่ ที่ไม่ใช่จุดหมาย มันห่างกันเกือบ 400 กิโลฯ นะคะ (แต่มันจะรื่นเริงถ้าหากเป็นความประสงค์ของคนเดินทางเอง จงใจอยากจะไปลงที่นั่นตั้งแต่แรก) และต่อให้ถึงจะเป็นในเครือเชงเกน คุณทะลุหากันได้ก็ตามทีเถอะค่ะ แล้วถามว่าถ้าลงแฟรงค์เฟิร์ต ขนของกลับมาที่เนเธอร์แลนด์อีก มันมีค่าขนส่งค่าใช้จ่ายนะคะ อันนี้ดิฉันไม่เคลียร์ค่ะในฐานะลูกเรือ งง เกี่ยวอะไรกับน้ำหนักเครื่องดนตรี ระบบการให้น้ำหนักสัมภาระของสายการบินนั้น “ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสนามบินค่ะ” ยกเว้นอเมริกา นี่จะทำการตรวจเช็กกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร ขนาด น้ำหนัก เข้มหน่อย ทุกสายการบินจึงให้น้ำหนักเป็นระบบนับชิ้นสัมภาระ Piece Concept เพื่อง่ายต่อการตรวจเช็ก
ส่วนลงที่เนเธอร์แลนด์นั้น มันไม่ได้แตกต่างจากแฟรงก์เฟิร์ต เพราะมีทั้งให้เป็นแบบสัมภาระรวม Weight Concept คือไม่นับชิ้นแต่รวมกันแล้วไม่เกินตามน้ำหนักที่กำหนด และใช้ระบบนับชิ้นสัมภาระ 1 คนต่อกี่ชิ้นก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อบัตรโดยสารกับสายการบินไหน ก็ต้องตาม Baggage policy สายการบินนั้นๆ หรือถ้าเกินมาเยอะก็ต้องจ่ายค่า Extra Baggage Charge ตามเรตของสายการบินที่คุณโดยสารไปด้วย หรือจะส่งเป็น Cargo ไปก็สุดแล้วแต่ แต่ไม่มีหรอกค่ะถ้าลงสนามบินนี้จะได้น้ำหนักเยอะและไม่โดนเรียกเก็บเพราะนั่นคุณจะเจอตั้งแต่ตอนเช็กอินที่ประเทศไทยแล้วค่ะ มันไม่ใช่ประเด็นน่ะ อย่าตอบแบบเหมือนคนอื่นเขาโง่กันหน่อยเลยค่ะ แล้วพวกคุณจะไม่ทักท้วงเลยหรือไง จะไปเนเธอร์แลนด์ แต่เขาดันให้ไปลงแฟรงก์เฟิร์ตแทน ทำยังกะใกล้ๆ กัน ฟังไม่ขึ้นอ่ะ..”
สุดท้าย มหากาพย์ “แก๊งวงโยฯ วณิพก” ก็ยังคงเป็นเรื่องเล่าเอามาขุดคุ้ยไม่จบสิ้น ในเมื่อไม่ว่าใครหน้าไหน ตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนยันไปจนถึงสมาชิกในวง รวมไปถึงตัวละครหน้าใหม่ที่ถูกดึงลงมาร่วมวงอยู่เรื่อยๆ ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องและถูกใจมาตอบสังคมได้...
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live