ผอ.สตรีวิทยา 2 บอกน้อยใจแทนเด็กถูกสังคมตราหน้าว่า “ขอทาน” พร้อมขอโทษกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ลั่นให้มองที่เจตนาและความตั้งใจ พร้อมยันไม่ได้วางแผนเพื่อขอเงิน “ตัน” ล่วงหน้า ชี้เด็กฉุกคิดกะทันหัน ขณะที่ สพฐ.เผยไม่ยังไม่ตั้ง กก.สอบ แค่ให้มาชี้แจงเท่านั้น
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.20 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เดินทางเข้าพบ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) และ นายสมเกียรติ บุญรอด ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.เพื่อชี้แจงกรณีที่โรงเรียนทำหนังสือขออนุญาตไปราชการ พร้อมของบประมาณ สพฐ.จำนวน 9.4 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้ครูและนักเรียนเดินทางไปร่วมแข่งขันวงโยธวาทิตรายการระดับโลก ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งกรณีที่ผู้ควบคุมวงพานักเรียนในวงโยธวาทิต ไปขอเงินจากนายภาสกร นที หรือ ตัน อิชิตัน จำนวน 3.1 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าซื้อตั๋วเครื่องและค่าเดินทาง จากนั้นเวลา 16.00 น.นายสมเกียรติ และ นายพชรพงศ์ ได้ร่วมแถลงข่าว
นายพชรพงศ์ ชี้แจงว่า คณะที่เดินทางไปทั้งหมด 66 คน เป็นอาจารย์ นักเรียน ศิษย์เก่า โดยมีเด็กสตรีวิทยา 2 ปัจจุบันจำนวน 16 คน และศิษย์เก่าประมาณ 30 กว่าคน ซึ่งสาเหตุที่มีศิษย์เก่าเพราะวงดรัมไลน์เป็นวงเปิดที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะเด็กโรงเรียนของสตรีวิทยา 2 เท่านั้น เป็นเด็กจากโรงเรียนอื่น หรือศิษย์เก่าก็สามารถมาร่วมวงได้ ซึ่งเมื่อโรงเรียนได้รับจดหมายเชิญมาก็ได้เสนอของบประมาณมาครั้งแรก วันที่ 31 ต.ค. 2556 ปีที่ผ่านมา ต่อมา สพฐ.ทำหนังสือตอบกลับว่าไม่ได้ตั้งงบประมาณนี้ไว้ ทางโรงเรียนจึงทำเรื่องเสนอของบประมาณกลาง จากสำนักงานงบประมาณมาในวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา และเพิ่งทราบผลวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า โรงเรียนไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ที่ สพฐ. จะจัดสรรงบประมาณให้ ซึ่งก็ได้มาแจ้งแก่นักเรียนว่าให้หยุดซะแล้วเก็บของกลับบ้าน ซึ่งในช่วงค่ำของวันที่ 23 มี.ค.หลังจากทำงานเสร็จก็พบนักเรียนก็ได้ย้ำอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งมาทราบข่าวตอนเช้าวันที่ 24 มี.ค.ตามที่เป็นข่าวว่าเด็กไปขอเงินจากคุณตัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่เด็กไปขอเงินนั้น ตนและทางโรงเรียนไม่ทราบเรื่องด้วย และมาสืบทราบภายหลังว่ามีรุ่นพี่ศิษย์เก่าคนหนึ่งเป็นคนพานักเรียนปัจจุบันไป ซึ่งนักเรียนคงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และตนยืนยันได้ว่าไม่น่าจะมีการวางแผนอะไร อาจเพราะไปอ่านข้อความที่แนะนำในเฟซบุ๊กก็คงเป็นความฉุกคิดขึ้นมาแล้วดำเนินการกัน โดยขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานดังกล่าวอยู่
“จนถึงตอนนี้หรือแม้กระทั่งหลังเกิดเหตุผมยังไม่ได้คุยกับนางชนิกา หวังกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่เป็นหัวหน้านำคณะนักเรียนไปในครั้งนี้ คงต้องรอหลังจากกลับมาจากต่างประเทศก่อนจจะสอบถามข้อเท็จจริง และจะดูด้วยว่าจะดำเนินการกับรองผู้อำนวยการคนนี้อย่างไรหรือไม่ เพราะต้องหารือกับผู้บริหารก่อน ส่วนที่ทำไมไม่ระดมทรัพยากรหรือเหตุใดไม่เตรียมงบประมาณไว้นั้น เพราะการจะระดมทรัพยากรทางผู้ปกครองต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการสถานศึกษา และจะไปเก็บอีกก็ไม่ได้เพราะปีที่ผ่านมามีการขอระดมเงินไปครั้งหนึ่งแล้ว ฉะนั้นจะขอเพื่อการนี้อีกก็ไม่ได้ในขณะที่เงินโรงเรียนเองก็ไม่มีที่จะนำมาใช้” ผอ.สตรีวิทยา 2 กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าพฤติกรรมดังกล่าว ในลักษณะว่าเด็กเป็นขอทาน หรือเป็นโรงเรียนขอทานวิทยา นายพชรพงศ์ กล่าวว่ารู้สึกน้อยใจแทนลูกศิษย์และต้องขอโทษแทนลูกศิษย์ด้วย โดยอยากให้ดูเจตนาของพวกเขาที่มีความมุ่งมั่นที่จะนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ จึงอยากให้มองในมุมกลับกันว่าหากเด็กชนะเลิศกลับมาแล้วเราจะว่าอย่างไร ทั้งนี้ หลังจากนี้หากเด็กกลับมาไม่ว่าจะได้รางวัลหรือไม่ก็จะไม่อนุญาตให้เดินทางไปแข่งอีกทุกอย่างต้องยุติ ยกเว้นกรณีที่ได้รับรางวัลและมีงบประมาณสนับสนุนจากเอกชนเพียงพอก็จะต้องหารืออีกครั้ง อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นจะให้ถือเป็นบทเรียนให้กับโรงเรียนอื่นๆ และทางสพฐ.จะจัดทำหลักเกณฑ์การขออนุมัติงบประมาณให้ชัดเจนเพื่อให้โรงเรียนมีความเข้าใจ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ทาง สพฐ.ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายพชรพงศ์ เพราะยังไม่ได้ทำผิดอะไรเพียงแต่ให้มาชี้แจงในเบื้องต้นก่อน จากนั้นให้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมา ขณะเดียวกัน จะเร่งจัดทำหลักเกณฑ์เพื่อแจ้งให้ทุกโรงเรียนทราบโดยทั่วกัน
