ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ลั่นพร้อมรับผิดชอบขอเวลารวมหลักฐาน 2-3 วัน ส่งเขตพื้นที่ฯ ก่อนนัดสื่อเปิดโต๊ะแถลงข่าวเคลียร์ทุกประเด็นที่สงสัย ยอมรับเสียงในคลิปเป็นเจ้าตัวจริง ยันไม่ได้บอกให้เด็กไปขอเงิน บอกให้ไปฟังคลิปชัดๆ ว่าพูด “ตัน อิชิตัน” ออกมาหรือไม่ ชี้เด็กคิดเอง ระบุมอบทนายส่วนตัวรวมหลักฐานการนำเสนอข่าวว่าทำให้ตกเป็นจำเลยสังคมหรือไม่ ด้าน “จาตุรนต์” แนะ ผอ.ออกมาชี้แจงให้สังคมเข้าใจพร้อมย้ำ สพฐ.เร่งดำเนินการให้เรื่องจบเร็วที่สุด
จากกรณีเกิดเหตุการณ์กรณีวงโยธวาทิตของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เดินทางขอยืมเงินจาก “ตัน ภาสกรนที” จำนวน 3.1 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าซื้อตั๋วเดินทางประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีกระแสวิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม จนเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ปรากฏคลิปเสียงในชื่อ “วณิพกพเนจร” แฉเบื้องหลังการขอเงินเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยคลิปดังกล่าวเป็นการพูดคุยของผู้อำนวยการโรงเรียน รอง ผอ.โรงเรียน และผู้ควบคุมวง โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ซึ่งเป็นวันที่วงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย นายอนุสรณ์ พรเนรมิต ผู้ควบคุมวง Max Percussion Teater และ นายพงศกร เลิศศักดิ์วรกุล หนึ่งในสมาชิกวง ได้แถลงข่าวยอมรับว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นของจริง ซึ่งมีบุคคลพูดคุยอยู่ในคลิป 5 คน คือ นายอนุสรณ์ นายพงศ์กร ผอ.โรงเรียน รอง ผอ.โรงเรียน และเพื่อนในวง อย่างไรก็ตาม นับแต่เกิดเหตุการณ์คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีความพยายามโทรศัพท์เพื่อขอสัมภาษณ์และสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อ นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ล่าสุด วันนี้ (4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้พยายาม นายพชรพงศ์ อีกครั้ง จนในที่สุด นายพชรพงศ์ ได้รับสายพร้อมเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่า ขณะนี้ตนได้ตั้งกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและปัญหาต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อรายงานให้กับคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กทม.เขต 2 ได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมด เช่น การใช้งบประมาณเดินทางไปแข่งขัน การไปขอเงินจากภาคเอกชน เป็นต้น ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้น จึงต้องขอรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนถึงจะออกมาให้ความเห็นได้ เพราะเด็กวงโยฯ ก็เพิ่งเดินทางกลับจากการแข่งขัน และยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก โดยตนไม่ได้หนีไปไหน และยังทำงานอยู่ทุกวัน ทั้งนี้ ตนพร้อมรับผิดชอบต่อสังคมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างแน่นอน ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมาด้านต่างๆ พูดมั่วกันไปหมดสร้างความสับสนจนทำให้ตนต้องตกเป็นจำเลยของสังคม
“ผมขอเวลารวบรวมข้อมูล 2-3 วันก่อน เพื่อรายงานให้ผู้ใหญ่ได้รับทราบ หลังจากนั้นจะนัดสื่อมวลชนแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะตอนนี้ผมพูดอะไรมากไม่ได้ แต่เมื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเสร็จจะออกมาพูดความจริงให้สังคมได้รับทราบอย่างแน่นอน รวมทั้งจะตอบทุกคำถามที่สังคมกังขาอยู่ตอนนี้ ซึ่งผมพร้อมที่จะกู้ชื่อเสียงภาพลักษณ์ของโรงเรียนกลับมาอีกครั้ง” นายพชรพงศ์ กล่าว
นายพชรพงศ์ กล่าวถึงกรณีคลิปเสียง ว่า สำหรับคลิปเสียงที่หลุดออกมานั้นยอมรับว่าเป็นการพูดคุยระหว่างตนและเด็กในวงโยฯจริง แต่ตนไม่ได้ยุให้เด็กไปขอเงินจาก “ตัน ภาสกรนที” แต่อย่างใด ลองกลับไปฟังคลิปเสียงดังกล่าวให้ชัดๆ ว่าตนพูดคำว่า “ตัน อิชิตัน” ออกมาหรือไม่ ซึ่งการไปขอเงินจากภาคเอกชนเด็กคิดเอาเอง อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัวเก็บหลักฐานการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชนด้วย เพื่อมาดูว่าการนำเสนอข่าวของสื่อใดเป็นความจริงหรือใส่ร้ายจนทำให้ตนตกเป็นจำเลยของสังคม
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า กรณีที่ให้ นายพชรพงศ์ ย้ายออกจากโรงเรียนตามมติที่ประชุมสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา 2 หรือไม่เป็นเรื่องที่ทางนายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.สพม.กทม.เขต 2 และ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) กทม.เขต 2 ต้องพิจารณา โดยรับฟังความคิดเห็นจากส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็รวมถึงสมาคมศิษย์เก่าฯ ด้วย ซึ่งตนอยากให้เรื่องนี้มีข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อรักษาชื่อเสียงของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่สำคัญไม่ทำให้นักเรียนจากวงโยธวาทิต ทั้งของโรงเรียนนี้ และของโรงเรียนอื่นๆ เสียขวัญกำลังใจ และมุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อทำการแข่งขันเพื่อชื่อเสียงของประเทศต่อไป
“ผมได้ขอให้ทาง สพฐ.ช่วยแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวเร็วที่สุด โดยที่ผ่านมาก็ได้มีการประสานและพูดคุยกับทั้งนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการ กพฐ.และล่าสุด ได้พูดคุยกับนายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการ กพฐ.ได้ย้ำขอให้เร่งดำเนินการให้เกิดความโปร่งใสโดยเร็ว คิดว่านายกมล คงจะเข้ามาดูแล ส่วนตัวเองอยากแนะนำให้นายพชรพงศ์ ออกมาชี้แจงกับสังคม เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ ส่วนจะต้องรับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าวตามที่กลุ่มศิษย์เก่าเรียกร้องหรือไม่นั้น ต้องอยู่ที่การพิจารณาของ สพฐ.และเขตพื้นที่ฯ” นายจาตุรนต์ กล่าว
ด้าน นายสัจจา กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงว่าจะทำหนังสือแจ้งให้นายพชรพงศ์มาให้ปากคำในเร็วๆ นี้พร้อมเอกสาร หลักฐานต่างๆ จากเดิมที่จะให้ชี้แจงเป็นเอกสารกรณีคลิปมาภายในเวลา 16.00น.ของวันนี้ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงที่เห็นว่ายังขาดประเด็นชี้แจงในเรื่องดังกล่าวเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาร่วมกับข้อมูลส่วนอื่นๆ ซึ่งในวันนี้ได้มีการเชิญนางชนิกา หวังกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง รวมทั้งยังได้เชิญนายวสันต์ ศิลปคุปต์ อาจารย์ผู้ควบคุมวงโยธวาทิตมาให้ข้อมูลอีกด้วย ส่วน นายพชรพงศ์ นั้นยังไม่ได้เข้ามาให้ปากคำอะไร แต่คิดว่าตามกระบวนสุดท้ายก็ต้องมาให้ปากคำแต่อาจจะมาเป็นคนสุดท้าย ทั้งนี้ คาดผลการสอบของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงจะได้ข้อสรุปก่อนการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ เพราะจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมด้วย รวมทั้งกรณีสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มีมติขอให้ย้าย นายพชรพงศ์ ออกด้วยที่ตนจะนำเสนอในที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯได้พิจารณาด้วย เพราะตนในฐานะผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯไม่สามารถสั่งย้ายได้เลยนอกจากจะมีเหตุการณ์รุนแรงจริงๆ หรือเหตุการสุดวิสัยที่ตนจะสามารถใช้อำนาจสั่งย้ายได้ ซึ่งการบริหารในระบบราชการจะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้
“การชี้แจงด้วยลายลักษณ์อักษรเป็นสิทธิอย่างหนึ่ง เราเองก็ไม่อยากจะไปกดดันว่าต้องออกมาชี้แจงแถลงต่อสังคมเป็นตัวเป็นตน แต่สุดท้ายถ้าคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงบอกว่าจะต้องมาให้ปากคำนายพชรพงศ์ก็ต้องมา ส่วนที่ผมบอกว่านายพชรพงศ์จะมาพบตนตอนค่ำวันที่ 3 เมษายน เป็นการประสานผ่านรอง ผอ.สพม.เขต 2 คนหนึ่ง ซึ่งผมได้บอกไปว่าคงไม่มีเป็นประโยชน์อะไรหากมาเวลานั้นแต่สิ่งที่อยากได้คือการมาชี้แจงเป็นหลักฐานต่างๆ” นายสัจจา กล่าวและว่า หากตนเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนป่านนี้คงออกมาพูดและชี้แจงกับสังคมแล้วเพราะเป็นเรื่องที่สังคมกังขาอยู่
ด้านนางอารีรัตน์ วัฒนสิน ประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสตรีวิทยา 2 กล่าวว่า ตนในฐานะประธานกรรมการสถานศึกษาฯ ได้ทำหนังสือถึง ผอ.สพม.กทม.เขต 2 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.เพื่อขอให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 อย่างไรก็ตาม กรรมการสถานศึกษาฯ จะประชุมกันในวันที่ 5 เม.ย. เวลา 14.00 น.เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับวงโยธวาทิตโดยเฉพาะ และเชื่อว่าน่าจะมีมติออกมาในเชิงขอให้ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 แสดงความรับผิดชอบ เพราะเรื่องวงโยธวาทิตนั้นได้มีการนำเรื่องเสนอเข้าบอร์ดกรรมการสถานศึกษาตั้งแต่เดือน ส.ค.2556 ซึ่งในการประชุมครั้งนั้น ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ได้พูดไว้ชัดเจนว่าจะหางบเดินทางไปแข่งขันเอง ซึ่งหาก ผอ.โรงเรียนบริหารจัดการดีๆ ก็น่าจะสามารถหางบจากองค์กรเอกชนได้เพียงพอ โดยไม่ต้องให้เด็กไปขอเงินนายตัน ภาสกรนที เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ส่อให้เห็นว่า ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 บริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความรับผิดชอบ และไม่เฉพาะเรื่องของวงโยธวาทิตเท่านั้น การบริหารงานอื่นๆ ภายในโรงเรียนก็ไร้ประสิทธิภาพเช่นกัน จึงอยากให้ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 พิจารณาตัวเอง และให้รับผิดชอบหาเงินมาคืนนายตันด้วย เพราะว่า ผอ.รับปากไว้แล้วว่าจะหาเงินไปกันเอง
“จริงๆ แล้ว ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 จะต้องเชิญกรรมการสถานศึกษาประชุมตั้งนานแล้ว เพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือการจัดหาหนังสือเรียนให้นักเรียน และการลงนามในประกาศนียบัตร หรือ ปว.6 แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีการประชุม” นางอารีรัตน์ กล่าว
ขณะที่ นายวินัย รอดจ่าย ประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเขตพื้นที่การศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) มัธยมศึกษาเขต 2 กทม. กล่าวว่า การจะพิจารณาโยกย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา2 นั้นต้องเป็นไปตามกระบวนการจะสั่งย้ายเลยไม่ได้ ซึ่งจะต้องมีการเสนอเรื่องขึ้นมาจากเขตพื้นที่การศึกษา และในกรณีจะต้องมีเหตุและผลในการโยกย้ายและที่สำคัญต้องมีผลการสืบหาข้อเท็จจริงเสนอมาพิจารณาด้วย หากสั่งย้ายเลยอาจมีปัญหาฟ้องร้องตามมาเพราะในระบบราชการต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนและถึงแม้กระแสสังคมอยากจะให้ย้ายแต่ก็คงทำไม่ได้ อย่่างไรก็ตามหากมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยก็จะต้องพิจารณาว่าถ้ายังอยู่ในตำแหน่งแล้วเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนก็ต้องย้ายออกไป
นายสัจจา กล่าวว่าตนได้รับแจ้งจากคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงว่าจะทำหนังสือแจ้งให้นายพชรพงศ์มาให้ปากคำในเร็วๆ นี้พร้อมเอกสาร หลักฐานต่างๆ จากเดิมที่จะให้ชี้แจงเป็นเอกสารกรณีคลิปมาภายในเวลา 16.00น.ของวันนี้