สั่งทัพแดงป่วนเมือง! ยิ่งลักษณ์ดิ้น องค์กรอิสระจ่อฟัน

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ระเบิดเวลาใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีคดีสำคัญที่จะถูกองค์กรอิสระ จ่อเอาผิดอยู่ 2 คดีด้วยกัน คือ เรื่องจำนำข้าว ที่คาดว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะตัดสินคดีภายในต้นเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะถูกชี้มูลความผิดมีความเป็นไปได้สูงยิ่ง

รวมถึงคดี ที่ ป.ป.ช. จะแจ้งข้อกล่าวหากับ 308 ส.ส.และส.ว.ในคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของส.ว.โดยมีข่าวแว่วมาว่า สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา จะเป็นคิวต่อไป

งานนี้ทางฝั่งรัฐบาลจึงดิ้นสุดฤทธิ์ ใช้สมุนขี้ข้าอย่างกลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมกดดันองค์กรอิสระ เพื่อข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว อย่างล่าสุด ก็ยิง M 79 ใส่ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.57 ที่ผ่านมา

นี่แค่ส่วนหนึ่งของความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อองค์กรอิสระเท่านั้น ล่าสุด นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานนปช. ได้ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ทางการเมืองในวันที่ 5 เม.ย. 57 สร้างภาพกันให้เห็นไปเลยว่ากลุ่มมวลชนเสื้อแดงยังมีน้ำยา ยังมีบทบาทต่อต้านกลุ่มที่กล้าทัดทานรัฐบาลที่อ้างเสมอว่ามาจากการเลือกตั้ง ผิดชอบชั่วดีไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่าไม่ยอมรับอำนาจตุลาการและถูกอำมาตย์กลั่นแกล้ง

การออกมาประกาศปลุกระดมเสื้อแดงที่มีจำนวนน้อยนิดหวังจะข่มองค์กรอิสระที่เป็นปราการด่านสุดท้าย ที่กำลังไล่เชือดเข้ามาทุกที เพราะกลัวว่า หากปล่อยให้ว่างเว้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ จะมีการเสนอนายกฯทูลเกล้าตาม มาตรา 7จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องพ้นจากเก้าอี้นายกรักษาการ แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ใครจะมองว่าต่ำทรามเพียงใด ก็ใช่ว่าคนพวกนี้จะรู้สึกรู้สา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 57 ที่ผ่านมา กลุ่มเสื้อแดงกวป. ที่มีนายศรรักษ์ มาลัยทอง เป็นแกนนำ ได้พาพลพรรคบุกเข้าไปยังบังเกอร์ทหารที่ตั้งจุดตรวจรักษาความปลอดภัยให้กับ ป.ป.ช.บริเวณ ซอยติวานนท์ 37 แล้วไล่ตะเพิดทหารออกจากบังเกอร์ พร้อมทั้งรื้อกระสอบทรายและเต็นท์ออก ท่ามกลางสายตาประชาชนยืนมองตาปริบๆ

เรียกว่า เสื้อแดงสั่งได้ แม้แต่ทหารที่เป็นรั้วของชาติก็ย่ำยีศักดิ์ศรีย่อยยับ ทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากนำรถเข้ามาขนสิ่งของออกไปอย่างสงบเสงี่ยม

วีรกรรมของกลุ่มกวป.ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะได้สร้างความถ่อยเถื่อนออกสู่สายตาชาวโลก กรณีรุมสกรัมพระสงฆ์ชนิดที่ต้องวิ่งหนีรักษาชีวิตแทบไม่ทัน

เหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 มี.ค.57ที่ผ่านมา กลุ่มเสื้อแดงกวป.จะยึดพื้นที่เพื่อชุมนุมประท้วงการทำหน้าที่ของป.ป.ช. ที่สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี โดยก่อนหน้านั้นมีกลุ่มกปปส.นนทบุรีได้ตั้งเต๊นท์จับจองพื้นที่เพื่อให้กำลังใจการทำงานของป.ป.ช.อยู่ก่อนแล้ว เป็นจังหวะเดียวกับที่พระสงฆ์กำลังเดินทางกลับจากงานศพ เห็นเหตุการณ์ที่กลุ่มกวป.นนท์เข้าควบคุมตัวอดีตทหารเรือจึงได้ว่ากล่าวตักเตือน ตรงจุดนี้เองที่สร้างความไม่พอใจ กลุ่มกวป.จึงกรูกันเข้าไปรุมสกรัมจนพระสงฆ์ต้องวิ่งหนีตายขอชีวิต

หลักฐานทั้งคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพไว้ได้ และรูปถ่ายจังหวะที่ชายสวมเสื้อยืดมีสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ด้วย โดดถีบพระ ยิ่งทำให้สะเทือนใจ หดหู่ยิ่งนัก

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังพยายามป่วนเมือง และข่มขู่สารพัดยังไม่หมดแค่นั้น ยังมีกลุ่มเครือข่ายชาวนนทบุรี ที่บุกเข้ามายังกระทรวงสาธารณสุข โดยมากับรถขบวนกระบะติดเครื่องขยายเสียง ซึ่งติดป้ายระบุว่า เป็นกลุ่มผู้กล้าประชาธิปไตย FM.90.25 The Democratic Gladiator สภาประชาชน รวมทั้งรถแท็กซี่ รถกระป๋อง และรถจักรยานยนต์ เข้ามาเรียกร้องว่าให้ทำการปลดป้ายที่มีเนื้อหาต่อต้านรัฐบาล อาทิ “ไม่เอารัฐบาลโกงประชาชน” “ขอประณามการใช้ความรุนแรง รัฐบาลต้องรับผิดชอบ” พร้อมทั้งให้เหตุผลดูดีว่า เป็นภาษีของประชาชน สถานที่ราชการไม่ควรติดป้ายแบบนี้ในการแสดงออก และการติดป้ายเช่นนี้ถือว่าจ้องที่จะเป็นศัตรูกับประชาชน

เหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงดาหน้าออกมาต่อต้านกันให้ถึงที่สุด คงเป็นเพราะป้ายมันแทงใจดำให้เจ็บจี๊ด คนเสื้อแดงถึงอดรนทนไม่ไหว เดินทางบุกมาปลดป้ายกันถึงสถานที่ราชการ และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือมีเจ้าหน้าที่หญิงของกระทรวงสาธารณสุข ถูกกลุ่มเสื้อแดงใช้ขวดน้ำพลาสติกฟาดเข้าที่บริเวณศรีษะ รวมไปถึงความอุบาทว์ที่ทำการล้วง ควัก งัด เข้าไปในกางเกงแล้วทำท่าช่วยเหลือตัวเองใส่เจ้าหน้าที่ อย่างไม่อายฟ้า อายดิน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าอะไรที่เหนือความคาดหมายในด้านพฤติกรรม เสื้อแดงจะมีพร้อมทุกอย่าง

กระนั้นก็ตาม การให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาป่วนเมือง ก็แบ่งกันทำงานออกเป็นหลายฝ่าย มีหน้าที่ที่ต่างกันออกไป บ้างก็ปาระเบิด ยิงM79ข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ, ป.ป.ช. บ้างก็มาเป็นกลุ่มบุกประท้วงที่องค์กรอิสระ รวมถึงสถานที่ราชการ เป็นปรากฏการณ์ในจังหวะเวลาที่ทัพใหญ่มี นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานนปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กลับมาคุมหัวขบวนอีกครั้งเพื่อหวังจะปลุกคนเสื้อแดงให้ลุกขึ้นมาต่อต้านองค์กรอิสระที่กำลังตัดสินคดีความอยู่ในเวลาอันใกล้นี้

แต่คำคุยของนายจตุพร ที่ว่าจะมีการชุมนุมใหญ่โชว์พลังคนเสื้อแดง ก็คงจะแป๊กอีกเหมือนเคย อย่างที่ทราบกันดีว่าคนหลงคารมไปเสี่ยงตายน้อยลงทุกวัน ที่เห็นก็มีแต่แกนนำไฮปาร์คสร้างราคากลุ่มเสื้อแดงของตัวเองเพื่อข่มฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น และหวังกดดันการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ เช่นเดียวกับทางพรรคเพื่อไทยที่ออกแถลงการณ์ไม่พอใจคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ นัดกันแต่งชุดดำไว้ทุกข์ให้ 6 ตุลาการเสียงข้างมาก และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุน ออกมาต่อสู้ทุกรูปแบบ

และนี่ก็คือความอัปยศที่ควรจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย

ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า แก๊งแดงถ่อยป่วนเมืองจะสามารถยับยั้งกระบวนการยุติธรรม หรือว่า..จะยกขบวนทัพกันมาตายฟรี