xs
xsm
sm
md
lg

โพลหนุนนายกฯคนกลาง "ปู"ปัดตอบเว้นวรรค1ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โพลชี้ คนเบื่อการเมือง ส่งผลคะแนนนิยม "ปู-มาร์ค" รวมทั้ง "พท.-ปชป." หล่นวูบ หนุนมีนายกฯคนกลาง เพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้งใหม่ "สุเทพ" ไม่หลงคารมเรื่องชินวัตรเว้นวรรค 1 ปี ยันจะไม่มีการเจรจากับ "ยิ่งลักษณ์" ด้าน"ปู"ปัดตอบ "ปึ้ง-นพเหล่" ยัน "ทักษิณ"ไม่ได้สั่งถอย อ้างเป็นข่าวปล่อย หยามทหารไม่รื้อบังเกอร์ แต่ไม่เห็นจะป้องกัน เอ็ม 79 ได้ ขณะที่มือมืด ยิงเอ็ม 79 หวังถล่มเวทีหลวงปู่ฯ 4 ลูก แต่ไปตกในค่ายทหาร "ประยุทธ์" ยังเฉย แค่สั่งดูแลเข้มงวด "ถวิล"เข้าพบ"หลวงปู่ฯ" ขอเจ้าหน้าที่เข้าทำงานที่สมช. ศูนย์ราชการ

วานนี้ (27มี.ค.) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,068 คน ในหัวข้อ “คะแนนนิยมเป็นอย่างไร หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ”พบว่า คะแนนนิยมนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่ร้อยละ 24.8 ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพ.ย.56 ร้อยละ 1.9 (จากเดิมร้อยละ 26.7) เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนิยมอยู่ที่ ร้อยละ 18.7 โดยลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ร้อยละ 16.1 (จากเดิมร้อยละ 34.8)

ด้านคะแนนนิยมพรรคการเมือง พบว่าพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยมเท่ากับร้อยละ 27.0 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาร้อยละ 1.2 (จากเดิม ร้อยละ 28.2 ) ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนิยมร้อยละ 20.3 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ร้อยละ 16.9 (จากเดิมร้อยละ 37.2)

ส่วนความเห็นต่อข้อคำถาม “สถานการณ์ ณ วันนี้ ควรมีนายกรัฐมนตรีคนกลาง เพื่อดำเนินการปฏิรูปการเมือง ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่หรือไม่” ประชาชนร้อยละ 50.7 เห็นว่า ควรมี และ ร้อยละ 29.2 เห็นว่า ไม่ควรมี ที่เหลือร้อยละ 20.1 ไม่แน่ใจ

สำหรับบุคคลที่น่าเคารพนับถือในสังคมที่อยากให้มาเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งมากที่สุด อันดับ 1 คือ นายอานันท์ ปันยารชุน รองลงมาคือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

** "สุเทพ"ยันไม่เจรจา"ยิ่งลักษณ์"

วานนี้ (27มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้นำมวลชนออกเดินขบวนออกเดินรณรงค์เชิญชวนชาวกรุงเทพมหานครให้ออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 29 มี.ค. เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง เป็นวันที่ 4 โดยเริ่มจากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสอ่อนนุช สุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ วกเข้าสุขุมวิท ราชดำริ กลับไปยังสวนลุมพินี รวมระยะทางประมาณ 15 กม. โดยมีประชาชนออกมาให้กำลังใจ มอบเงินสนับสนุนตลอดสองข้างทาง มากกว่าทุกวัน

ขณะที่ทางด้านการรักษาความปลอดภัย เป็นไปอย่างเข้มงวด รัดกุม เช่นเดิม มีทั้งการ์ด กปปส. และการ์ดอาสาสมัคร กว่า 1,000 คน คอยดูแลทั้งแกนนำและมวลชนตลอดการเดินขบวน

นายสุเทพ ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเดินขบวน ว่า จะไม่มีการพูดคุย และไม่รับทุกเงื่อนไขจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 1 ปี หากกปปส.ไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง โดยยืนยันว่าจะเดินหน้าปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง

** "ปู"ปิดปากเว้นวรรคการเมือง1 ปี

เมื่อเวลา 10.50 น. วานนี้ (27มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางโดยรถตู้ โฟล์ก สีดำ ป้ายแดง ทะเบียน ต 9179 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนตัว มายังสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.กห.) เมืองทองธานี โดยทันทีที่ลงจากรถ พบว่านายกฯ จากที่ก่อนหน้านี้ ได้ใส่เฝือกอ่อนแบบธรรมดา เปลี่ยนมาใส่เฝือกอ่อนแบบที่มีล็อกที่ข้อเท้า และยังนั่งวีลแชร์ อันเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าด้านซ้ายฉีก เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ซึ่งไม่หายขาด ขณะที่นายกฯ กล่าวถึงอาการบาดเจ็บว่า เหตุที่ใส่เฝือกอ่อนและต้องมีตัวล็อกข้อเท้า เพราะที่ผ่านมาเดินมากไป ทำให้น้ำหนักลงไปที่เท้าซ้ายเยอะ จนทำให้ข้อเท้าบวมขึ้น ดังนั้นจึงต้องล็อกข้อเท้า เพื่อไม่ให้เท้าขยับ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกรณีข่าวว่า จะเว้นวรรคทางการเมือง 1 ปี รวมถึงจะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีข้อกล่าวหาทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ โดยนายกฯได้หันมายิ้ม และไม่ตอบคำถามใดๆ ก่อนนั่งวีลแชร์ ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ ยังชั้น 10 สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

**"ปึ้ง"อ้างชินวัตรเว้นวรรค ข่าวปล่อย

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. กล่าวถึงกระแสข่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ และคนในตระกูลชินวัตร จะไม่ลงเลือกตั้งเพื่อเว้นวรรคทางการเมืองว่า เป็นการปล่อยข่าว ปลุกกระแส ให้เกิดความเกลียดชัง เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจรจาทางลับ เนื่องจากเสนออะไรมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กลุ่มกปปส. ก็ไม่เอา เนื่องจากกลัวพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งอีก โดยตนอยากถามกลับว่า หากให้ตระกูล เทือกสุบรรณ พร้อมพันธุ์ เว้นวรรคทางการเมือง ทำได้หรือไม่

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายกฯไม่ได้พูดเรื่องนี้ ตนคิดว่าถ้า กกต.สามารถกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อไร หากนายกฯจะพักก็ต้องพิจารณาตัดสินอีกครั้งว่าผู้สมัครจะเป็นใครบ้าง ซึ่งต้องรอให้ได้วันเลือกตั้งที่แน่นอนก่อน อย่างไรก็ตาม นายกฯ ก็ต้องทำหน้าที่จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาจากการเลือกตั้ง การที่นายสุเทพ บอกว่าจะให้นายกฯ ลาออก หรือจะให้องค์กรอิสระ กล่าวหา ครม.ทั้งคณะ อย่างการที่ ส.ว. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยขบวนการเหล่านี้ควรหยุดได้แล้ว ถ้ากระบวนการขององค์กรอิสระไม่ให้ความเป็นธรรม คิดว่าประเทศไทยคงอยู่ได้ยาก

ส่วนกระแสข่าวให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 นั้น เรื่องนี้อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ตัดสิน โดยตอนนี้คนในพรรคก็พูดคุยถึงเรื่องนี้ และบอกว่าเป็นเพียงข่าวลือที่ปล่อยออกมา ทั้งนี้สมาชิกพรรคยังให้การสนับสนุน น.ส. ยิ่งลักษณ์ เป็นนายรัฐมนตรีคนต่อไป

**หยามมีบังเกอร์ แต่หยุดเอ็ม79 ไม่ได้

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ผบ.ทบ. ต้องการขอเพิ่มบังเกอร์ และต้องการเข้าตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ทางศอ.รส.ได้ให้ทาง ผบ.ตร. ปรับเพิ่มลดกำลังพลให้สอดคล้องกับสถานการณ์ หากสถานการณ์รุนแรง ก็สามารถเพิ่มกำลังได้ตามความเหมาะสม โดยทางทหาร มีอำนาจเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่ ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีอำนาจหน้าเทียบเท่ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องการปรับเพิ่มบังเกอร์ ทำให้บ้านเมืองดูไม่เรียบร้อย สร้างความเสียหายให้การท่องเที่ยว ซึ่งภาคเอกชนหลายรายมีการขอปรับลดบังเกอร์ บริเวณที่เป็นพื้นที่ธุรกิจ ทางทหารควรจะปรับย้ายไปในส่วนที่รั้วรอบขอบชิด

อย่างไรก็ตามการเพิ่มบังเกอร์ไม่ได้มีผลใดๆ เพราะยังคงมีการยิงเอ็ม 79 ต่อเนื่องใส่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ นปช. กปปส. ไม่มีใครรู้มือที่ 3 คือใคร โดยทางเจ้าหน้าที่พยายามดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้ ตนไม่รู้ใครทำ แต่อาจจะเป็นการกระทำเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ส่วนกรณีที่กลุ่ม กวป. เข้ารื้อบังเกอร์ทหาร ที่บริเวณสำนักงาน ป.ป.ช. ทำให้ทหารเปลี่ยนแนวคิดมาใช้มอเตอร์ไซค์ ลาดตะเวน ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี

** ยัน"ทักษิณ"ไม่ได้สั่งให้เจรจาต่อรอง

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า กรณีที่มีการปล่อยข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เว้นวรรคการเมือง1 ปี เพื่อให้มีการเจรจาต่อรองกันนั้น ตนได้ตรวจสอบเรื่องนี้และคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการปล่อยข่าว ไม่มีความคิดนี้ และไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้

ที่สำคัญคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนทั้งประเทศ ให้มาเป็นนายกฯ แล้วถูกกดดันให้ยุบสภา จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นนายกฯรักษาการอยู่ ซึ่งท่านเองไม่ได้หวงอำนาจ แต่ต้องอยู่ทำหน้าที่ต่อไป เพื่อรักษากรอบกติกาประชาธิปไตย และท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็พร้อมที่จะสู้เพื่อรักษากฎหมย กติกาประชาธิปไตย อย่างที่ได้เคยพูดไว้ว่าจะสู้จนนาทีสุดท้าย และพร้อมยอมตายในสนามประชาธิปไตย ดังนั้นอนาคตพรรคเพื่อไทย จะส่งใครลงสมัครเลือกตั้ง ก็เป็นสิ่งที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะได้พิจารณา ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะมีมติใดๆ ออกมา

นายนพดล กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ในไทยระยะนี้ ท่านเห็นว่า 1. ในช่วงนี้จะมีการปล่อยข่าว โดยเฉพาะข่าวล่วงอย่างมาก ตนทราบว่า ขณะนี้ก็มีการปล่อยข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งยืนยันว่า ท่านยังสบายดีอยู่ไม่ได้มีปัญหาใดๆ 2.ท่านมีความเป็นห่วงว่าจะมีการใช้อาวุธสงครามมากขึ้น เพื่อสร้างสถานการณ์ สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม ตนจึงอยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนให้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารในแต่ละวันให้มาก

** "ชินวัตร"เว้นวรรค 1 ปี ไม่มีความหมาย

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี จะให้ตระกูลชินวัตร เว้นวรรคการเมือง 1 ปีหากมีการเลือกตั้ง ว่า พรรคไม่เคยรังเกียจคนตระกูลชินวัตร เพราะทุกคนมีสิทธิตัดสินใจทางการเมือง แต่ปัญหาอยู่ที่พฤติกรรมของระบอบทักษิณ ที่มีการทุจริต คอร์รัปชัน เล่นพรรคเล่นพวก เป็นเผด็จการรัฐสภา ทำลายระบบการถ่วงดุลย์ตรวจสอบ ลดความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ใช้ความรุนแรง นำมวลชนทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ที่รากเหง้าของปัญหา เพราะแม้จะเปลี่ยนนามสกุลเข้ามาทำงาน แต่ยังทำงานภายใต้การชี้นำของระบอบทักษิณ ความรุนแรงในประเทศก็ยังดำเนินต่อไป

"น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องออกจากการเมือง แต่ต้องลบล้างความผิดแทนพี่ชาย ด้วยการบอกว่า ประเทศไทยจะไม่มีระบอบทักษิณ ไม่มีรัฐบาลลุแก่อำนาจ ไม่มีการใช้ความรุนแรง ไม่มีการทุจริต ทุกคนจะเคารพกระบวนการยุติธรรม ก็จะทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตร ยังอยู่ในการเมืองได้ เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล "

นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และเลขานปช. ยังคงออกมาเปิดเผยรายชื่อครม.รัฐบาลคนกลางว่า เป็นการใช้ยุทธศาสตร์ป้ายสี ว่าคนเหล่านี้ว่าไม่เป็นกลาง แต่เป็นพวกเดียวกับ กปปส. และประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นวิธีการเดิมที่เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้ก็จะลดความน่าเชื่อถือว่าด้วยการผลักคนที่วิจารณ์ให้เป็นศัตรู หวังเป็นรัฐบาลชุดต่อไป เพื่อสร้างกระแสว่าคนเหล่านี้จ้องล้มรัฐบาลทั้งที่ แกนนำ กปปส.ยืนยันแล้วว่าจะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลหรือสภาประชาชนที่จะมีการจัดตั้งขึ้น

" ผมฝากไปถึงพี่น้องเสื้อแดงที่เคยถูกจองจำ หรือพ้นคดีไปแล้วว่า อย่ามาเป็นกำแพงกั้นเรือนจำให้แกนนำเสื้อแดงเลย พวกท่านอย่าหลงเชื่อแกนนำเหล่านี้ที่พยายามใช้ท่านเพื่อรักษาอำนาจและเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง" นายชวนนท์ กล่าว

**ยิงระเบิด 4 ลูกใส่เวทีแจ้งวัฒนะ แต่ตกปตอ.

เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. (วันที่ 26 มี.ค.) ร.ต.ท.สำรวม แสงทอง ร้อยเวร สน.ทุ่งสองห้องได้รับแจ้งเหตุเกิดเสียงดังคล้ายระเบิด 3 ครั้ง พร้อมเสียงปืนดังตามหลังประมาณ 10 นัด บริเวณหลังเวทีการชุมนุม กปปส. แจ้งวัฒนะ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณเขตรั้วกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 (ปตอ.) พบระเบิดตกอยู่จำนวน 3 ลูก บริเวณโรงจอดรถ กองร้อย.บก.ปตอ.พัน.6 จำนวน 1 ลูก กองร้อย ปตอ.พัน. 6 ร้อย.1 จำนวน 1 ลูก และตัวอาคารด้านล่าง ปตอ.พัน.6 ร้อย.1 อีก 1 ลูก ซึ่งแรงของระเบิดส่งผลทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหาย จากการตรวจสอบเหตุดังกล่าวไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้บริเวณที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากหลังเวที กปปส.แจ้งวัฒนะ ประมาณ 300 เมตร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สรรพาวุธได้เดินทางเข้าตรวจสอบระเบิดภายใน ปตอ.ใกล้เวทีชุมนุม กปปส.แจ้งวัฒนะ สรุปคนร้ายยิงระเบิด 4 ลูก ระเบิดทำงาน 3 ลูก อีก 1 ลูกซึ่งตกใกล้เวทีชุมนุม กปปส.มากที่สุด ประมาณ 100 เมตร ไม่ระเบิด

หลวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้น ว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารถอนกำลังรักษาความปลอดภัยประมาณ 1 สัปดาห์ ก็มีผู้ลงมือปฏิบัติการก่อเหตุทันที โดยเมื่อคืน มีการยิงเอ็ม 79 จำนวน 4 ลูก แต่เข้าใจว่า ผู้บอกวิถียิงผิด ทำให้ไปตกลงในพื้นที่ของปตอ.

อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมไม่ไว้วางใจและคิดพึ่งการทำหน้าที่ของตำรวจ เนื่องจากเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ปะทะที่หลักสี่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้เราและมวลชนหลบ เพราะมีกลุ่มกำลังคนที่จะมาถล่ม แต่ทำไมไม่จัดการกับกลุ่มคนดังกล่าว

ด้านพล.ต.ต.อนุชา รมยนันท์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ยังคงเน้นย้ำ และสั่งการในที่ประชุม ให้เร่งรัดติดตามจับกุมคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง โดยเฉพาะเหตุลอบยิงเอ็ม 79 พร้อมระบุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการประเมินสถานการณ์ และมีข้อสั่งการให้เฝ้าระวังการก่อเหตุ โดยเฉพาะบ้านพักบุคคลสำคัญ สถานที่ราชการ ป้องกันการยิงอาวุธวิถีโค้งในระยะ 400 เมตร ซึ่งตำรวจจะมีการตั้งด่าน หรือ คัดกรองอาวุธ อย่างเข้มงวดมากขึ้น ยืนยันการการตั้งด่านตรวจ ซึ่งมีผลการจับกุมอาวุธได้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประชาชน มีความมั่นใจมากขี้น ส่วนกรณีที่มีการเล็ดลอดก็จะเร่งรัดจับกุมต่อไป ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบชนิดของอาวุธที่ก่อเหตุเพื่อหาความส่วนเชื่ยมโยงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกัน

**M-79ลง ปตอ.พัน.6 "ประยุทธ์"เฉย

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่คนร้ายลอบยิงระเบิด เอ็ม79 ตกในพื้นที่กองร้อยที่ 1 ของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ที่ 6 ( ปตอ.พัน. 6 ) ส่งผลให้ตัวอาคารรับความเสียหายว่า การใช้อาวุธต่อพื้นที่การชุมนุมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในพื้นที่ชุมนุมบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด จึงทำให้การเล็งเป้าหมายเกิดความคลาดเคลื่อน รวมถึงอาวุธลักษณะดังกล่าว ใช้กับพื้นที่ที่ห่างออกไปโดยการลักลอบแอบยิงตามซอกซอยต่างๆ เพราะเป็นอาวุธวิถีโค้ง ไม่จำเป็นต้องเล็งตรง อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยทหาร มีความเข้มงวดอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าหน่วยดังกล่าวอยู่ใกล้พื้นที่ชุมนุม และถือสุ่มเสี่ยง จึงต้องปรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์

พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึง กรณีที่กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย( กวป.) รื้อแนวบังเกอร์ทหารบริเวณด้านหน้าคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกองทัพต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าเพื่อไม่ให้สถานการณ์เป็นไปในเชิงลบ

ทั้งนี้ ในพื้นที่ ป.ป.ช.ถือเป็นจุดเสี่ยงในการใช้อาวุธ ทหารจำเป็นต้องดูแล แต่เมื่อมีมวลชนกดดันเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากให้มีการปะทะแต่อยากให้ข้อคิดว่า หากมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ทางแกนนำกลุ่ม กวป. ต้องรับผิดชอบ การกระทำดังกล่าวถือไม่ถูกต้องเหมาะสม ทหารตั้งจุดตรวจตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) เพราะ ป.ป.ช.เป็นจุดเสี่ยงที่จะใช้ความรุนแรง ทหารจำเป็นต้องประคองสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรง และเกิดการเผชิญหน้า

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีการส่งชุดหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดของกองทัพ (อีโอดี) เข้าไปตรวจสอบ เอ็ม79 ที่ยิงตกในพื้นที่หน่วยมีจำนวน 5 ลูก 4 ลูกระเบิด อีก 1 ลูกไม่ทำงาน และไม่ส่งผลกระทบต่ออาวุธและยุทโธปกรณ์รวมทั้งชีวิตกำลังพล ในหน่วยดังกล่าว

นอกจากนี้ จุดตรวจความมั่นคงได้ส่งทหารไปลาดตระเวน ก็ไม่พบผู้กระทำความผิด เพราะเส้นทางเข้าออกหลายเส้นทาง แต่เบื้องต้นได้ประสานตำรวจดำเนินคดี แต่ยอมรับว่า พื้นที่ดังกล่าวดูแลลำบาก เพราะมีทางเข้าออกหลายทาง แต่จะเพิ่มมาตรการดูแลให้ปลอดภัย ทั้งประชาชน และหน่วยทหาร อย่างไรก็ตาม ชุดอีโอดี ระบุว่า ทิศทางการยิงจุดมุ่งหมายไปยัง ถนนแจ้งวัฒนะ

**เตรียมถกผบ.เหล่าทัพแสดงท่าทีทหาร

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม กปปส. และ กลุ่ม นปช. นัดชุมนุมใหญ่ ว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมามีกลุ่มผู้ชุมนุมมายื่นหนังสือให้กับตน โดยมีเนื้อหาเพื่อเรียกร้องให้ทหารร่วมดำเนินการกับฝ่ายประชาชน ซึ่งแกนนำคือ กปปส. และเรียกร้องให้ทหารแสดงบทบาทในการทำหน้าที่ให้ชัดเจน คือ ไม่ให้มีการปฏิวัติ และเรียกร้องให้ทหารเป็นกลาง พยายามไม่ให้คน หรือสถานที่ นำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการเมือง ซึ่งเราคงไม่ต้องมีคณะกรรมการ แต่เราพิจารณาดูเป็นเรื่องๆไปว่า โดยภาพรวมของผบ.เหล่าทัพ มีความเห็นอย่างไร และเราจะทำไปในทิศทางเดียวกันทั้งกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ

เมื่อถามว่า จะมีการประชุม ผบ.เหล่าทัพ เพื่อแสดงจุดยืนและท่าทีของกองทัพต่อสถานการณ์การเมืองหรือไม่ หลัง คปท.ไปยื่นหนังสือ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ถ้าเราจะแสดงบทบาทอะไร เราจะมีการประชุม และดำเนินการเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อถามว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะขอใช้พื้นที่กองทัพอากาศ ในการจัดการประชุม จะอนุญาตให้ใช้หรือไม่ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ถ้าในฐานะของ รมว.กลาโหม เราก็พร้อมดำเนินการ

*"ถวิล"เข้าพบ"หลวงปู่พุทธะอิสระ"

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ ที่เรือน บ้านทรงไทย นายถวิล เปลี่ยนศรี ว่าที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบหลวงปู่พุทธะอิสระ เพื่อเจรจาประสานงานให้เจ้าหน้าที่ของ สมช. เข้าทำงานที่ศูนย์ราชการอาคารบี โดยใช้เวลาในการเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้ นายถวิลได้แจ้งกับหลวงปู่พุทธะอิสระว่า วันนี้มาเจรจาเพื่อประสานให้เจ้าหน้าที่ของ สมช. เข้าทำงานในศูนย์ราชการอาคารบี ซึ่งเดิมสถานที่ทำงานของ สมช. มีอยู่ 2 แห่ง คือ ที่ทำเนียบรัฐบาล และศูนย์ราชการอาคาร บี แต่เมื่อมีการชุมนุมก็ทำให้ไม่สามารถเข้าทำงานได้ทั้ง 2 แห่ง จึงย้ายมาทำงานที่สำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ ต่อมาตนได้รับทราบจากหลวงปู่พุทธะอิสระ ว่า ตอนที่หลวงปู่ฯ มาก็ไม่มีใครอยู่ทำงานแล้ว โดยวันนี้ตนมาประสานงานเพื่อพูดคุยว่าทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ชุมนุม ซึ่งดังที่ทราบกันว่า เมื่อคืนวานนี้ได้เกิดเหตุความไม่ปลอดภัยยิงเอ็ม 79 รวมทั้งไม่ต้องการให้เกิดปัญหาด้านการจราจร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถือว่าตนไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนรอ กกต.ดำเนินการก่อน จากนั้นรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่เพราะเห็นว่า รองเลขาธิการ 2 คน และข้าราชการ สมช. มีเจตนาดี แต่สถานที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานเป็นอย่างมาก และหากเข้ามาทำงานได้จะเกิดประโยชน์ต่อสังคม และราชการแผ่นดินไม่เสียหาย ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมาขออนุญาตหลวงปู่ฯ เข้าทำงาน เพราะหลวงปู่ฯ ก็ไม่มีอำนาจอนุญาตให้ใครเข้า หรือไม่ให้ใครเข้า

นายถวิล ยังแสดงความเห็นเรื่องแนวคิดสภาชาวนา ของหลวงปู่ฯ ว่า ตนเห็นด้วยเพราะเป็นไปตามหลักการสหกรณ์ ซึ่งทำให้ชาวนาพึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องไปฝากความหวังไว้กับโครงการรัฐประกันราคาข้าว

ด้านหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ดีใจและภูมิใจ ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายถวิล ซึ่งเป็นข้าราชการที่กล้าหาญของประเทศไทย และควรยกย่องให้เป็นต้นแบบของข้าราชการตัวอย่าง ดังนั้น ขอให้นายถวิล ขึ้นเวที กปปส.แจ้งวัฒนะ เล่าให้ผู้ชุมนุมได้รับรู้ถึงกระบวนการต่อสู้จนได้รับชัยชนะในที่สุด

ส่วนกรณีที่ สมช.จะเข้ามาทำงานที่อาคารบีนั้น หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างมาก เพราะครั้งแรกที่มาถึงก็มีแต่ตึกร้าง ไม่มีข้าราชการมาทำงานแล้ว ยกเว้นสำนักงานอัยการ กับศาลปกครอง และศาลล้มละลาย ซึ่งเป็นภาระต้องจัดกำลังคนมาดูแลป้องกันไม่ให้มีผู้ก่อเหตุร้าย และถูกใส่ร้ายภายหลังได้ พร้อมยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยห้ามข้าราชการเข้าทำงาน

นอกจากนี้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ยังได้เชิญให้นายถวิล และ รองเลขาธิการ สมช. ทั้ง 2 คน มาร่วมพิธีบวชนาคเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับผู้ชุมนุม กปปส. และประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุการเมือง พร้อมกันนี้ขอให้มาเป็นเกียรติมอบโล่ให้แก่ชาวนาที่ชนะการแข่งขัน “อีแต๊ก อีแต๋นแรลลี่”
กำลังโหลดความคิดเห็น