**“หาคนจริงใจกับผมยาก คนใกล้ตัววางยา เพราะอยากอยู่บนอำนาจนานๆ !” เสียงบ่นจาก “นายใหญ่”พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตัดพ้อองคาพยพตัวเอง ผ่านลิ่วล้อที่กระเสือกกระสนนั่งเรือบินไปสนทนาด้วยที่ต่างแดน
ตามอาการรับสารภาพศึกชิงเมืองงวดนี้หนักหนา “ปูกรรเชียง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม น้องสาวในไส้ ยากจะฝ่าวิกฤติออกมาได้ เรื่องของเรื่องส่วนใหญ่เป็นเพราะความห่วยของคณะทำงาน ตามสัญญาณที่ลิ่วล้อแปรรหัสออกมาให้ได้ฟัง
สอดคล้องกับสถานการณ์จริง “ปูกรรเชียง”กำลังจะกระดองแตกตาย แพ้ภัยตัวเอง ก็ว่าด้วยเรื่องคนรอบข้างที่ชั้นเชิงการเมืองยังอ่อนหัด คิดแต่ละอย่างพลันจะมัดนายตัวเองทั้งสิ้น
**สุดท้ายมองได้ไม่ต่างอะไรจากการวางยา ที่ “ปูกรรเชียง”ต้องซดดื่มอยู่เป็นอาจินต์
ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันใกล้จวนเจียนที่มะม่วงจะหล่นลงท้องร่องเต็มแก่ คดีความต่างๆ อยู่ในช่วงสุกดิบทยอยกันถาโถมใส่ เด้งไปทางไหนก็เจอคุก เจอตะราง คลำไม่เจอทางออกสักที ชนิดเรียงคิวกันตอกลิ่ม
ที่ผิดๆ กันไปแล้ว ก็ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ศาลรัฐธรรมนูญฟันฉับตีตกไปตามกัน ขัดรัฐธรรมนูญเรียบวุธ
คดีเด้ง นายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการ ศาลปกครองสูงสุดก็ตวงชั่งว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ ตอกหน้าหงายให้คืนตำแหน่งให้
**คดีใหญ่ๆ สำคัญๆ รัฐบาลรักษาการพังพาบ แพ้ทุกคดี ด้วยจำนนต่อพยานหลักฐานแบบจนมุม
แล้วยังมีคดีที่ต่อแถวรอเชือดกันเป็นอีกโขยง เอาที่หนักหนาสาหัส คัดเฉพาะเขย่ารัฐบาลได้ ก็กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รอวินิจฉัยการเลือกตั้งทั่วไป 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะหรือไม่ ตามคำร้องที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ตีความ
ต่อด้วยดาบสุดท้าย ปมอภิมหากาพย์โกงจำนำข้าว ในมือคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ง้างรอประหารอยู่ไม่กี่อึดใจ
**เรียกว่า ได้ตายคาสนามประชาธิปไตย ตกต้องไปตามกระบวนการยุติธรรมสมใจอยากแน่ !!
เหล่านี้ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากยุทธศาสตร์ของคนรอบข้างที่ประเคนให้แบบโกรธเคืองกันไม่ได้ ด้วยเพราะเขลาเลยโดนเป่ากระหม่อมกันง่ายๆเอง
ว่ากันตามระยะเวลา 2 ปี 4 เดือน ที่นั่งแช่อยู่บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี “ปูกรรเชียง” ก็ใช้ยุทธวิธีแบบนี้มาตลอด เลยถึงโงนเงนกันจนมีวันนี้ เหมือนที่ “นายใหญ่”บ่นให้ลิ่วล้อฟัง ส่งคนเป็นการเมืองไปให้ แต่กลับเลือกใช้พวกไม่ประสาการเมือง มันเลยออกมาไม่ได้ดั่งใจอย่างที่เห็น
**แต่จะโทษใคร ในเมื่อน้องสาวตัวเองเลือกเอง !!
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ แค่ 49 วัน “ปูกรรเชียง”มักใช้คนรอบข้างเป็นคนวางหมากวางเกมให้เดินเสมอมา โดยเฉพาะยุทธวิธี “ลอยตัว”ในทุกเรื่อง ที่อาจกระทบกระเทือนเก้าอี้ตัวเอง
ทั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ตัวเองเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) โดยตำแหน่ง แต่ก็ผลักไปให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ในขณะนั้นทำหน้าที่แทน เพราะกลัวว่า จะไปพัวพันกับขบวนการเขมือบข้าวเอา
แต่สุดท้ายพอคดีมาอยู่ในมือ ป.ป.ช. ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน คนเป็นนายกฯ ยังไงก็เด้งเชือกหนีไม่พ้น โดนแจ้งข้อกล่าวหากันไปตามระเบียบ
เหมือนกับปมโยกย้าย นายถวิล ที่ตอนย้ายก็ให้คนอื่นจัดแจงให้เสร็จสรรพ แต่พอศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คืนตำแหน่ง คนที่โดนตราหน้าว่า โยกย้ายไม่เป็นธรรม ก็ต้องเป็นนายกฯ ในฐานะคนเซ็นคำสั่ง
แล้วก็เหมือนจะยังไม่เข็ดหลาบ กับคิวล่าสุด หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง “ปูกรรเชียง”ยังเชื่อกุนซือข้างกายอาจยื้อการคืนตำแหน่งให้นายถวิล ตามที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ขู่คำรามใส่เลยว่า หากไม่ทันตามกรอบเวลา 45 วัน ศาลก็บังคับไม่ได้
หรือจะเป็นในราย “ส.ร่างท้วม”นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการเลขาธิการนายกฯ ที่ข่าว แว่วว่า อาจเล่นตุกติกหลายกระบวนความ ทั้งยื้อ ทั้งแกล้งถ่วง ด้วยกลเม็ดวิชามาร ที่พอจะเปิดอ้าให้
ทีมงานข้างกายเดินเครื่องป้อนยุทธวิธีให้ ทั้งที่ไม่รู้ว่า มาถูกทางหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ถ้าโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่คนคิดไอเดียพวกนี้ ก็แล้วกัน แต่เป็น“ปูกรรเชียง”ในฐานะผู้บังคับบัญชาตามคำสั่งศาล
**โดนป้อนยาพิษให้ดื่มก็ต้องดื่ม เพราะไม่รู้ !!
คล้ายๆ กับการประกาศใช้พระราชกำหนดบริราชราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่โยนให้ “ขี้ข้าเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน เป็นผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) รับเหมาสัมปทานแหย่เท้าเข้าตะรางไปหนึ่งข้างคนเดียว แล้วตัวเองกรรเชียงออกเพื่อความปลอดภัย
แต่สุดท้ายพอขึ้นโรงขึ้นศาล โดนแจ้งความข้อหาฆ่าคนตาย ก็มิวายถูกฟ้องกันไปแบบยกขั้ว โดยเฉพาะ “ปูกรรเชียง”ที่เลี่ยงไม่พ้น โดนติดสอยห้อยตามตัวบทกฎหมายในฐานะผู้นำสูงสุด โดยที่ตัวเองไม่ได้มาประชุมร่วมสังฆกรรมเลยสังครั้ง
**ลูกน้องไปทำแผนชั่วกันไว้อย่างไร นายหญิง ต้องรับด้วย
เหมือนกันกับยุคนั้น ที่ “เดอะมาร์ค”นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ “กำนันเทือก”นายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดนสั่งฟ้องแบบแพ็กคู่ มายุคนี้ก็ “ปูกรรเชียง”กับ “ขี้ข้าเหลิม” อย่างไรอย่างงั้น
**โดนไปอีกกระทงเต็มๆ !!
นอกจากการวางยุทธศาสตร์พลาดๆ หลายครั้ง ทีมงาน “แก๊งไอติม”ยังผุดแนวคิดแป้กๆ แบบบ้องตื้นอยู่เป็นประจำมาป้อน“ปูกรรเชียง” เหมือนกับที่ “นายใหญ่”ประชดประชันตัดพ้อเอาไว้ว่า ไม่เป็นการเมือง
โดยเฉพาะเที่ยวล่าสุด ที่ไอเดียบรรเจิด กะงัดปมความเสียหายทางเศรษฐกิจมาแก้เกมม็อบ กปปส. ตามคิวที่เฟซบุ๊ก “ปูกรรเชียง”ระยะหลังพล่ามแต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจ อย่างเดียว
พร้อมสั่งให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงไปรวบรวมความเสียหาย ตั้งแต่มีการชุมนุมของกปปส. ออกมาตีฆ้องร้องเป่า ให้ชาวบ้านชาวช่องได้เห็น ในช่วงที่ม็อบนกหวีดถอยกลับสู่ที่ตั้งสวนลุมพินี เพื่อนั่งรอลุ้นผลมะม่วง
ตามเป้าหมายที่จะดิสเครดิตทำลายความชอบธรรมม็อบ และตัดสกัดท่อน้ำเลี้ยงให้เลิกอุดหนุนการชุมนุม
**แต่ก็เข็มขัดสั้น โลกสวย เพราะมันไม่มีใครเชื่อน้ำยา !!
แถมยังปล่อยไก่เอาฮา โพสต์ประเด็นเศรษฐกิจแต่ละอย่าง งงเป็นไก่ตาแตก ออกอ่าวออกทะเล บางเรื่องไม่เกี่ยวไม่ข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สำคัญ เจ้าของเฟซบุ๊กอย่าง “ปูกรรเชียง” เองจะเข้าใจหรือเปล่ายังไม่รู้
วันนี้นอกจากวีรกรรมการทุจริตที่เครือข่ายไปปู้ยี้ปู้ยำประเทศที่กำลังจะทำรัฐบาลพัง “แก๊งไอติม”อ่อนพรรษาก๊กนี้แหละ ก็กำลังจะทำ “ปูกรรเชียง”ตายคาเก้าอี้
**เพราะคนพวกนี้จะคิดไอเดียอย่างไรประเคนก็ได้ สุดท้ายตัวเองไม่ใช่คนติดคุก
ตามอาการรับสารภาพศึกชิงเมืองงวดนี้หนักหนา “ปูกรรเชียง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม น้องสาวในไส้ ยากจะฝ่าวิกฤติออกมาได้ เรื่องของเรื่องส่วนใหญ่เป็นเพราะความห่วยของคณะทำงาน ตามสัญญาณที่ลิ่วล้อแปรรหัสออกมาให้ได้ฟัง
สอดคล้องกับสถานการณ์จริง “ปูกรรเชียง”กำลังจะกระดองแตกตาย แพ้ภัยตัวเอง ก็ว่าด้วยเรื่องคนรอบข้างที่ชั้นเชิงการเมืองยังอ่อนหัด คิดแต่ละอย่างพลันจะมัดนายตัวเองทั้งสิ้น
**สุดท้ายมองได้ไม่ต่างอะไรจากการวางยา ที่ “ปูกรรเชียง”ต้องซดดื่มอยู่เป็นอาจินต์
ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันใกล้จวนเจียนที่มะม่วงจะหล่นลงท้องร่องเต็มแก่ คดีความต่างๆ อยู่ในช่วงสุกดิบทยอยกันถาโถมใส่ เด้งไปทางไหนก็เจอคุก เจอตะราง คลำไม่เจอทางออกสักที ชนิดเรียงคิวกันตอกลิ่ม
ที่ผิดๆ กันไปแล้ว ก็ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ศาลรัฐธรรมนูญฟันฉับตีตกไปตามกัน ขัดรัฐธรรมนูญเรียบวุธ
คดีเด้ง นายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการ ศาลปกครองสูงสุดก็ตวงชั่งว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ ตอกหน้าหงายให้คืนตำแหน่งให้
**คดีใหญ่ๆ สำคัญๆ รัฐบาลรักษาการพังพาบ แพ้ทุกคดี ด้วยจำนนต่อพยานหลักฐานแบบจนมุม
แล้วยังมีคดีที่ต่อแถวรอเชือดกันเป็นอีกโขยง เอาที่หนักหนาสาหัส คัดเฉพาะเขย่ารัฐบาลได้ ก็กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รอวินิจฉัยการเลือกตั้งทั่วไป 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะหรือไม่ ตามคำร้องที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ตีความ
ต่อด้วยดาบสุดท้าย ปมอภิมหากาพย์โกงจำนำข้าว ในมือคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ง้างรอประหารอยู่ไม่กี่อึดใจ
**เรียกว่า ได้ตายคาสนามประชาธิปไตย ตกต้องไปตามกระบวนการยุติธรรมสมใจอยากแน่ !!
เหล่านี้ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากยุทธศาสตร์ของคนรอบข้างที่ประเคนให้แบบโกรธเคืองกันไม่ได้ ด้วยเพราะเขลาเลยโดนเป่ากระหม่อมกันง่ายๆเอง
ว่ากันตามระยะเวลา 2 ปี 4 เดือน ที่นั่งแช่อยู่บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี “ปูกรรเชียง” ก็ใช้ยุทธวิธีแบบนี้มาตลอด เลยถึงโงนเงนกันจนมีวันนี้ เหมือนที่ “นายใหญ่”บ่นให้ลิ่วล้อฟัง ส่งคนเป็นการเมืองไปให้ แต่กลับเลือกใช้พวกไม่ประสาการเมือง มันเลยออกมาไม่ได้ดั่งใจอย่างที่เห็น
**แต่จะโทษใคร ในเมื่อน้องสาวตัวเองเลือกเอง !!
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ แค่ 49 วัน “ปูกรรเชียง”มักใช้คนรอบข้างเป็นคนวางหมากวางเกมให้เดินเสมอมา โดยเฉพาะยุทธวิธี “ลอยตัว”ในทุกเรื่อง ที่อาจกระทบกระเทือนเก้าอี้ตัวเอง
ทั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ตัวเองเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) โดยตำแหน่ง แต่ก็ผลักไปให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ในขณะนั้นทำหน้าที่แทน เพราะกลัวว่า จะไปพัวพันกับขบวนการเขมือบข้าวเอา
แต่สุดท้ายพอคดีมาอยู่ในมือ ป.ป.ช. ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน คนเป็นนายกฯ ยังไงก็เด้งเชือกหนีไม่พ้น โดนแจ้งข้อกล่าวหากันไปตามระเบียบ
เหมือนกับปมโยกย้าย นายถวิล ที่ตอนย้ายก็ให้คนอื่นจัดแจงให้เสร็จสรรพ แต่พอศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คืนตำแหน่ง คนที่โดนตราหน้าว่า โยกย้ายไม่เป็นธรรม ก็ต้องเป็นนายกฯ ในฐานะคนเซ็นคำสั่ง
แล้วก็เหมือนจะยังไม่เข็ดหลาบ กับคิวล่าสุด หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง “ปูกรรเชียง”ยังเชื่อกุนซือข้างกายอาจยื้อการคืนตำแหน่งให้นายถวิล ตามที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ขู่คำรามใส่เลยว่า หากไม่ทันตามกรอบเวลา 45 วัน ศาลก็บังคับไม่ได้
หรือจะเป็นในราย “ส.ร่างท้วม”นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการเลขาธิการนายกฯ ที่ข่าว แว่วว่า อาจเล่นตุกติกหลายกระบวนความ ทั้งยื้อ ทั้งแกล้งถ่วง ด้วยกลเม็ดวิชามาร ที่พอจะเปิดอ้าให้
ทีมงานข้างกายเดินเครื่องป้อนยุทธวิธีให้ ทั้งที่ไม่รู้ว่า มาถูกทางหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ถ้าโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่คนคิดไอเดียพวกนี้ ก็แล้วกัน แต่เป็น“ปูกรรเชียง”ในฐานะผู้บังคับบัญชาตามคำสั่งศาล
**โดนป้อนยาพิษให้ดื่มก็ต้องดื่ม เพราะไม่รู้ !!
คล้ายๆ กับการประกาศใช้พระราชกำหนดบริราชราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่โยนให้ “ขี้ข้าเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน เป็นผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) รับเหมาสัมปทานแหย่เท้าเข้าตะรางไปหนึ่งข้างคนเดียว แล้วตัวเองกรรเชียงออกเพื่อความปลอดภัย
แต่สุดท้ายพอขึ้นโรงขึ้นศาล โดนแจ้งความข้อหาฆ่าคนตาย ก็มิวายถูกฟ้องกันไปแบบยกขั้ว โดยเฉพาะ “ปูกรรเชียง”ที่เลี่ยงไม่พ้น โดนติดสอยห้อยตามตัวบทกฎหมายในฐานะผู้นำสูงสุด โดยที่ตัวเองไม่ได้มาประชุมร่วมสังฆกรรมเลยสังครั้ง
**ลูกน้องไปทำแผนชั่วกันไว้อย่างไร นายหญิง ต้องรับด้วย
เหมือนกันกับยุคนั้น ที่ “เดอะมาร์ค”นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ “กำนันเทือก”นายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดนสั่งฟ้องแบบแพ็กคู่ มายุคนี้ก็ “ปูกรรเชียง”กับ “ขี้ข้าเหลิม” อย่างไรอย่างงั้น
**โดนไปอีกกระทงเต็มๆ !!
นอกจากการวางยุทธศาสตร์พลาดๆ หลายครั้ง ทีมงาน “แก๊งไอติม”ยังผุดแนวคิดแป้กๆ แบบบ้องตื้นอยู่เป็นประจำมาป้อน“ปูกรรเชียง” เหมือนกับที่ “นายใหญ่”ประชดประชันตัดพ้อเอาไว้ว่า ไม่เป็นการเมือง
โดยเฉพาะเที่ยวล่าสุด ที่ไอเดียบรรเจิด กะงัดปมความเสียหายทางเศรษฐกิจมาแก้เกมม็อบ กปปส. ตามคิวที่เฟซบุ๊ก “ปูกรรเชียง”ระยะหลังพล่ามแต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจ อย่างเดียว
พร้อมสั่งให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงไปรวบรวมความเสียหาย ตั้งแต่มีการชุมนุมของกปปส. ออกมาตีฆ้องร้องเป่า ให้ชาวบ้านชาวช่องได้เห็น ในช่วงที่ม็อบนกหวีดถอยกลับสู่ที่ตั้งสวนลุมพินี เพื่อนั่งรอลุ้นผลมะม่วง
ตามเป้าหมายที่จะดิสเครดิตทำลายความชอบธรรมม็อบ และตัดสกัดท่อน้ำเลี้ยงให้เลิกอุดหนุนการชุมนุม
**แต่ก็เข็มขัดสั้น โลกสวย เพราะมันไม่มีใครเชื่อน้ำยา !!
แถมยังปล่อยไก่เอาฮา โพสต์ประเด็นเศรษฐกิจแต่ละอย่าง งงเป็นไก่ตาแตก ออกอ่าวออกทะเล บางเรื่องไม่เกี่ยวไม่ข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สำคัญ เจ้าของเฟซบุ๊กอย่าง “ปูกรรเชียง” เองจะเข้าใจหรือเปล่ายังไม่รู้
วันนี้นอกจากวีรกรรมการทุจริตที่เครือข่ายไปปู้ยี้ปู้ยำประเทศที่กำลังจะทำรัฐบาลพัง “แก๊งไอติม”อ่อนพรรษาก๊กนี้แหละ ก็กำลังจะทำ “ปูกรรเชียง”ตายคาเก้าอี้
**เพราะคนพวกนี้จะคิดไอเดียอย่างไรประเคนก็ได้ สุดท้ายตัวเองไม่ใช่คนติดคุก