เอเอฟพี/เอเจนซี-มาเลเซียขยายขอบเขตค้นหาเครื่องบินเข้าไปในทะเลอันดามัน เหนือเกาะสุมาตรา ห่างจากจุดเดิมหลายร้อยกิโลเมตร เผยโดนจวกรับมือสถานการณ์ไม่เป็นระบบ ด้านเวียดนามระงับการค้นหาทางอากาศ แต่ยังค้นหาทางเรือต่อไป หลังมาเลเซียไม่ค่อยให้ความร่วมมือ สื่อจีนเผยคณะจิตรกรพู่กันและผู้ติดตาม 29 ราย หายไปพร้อมเที่ยวบินดังกล่าว
ความคืบหน้าเที่ยวบิน MH 370 พร้อมลูกเรือและผู้โดยสารรวม 239 ชีวิตที่ได้สูญหายไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะมุ่งหน้าออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง ได้จุดชนวนให้หลายประเทศร่วมกันพลิกผืนน้ำทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อตามหาเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ลำนี้
ล่าสุด อะซารุดดิน อับดุลเราะห์มาน อธิบดีกรมการบินพลเรือนมาเลเซีย กล่าวว่า มีการส่งเรือและเครื่องบินหลายลำออกดำเนินภารกิจค้นหาทางตอนใต้ของทะเลอันดามัน เหนือเกาะสุมาตรา ห่างจากจุดเดิมหลายร้อยกิโลเมตร และแม้ว่าบริเวณนั้นจะเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ แต่จะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป ต้องตรวจสอบทุกจุดที่มีความเป็นไปได้
ทั้งนี้ สุมาตรา คือ เกาะขนาดใหญ่ของอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลอันดามัน ผืนน้ำนอกชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของไทย
บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้ขยายขอบเขตการค้นหา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาระบุว่ามีข้อมูลเรดาร์ซึ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เครื่องบินลำนี้จะเปลี่ยนทิศทางขณะบินเหนือทะเลจีนใต้ แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลเรดาร์ที่ว่า
โดยตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรับผิดชอบ ได้ดำเนินปฏิบัติการค้นหาในทะเลจีนใต้ จุดที่อยู่ระหว่างมาเลเซียกับเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกกังวลในเรื่องเครื่องบินที่หายไป ได้กระตุ้นให้คนจำนวนมากพากันโกรธแค้นและคลางแคลงสงสัยมาเลเซีย ขณะที่บรรดานักวิจารณ์ต่างพุ่งเป้าโจมตีไปที่เจ้าหน้าที่ว่าขาดการประสานงานเพื่อรับมือกับสถานการณ์ จนเกิดความสับสนวุ่นวาย
"ตอนนี้ชาวมาเลเซียเริ่มหมดความอดทนกับการค้นหาลูกเรือและผู้โดยสาร 239 คนที่สูญหายไปกับเที่ยวบิน MH 370 จนแปรเปลี่ยนเป็นความอึดอัดใจและโกรธแค้นแทน"เว็บไซต์ข่าวมาเลเซียนอินไซเดอร์ระบุ
หลายประเทศ เป็นต้นว่า กองทัพเรือสหรัฐฯ ต่างช่วยกันระดมอากาศยานและเรือรบออกค้นหา เพื่อไขปริศนาที่ลึกลับซับซ้อนที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การบิน ทว่ายังไม่พบหลักฐานที่ช่วยชี้เบาะแสเกี่ยวกับชะตากรรมของเครื่องบินลำนี้ได้แม้แต่น้อย
ซายเอ็ด ฟาริส ฮาเคม พนักงานออฟฟิศในกรุงกัวลาลัมเปอร์วัย 26 ปี กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าพวกเขา (สายการบิน) อาจกำลังปกปิดอะไรบางอย่าง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไร ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ออกมาให้ความกระจ่าง และให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกัน
ขณะที่พลอากาศเอก ร็อดซาลี ดาอุด ผู้บัญชาการกองทัพอากาศมาเลเซีย ได้ออกมาปฏิเสธรายงานเมื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งอ้างคำพูดของเขาโดยระบุว่า เรดาร์ทหารสามารถตรวจจับได้ว่าเครื่องบินลำนี้ออกนอกจากเส้นทางในแผนการเดินทางไปไกลถึงช่องแคบมะละกา
เขากล่าวว่า รายงานข่าวนำคำพูดของเขาไปอ้างผิด ทั้งนี้ เขาออกมาชี้แจงหลังมีการตั้งคำถามเรื่องวิธีการที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียใช้รับมือกับสถานการณ์ออกมามากมาย
ในบรรดาข้อมูลที่แย้งกัน ยังรวมถึงข้อมูลที่ขัดแย้งกันในเรื่องชาติพันธ์ของชายสองคน ซึ่งถือพาสปอร์ตที่ถูกขโมยมาเพื่อโดยสารเที่ยวบิน MH 370 หรือมีผู้โดยสารที่ใช้หนังสือเดินทางปลอม 2 หรือ 4 คน และมีผู้โดยสารที่จองตั๋วบางคนตกเครื่องหรือไม่
ทางด้านนายฝ่าม กวี๋ เตียว รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมเวียดนาม กล่าวว่า เราตัดสินใจที่จะระงับปฏิบัติการค้นหาทางอากาศ และกู้ภัยบางส่วนเป็นการชั่วคราว เพื่อรอข้อมูลจากมาเลเซีย แต่ยังคงปฏิบัติการค้นหาทางเรือต่อไป โดยปรับขนาดเล็กลง
"เราได้สอบถามถึงรายงานดังกล่าวไปยังทางการมาเลเซีย 2 ครั้ง แต่จนถึงตอนนี้เรายังไม่ได้รับคำตอบ" นายฝ่าม กวี๋ เตียว กล่าว
ทั้งนี้ เราได้แจ้งมาเลเซียในวันที่เราพบว่าขาดการติดต่อกับเครื่องบินว่าเราสังเกตเห็นว่าเที่ยวบินได้หันกลับไปทางตะวันตก แต่มาเลเซียไม่ได้ตอบสนองอะไร
ทางด้านสื่อจีน โดยซีอาร์ไอ ได้รายงานข่าวว่า มีกลุ่มคณะศิลปินจีนและผู้ติดตามจำนวน 29 คน ได้เดินทางไปร่วมงานสัมมนาภาพเขียนพู่กันจีนในหัวข้อ "ความใฝ่ฝันของจีน ภาพเขียนงามวิจิตร" ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค.2557 และเป็นส่วนหนึ่งของผู้โดยสารเที่ยวบิน MH 370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไประหว่างการเดินทางกลับกรุงปักกิ่ง เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.2557
ความคืบหน้าเที่ยวบิน MH 370 พร้อมลูกเรือและผู้โดยสารรวม 239 ชีวิตที่ได้สูญหายไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะมุ่งหน้าออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง ได้จุดชนวนให้หลายประเทศร่วมกันพลิกผืนน้ำทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อตามหาเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ลำนี้
ล่าสุด อะซารุดดิน อับดุลเราะห์มาน อธิบดีกรมการบินพลเรือนมาเลเซีย กล่าวว่า มีการส่งเรือและเครื่องบินหลายลำออกดำเนินภารกิจค้นหาทางตอนใต้ของทะเลอันดามัน เหนือเกาะสุมาตรา ห่างจากจุดเดิมหลายร้อยกิโลเมตร และแม้ว่าบริเวณนั้นจะเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ แต่จะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป ต้องตรวจสอบทุกจุดที่มีความเป็นไปได้
ทั้งนี้ สุมาตรา คือ เกาะขนาดใหญ่ของอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลอันดามัน ผืนน้ำนอกชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของไทย
บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้ขยายขอบเขตการค้นหา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาระบุว่ามีข้อมูลเรดาร์ซึ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เครื่องบินลำนี้จะเปลี่ยนทิศทางขณะบินเหนือทะเลจีนใต้ แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลเรดาร์ที่ว่า
โดยตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรับผิดชอบ ได้ดำเนินปฏิบัติการค้นหาในทะเลจีนใต้ จุดที่อยู่ระหว่างมาเลเซียกับเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกกังวลในเรื่องเครื่องบินที่หายไป ได้กระตุ้นให้คนจำนวนมากพากันโกรธแค้นและคลางแคลงสงสัยมาเลเซีย ขณะที่บรรดานักวิจารณ์ต่างพุ่งเป้าโจมตีไปที่เจ้าหน้าที่ว่าขาดการประสานงานเพื่อรับมือกับสถานการณ์ จนเกิดความสับสนวุ่นวาย
"ตอนนี้ชาวมาเลเซียเริ่มหมดความอดทนกับการค้นหาลูกเรือและผู้โดยสาร 239 คนที่สูญหายไปกับเที่ยวบิน MH 370 จนแปรเปลี่ยนเป็นความอึดอัดใจและโกรธแค้นแทน"เว็บไซต์ข่าวมาเลเซียนอินไซเดอร์ระบุ
หลายประเทศ เป็นต้นว่า กองทัพเรือสหรัฐฯ ต่างช่วยกันระดมอากาศยานและเรือรบออกค้นหา เพื่อไขปริศนาที่ลึกลับซับซ้อนที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การบิน ทว่ายังไม่พบหลักฐานที่ช่วยชี้เบาะแสเกี่ยวกับชะตากรรมของเครื่องบินลำนี้ได้แม้แต่น้อย
ซายเอ็ด ฟาริส ฮาเคม พนักงานออฟฟิศในกรุงกัวลาลัมเปอร์วัย 26 ปี กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าพวกเขา (สายการบิน) อาจกำลังปกปิดอะไรบางอย่าง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไร ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ออกมาให้ความกระจ่าง และให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกัน
ขณะที่พลอากาศเอก ร็อดซาลี ดาอุด ผู้บัญชาการกองทัพอากาศมาเลเซีย ได้ออกมาปฏิเสธรายงานเมื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งอ้างคำพูดของเขาโดยระบุว่า เรดาร์ทหารสามารถตรวจจับได้ว่าเครื่องบินลำนี้ออกนอกจากเส้นทางในแผนการเดินทางไปไกลถึงช่องแคบมะละกา
เขากล่าวว่า รายงานข่าวนำคำพูดของเขาไปอ้างผิด ทั้งนี้ เขาออกมาชี้แจงหลังมีการตั้งคำถามเรื่องวิธีการที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียใช้รับมือกับสถานการณ์ออกมามากมาย
ในบรรดาข้อมูลที่แย้งกัน ยังรวมถึงข้อมูลที่ขัดแย้งกันในเรื่องชาติพันธ์ของชายสองคน ซึ่งถือพาสปอร์ตที่ถูกขโมยมาเพื่อโดยสารเที่ยวบิน MH 370 หรือมีผู้โดยสารที่ใช้หนังสือเดินทางปลอม 2 หรือ 4 คน และมีผู้โดยสารที่จองตั๋วบางคนตกเครื่องหรือไม่
ทางด้านนายฝ่าม กวี๋ เตียว รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมเวียดนาม กล่าวว่า เราตัดสินใจที่จะระงับปฏิบัติการค้นหาทางอากาศ และกู้ภัยบางส่วนเป็นการชั่วคราว เพื่อรอข้อมูลจากมาเลเซีย แต่ยังคงปฏิบัติการค้นหาทางเรือต่อไป โดยปรับขนาดเล็กลง
"เราได้สอบถามถึงรายงานดังกล่าวไปยังทางการมาเลเซีย 2 ครั้ง แต่จนถึงตอนนี้เรายังไม่ได้รับคำตอบ" นายฝ่าม กวี๋ เตียว กล่าว
ทั้งนี้ เราได้แจ้งมาเลเซียในวันที่เราพบว่าขาดการติดต่อกับเครื่องบินว่าเราสังเกตเห็นว่าเที่ยวบินได้หันกลับไปทางตะวันตก แต่มาเลเซียไม่ได้ตอบสนองอะไร
ทางด้านสื่อจีน โดยซีอาร์ไอ ได้รายงานข่าวว่า มีกลุ่มคณะศิลปินจีนและผู้ติดตามจำนวน 29 คน ได้เดินทางไปร่วมงานสัมมนาภาพเขียนพู่กันจีนในหัวข้อ "ความใฝ่ฝันของจีน ภาพเขียนงามวิจิตร" ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค.2557 และเป็นส่วนหนึ่งของผู้โดยสารเที่ยวบิน MH 370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไประหว่างการเดินทางกลับกรุงปักกิ่ง เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.2557