xs
xsm
sm
md
lg

“ฝ่ายทหารมาเลเซีย” เชื่อ “โบอิ้งที่หาย” ได้บินย้อนกลับมา 500 กม.จนถึง “ช่องแคบมะละกา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ฝ่ายทหารของมาเลเซียกำลังเชื่อว่า โบอิ้ง 777 ที่มีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่บนเครื่องรวม 239 คน และสูญหายอย่างไร้ร่องรอยเป็นเวลาเกือบๆ 4 วันแล้วนั้น แท้ที่จริงหลังจากหายวับไปจากจอของฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศแล้ว ยังคงบินต่อไปอีกเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง โดยที่เปลี่ยนเส้นทางและมุ่งสู่ทิศตะวันตกมาตรงแถวๆ ช่องแคบมะละกา แหล่งข่าวนายทหารอาวุโสของแดนเสือเหลืองรายหนึ่งระบุในวันอังคาร (11 มี.ค.)

ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของมาเลเซียต่างแถลงว่า เครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ (เอ็มเอเอส) เที่ยวบิน MH370 ลำนี้ สูญหายไปในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังทะยานขึ้นจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง

ในเวลาดังกล่าว เครื่องบินลำนี้บินมาถึงราวๆ ครึ่งทางระหว่างเมืองโกตาบารู ที่อยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของมาเลเซีย กับจุดซึ่งอยู่ใต้ที่สุดของแผ่นดินเวียดนาม โดยกำลังบินอยู่ในระดับความสูง 35,000 ฟุต (10,670 เมตร)

“เครื่องบินลำนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางหลังจากโกตาบารู และบินในระดับความสูงที่ต่ำลง โดยที่เครื่องได้เข้ามาจนถึงช่องแคบมะละกา” นายทหารผู้นี้ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับฟังบรรยายสรุปการสืบสวนสอบสวนด้วย เปิดเผยกับรอยเตอร์

ช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่คับคั่งหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั้น อยู่ตรงแนวชายฝั่งด้านตะวันตกของมาเลเซีย

ก่อนหน้านี้ ในวันอังคาร (11) หนังสือพิมพ์เบริตา ฮาริอัน ของมาเลเซีย ได้รายงานข่าวโดยอ้างผู้บัญชาการทหารอากาศ ร็อดซาลี ดาอุด กล่าวว่า เรดาร์ของฝ่ายทหารสามารถตรวจจับเครื่องบินโดยสารลำนี้ได้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 2.40 น.วันเสาร์ (8) บริเวณใกล้ๆ กับเกาะปูเลา เปรัก ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของช่องแคบมะละกา โดยที่โบอิ้ง 777 ลำนี้กำลังบินอยู่ในระดับความสูงราว 9,000 เมตร (29,500 ฟุต) จากนั้นสัญญาณจากเครื่องบินก็สูญหายไป

ทางด้านแหล่งข่าวอีกรายหนึ่งที่ไม่ใช่ฝ่ายทหารและคุ้นเคยกับการสืบสวนสอบสวน กล่าวกับรอยเตอร์ว่า กำลังมีการตรวจสอบรายงานดังกล่าวนี้

“รายงานนี้กำลังถูกตรวจสอบโดยกรมการบินพลเรือน และโดยทีมค้นหาและกู้ภัย” แหล่งข่าวรายนี้ระบุ พร้อมกับบอกว่า “มีรายงานทำนองนี้ปรากฏออกมาเยอะทีเดียว”

เวลา 2.40 น.วันเสาร์ ตามที่หนังสือพิมพ์เบริตา ฮาริอัน อ้างว่าเป็นคำกล่าวของผู้บัญชาการทหารอากาศนั้น เป็นเวลาถัดมาอีก 1 ชั่วโมง 10 นาทีหลังจากที่เครื่องบินลำนี้หายวับไปจากจอของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ ในขณะที่มันกำลังบินอยู่เหนือบริเวณที่เรียกว่า อิการี เวย์พอยต์ ประมาณครึ่งทางระหว่างมาเลเซียกับเวียดนาม

ยังไม่มีคำอธิบายใดๆ ว่า เกิดอะไรขึ้นกับโบอิ้ง 777 ลำนี้ หลังจากนั้น

ถ้าหากรายงานที่อ้างว่ามาจากฝ่ายทหารมาเลเซียนี้ได้รับการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นความจริง ย่อมหมายความว่าเครื่องบินยังคงสามารถพยุงตัวอยู่ในระดับความสูงของการเดินทางตามปกติ และบินไปได้อีกราว 500 กิโลเมตร โดยที่ช่องรับส่งสัญญาณเรดาร์ ตลอดจนระบบติดตามอื่นๆ ของเครื่องดูเหมือนจะถูกปิดหยุดใช้งาน

มาเลเซียได้ประกาศตั้งแต่คืนวันจันทร์ ขยายพื้นที่การปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินออกไปอีกเท่าตัว จนครอบคลุมถึงช่องแคบมะละกาด้วย หลังจากที่ในตอนต้นๆ มุ่งโฟกัสไปที่ที่บริเวณทะเลจีนใต้เท่านั้น

คนอยู่บนเครื่องมีปัญหาส่วนตัวหรือเปล่า

ก่อนหน้านี้ในวันอังคารเช่นกัน ทางการตำรวจมาเลเซียระบุว่า นอกหนือจากติดตามสืบสวนในประเด็นที่ว่าเที่ยวบิน MH370 นี้อาจถูกจี้, ถูกก่อวินาศกรรม, หรือประสบปัญหาความบกพร่องทางกลไกหรือไม่แล้ว พวกเขายังกำลังสืบสวนตรวจสอบด้วยว่า พวกผู้โดยสารและลูกเรือที่อยู่บนเครื่องบิน มีปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาทางจิตวิทยา ซึ่งอาจช่วยอธิบายถึงการหายสูญไปของโบอิ้ง 777 ลำนี้อย่างไรหรือไม่

“อาจจะมีใครบางคนในเที่ยวบินนี้ที่ซื้อประกันเอาไว้เป็นเงินก้อนมหึมา และต้องการให้ครอบครัวได้รับผลประโยชน์ หรืออาจจะมีใครบางคนซึ่งติดหนี้ติดสินเยอะแยะก็ได้ เรากำลังตรวจสอบดูสิ่งที่อาจเป็นไปได้ทั้งหมด” คอลิด อบู บาการ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของมาเลเซีย กล่าวต่อที่ประชุมแถลงข่าว

“เรากำลังตรวจสอบวิดีโอที่ได้รับจาก (ระบบกล้องทีวีวงจรปิด) ที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ อย่างใกล้ขิด เรากำลังศึกษาแบบแผนพฤติกรรมของผู้โดยสารทุกๆ คน”
กำลังโหลดความคิดเห็น