โฆษก ทร.เผยมาเลเซียขอไทยช่วยค้นหาเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สขาดการติดต่อ ผบ.ทร.สั่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ส่งเรือหลวงปัตตานี เฮลิคอปเตอร์ และหน่วยซีลปฏิบัติภารกิจทุกวัน เผยออกจากฐานทัพเรือพังงาค้นหาฝั่งอันดามันไปแล้วเมื่อวานนี้ ส่วนฝั่งอ่าวไทยจัดเครื่องบินลาดตระเวนจากสงขลาแล้ว
วันนี้ (10 มี.ค.) พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีที่เครื่องบินโบอิ้ง บี777-200 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ขาดการติดต่อขณะบินเหนือน่านฟ้าประเทศเวียดนาม เมื่อเวลา 02.40 น.วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา และทางการมาเลเซียคาดว่าเครื่องบินดังกล่าวอาจเปลี่ยนทิศทางการบินกลับมาทางช่องแคบมะละกา และเสียการควบคุมนั้นว่า ทางการมาเลเซียได้ขอให้ประเทศไทยช่วยทำการค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณนอกชายฝั่ง จ.สตูล โดยทางกระทรวงกลาโหมได้อนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการช่วยเหลือตามที่ประเทศมาเลเซียร้องขอ
กองทัพเรือโดย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัยและให้ทัพเรือภาคที่ 3 จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัยในระดับพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3 โดยมีการจัดกำลังประกอบด้วย เรือหลวงปัตตานี มีกำลังพลประจำเรือ จำนวน 84 นาย เฮลิคอปเตอร์ แบบ SUPER LYNX – 300 จำนวน 1 เครื่อง กำลังพลจำนวน 12 นาย ชุดปฏิบัติการพิเศษของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ และชุดประดาน้ำ กำลังพล จำนวน 9 นาย เจ้าหน้าที่ชุดแพทย์พยาบาล จำนวน 3 นาย และเครื่องบินลาดตระเวน แบบดอร์เนียร์ (ดีโอ-228) จำนวน 1 เครื่อง ขี้นบินลาดตระเวนค้นหาทางอากาศทุกวันจนกว่าจะเสร็จภารกิจ
พล.ร.ต.กาญจน์ กล่าวต่อว่า เรือหลวงปัตตานีได้ออกเดินทางจากฐานทัพเรือพังงา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อวันที่ 9 มี.ค.เวลา 19.00 น.ขณะนี้เดินทางเข้าพื้นที่ลาดตระเวนและเริ่มค้นหาแล้ว ตั้งแต่ 06.00 น.ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากนี้กองทัพเรือยังได้จัดเครื่องบินลาดตระเวนแบบดอร์เนียร์ จำนวน 1 เครื่อง จากทัพเรือภาคที่ 2 จ.สงขลา ขึ้นบินลาดตระเวนในพื้นที่ซึ่งเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ได้ขาดการติดต่อไป เพื่อบินลาดตระเวนค้นหาบริเวณฝั่งอ่าวไทย ตั้งแต่ 10 มี.ค.เป็นต้นไป