00 หากนับตามปฏิทินตารางเวลาก็ต้องบอกว่าตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือว่าน่าหวาดเสียว สถานการณ์เริ่มบีบรัดเข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะมาตรการตรวจสอบทางกม. จากองค์กรอิสระและจากศาล เริ่มจากวันที่ 14 มี.ค. ทางป.ป.ช.ได้กำหนดให้เธอต้องยื่นเอกสารชี้แจงข้อหาทุจริตจากโครงการรับจำนำข้าว แล้วไหนจะมี ศาลรธน. นัดวินิจฉัยคำร้อง ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มิชอบ รวมไปถึงกรณีคำร้องให้ชี้ขาดว่า เธอ "สิ้นสภาพ" จากรักษาการนายกฯแล้วหรือยัง หรือแม้แต่คำร้องให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ ทุกเรื่องล้วนเป็นผลลบ กระทบต่อสถานะของเธอทั้งสิ้น
00 หากเป็นคนทั่วไปก็ต้อง"ปวดหัว" อยู่แล้ว แต่นี่สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ที่ "ด้อยสติปัญญา" พูดจาไม่รู้เรื่อง ต้องให้คนอื่นเขียนบทให้ทุกเรื่อง ลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกันว่ามันเป็นภาระหนักแค่ไหน ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้จึงต้องสั่งการให้ "เสื้อแดงป่วน" เป้าหมายหลักอยู่ที่ ป.ป.ช. ซึ่งประเด็นไม่มีอะไรมากไปกว่าการ "ทำลายเครดิต" หาว่าไม่เป็นกลาง มีอคติ หรือแม้แต่ขุดเอาประเด็นเก่าๆ ขึ้นมาโจมตีซ้ำซาก เช่น ป.ป.ช.ที่ได้รับแต่งตั้งมาตั้งแต่ปี 49 ไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ อะไรมั่ง ทั้งที่มีคำสั่งศาลฎีกาฯ ชี้ขาดมาให้เห็นชัดแล้ว หรือการโจมตี วิชา มหาคุณ เล่นกันแรงๆ แต่ก็ไม่ได้ผล ไม่มีใครหวั่นไหว ตรงกันข้ามเกิดแรงสะเทือนย้อนกลับถูกสังคมตำหนิ เหยียดหยามว่า "ใครกันแน่ที่ไม่เคารพกติกา"
00 อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่งยิ่งฝ่ายเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ออกแรงกระเพื่อม ข่มขู่มากเท่าใด ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า "เกิดความกลัว" แบบขี้ขึ้นสมองแล้ว โดยเฉพาะการข่มขู่ป.ป.ช.ไม่ให้เอาผิดกับ ยิ่งลักษณ์ ถึงกับมีการปลุกระดมคนเสื้อแดงให้เข้ามากดดัน อ้างว่ามาปกป้องประชาธิปไตย จากพวกอำมาตย์ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สมัยก่อนมันอาจจะได้ผล ชาวบ้านอาจเคลิบเคลิ้มกับคำพูดเพ้อเจ้อแบบนั้น แต่คำถามก็คือ ผ่านมากว่าสองปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ มันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง มีผลงานอะไรน่าประทับใจบ้าง ลองนึกมาสักเรื่องสิ มัน"คุ้มค่ากับการปกป้องรัฐบาลห่วยๆ" หรือเปล่า แน่นอนว่าสำหรับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ คนพวกนี้ไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะได้ประโยชน์จากการเป็น "ขี้ข้า" เต็มๆ ได้ทั้งตำแหน่ง ทรัพย์สินเงินทอง แต่พวกเสื้อแดงรากหญ้าปลายแถวกระจอกๆ ล่ะเป็นไงบ้าง แทบทั้งหมดยังจนกรอบเหมือนเดิม
00 อ้อเกือบลืมไป เรื่อง "เงินจำนำข้าว" ล่ะได้ครบกันไปกี่รายแล้ว ไอ้ที่บอกว่าจะใช้"งบกลาง" 2 หมื่นล้านมาทดรองจ่ายไปก่อน หลังจาก กกต.ไฟเขียวแบบมีเงื่อนไขว่า ต้องหาเงินมาจ่ายคืนภายในวันที่ 31 พ.ค. เอาเข้าจริงมันมีปัญหาในการจ่ายเงินอีกตามเคย เพราะไม่มีข้าราชการคนไหน โดยเฉพาะปลัดคลัง ยังไม่กล้าลงนาม เนื่องจากเป็นการใช้เงินผิดประเภท และที่ รมว.พาณิชย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล พูดปลอบใจว่า อยู่ในช่วงเบิกจ่ายเงินนั้น หวังว่าคงไม่โม้พูดเรื่อยเปื่อยอีกนะ และหากพิจารณาจากจำนวนเงินก็แค่ 2 หมื่นล้านบาท แล้วที่เหลืออีกกว่าแสนล้านบาท อีกนับแสนครอบครัวจะจ่ายเมื่อไหร่วะ จะให้ชาวนาเสื้อแดง "กินประชาธิปไตยจอมปลอม" กันทุกวันคงไม่ไหวหรอก และนี่อาจเป็นคำตอบสำคัญว่า ทำไมการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในวันนี้ถึงไม่คึกคักเหมือนเก่า
00 ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลเถื่อนชุดนี้กำลังดิ้นรนทุกทาง ไม่ว่าจะคุกคาม ข่มขู่ศาล และองค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. หากพิจารณากันแบบรู้ทันก็ต้องบอกว่า นี่คือการเห็นแก่ตัว และเอาตัวรอดอย่างน่าสะอิดสะเอียนที่สุด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คนในครอบครัวนี้ทุจริตเงินงบประมาณโครงการรับจำนำข้าวไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านเข้ากระเป๋าเปรมปรี กันไปแล้ว แต่พอถูกจับได้ไล่ทัน ก็ใช่วิธีหลอกใช้มวลชนมาเป็นเครื่องมือออกหน้าแทน มิหนำซ้ำยังเป็นการ"เบี่ยงเบน"ความเดือดร้อนของชาวนาที่กำลัง "ทวงหนี้" เงินค่าข้าว กันแบบหน้าเขียวหน้าแดง อยู่ในเวลานี้
00 กรณีสั่งย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเลขาฯ สมช.โดยมิชอบ โดยศาลปกครองสูงสุดสั่งให้คืนตำแหน่งภายใน 45 วัน แต่ล่าสุดบรรดา "ทะแนะ" ทั้งหลายทำ"หัวหมอ" ยุให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขัดขืน อ้างหน้าตาเฉยว่า ศาลไม่มีอำนาจบังคับ ว่าไปโน่น ก็ลองดูก็แล้วกัน ถ้ามั่นใจว่า "เจ๋ง" จริงก็ลองดีท้าทายกันไป คิดจะให้ยุ่งเสี่ยงคุกเพิ่มอีกเรื่องก็ลองดู เพราะเชื่อว่าในที่สุดแล้ว ถวิล เปลี่ยนศรี คงไม่ได้ต้องการกลับไปนั่งในเก้าอี้เดิม เพียงแต่ต้องการ "สั่งสอน" และทวงศักดิ์ศรีกลับมาเท่านั้น แต่ถ้ายังดื้อท้าทายอีก เที่ยวนี้โดนฟ้องอาญา ม.157 คุกแน่ ปูเอ๋ย ดันทุรังให้ตลอดก็แล้วกัน !!
00 หากเป็นคนทั่วไปก็ต้อง"ปวดหัว" อยู่แล้ว แต่นี่สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ที่ "ด้อยสติปัญญา" พูดจาไม่รู้เรื่อง ต้องให้คนอื่นเขียนบทให้ทุกเรื่อง ลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกันว่ามันเป็นภาระหนักแค่ไหน ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้จึงต้องสั่งการให้ "เสื้อแดงป่วน" เป้าหมายหลักอยู่ที่ ป.ป.ช. ซึ่งประเด็นไม่มีอะไรมากไปกว่าการ "ทำลายเครดิต" หาว่าไม่เป็นกลาง มีอคติ หรือแม้แต่ขุดเอาประเด็นเก่าๆ ขึ้นมาโจมตีซ้ำซาก เช่น ป.ป.ช.ที่ได้รับแต่งตั้งมาตั้งแต่ปี 49 ไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ อะไรมั่ง ทั้งที่มีคำสั่งศาลฎีกาฯ ชี้ขาดมาให้เห็นชัดแล้ว หรือการโจมตี วิชา มหาคุณ เล่นกันแรงๆ แต่ก็ไม่ได้ผล ไม่มีใครหวั่นไหว ตรงกันข้ามเกิดแรงสะเทือนย้อนกลับถูกสังคมตำหนิ เหยียดหยามว่า "ใครกันแน่ที่ไม่เคารพกติกา"
00 อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่งยิ่งฝ่ายเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ออกแรงกระเพื่อม ข่มขู่มากเท่าใด ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า "เกิดความกลัว" แบบขี้ขึ้นสมองแล้ว โดยเฉพาะการข่มขู่ป.ป.ช.ไม่ให้เอาผิดกับ ยิ่งลักษณ์ ถึงกับมีการปลุกระดมคนเสื้อแดงให้เข้ามากดดัน อ้างว่ามาปกป้องประชาธิปไตย จากพวกอำมาตย์ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สมัยก่อนมันอาจจะได้ผล ชาวบ้านอาจเคลิบเคลิ้มกับคำพูดเพ้อเจ้อแบบนั้น แต่คำถามก็คือ ผ่านมากว่าสองปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ มันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง มีผลงานอะไรน่าประทับใจบ้าง ลองนึกมาสักเรื่องสิ มัน"คุ้มค่ากับการปกป้องรัฐบาลห่วยๆ" หรือเปล่า แน่นอนว่าสำหรับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ คนพวกนี้ไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะได้ประโยชน์จากการเป็น "ขี้ข้า" เต็มๆ ได้ทั้งตำแหน่ง ทรัพย์สินเงินทอง แต่พวกเสื้อแดงรากหญ้าปลายแถวกระจอกๆ ล่ะเป็นไงบ้าง แทบทั้งหมดยังจนกรอบเหมือนเดิม
00 อ้อเกือบลืมไป เรื่อง "เงินจำนำข้าว" ล่ะได้ครบกันไปกี่รายแล้ว ไอ้ที่บอกว่าจะใช้"งบกลาง" 2 หมื่นล้านมาทดรองจ่ายไปก่อน หลังจาก กกต.ไฟเขียวแบบมีเงื่อนไขว่า ต้องหาเงินมาจ่ายคืนภายในวันที่ 31 พ.ค. เอาเข้าจริงมันมีปัญหาในการจ่ายเงินอีกตามเคย เพราะไม่มีข้าราชการคนไหน โดยเฉพาะปลัดคลัง ยังไม่กล้าลงนาม เนื่องจากเป็นการใช้เงินผิดประเภท และที่ รมว.พาณิชย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล พูดปลอบใจว่า อยู่ในช่วงเบิกจ่ายเงินนั้น หวังว่าคงไม่โม้พูดเรื่อยเปื่อยอีกนะ และหากพิจารณาจากจำนวนเงินก็แค่ 2 หมื่นล้านบาท แล้วที่เหลืออีกกว่าแสนล้านบาท อีกนับแสนครอบครัวจะจ่ายเมื่อไหร่วะ จะให้ชาวนาเสื้อแดง "กินประชาธิปไตยจอมปลอม" กันทุกวันคงไม่ไหวหรอก และนี่อาจเป็นคำตอบสำคัญว่า ทำไมการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในวันนี้ถึงไม่คึกคักเหมือนเก่า
00 ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลเถื่อนชุดนี้กำลังดิ้นรนทุกทาง ไม่ว่าจะคุกคาม ข่มขู่ศาล และองค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. หากพิจารณากันแบบรู้ทันก็ต้องบอกว่า นี่คือการเห็นแก่ตัว และเอาตัวรอดอย่างน่าสะอิดสะเอียนที่สุด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คนในครอบครัวนี้ทุจริตเงินงบประมาณโครงการรับจำนำข้าวไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านเข้ากระเป๋าเปรมปรี กันไปแล้ว แต่พอถูกจับได้ไล่ทัน ก็ใช่วิธีหลอกใช้มวลชนมาเป็นเครื่องมือออกหน้าแทน มิหนำซ้ำยังเป็นการ"เบี่ยงเบน"ความเดือดร้อนของชาวนาที่กำลัง "ทวงหนี้" เงินค่าข้าว กันแบบหน้าเขียวหน้าแดง อยู่ในเวลานี้
00 กรณีสั่งย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเลขาฯ สมช.โดยมิชอบ โดยศาลปกครองสูงสุดสั่งให้คืนตำแหน่งภายใน 45 วัน แต่ล่าสุดบรรดา "ทะแนะ" ทั้งหลายทำ"หัวหมอ" ยุให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขัดขืน อ้างหน้าตาเฉยว่า ศาลไม่มีอำนาจบังคับ ว่าไปโน่น ก็ลองดูก็แล้วกัน ถ้ามั่นใจว่า "เจ๋ง" จริงก็ลองดีท้าทายกันไป คิดจะให้ยุ่งเสี่ยงคุกเพิ่มอีกเรื่องก็ลองดู เพราะเชื่อว่าในที่สุดแล้ว ถวิล เปลี่ยนศรี คงไม่ได้ต้องการกลับไปนั่งในเก้าอี้เดิม เพียงแต่ต้องการ "สั่งสอน" และทวงศักดิ์ศรีกลับมาเท่านั้น แต่ถ้ายังดื้อท้าทายอีก เที่ยวนี้โดนฟ้องอาญา ม.157 คุกแน่ ปูเอ๋ย ดันทุรังให้ตลอดก็แล้วกัน !!