xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว”จนตรอกดิ้นสุดแรง ก่อนชะตาขาดสู่วาระสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หมาจนตรอกเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว!! หลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่องแบบติดๆ กัน หลายวัน

ไล่เรียงตั้งแต่เหตุการณ์คนร้ายใช้ระเบิดเอ็ม 79 ยิ่งใส่อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในค่ำคืนวันวาเลนไทน์ ต่อเนื่องกันไปจนถึงเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่ข้างทำเนียบรัฐบาล จนเกิดเหตุปะทะกันบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กระทั่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลแพ่งจะมีคำพิพากษากรณีที่ นายถาวร เสนเนียม แกนนำกปปส. ยื่นคำร้องต่อศาลให้เพิกถอนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพียงวันเดียว

หลังจากรู้คำพิพากษาไม่กี่วัน ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ก็เกิดเหตุการณ์คนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่บริเวณปั้มบางจาก ถ.วิภาวดีรังสิต ที่อยู่ห่างจากสโมสรตำรวจ ซึ่งเป็นที่ทำการของศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เพียง 400 เมตร

ตามกันมาติดๆ ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ก็มีหตุการณ์คนร้ายขว้างระเบิด RGD 5 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. บริเวณแยกประตูน้ำ ใกล้เวทีราชประสงค์ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย

พักยังไม่ทันหายใจ เว้นจากนั้นแค่วันเดียว ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ก็เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อคนร้ายปาระเบิด และกราดยิงกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่ จ.ตราด จนมีเด็กเล็กเสียชีวิต และมีผู้ได้รับาดเจ็บหลายสิบคน ไม่ต่างจากการลอบสังหารหมู่

ถัดมาอีกวัน เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ มือดียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณระหว่างศาลแพ่ง และศาลอาญา แต่โชคดีที่ไม่ระเบิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่อีโอดี จะมาทำลายลงไปได้ โดยไม่มีใครรับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงยกขบวนมาตำหนิการทำหน้าที่ของศาล และทำพิธีไสยศาสตร์อยู่บริเวณริมรั้วศาลอาญาก่อนเกิดเหตุแค่วันเดียว

และในวันเดียวกันช่วงเย็น ก็มีคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณบิ๊กซี ราชดำริ ซึ่งใกล้กับเวที กปปส. ที่แยกราชประสงค์ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

สถานการณ์เมืองไทยในหลายวันนี้ ระเบิดลงอย่างกับห่าฝน!!

แล้วก็สอดคล้องกันแบบพอเหมาะพอเจาะเหลือเกิน กับปฏิบัติการรุกคืบแข่งปริมาณมวลชนของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สุมหัวประชุมกันอยู่ที่ จ.นครราชสีมา เพื่อนัดหมาย กรีธาทัพเข้าเมืองกรุงประชันกับ กปปส.ตามสัญญาณที่แปรรหัสได้ งานนี้มีคนจงใจให้สถานการณ์ร้อนแรง และรุนแรง !!

ว่ากันตามสถานะของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”และ “กปปส.”ชั่วโมงนี้ หากจะดูว่า ใครกำลังเพลี่ยงพล้ำคงน่าจะเป็นฝ่ายแรกอย่างปฏิเสธไม่ได้ มิหนำซ้ำ ยังอยู่ในสภาพจวนตัวเสียด้วย ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่บีบรัดเข้ามาเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นคดีความในมือของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างอภิมหากาพย์การโกง อย่างโครงการรับจำนำข้าว ที่ “ยิ่งลักษณ์”ถูกลากขึ้นเขียงไปรอบั่นคอ

รวมถึงเงินค่าจำนำข้าวที่ยังไม่มีปัญญาหามาจ่ายชาวนา จนมะรุมมะตุ้มวิ่งเต้นหาช่องทางมาคลายวิกฤตเฉพาะหน้าให้ได้

หรือจะเป็นเงื่อนไข “วันสิ้นโลก” 4 มีนาคม ซึ่งครบกำหนด 30 วัน ที่จะต้องเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกให้ได้ ภายหลังการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ที่แน่นอนแล้วว่า โอกาสจะทำได้มีแค่ศูนย์เปอร์เซ็นต์

ดังนั้น หากเลยวันดังกล่าวไป “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”จะเสียศูนย์ กลายเป็นอัมพาต ง่อยเปลี้ยเสียขามาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว จะตายสนิท เพราะหมดสภาพรัฐบาลรักษาการแบบเต็มตัว

กลายเป็น “รัฐบาลเถื่อน”ทันที

แม้จะพยายามต่อสู้ด้วยการยกข้อกฎหมายมาหักล้าง แต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่า หากสุดท้ายจะให้ศาลชี้ขาด อย่างไรท่านก็ไม่มีวันยืนอยู่ข้างทรราชเป็นแน่ ผลมีแต่ลบ กับลบ และลบ !!

เมื่อทุกอย่างดูจะไม่เป็นใจ วิธีเดียวที่จะประคองลมหายใจได้คือ สร้างเงื่อนไขเรื่องความรุนแรงขึ้นมาเพื่อหาความชอบธรรมในการสลายการชุมนุมของกปปส. เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลมในช่วงเวลาที่เหลือน้อยเต็มทน

เพราะหากดูสถานภาพตัวเองตอนนี้ก็ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรให้ใช้ได้อีกแล้ว ยกเว้นการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลแพ่งที่ออกกฎเหล็ก 9 ข้อ จน ศรส.ของ “ขี้ข้าเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ใหญ่ ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้

โดย “ขี้ข้าเหลิม” เองก็ค่อนข้างอึดอัดกับการที่ศาลแพ่งอ้างว่า การชุมนุมของกปปส. เป็นไปโดยชอบตามรัฐธรรมนูญอย่างที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเอาไว้ พร้อมกับตั้งคำถาม 7 ข้อกลับไปในเชิงว่า หากม็อบบุกสถานที่ราชการต่างๆ จะถือว่า ยังชอบโดยรัฐธรรมนูญอยู่หรือไม่ ?

ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ศรส.ยอมปล่อยให้ผู้ชุมนุมกปปส. ที่นำโดย “เสี่ยลูกหมี”นายชุลพล จุลใส กับชาวคณะ 4 จตุรเทพ กปปส. เข้าไปเหยียบจมูกถึงถิ่นง่ายๆ

นั่นเป็นเพราะ “ขี้ข้าเหลิม”จงใจต้องการฉายภาพเหตุการณ์ลักษณะนี้ เพื่อส่งสัญญาณกลับไปยังศาลแพ่งว่า คำพิพากษาของศาลกำลังทำให้ม็อบท้าทายกฎหมาย และรุกรานไปทุกที่

แล้วศรส.ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง !!

นอกจากนี้ เหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ นานาในช่วงนี้ที่เกิดขึ้น ก็มีจุดที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ ผู้ถูกกระทำมักจะเป็นโจทก์ของรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่มีฟากฝั่งเดียวกันเลยที่ถูกคุกคาม

ทั้งศาลอาญา และศาลแพ่ง ที่ถูกรัฐบาลหรือคนในเครือข่ายลิ่วล้อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างคนเสื้อแดงโจมตีมาตลอดเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ หรือจะเป็น “กปปส.” ที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า มาเพื่อขับไล่รัฐบาล

เลยอื้ออึงกันมากว่า มีใครบางคนต้องการโหมประโคมความรุนแรงเพื่อทำให้ศาลเห็นว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้สงบ สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ และจำเป็นอย่างยิ่งในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย

แล้วก็ดันประจวบเหมาะเหลือเกินที่อยู่ในช่วงเดียวกับที่ศรส.กำลังเดินเครื่องอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่งเพื่องัดดาบมาใช้กับผู้ชุมนุมต้องยอมรับว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินนาทีนี้ถือว่า มีความจำเป็นกับรัฐบาลอย่างยิ่ง เพราะเป็นเพียงแค่เครื่องมือเดียวที่จะทำให้ศรส.มีอำนาจจัดการกับกปปส.ได้

ซึ่งก็รู้กันดีตามกระแสข่าววงในที่เล็ดรอดมาว่า “นายใหญ่” ยังมีความพยายามจะสลายการชุมนุมอยู่ตลอดเวลา แล้วพ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ให้อำนาจเสียด้วย

เมื่อถูกศาลแพ่งตัดสินให้ปืน แต่ไม่ให้ลูก จึงต้องดิ้นทุรนทุรายหาข้ออ้างเพื่อคืนสู่สิทธิ์ดังกล่าว

ในสภาวะสิ้นไร้ไม้ตอก วิชามารชั่วๆ จึงเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะกับคนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่ออย่าง “น.ช.ทักษิณ” แม้จะเอาชีวิตคนเป็นเดิมพัน

จับตาสัปดาห์นรกก่อนถึงวันที่ 4 มีนาคมนี้ได้เลย โอกาสจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงหนักขึ้นกว่านี้มีอีกแน่ ตามอาการหมาจนตรอกที่ร่อแร่ใกล้ตาย

มันพร้อมจะแว้งกัดกันทุกวิธีเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด!!
กำลังโหลดความคิดเห็น