การเปิดเกมรุกตั้งแต่ต้นปีของ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง กับกลยุทธ์การเปิดตัว “แคชแบ็ก” (Cashback) ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ที่แข่งขันร้อนระอุขึ้นทุกปี
การทำแคชแบ็ก ครั้งนี้ กล่าวได้ว่า 1.เป็นการใช้กลยุทธ์แบบที่เซเว่นฯยังไม่เคยทำมาก่อนก็ว่าได้กับการทำแคชแบ็กแบบนี้ และ 2. เป็นการออกแคมเปญใหม่ตั้งแต่ต้นปีเรียกว่าไก่โห่เลยทีเดียว จากเดิมที่แคมเปญแรงๆจะออกช่วงโลว์ซีซั่น
เพราะปีนี้กล่าวได้ว่า ตลาดคอนวีเนียนสโตร์จะดุเดือดเลือดพล่านกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากคู่แข่งใหญ่อย่างแฟมิลี่มาร์ทภายใต้เงื้อมมือขกลุ่มเซ็นทรัล ที่เข้ามาบริหารประมาณปีเศษได้แล้วนั้น ขณะนี้ได้ปรับยุทธศาสตร์ ปรับทิศของแฟมิลี่มาร์ทได้ชนิดที่ว่า พร้อมรบเต็มอัตราศึกแล้ว กับจำนวนกว่า 1,000 สาขาในเวลานี้ พร้อมกับการอัดฉีดงบตลาดปีนี้ไว้ที่ 150 ล้านบาทในการกรำศึก
หรือแม้แต่แบรนด์108ลอว์สัน ของลอว์สันกับสหพัฒน์ ที่ถึงแม้ว่าจะยังช่วงเริ่มต้นตั้งไข่ แต่ก็ดูเหมือนว่า ค่ายนี้จะออกอาการแรงไม่น้อย
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยว่า
บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์หลักในการมุ่งสู่การเป็นร้านอิ่มสะดวกของคนไทย ให้ความสำคัญกับสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม มีการนำเสนอสินค้าใหม่ๆที่หลากหลายรวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าและความถี่ที่เข้าร้าน รวมถึงเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายภายในร้านให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คำกล่าวของนายก่อศักดิ์จึงน่าจะเป็นการชี้นำทิศทางที่ชัดเจน
แคชแบ็ก ของเซเว่นฯครั้งนี้จึงเป็นอาวุธใหม่ที่จะฉีกหนีคู่แข่งและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ตรงจุดมากที่สุดยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการสานต่อแคมเปญ สแตมป์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนเพิ่มยอดขายอย่างถล่มทลาย ซึ่งแคมเปญใหม่นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ถึง 26 กุมภาพันธ์แม้จะเป็นช่วงเดือนเดียวแต่ก็กระตุ้นตลาดได้ดี และเป็นเพียงการทดลองเพื่อดูกระแสการตอบรับก่อนนั่นเอง
สำหรับแคมเปญแคชแบ็ก เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไข ก็จะได้รับคูปองแทนเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ตามเงื่อนไข เช่น มูลค่า 5 บาท 10 บาท 15 บาท เป็นต้น และสามารถนำคูปองนั้นมาเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าต่อไปได้ แต่ครั้งนี้ไม่มีการสะสมแลกสินค้าสมนาคุณ เพราะยุคนี้ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่มีราคาต่ำที่สุดบนค่าใช้จ่ายที่น้่อยที่สุด
“การทำโปรโมชั่นแรงก็เพื่อรักษายอดขาย และเพื่อให้ลูกค้ากลับเข้ามาซื้อซ้ำอีกครั้งนั่นเอง และสิ่งลูกค้าทั่วไปชอบก็คือ การลดราคาสินค้าทันที“ นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี ออลล์ เคยกล่าวไว้
ดังนั้นแคชแบ็กจึงน่าจะสะท้อนต่อกลยุทธ์แนวคิดนี้ได้ชัดเจน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อารมณ์การจับจ่ายน้อยลง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ถดถอยลงด้วย และยังฉีกหนีคู่แข่งและย้ำความเป็นผู้นำตลาดได้ด้วย ขณะที่คู่แข่งอย่างแฟมิลี่มาร์ทในช่วงนี้ก็มีแคมเปญใหญ่การลุ้นเที่ยวปุ่น “ชอปลัดฟ้า พาทัวร์โยโกฮาม่า” เป็นปีที่ 2
อย่างไรก็ตามนอกจากการออกแคชแบ็กแล้ว ก่อนหน้านี้ เซเว่นฯก็ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท ในการออกแคมเปญโฆษณาชิ้นใหม่ ที่ดึงเอา “เจมส์จิ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่องจากปีที่ล้ว เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปท์การเป้นร้านอิ่มสะดวกของคนไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แคชแบ็กแบบนี้ ผู้บริโภคมีความต้องการเพราะเห็นว่าได้รับประโยชน์ชัดเจนและทันที เหมือนกับหลายค่ายค้าปลีกที่ทำกันเช่น แคมเปญ ชิ้นที่สองราคา 1 บาท ของค่ายวัตสันที่จัดเป็นประจำ ทำให้เพิ่มยอดขายได้อย่างมาก เพราะลูกค้าไม่ต้องมารอลุ้นอะไรมากมาย และล่าสุดตอนนี้วัตสันก็มีการทำแคมเปญใหม่ ด้วยการมีคูปองส่วนลดวางไ้ว้หน้าร้าน ซึ่งลูกค้าสามารถหยิบนำเข้าไปใช้เป็นส่วนลดในร้านได้ทันที
อย่างไรก็ตามประเด็นที่ว่า ทำไมเซเว่นฯเริ่มทำแคมเปญตั้งแต่ต้นปีเลยก็เพราะว่า ปรกติแล่วจะมีแคมเปญตลอดทั้งแคมเปญใหญ่แคมเปญย่อย แตกต่างกันไป ตามช่วงเวลาก็เพระว่า ปีนี้ยังมีปัจจัยลบหลายอย่างที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี รวมไปถึงสภาพปัญหาดินฟ้าอากาศ ที่ช่วงต้นปีอากาศในไทยหนาวมากชนิดที่บางพื้นที่ไ่ม่เคยหนาวมากแบบนี้มาก่อน ส่งผลต่อ การขายสิค้าบางอย่างเป็นไปด้วยความลำบาก โดยเฉพาะสินค้าความเย็นทั้งหลาย เช่น เครื่องดืม ไอศกรีม เป็นต้น การมาทำช่วงนี้ก็น่าจะช่วยผลักดันยอดขายสินกลุ่มดังกล่าวได้ดี และยังกระตุ้นการจับจ่ายของลูกค้าด้วย
ปรกติแล้วการทำแคมเปญโปรโมชั่นตางๆก็เพิ่มยอดขายเฉลี่ย 10-20% เป็นอย่างต่ำ
หลังจากแคมเปญใหม่นี้เสร็จ ต้องจับตาดูต่อไปว่า เซเว่นฯจะมีกลยุทธ์ใหม่เด็ดๆออกมา หรือจะยังคงสานต่อแคมเปญสแตมป์และแคชแบ็กนี้อีก
ล่าสุดเซเว่นฯเปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยประจำปี 2556 ว่า มีรายได้ 284,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.9% จากปีที่ผ่านมา จากการเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ และจากการบันทึกรายได้ของธุรกิจแม็คโคร และมีกำไรสุทธิ 10,537 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานเฉพาะธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในปี 2556 มีรายได้ทั้งสิ้น 217,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% และมีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 10,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีการให้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการปี 2556 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.90 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะเสนอให้ที่ประชุมถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย ย้ำว่า ธุรกิจของ ซีพี ออลล์ มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 บริษัทได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้น 607 สาขา สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 550 สาขา โดยมีร้านสาขาเพิ่มขึ้นจาก 6,822 สาขาในปี 2555 เป็น 7,429 สาขาในปี 2556 และตั้งเป้าหมายเป็น 10,000 สาขาในปี 2561 ยอดขายร้านเดิมต่อวันของร้าน 7-Eleven (Same Store Sales Growth) มีการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนลูกค้าที่เข้าร้าน และยอดใช้จ่ายต่อบิลที่สูงขึ้น และในปี 2557 บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2
การทำแคชแบ็ก ครั้งนี้ กล่าวได้ว่า 1.เป็นการใช้กลยุทธ์แบบที่เซเว่นฯยังไม่เคยทำมาก่อนก็ว่าได้กับการทำแคชแบ็กแบบนี้ และ 2. เป็นการออกแคมเปญใหม่ตั้งแต่ต้นปีเรียกว่าไก่โห่เลยทีเดียว จากเดิมที่แคมเปญแรงๆจะออกช่วงโลว์ซีซั่น
เพราะปีนี้กล่าวได้ว่า ตลาดคอนวีเนียนสโตร์จะดุเดือดเลือดพล่านกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากคู่แข่งใหญ่อย่างแฟมิลี่มาร์ทภายใต้เงื้อมมือขกลุ่มเซ็นทรัล ที่เข้ามาบริหารประมาณปีเศษได้แล้วนั้น ขณะนี้ได้ปรับยุทธศาสตร์ ปรับทิศของแฟมิลี่มาร์ทได้ชนิดที่ว่า พร้อมรบเต็มอัตราศึกแล้ว กับจำนวนกว่า 1,000 สาขาในเวลานี้ พร้อมกับการอัดฉีดงบตลาดปีนี้ไว้ที่ 150 ล้านบาทในการกรำศึก
หรือแม้แต่แบรนด์108ลอว์สัน ของลอว์สันกับสหพัฒน์ ที่ถึงแม้ว่าจะยังช่วงเริ่มต้นตั้งไข่ แต่ก็ดูเหมือนว่า ค่ายนี้จะออกอาการแรงไม่น้อย
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยว่า
บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์หลักในการมุ่งสู่การเป็นร้านอิ่มสะดวกของคนไทย ให้ความสำคัญกับสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม มีการนำเสนอสินค้าใหม่ๆที่หลากหลายรวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าและความถี่ที่เข้าร้าน รวมถึงเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายภายในร้านให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คำกล่าวของนายก่อศักดิ์จึงน่าจะเป็นการชี้นำทิศทางที่ชัดเจน
แคชแบ็ก ของเซเว่นฯครั้งนี้จึงเป็นอาวุธใหม่ที่จะฉีกหนีคู่แข่งและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ตรงจุดมากที่สุดยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการสานต่อแคมเปญ สแตมป์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนเพิ่มยอดขายอย่างถล่มทลาย ซึ่งแคมเปญใหม่นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ถึง 26 กุมภาพันธ์แม้จะเป็นช่วงเดือนเดียวแต่ก็กระตุ้นตลาดได้ดี และเป็นเพียงการทดลองเพื่อดูกระแสการตอบรับก่อนนั่นเอง
สำหรับแคมเปญแคชแบ็ก เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไข ก็จะได้รับคูปองแทนเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ตามเงื่อนไข เช่น มูลค่า 5 บาท 10 บาท 15 บาท เป็นต้น และสามารถนำคูปองนั้นมาเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าต่อไปได้ แต่ครั้งนี้ไม่มีการสะสมแลกสินค้าสมนาคุณ เพราะยุคนี้ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่มีราคาต่ำที่สุดบนค่าใช้จ่ายที่น้่อยที่สุด
“การทำโปรโมชั่นแรงก็เพื่อรักษายอดขาย และเพื่อให้ลูกค้ากลับเข้ามาซื้อซ้ำอีกครั้งนั่นเอง และสิ่งลูกค้าทั่วไปชอบก็คือ การลดราคาสินค้าทันที“ นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี ออลล์ เคยกล่าวไว้
ดังนั้นแคชแบ็กจึงน่าจะสะท้อนต่อกลยุทธ์แนวคิดนี้ได้ชัดเจน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อารมณ์การจับจ่ายน้อยลง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ถดถอยลงด้วย และยังฉีกหนีคู่แข่งและย้ำความเป็นผู้นำตลาดได้ด้วย ขณะที่คู่แข่งอย่างแฟมิลี่มาร์ทในช่วงนี้ก็มีแคมเปญใหญ่การลุ้นเที่ยวปุ่น “ชอปลัดฟ้า พาทัวร์โยโกฮาม่า” เป็นปีที่ 2
อย่างไรก็ตามนอกจากการออกแคชแบ็กแล้ว ก่อนหน้านี้ เซเว่นฯก็ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท ในการออกแคมเปญโฆษณาชิ้นใหม่ ที่ดึงเอา “เจมส์จิ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่องจากปีที่ล้ว เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปท์การเป้นร้านอิ่มสะดวกของคนไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แคชแบ็กแบบนี้ ผู้บริโภคมีความต้องการเพราะเห็นว่าได้รับประโยชน์ชัดเจนและทันที เหมือนกับหลายค่ายค้าปลีกที่ทำกันเช่น แคมเปญ ชิ้นที่สองราคา 1 บาท ของค่ายวัตสันที่จัดเป็นประจำ ทำให้เพิ่มยอดขายได้อย่างมาก เพราะลูกค้าไม่ต้องมารอลุ้นอะไรมากมาย และล่าสุดตอนนี้วัตสันก็มีการทำแคมเปญใหม่ ด้วยการมีคูปองส่วนลดวางไ้ว้หน้าร้าน ซึ่งลูกค้าสามารถหยิบนำเข้าไปใช้เป็นส่วนลดในร้านได้ทันที
อย่างไรก็ตามประเด็นที่ว่า ทำไมเซเว่นฯเริ่มทำแคมเปญตั้งแต่ต้นปีเลยก็เพราะว่า ปรกติแล่วจะมีแคมเปญตลอดทั้งแคมเปญใหญ่แคมเปญย่อย แตกต่างกันไป ตามช่วงเวลาก็เพระว่า ปีนี้ยังมีปัจจัยลบหลายอย่างที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี รวมไปถึงสภาพปัญหาดินฟ้าอากาศ ที่ช่วงต้นปีอากาศในไทยหนาวมากชนิดที่บางพื้นที่ไ่ม่เคยหนาวมากแบบนี้มาก่อน ส่งผลต่อ การขายสิค้าบางอย่างเป็นไปด้วยความลำบาก โดยเฉพาะสินค้าความเย็นทั้งหลาย เช่น เครื่องดืม ไอศกรีม เป็นต้น การมาทำช่วงนี้ก็น่าจะช่วยผลักดันยอดขายสินกลุ่มดังกล่าวได้ดี และยังกระตุ้นการจับจ่ายของลูกค้าด้วย
ปรกติแล้วการทำแคมเปญโปรโมชั่นตางๆก็เพิ่มยอดขายเฉลี่ย 10-20% เป็นอย่างต่ำ
หลังจากแคมเปญใหม่นี้เสร็จ ต้องจับตาดูต่อไปว่า เซเว่นฯจะมีกลยุทธ์ใหม่เด็ดๆออกมา หรือจะยังคงสานต่อแคมเปญสแตมป์และแคชแบ็กนี้อีก
ล่าสุดเซเว่นฯเปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยประจำปี 2556 ว่า มีรายได้ 284,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.9% จากปีที่ผ่านมา จากการเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ และจากการบันทึกรายได้ของธุรกิจแม็คโคร และมีกำไรสุทธิ 10,537 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานเฉพาะธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในปี 2556 มีรายได้ทั้งสิ้น 217,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% และมีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 10,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีการให้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการปี 2556 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.90 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะเสนอให้ที่ประชุมถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย ย้ำว่า ธุรกิจของ ซีพี ออลล์ มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 บริษัทได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้น 607 สาขา สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 550 สาขา โดยมีร้านสาขาเพิ่มขึ้นจาก 6,822 สาขาในปี 2555 เป็น 7,429 สาขาในปี 2556 และตั้งเป้าหมายเป็น 10,000 สาขาในปี 2561 ยอดขายร้านเดิมต่อวันของร้าน 7-Eleven (Same Store Sales Growth) มีการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนลูกค้าที่เข้าร้าน และยอดใช้จ่ายต่อบิลที่สูงขึ้น และในปี 2557 บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2