xs
xsm
sm
md
lg

ทิ้งบอมบ์หุ้นชินฯ3วันราคารูดยกแผงมูลค่ากว่าหมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – นักลงทุนกดดันตระกูลชินวัตรหนัก แห่ทิ้งหุ้นในเครือฉุดราคาร่วงยกแผง เทรด 3 วันมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เอสซีฯ เจอหนักสุดราคารูดเหลือ 3.08 บาท ลดลงเกือบ 0.40 บาท ขณะที่ ADVANC เหลือ 210 บาท โบรกเกอร์ย้ำคำเดิม แค่จิตวิทยาระยะสั้นกระทบแค่เล็กน้อย แม้จะกดดันระยะยาวไม่กระทบเหตุบริษัทมีแผนลุยต่างประเทศกระจายความเสี่ยง
หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ประกาศเชิญชวนให้นักลงทุนขายหุ้นในเครือตระกูลชินวัตร เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาและกดดันให้ราคาหุ้นในกลุ่มชินวัตรปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้สามารถจำแนกหุ้นที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว แบ่งออก 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ถือหุ้นโดย เทมาเส็ก โฮลดิ้ง ที่ได้มาจากการซื้อต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บมจ. ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือ INTUCH, บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC, บมจ.ไทยคม หรือ THCOM และ บมจ. ซีเอส ล็อกซอินโฟ หรือ CSL ขณะที่อีกกลุ่มคือ หุ้นที่เป็นของตระกูลชินวัตรโดยตรง ได้แก่ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC และ บมจ. เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น หรือ MLINK
โดยเพียงแค่ 3 วัน นับตั้งแต่ 19 - 21ก.พ. 57 นักลงทุนได้เทขายหุ้นกลุ่มชินวัตรออกมาและทำให้ราคาปรับตัวลดลงจำนวนมาก โดยล่าสุดวันที่ 21 INTUCH ปิดที่ 72.00 บาท ปรับตัวลดลง 0.25 บาท หรือ 0.25% ADVANC ปิดที่ 210.00 บาท ปรับตัวลดลง 1.00 บาท หรือ 0.47% มูลค่าการซื้อขาย 2,328 ล้านบาท ขณะที่ SC ปิดที่ 3.08 บาท ลดลง 0.06 บาท หรือ 1.91% มูลค่าการซื้อขาย 22.28 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้วิเคราะห์ราคาหุ้นกลุ่มตระกูลชินวัตร ว่า ประเด็นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาทางลบระยะสั้น โดยราคาหุ้น SC ปรับตัวลดลงมากที่สุด เทียบกับหลักทรัพย์ที่ตลาดรับรู้ว่าอยู่ในข่าย คือ ADVANC, INTUCH, CSL, MLINK แต่จากการรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทต่างๆ มีเพียง SC ที่ตระกูลชินวัตรถือหุ้นโดยตรง และ MLINK มีตระกูลวงศ์สวัสดิ์ ถือหุ้นอันดับ 2 ส่วนหลักทรัพย์อื่นๆไม่ปรากฏว่าตระกูลชินวัตรถือหุ้นโดยตรง
ดังนั้น นักลงทุนระยะกลาง-ยาว อาจใช้จังหวะที่หุ้นอ่อนตัวลงทยอยรับเพื่อการลงทุน เพราะหุ้นต่างๆเหล่านี้มีปัจจัยพื้นฐานดี (ยกเว้น MLINK ไม่ได้ทำการวิเคราะห์) และมีธรรมาภิบาลขององค์กร (Corporate Governance)อยู่ในระดับที่สูงสุดยกเว้น MLINK
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุถึง บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ว่า หุ้น ADVANC ถูกเทขายอย่างหนัก ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าการเชิญชวนให้ยกเลิกใช้บริการ ADVANC จะมีผลต่อ Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นระยะสั้นเท่านั้น โดยผลกระทบต่อฐานกำไร และผู้ใช้บริการที่จะยกเลิกใช้งานคาดจำกัด เพราะลูกค้ามีต้นทุนในการย้ายเครือข่าย ทั้งในรูปแบบ 1) การย้ายเครือข่ายแต่ใช้เลขหมายเดิม (บริการ MNP) ซึ่งผู้ใช้บริการต้องมีต้นทุนการเงินในการยกเลิก คือ ค่าบริการย้ายค่าย 29 บาท/ครั้ง/เลขหมาย และต้นทุนด้านเวลาที่จะไม่สามารถใช้งานบริการได้ เกิดจากการรอกระบวนการย้ายตามปกติและขึ้นทพเบียนเลขหมายในระบบผู้ให้บริการใหม่อีกอย่างน้อย 1-2 วัน
นอกจากนี้ ปัจจุบันกำลังการโอนย้ายลูกค้าต่อค่ายต่อวันยังจำกัดสูงสุดไม่เกิน 6.0 หมื่นรายต่อวัน ซึ่งผู้ให้บริการมือถือทุกรายล้วนให้ความสำคัญกับการโอนย้ายลูกค้าจากระบบคลื่น 2G ไป 3G ก่อน ดังนั้นกำลังการโอนลูกค้าส่วนใหญ่ขณะนี้จึงถูกใช้งานในเรื่องดังกล่าว ทำให้ผู้โอนย้ายค่ายต้องเผชิญอุปสรรค คือ ระยะเวลาโอนที่นานกว่าปกติ และ 2) การยกเลิกบริการ โดยไปใช้เบอร์ใหม่ จะสร้างความไม่สะดวกในการติดต่อ นอกจากนี้ ทั้ง 2 กรณี ผู้ใช้บริการยังต้องรับความเสี่ยงการใช้เครือข่ายใหม่ที่ประสิทธิภาพการใช้งานอาจด้อยกว่า ADVANC เพราะ ADVANC ได้พัฒนาโครงข่าย 3G อย่างหนัก หลังได้รับใบอนุญาตคลื่น 2.1 GHz ตั้งแต่ปี 2555
จากการศึกษาของฝ่ายวิจัยพบว่า ทุก ๆ 1% ของลูกค้า ADVANC (เท่ากับ 4.2 แสนราย) ที่ลดลงจากประมาณ ซึ่งคาดว่า ADVANC มีลูกค้าสิ้นปีนี้ราว 42 ล้านราย จะมีผลกระทบต่อประมาณการกำไรให้ลดลงจากคาดการณ์สูงสุดไม่เกิน 2% ประกอบกับ ผลกระทบการยกเลิกใช้บริการที่เชื่อว่าจะจำกัดมากดังกล่าวข้างต้น จึงคงประมาณการกำไรปีนี้ที่คาดเติบโตเฉลี่ย 10% และมูลค่าพื้นฐานที่ 270 บาท ยังมี Upside 24% กอปรกับ Div yield ที่สูงเกิน 6% ต่อปี จึงยังแนะนำ “ซื้อ” โดยราคาหุ้นที่อาจปรับตัวลงจาก Sentiment ลบ เป็นโอกาสดีให้เข้าสะสม
ด้านบล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่าประเด็นผลกระทบจากปัจจัยการเมือง ที่นายสุเทพ แกนนำกลุ่ม กปปส. ประกาศให้ขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับตะกูลชินวัตร เป็นประเด็นการเมืองที่กระทบต่อราคาหุ้นในทางจิตวิทยาในระยะสั้น ด้วยโครงสร้างผู้ถือหุ้นปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตร ส่วนประเด็นการขายหุ้นของเทมาเส็กให้กับSingapore Telecommunications ซี่งหากเกิดขึ้นจริงมองว่าเป็นเพียงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นเท่านั้นด้วยเทมาเส็กถือหุ้นในสิงเทลอยู่ราว 52% เว้นแต่กลุ่มเทมาเส็กจะปล่อยขายหุ้นออกมาในตลาดเหมือนในอดีตถึงจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น
“ราคาหุ้นได้รับผลกระทบทางลงเชิงจิตวิทยาในระยะสั้น มองว่าหากราคาปรับลดลงเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน ด้วย 1) ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลกว่าปีละ 6-7% โดยล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างการที่ 2.16 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 2.8% จากราคาปัจจุบัน (XD 1 เม.ย 57) 2) ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ส่วนลด 15% จากราคาตลาดของบริษัทลูก ADVANC และ THCOM โดยคงมูลค่าพื้นฐาน INTUCH ที่ 98 บาท ADVANC มูลค่าพื้นฐาน 272 บาท และ THCOM มูลค่าพื้นฐาน 45 บาท ตามลำดับ”
ขณะเดียวกัน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นและหุ้นตัวนั้นๆเป็นหลัก ซึ่งถ้าหากไม่มีผลกระทบอะไรกับปัจจัยพื้นฐานก็อาจจะไม่มีอะไรที่น่ากังวล โดยพิจารณาจากภาพรวมการซื้อขายในหุ้นชินกรุ๊ป ในวันศุกร์แรงขายยังคงไม่มีไม่มากนักทั้ง INTUCH และ ADVANC หากเทียบกับ 2 วันก่อนหน้านี้ ซึ่งแรงเทขายจะขึ้นอยู่กับกระแสข่าวการเมืองที่เข้ามากดดันตลาดว่าจะมีความร้อนแรงมากน้อยขนาดไหน ทั้งนี้หากfundamental ปรับตัวร่วงลงมา ก็ยังคงมีนักลงทุนที่จะรอทยอยเข้าซื้ออยู่ และด้วยขนาดของมาเก็ตแคปของชินกรุ๊ปที่มีขนาดใหญ่แล้วเป็นการยากที่จะสร้างผลกระทบต่อโครงสร้างบริษัทฯได้ เนื่องจากตัวบริษัทเองได้พยายามที่ก้าวเข้าสู่ความเป็นนานาชาติมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างฐานความมั่นคง
กำลังโหลดความคิดเห็น