ยิ่งลักษณ์ เน่า!

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นวันที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย(ศรส.) ที่มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะ ผอ.ศรส. ประกาศดีเดย์ ปฏิบัติการคืนความสุขให้คนกรุงเทพฯ ด้วยการเปิดพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยึดไว้ 5 แห่ง คือ กระทรวงพลังงาน ถนนแจ้งวัฒนะ กระทรวงมหาดไทย บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ

วันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มปฏิบัติการยึดคืนกระทรวงแรงงานได้สำเร็จตั้งแต่ช่วงเช้า และช่วงสายใกล้เที่ยงขณะที่ประชาชนกำลังติดตามสถานการณ์ผ่านทีวีช่องต่างๆด้วยใจระทึก ซึ่งช่วงนั้นสถานการณ์ที่สะพานผ่านฟ้ากำลังตึงเครียด เพราะตำรวจดาหน้าเข้าทำการสลายการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) หรือกลุ่มกองทัพธรรม ที่ตั้งเวทีปักหลักพักค้างอยู่ที่นั่นมานานนับเดือน

แต่จู่ๆ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็โผล่หน้าจอทีวีทุกช่อง ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ซึ่งตอนแรก ประชาชนที่เฝ้าดูอยู่ก็คิดว่านายกฯ คงจะพูดถึงเรื่องหน้าสิ่ว หน้าขวาน การสลายการชุมนุมที่กำลังตึงเครียด แต่ไม่ใช่

เรื่องที่พูดกลายเป็นเรื่องโครงการจำนำข้าวที่กำลังมีปัญหา เจ๊งจนไม่มีเงินจ่ายให้ชาวนาอยู่ในขณะนี้

แต่เนื้อหาตามโพยที่ยิ่งลักษณ์ นำมาอ่านนั้น กลับบอกว่า นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อไทย เป็นที่ชื่นชอบของชาวนา ทำให้ชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ลืมตาอ้าปากได้ สร้างฐานะมั่นคงตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ต้องมาสะดุดเพราะปัญหาทางการเมือง ที่กลุ่ม กปปส. นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พยายามขัดขวาง โค่นล้มรัฐบาล เอาชาวนาเป็นตัวประกัน สกัดกั้นทุกช่องทางไม่ให้รัฐบาลหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาได้

นอกจากนี้ ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวพุ่งเป้าไปถึงองค์กรอิสระ อย่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่าร่วมขบวนการโค่นรัฐบาล ล้มโครงการจำนำข้าว กับเขาด้วย

"มีกระบวนการกล่าวหา และตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการบริหารโครงการรับจำนำข้าว ทั้งโจมตีทางการเมือง และ กฎหมายว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริต คอร์รัปชัน ที่เป็นระบบระดับนโยบาย ซึ่งดิฉันขอยืนยันว่า ในระดับนโยบายไม่มีการสร้างวิธีที่จะโกงเงินดังที่ถูกกล่าวหา และในระดับปฏิบัติ หากมีการรั่วไหล ดิฉันก็ต้องการเห็นการตรวจสอบที่เข้มงวด และยินดีในกระบวนการตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของ ป.ป.ช.โดยไม่เลือกปฏิบัติ และมีความเสมอภาคภายใต้หลักนิติธรรมโดยไม่มีความลำเอียง หรือวาระทางการเมืองที่ซ้อนเร้น เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้ว นอกจากโครงการดีๆ จะถูกทำลาย ความน่าเชื่อถือของระบบ และกระบวนการตรวจสอบก็จะสูญสิ้นศรัทธาไปด้วย"

ก่อนจะตบท้ายด้วยการยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินโครงการจำนำข้าวต่อไป เพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ของชาวนา จะไม่ยอมให้เกมการเมืองมาเอารัดเอาเปรียบ เอาพี่น้องชาวนาเป็นตัวประกัน ชาวนาไทยจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับคนไทยทุกคน

เหมือนเป็นนกรู้ เพราะหลังจากยิ่งลักษณ์แถลงการณ์ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจได้ไม่นาน ทางป.ป.ช. ก็แถลงผลการประชุมของกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่า มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้แจ้งข้อกล่าวหา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ว่ามีการกระทำทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เข้าข่ายความผิดต่อหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือเปิดทางให้เกิดการทุจริต และเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27กุมภาพันธ์ นี้

แม้ชั้นนี้จะเป็นเพียงการตั้งข้อหา ยังไม่ใช่การชี้มูลความผิด เนื่องจากต้องให้โอกาสในการชี้แจง แก้ตัวให้ครบถ้วนเสียก่อน แต่จากการแถลงยืนยันของ วิชา มหาคุณ หนึ่งในกรรมการป.ป.ช. ที่ดูแลคดีนี้มาตั้งแต่ต้น บอกว่าจะสามารถชี้มูลความผิดได้หรือไม่ ภายในเดือนมีนาคมนี้

ต้องไม่ลืมว่า เรื่องนี้ฝ่ายค้านเคยยกมาเป็นเรื่องใหญ่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมนำข้อมูลหลักฐานทุจริตทุกขั้นตอนมาแสดงให้เห็น และยังยื่นถอดถอนยิ่งลักษณ์ จากตำแหน่งนายกฯไปแล้ว ป.ป.ช. เองก็เคยส่งหนังสือทักท้วงไปถึงยิ่งลักษณ์ ให้ระงับโครงการ เพราะมีช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตได้ทุกขั้นตอน เช่นเดียวกับคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ก็เตือนไว้เช่นกัน แต่ยิ่งลักษณ์ไม่สนใจ ยังคงเดินหน้าต่อไป

และที่สำคัญคือ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อหาทุจริตกับผู้รับผิดชอบในโครงการรับจำนำข้าวไปชุดหนึ่งแล้ว มี อดีตรมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ และ อดีตรมช.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล รวมทั้งข้าราชการและเอกชนอีกจำนวนหนึ่งรวม 15 ราย จากกรณีทำสัญญาซื้อขายข้าว ไม่ใช่การซื้อขายข้าวในสัญญาจีทูจี และไม่มีการส่งออกนอกประเทศ ตามที่กล่าวอ้าง

ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงยิ่งที่ ป.ป.ช.จะชี้มูลว่า ยิ่งลักษณ์ มีความผิด ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ผลที่ตามมาคือ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายกฯ และ ถูกดำเนินคดีอาญา

ยังมีอีกเรื่องที่เป็นประเด็นขึ้นมาโดยที่ยิ่งลักษณ์อาจไม่รู้ตัว คือ การแถลงการณ์ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจครั้งนี้ ยังอยู่ในช่วงของการเลือกตั้ง การพูดถึงโครงการจำนำข้าว ที่จะทำให้ชาวนากินดี อยู่ดี มีความมั่นคง และรัฐบาลจะทำต่อไปนั้น เข้าข่ายการหาเสียง ในลักษณะสัญญาว่าจะให้ นอกจากนี้ยังมีการใช้สื่อวิทยุโทรทัศน์ของรัฐ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง เพราะมีหนังสือสั่งการของ นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง สั่งด่วนให้ปลัดจังหวัด-นายอำเภอ ทั่วประเทศ ทำซีดีบันทึกเสียงของยิ่งลักษณ์ ที่อออกแถลงการณ์ครั้งนี้ ส่งให้กับทุกตำบล หมู่บ้าน เพื่อเปิดประชาสัมพันธ์ตามหอกระจายข่าวให้กับชาวบ้าน

คนที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นประเด็น และเข้าข่ายความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก็คือ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เสียด้วย

เมื่อกกต.ชี้โพรงมาเช่นนี้ เห็นทีอีกไม่นานก็คงมีคนไปร้องเอาผิด หรือ กกต.อาจหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเองได้โดยไม่ต้องมีผู้ร้องเรียน ก็มีโอกาสที่จะเจอ ใบเหลือง ใบแดง ขึ้นมาอีก ทั้งที่พยายามดันทุรัง เดินหน้าเลือกตั้งเพื่อเป็นข้ออ้างในการรักษาอำนาจเอาไว้ให้ได้

มะม่วงเน่าใกล้จะหล่นแล้ว !!