วานนี้ (19ก.พ.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณา 8 ข้อเสนอของผู้แทนรัฐบาล พรรคเพื่อไทย นักวิชาการ ที่ได้จากวงเสวนาปัญหาทางออกในการจัดการเลือกตั้ง โดยเห็นว่า
1 .กรณีการรับสมัคร ส.ส. 28 เขต 8 จังหวัดภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัครนั้นกรณีหากเกิดการขัดขวางนั้น ข้อเสนอที่ให้กกต.รับสมัครนอกเขตเลือกตั้ง รับสมัครในพื้นที่ทหาร รับสมัครทางอินเตอร์เนต ให้ผู้ที่ไปแจ้งความในวันสมัครเป็นผู้สมัครเลยนั้น ไม่สามารถทำได้ โดยกกต.มีข้อเสนอใหม่ และเห็นว่าสามารถทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้สมัครได้ เพราะที่ผ่านมาก็มีกรณีมีการขัดขวางการรับสมัคร จนทำให้บางเขตเลือกตั้งมีผู้สมัครเพียงรายเดียว โดย กกต.จะออกประกาศ กกต. ให้เปิดรับสมัคร ส.ส.ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนด่วนพิเศษ (EMS)ซึ่งประกาศกกต.ดังกล่าว น่าจะออกได้ในสัปดาห์หน้า และเชื่อว่าจะสามารถทำให้สถานการณ์การขัดขวางการรับสมัครคลี่คลายได้
2. กรณีการจัดพิมพ์ และส่งบัตรเลือกตั้งนั้น กกต.มีมติรับทุกข้อเสนอทั้งในเรื่องให้ดำเนินการโดยลับ กระบวนการจัดพิมพ์เป็นไปอย่างโปร่งใส ยกเว้นที่จะให้มีการจัดพิมพ์บัตรสำรองนั้น ไม่ควรดำเนินการ เพราะอาจเกิดการครหาเรื่องความไม่โปร่งใส แต่กกต.จะมีการจัดหาโรงพิมพ์สำรองเพิ่มเติมไว้กรณีมีปัญหา
3. กรณีหากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไม่ได้ กกต.รับข้อเสนอที่ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้สิทธิเลือกตั้งทราบว่า สามารถเข้าไปเป็นกปน.ได้หากเปิดหน่วยเลือกตั้งแล้ว กปน.ไม่มา ใช้มาตรการลงโทษทางวินัยกรณีมีละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งข้าราชการของรัฐเป็นกรรมการประจำหน่วย แต่ในกรณีที่ให้รับผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกเขตเลืออกตั้งเข้าเป็นกปน.นั้น กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ เฉพาะกรณีที่วันเลือกตั้ง กปน.ทั้งหมด 9 คนไม่มาปฏิบัติหน้าที่ซึ่งกรณีนี้ กกต. มีมติแก้ปัญหาโดยจะมีการตั้ง กปน.สำรองให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ โดยจะเป็นทั้งผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้ง และผู้มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตเลือกตั้ง พร้อมกับจะมีการฝึกอบรมการทำหน้าที่ เพื่อให้สามารถส่งลงพื้นที่ได้ทันที ในวันเลือกตั้งหากหน่วยเลือกตั้งใดขาด กปน.ทั้งหมด 9 คน
4. และ 5. กรณีมีการขัดขวางการกระจายบัตรเลือกตั้ง อุปกรณ์ และเกิดเหตุในวันเลือกตั้งจะทำอย่างไรนั้น กกต.รับทุกข้อเสนอทั้งที่ให้มีการ เพิ่มจุดกระจายบัตร จัดอุปกรณ์สำรอง แต่ที่รับไม่ได้ก็คือการให้มีบัตรสำรอง เพราะถ้ามีบัตรสำรอง ก็อาจทำให้เกิดปัญหาการกล่าวหาว่ามีบัตรเลือกตั้งเกินได้
6 .กรณีบทบาทหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในการช่วยดูแลการเลือกตั้งนั้น กกต.รับข้อเสนอที่จะให้มีหนังสือสั่งการไปยังผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ช่วยกกต.จัดการเลือกตั้งโดยจะมีการดำเนินการให้มีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมที่กกต.มักจะทำเป็นหนังสือขอความร่วมมือ 7. กรณีการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ จะสามารถประกาศผล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อทั้ง 125 คนได้หรือไม่ กกต.เห็นว่า การจะออกประกาศกกต.ให้มีการคำนวณสัดส่วนส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ โดยที่การเลือกตั้งส.ส.ยังไม่แล้วเสร็จนั้น ทำไม่ได้ ไม่มีกฎหมายรองรับ และอาจเสี่ยงต่อการทำให้การเลือกตั้งทั้งหมดเสียไป กกต.เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องให้เลือกตั้งแล้วเสร็จครบทั้ง 375 เขตเลือกตั้ง แล้วจึงมีการคิดคำนวนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งกกต.จะเร่งดำเนินการจัดการ เลือกตั้งในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการเปลี่ยนแปลงกรอบเวลา วันลงคะแนนเลือกตั้งทดแทนให้เร็วขึ้นจากเดิมที่กกต.กำหนดไว้ ในวันที่ 20 และ 27 เม.ย.นั้น กกต.มีมติให้จัดลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 2 มี.ค. เพื่อให้อยู่ในกรอบเวลา 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งที่จะต้องมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 โดยจะเป็นการจัดลงคะแนนใน 5 จังหวัด ที่มีความพร้อมและ กกต.ประเมินในวันดังกล่าวจะไม่มีการขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้ง ประกอบด้วย การลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของ จ. เพชรบุรี 74 หน่วยเลือกตั้ง และ จ.ระยอง 27 หน่วยเลือกตั้ง รวม 101 หน่วยเลือกตั้ง และการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งกลางทดแทนการลงคะแนนนอกเขตจังหวัดใน จ. เพชรบูรณ์ สมุทรสงคราม สุมทรสาคร
แต่ทั้งนี้หากในวันดังกล่าวมีการขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งอีก กกต.ก็จะประกาศงดการลงคะแนนตาม มาตรา78 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. และกกต.จึงจะพิจารณาจัดลงคะแนนใหม่ต่อไป อย่างไรก็ตามยอมรับการจัดลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 มี.ค.แล้วก็ยังไม่ทำให้สามารถได้ส.ส.ร้อยละ 95 ที่จะเปิดประชุมสภาครั้งแรกได้
ส่วนเขตเลือกตั้งที่เหลือ และยังมีปัญหาจัดการเลือกตั้งไม่แล้วเสร็จ ซึ่งรวมถึง 28 เขตเลือกตั้ง 8 จังหวัดภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัครนั้น มติกกต. จะมีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และ กกต.เห็นว่าสถานการณ์ความขัดแย้งบ้านเมืองสงบคลี่คลายจนจัดการเลือกตั้งได้
ฉะนั้นที่กกต.มีมติไปเบื้องต้นว่า จะมีการจัดลงคะแนนเลือกตั้งทดแทนในวันที่ 20 และ 27 เม.ย.นั้น ยกออกทั้งหมด จะไม่มีการดำเนินการแล้ว แต่กรณีนี้ฝ่ายการเมืองสามารถช่วยได้ ถ้ามีการเจรจาทำให้บ้านเมืองสงบเมื่อไร กกต.ก็จะจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม กรณีข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งส.ส.ในส่วนที่เหลือ ที่ปัญหาไปพร้อมกับการเลืออกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 30 มี.ค. กกต.ไม่เห็นด้วย
สำหรับกรณี 28 เขตเลือกตั้ง 8 จังหวัดนั้น ทางรัฐบาลได้มีหนังสือตอบกลับมายังกกต.แล้วโดยระบุถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถทูลเกล้าเพื่อให้ทรงตราพ.ร.ฎ.กำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ได้ ซึ่งที่ประชุมกกต.ก็พิจารณาแล้วมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีมีความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 214 ซึ่งขณะนี้สำนักงานอยู่ระหว่างการยกร่างคำร้องที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญและเชื่อว่าอย่างช้าภายในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ. จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
“วันที่ 20 และ 27 เม.ย. ยกออกไปก่อน แต่ถ้าสถานการณ์บ้านเมืองสงบคลี่คลาย และศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย กรณี 28 เขตออกมาเร็ว ก็เป็นไปได้ที่ กกต.จะจัดการเลือกตั้งก่อนวันที่ 20 หรือ 27 เม.ย. แต่ทั้งนี้การที่ กกต.กำหนดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใน 5 จังหวัดในวันที่ 2 มี.ค. นั้นมาจากการประเมินของผู้ปฏิบัติในพื้นที่ ว่ามีความพร้อมที่จะจัดได้ ไม่มีม็อบมาขัดขวาง และอยู่ในกรอบเวลา 30 วัน รวมทั้งเป็นผลมาจากการระดมความคิดเห็น กกต.ไม่ได้จัดเพราะว่ามีการไปฟ้องร้องดำเนินคดีหรือถอดถอนกกต.”นายสมชัย กล่าว และว่า ในส่วนการจัดลงคะแนนเลือกตั้ง 5 จังหวัดในวันที่ 2 มี.ค.นั้น กกต.จะจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด โดยจะรวมไปถึงการจัดพิมพ์เพื่อใช้ในหน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาจะต้องจัดการลงคะแนนเลือกตั้ง
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีหนังสือขอให้กกต.พิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 โดยขอให้อนุมัติให้รัฐบาลใช้งบกลางวงเงิน 712 ล้าน เพื่อนำไปชำระหนี้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวว่า รัฐบาลได้มีการถอนหนังสือดังกล่าวกลับไป เนื่องจากเห็นว่ามีรายละเอียดไม่ครบถ้วน กกต.จึงยังไม่ได้มีการพิจารณา หากรัฐบาลดำเนินการแล้วเสร็จก็คงจะส่งมาให้กกต.พิจารณาต่อไป
“ขอย้ำว่ารัฐบาลขอถอนเรื่องกลับไป เพราะสาระสำคัญยังไม่ครบถ้วน และจะส่งกลับมาให้พิจารณาใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องกกต.ไม่อนุมัติ แต่เป็นกรณีที่กกต.ยังไม่ได้พิจารณา" นายสมชัย กล่าว
1 .กรณีการรับสมัคร ส.ส. 28 เขต 8 จังหวัดภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัครนั้นกรณีหากเกิดการขัดขวางนั้น ข้อเสนอที่ให้กกต.รับสมัครนอกเขตเลือกตั้ง รับสมัครในพื้นที่ทหาร รับสมัครทางอินเตอร์เนต ให้ผู้ที่ไปแจ้งความในวันสมัครเป็นผู้สมัครเลยนั้น ไม่สามารถทำได้ โดยกกต.มีข้อเสนอใหม่ และเห็นว่าสามารถทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้สมัครได้ เพราะที่ผ่านมาก็มีกรณีมีการขัดขวางการรับสมัคร จนทำให้บางเขตเลือกตั้งมีผู้สมัครเพียงรายเดียว โดย กกต.จะออกประกาศ กกต. ให้เปิดรับสมัคร ส.ส.ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนด่วนพิเศษ (EMS)ซึ่งประกาศกกต.ดังกล่าว น่าจะออกได้ในสัปดาห์หน้า และเชื่อว่าจะสามารถทำให้สถานการณ์การขัดขวางการรับสมัครคลี่คลายได้
2. กรณีการจัดพิมพ์ และส่งบัตรเลือกตั้งนั้น กกต.มีมติรับทุกข้อเสนอทั้งในเรื่องให้ดำเนินการโดยลับ กระบวนการจัดพิมพ์เป็นไปอย่างโปร่งใส ยกเว้นที่จะให้มีการจัดพิมพ์บัตรสำรองนั้น ไม่ควรดำเนินการ เพราะอาจเกิดการครหาเรื่องความไม่โปร่งใส แต่กกต.จะมีการจัดหาโรงพิมพ์สำรองเพิ่มเติมไว้กรณีมีปัญหา
3. กรณีหากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไม่ได้ กกต.รับข้อเสนอที่ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้สิทธิเลือกตั้งทราบว่า สามารถเข้าไปเป็นกปน.ได้หากเปิดหน่วยเลือกตั้งแล้ว กปน.ไม่มา ใช้มาตรการลงโทษทางวินัยกรณีมีละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งข้าราชการของรัฐเป็นกรรมการประจำหน่วย แต่ในกรณีที่ให้รับผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกเขตเลืออกตั้งเข้าเป็นกปน.นั้น กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ เฉพาะกรณีที่วันเลือกตั้ง กปน.ทั้งหมด 9 คนไม่มาปฏิบัติหน้าที่ซึ่งกรณีนี้ กกต. มีมติแก้ปัญหาโดยจะมีการตั้ง กปน.สำรองให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ โดยจะเป็นทั้งผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้ง และผู้มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตเลือกตั้ง พร้อมกับจะมีการฝึกอบรมการทำหน้าที่ เพื่อให้สามารถส่งลงพื้นที่ได้ทันที ในวันเลือกตั้งหากหน่วยเลือกตั้งใดขาด กปน.ทั้งหมด 9 คน
4. และ 5. กรณีมีการขัดขวางการกระจายบัตรเลือกตั้ง อุปกรณ์ และเกิดเหตุในวันเลือกตั้งจะทำอย่างไรนั้น กกต.รับทุกข้อเสนอทั้งที่ให้มีการ เพิ่มจุดกระจายบัตร จัดอุปกรณ์สำรอง แต่ที่รับไม่ได้ก็คือการให้มีบัตรสำรอง เพราะถ้ามีบัตรสำรอง ก็อาจทำให้เกิดปัญหาการกล่าวหาว่ามีบัตรเลือกตั้งเกินได้
6 .กรณีบทบาทหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในการช่วยดูแลการเลือกตั้งนั้น กกต.รับข้อเสนอที่จะให้มีหนังสือสั่งการไปยังผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ช่วยกกต.จัดการเลือกตั้งโดยจะมีการดำเนินการให้มีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมที่กกต.มักจะทำเป็นหนังสือขอความร่วมมือ 7. กรณีการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ จะสามารถประกาศผล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อทั้ง 125 คนได้หรือไม่ กกต.เห็นว่า การจะออกประกาศกกต.ให้มีการคำนวณสัดส่วนส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ โดยที่การเลือกตั้งส.ส.ยังไม่แล้วเสร็จนั้น ทำไม่ได้ ไม่มีกฎหมายรองรับ และอาจเสี่ยงต่อการทำให้การเลือกตั้งทั้งหมดเสียไป กกต.เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องให้เลือกตั้งแล้วเสร็จครบทั้ง 375 เขตเลือกตั้ง แล้วจึงมีการคิดคำนวนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งกกต.จะเร่งดำเนินการจัดการ เลือกตั้งในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการเปลี่ยนแปลงกรอบเวลา วันลงคะแนนเลือกตั้งทดแทนให้เร็วขึ้นจากเดิมที่กกต.กำหนดไว้ ในวันที่ 20 และ 27 เม.ย.นั้น กกต.มีมติให้จัดลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 2 มี.ค. เพื่อให้อยู่ในกรอบเวลา 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งที่จะต้องมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 โดยจะเป็นการจัดลงคะแนนใน 5 จังหวัด ที่มีความพร้อมและ กกต.ประเมินในวันดังกล่าวจะไม่มีการขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้ง ประกอบด้วย การลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของ จ. เพชรบุรี 74 หน่วยเลือกตั้ง และ จ.ระยอง 27 หน่วยเลือกตั้ง รวม 101 หน่วยเลือกตั้ง และการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งกลางทดแทนการลงคะแนนนอกเขตจังหวัดใน จ. เพชรบูรณ์ สมุทรสงคราม สุมทรสาคร
แต่ทั้งนี้หากในวันดังกล่าวมีการขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งอีก กกต.ก็จะประกาศงดการลงคะแนนตาม มาตรา78 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. และกกต.จึงจะพิจารณาจัดลงคะแนนใหม่ต่อไป อย่างไรก็ตามยอมรับการจัดลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 มี.ค.แล้วก็ยังไม่ทำให้สามารถได้ส.ส.ร้อยละ 95 ที่จะเปิดประชุมสภาครั้งแรกได้
ส่วนเขตเลือกตั้งที่เหลือ และยังมีปัญหาจัดการเลือกตั้งไม่แล้วเสร็จ ซึ่งรวมถึง 28 เขตเลือกตั้ง 8 จังหวัดภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัครนั้น มติกกต. จะมีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และ กกต.เห็นว่าสถานการณ์ความขัดแย้งบ้านเมืองสงบคลี่คลายจนจัดการเลือกตั้งได้
ฉะนั้นที่กกต.มีมติไปเบื้องต้นว่า จะมีการจัดลงคะแนนเลือกตั้งทดแทนในวันที่ 20 และ 27 เม.ย.นั้น ยกออกทั้งหมด จะไม่มีการดำเนินการแล้ว แต่กรณีนี้ฝ่ายการเมืองสามารถช่วยได้ ถ้ามีการเจรจาทำให้บ้านเมืองสงบเมื่อไร กกต.ก็จะจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม กรณีข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งส.ส.ในส่วนที่เหลือ ที่ปัญหาไปพร้อมกับการเลืออกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 30 มี.ค. กกต.ไม่เห็นด้วย
สำหรับกรณี 28 เขตเลือกตั้ง 8 จังหวัดนั้น ทางรัฐบาลได้มีหนังสือตอบกลับมายังกกต.แล้วโดยระบุถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถทูลเกล้าเพื่อให้ทรงตราพ.ร.ฎ.กำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ได้ ซึ่งที่ประชุมกกต.ก็พิจารณาแล้วมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีมีความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 214 ซึ่งขณะนี้สำนักงานอยู่ระหว่างการยกร่างคำร้องที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญและเชื่อว่าอย่างช้าภายในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ. จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
“วันที่ 20 และ 27 เม.ย. ยกออกไปก่อน แต่ถ้าสถานการณ์บ้านเมืองสงบคลี่คลาย และศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย กรณี 28 เขตออกมาเร็ว ก็เป็นไปได้ที่ กกต.จะจัดการเลือกตั้งก่อนวันที่ 20 หรือ 27 เม.ย. แต่ทั้งนี้การที่ กกต.กำหนดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใน 5 จังหวัดในวันที่ 2 มี.ค. นั้นมาจากการประเมินของผู้ปฏิบัติในพื้นที่ ว่ามีความพร้อมที่จะจัดได้ ไม่มีม็อบมาขัดขวาง และอยู่ในกรอบเวลา 30 วัน รวมทั้งเป็นผลมาจากการระดมความคิดเห็น กกต.ไม่ได้จัดเพราะว่ามีการไปฟ้องร้องดำเนินคดีหรือถอดถอนกกต.”นายสมชัย กล่าว และว่า ในส่วนการจัดลงคะแนนเลือกตั้ง 5 จังหวัดในวันที่ 2 มี.ค.นั้น กกต.จะจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด โดยจะรวมไปถึงการจัดพิมพ์เพื่อใช้ในหน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาจะต้องจัดการลงคะแนนเลือกตั้ง
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีหนังสือขอให้กกต.พิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 โดยขอให้อนุมัติให้รัฐบาลใช้งบกลางวงเงิน 712 ล้าน เพื่อนำไปชำระหนี้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวว่า รัฐบาลได้มีการถอนหนังสือดังกล่าวกลับไป เนื่องจากเห็นว่ามีรายละเอียดไม่ครบถ้วน กกต.จึงยังไม่ได้มีการพิจารณา หากรัฐบาลดำเนินการแล้วเสร็จก็คงจะส่งมาให้กกต.พิจารณาต่อไป
“ขอย้ำว่ารัฐบาลขอถอนเรื่องกลับไป เพราะสาระสำคัญยังไม่ครบถ้วน และจะส่งกลับมาให้พิจารณาใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องกกต.ไม่อนุมัติ แต่เป็นกรณีที่กกต.ยังไม่ได้พิจารณา" นายสมชัย กล่าว
