ASTVผู้จัดการรายวัน – “ออริจิ้นฯ” ปรับแผนรับมือตลาดถดถอย หันรัดเข็มขัดเบรกซื้อที่ดิน ลดค่าใช้จ่าย ตั้งเป้าเปิด 3-5 โครงการขึ้นอยู่กับภาวะการเมือง เน้นจุบกลุ่มพนักงานโรงงาน ชี้รายได้ประจำ หนี้น้อย เตรียมลุยตลาดคอนโดฯในนิคมอุตสาหกรรม ประเดิมนิคมบ่อวินปลายปีหน้า ล่าสุดเปิดตัว Tropicana @Erawan BTS (E17) ราคาล้านต้นๆ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก กรรมการบริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงกำลังซื้อลดลง สำหรับบริษัทพบว่ายอดขายในช่วงปลายปียังไม่ได้รับผลกระทบ แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมายอดขายได้ปรับลดลงบ้าง ซึ่งบริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
รวมถึงวางแผนการดำเนินงานแบบระมัดระวังตามสถานการณ์ของตลาด
สำหรับแผนการลงทุนในปี 57 ตั้งเป้าพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 3 โครงการ ในกรณีการเมืองยืดเยื้อหรือรุนแรง แต่หากการเมืองจบเร็วตลาดฟื้นตัว บริษัทพร้อมที่จะเปิด 5 โครงการ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินรองรับหมดแล้ว นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก เนื่องจากมองว่าพนักงานมีรายได้ประจำ มีค่าใช้จ่ายน้อยหนี้น้อยเมื่อเทียบกับพนักงานบริษัทในเมือง โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนที่นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน ราคาห้องชุดประมาณ 9 แสนกว่าบาท ถึงล้านต้นๆ
“บริษัทยังได้ใช้นโยบายรัดเข็มขัด ประหยัด ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็จะตัดออก พร้อมลดงบการตลาดลงเหลือ 1-1.5% ของยอดขาย จากเดิม 1.5-2% รวมถึงการชะลอซื้อที่ดินแลนด์แบงก์ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ใช้เม็ดเงินจำนวนมาก จึงต้องการรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่อน” นายพรีพล กล่าว
สำหรับ 3 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ คือ1.Tropicana @Erawan BTS (E17)” ย่านสมุทรปราการ คอนโดฯแห่งแรกติด BTS เอราวัณ เป็นคอนโดมีเนียมโรว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวน 363 ยูนิต อาคาร A 197 ยูนิต อาคาร B จำนวน 166 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 700 ล้านบาท บนพื้นที่ 2 – 0 – 57 ไร่ ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 24 - 36 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.28 ล้านบาท คาดว่าภายในระยะเวลา 6 เดือนจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 70-80%
2.โครงการย่านบางนา เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 360 ยูนิต มูลค่า 700-800 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ และ 3. โครงการย่านแคราย เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น จำนวน 200 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ
“ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลดี ในด้านการก่อสร้างก็สามารถหาผู้รับเหมาฯได้ง่ายขึ้น และวัสดุก่อสร้างบางประเภท เช่น กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ มีการดัมพ์ราคาลง เพราะมีออเดอร์ที่ลดลง จึงผู้ประกอบจึงซื้อวัสดุได้ถูกลงประมาณ 3-5% ส่วนเรื่องที่ดินก็หาซื้อได้ง่ายมากขึ้น เพราะมีนายหน้ารายใหม่นำมาเสนอขายมากขึ้น แต่ไม่กล้าตุนที่ดินมากเพราะกลัวความเสี่ยง ในแง่ของผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์จากผู้ประกอบการที่ให้โปรโมชั่นมากขึ้น แต่ราคาที่อยู่อาศัยไม่ปรับลดลงแต่อย่างใด"
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปี 57 ตั้งเป้ายอดขายใกล้เคียงกับปี 56 ประมาณ 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 600 ล้านบาท แม้ว่าจะมีแบ็กล็อกจำนวน 1,000 ล้านบาท จากการโอน 4 โครงการ แต่เนื่องจากหลายโครงการกำหนดสร้างเสร็จในช่วงไตรมาส 4 อาจทำให้โอนไม่ทันในปีนี้ ส่วนผลการดำเดินงานในปี 56 บริษัทฯสามารถทำยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,600 ล้านบาท.
นายพีระพงศ์ จรูญเอก กรรมการบริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงกำลังซื้อลดลง สำหรับบริษัทพบว่ายอดขายในช่วงปลายปียังไม่ได้รับผลกระทบ แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมายอดขายได้ปรับลดลงบ้าง ซึ่งบริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
รวมถึงวางแผนการดำเนินงานแบบระมัดระวังตามสถานการณ์ของตลาด
สำหรับแผนการลงทุนในปี 57 ตั้งเป้าพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 3 โครงการ ในกรณีการเมืองยืดเยื้อหรือรุนแรง แต่หากการเมืองจบเร็วตลาดฟื้นตัว บริษัทพร้อมที่จะเปิด 5 โครงการ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินรองรับหมดแล้ว นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก เนื่องจากมองว่าพนักงานมีรายได้ประจำ มีค่าใช้จ่ายน้อยหนี้น้อยเมื่อเทียบกับพนักงานบริษัทในเมือง โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนที่นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน ราคาห้องชุดประมาณ 9 แสนกว่าบาท ถึงล้านต้นๆ
“บริษัทยังได้ใช้นโยบายรัดเข็มขัด ประหยัด ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็จะตัดออก พร้อมลดงบการตลาดลงเหลือ 1-1.5% ของยอดขาย จากเดิม 1.5-2% รวมถึงการชะลอซื้อที่ดินแลนด์แบงก์ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ใช้เม็ดเงินจำนวนมาก จึงต้องการรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่อน” นายพรีพล กล่าว
สำหรับ 3 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ คือ1.Tropicana @Erawan BTS (E17)” ย่านสมุทรปราการ คอนโดฯแห่งแรกติด BTS เอราวัณ เป็นคอนโดมีเนียมโรว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวน 363 ยูนิต อาคาร A 197 ยูนิต อาคาร B จำนวน 166 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 700 ล้านบาท บนพื้นที่ 2 – 0 – 57 ไร่ ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 24 - 36 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.28 ล้านบาท คาดว่าภายในระยะเวลา 6 เดือนจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 70-80%
2.โครงการย่านบางนา เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 360 ยูนิต มูลค่า 700-800 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ และ 3. โครงการย่านแคราย เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น จำนวน 200 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ
“ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลดี ในด้านการก่อสร้างก็สามารถหาผู้รับเหมาฯได้ง่ายขึ้น และวัสดุก่อสร้างบางประเภท เช่น กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ มีการดัมพ์ราคาลง เพราะมีออเดอร์ที่ลดลง จึงผู้ประกอบจึงซื้อวัสดุได้ถูกลงประมาณ 3-5% ส่วนเรื่องที่ดินก็หาซื้อได้ง่ายมากขึ้น เพราะมีนายหน้ารายใหม่นำมาเสนอขายมากขึ้น แต่ไม่กล้าตุนที่ดินมากเพราะกลัวความเสี่ยง ในแง่ของผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์จากผู้ประกอบการที่ให้โปรโมชั่นมากขึ้น แต่ราคาที่อยู่อาศัยไม่ปรับลดลงแต่อย่างใด"
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปี 57 ตั้งเป้ายอดขายใกล้เคียงกับปี 56 ประมาณ 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 600 ล้านบาท แม้ว่าจะมีแบ็กล็อกจำนวน 1,000 ล้านบาท จากการโอน 4 โครงการ แต่เนื่องจากหลายโครงการกำหนดสร้างเสร็จในช่วงไตรมาส 4 อาจทำให้โอนไม่ทันในปีนี้ ส่วนผลการดำเดินงานในปี 56 บริษัทฯสามารถทำยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,600 ล้านบาท.