ASTVผู้จัดการรายวัน-รฟม.รอเก้อ พ.ร.บ.2 ล้านล้านติดหล่ม เงินขาดมือไม่มีจ่ายค่างานโยธารถไฟฟ้าสีม่วงปี57 วงเงินรวม 1.1 หมื่นล.ซึ่งจะเริ่มทยอยก้อนแรก1 พันล.มี.ค.นี้ ชง"ชัชชาติ"ดันเข้าครม.ขอกู้ในประเทศตามมติเดิม เชื่อกกต.ไม่ขัดเหตุเป็นมติเดิมและโครงการผูกพัน "ยงสิทธิ์"เตรียมโยกเงินส่วนอื่นสำรองจ่ายหากกู้ไม่ทัน เผย สีน้ำเงินต่อขยายและสีเขียวใต้
เจอปัญหาเดียวกันเตรียมเร่งขอกู้ในประเทศอีก7 พันล.
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พ.ร.บ.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อมาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ ได้ส่งผลต่อการจ่ายค่าก่อสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ในปี2557 ซึ่งจะเริ่มจ่ายผู้รับเหมาในเดือนมีนาคมเป็นต้นไปรวมเป็นเงินประมาณ 11,000 ล้านบาท ดังนั้น รฟม.จึงได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้พิจารณา เงินกู้ภายในประเทศโดยกระทรวงการคลังค้ำประกันซึ่งเป็นการดำเนินการ ตามมติครม.เดิมเมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ที่ให้รฟม.ยกเลิกเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) งวดที่ 3 สำหรับค่างานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วง มาเป็นแหล่งเงินกู้ในประเทศแทนเพื่อลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และประกอบกับรัฐบาลมีพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทจึงนำโครงการไปผูกรวมกันไว้ด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 รฟม.ประเมินว่าพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทยังมีความไม่แน่นอนเกรงอาจจะล่าช้า จนไม่ทันเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งเป็นกำหนดเริ่มทยอยจ่ายค่างานก่อสร้างในทุกสัญญาตามผลงานเป็นเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงได้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมให้เร่งพิจารณาเงินกู้ในประเทศตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอเรื่องต่อครม.รักษาการแล้ว และมั่นใจว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากแหล่งเงินภายในประเทศให้ รฟม.เนื่องจากเป็นการกู้เงินตามมติครม.เดิม และเป็นโครงการผูกพัน
"แม้ครม.จะอนุมัติให้ใช้เงินกู้ในประเทศ แต่ก่อนที่กระทรวงคลัวจะกู้จริงๆ ต้องเข้าครม.อีกครั้ง คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ยอมรับว่า กระบวนการกู้เงินของกระทรวงการคลังอาจจะไม่ทันเดือนมีนาคม 2557 ที่่จะต้องเริ่มจ่ายก้อนแรกประมาณ 1,000 ล้านบาทดังนั้น รฟม.จะใช้วิธีการบริหารจัดการโดยนำเงินค่าก่อสร้างที่เหลือจากสัญญาอื่นๆ มาสำรองจ่ายไปก่อน
ซึ่งฝ่ายการเงินของรฟม.ประเมินว่าแต่คงมีเพียงพอประมาณเดือนเดียวเท่านั้น"นายยงสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ) และสายสีเขียวใต้(แบริ่ง-สมุทรปราการ) ที่รอใช้เงินจากพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จ่ายค่าก่อสร้างงานโยธา ในปี 2557 สายสีน้ำเงินประมาณ 5,400 ล้านบาท สายสีเขียวใต้ ประมาณ 1,600 ล้านบาท แต่พบปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีมติครม.เมื่อปี 2554 อนุมัติให้ใช้เงินกู้ในประเทศรองรับ ดังนั้น คาดว่าไม่มีปัญหาเช่นกัน โดยจะเริ่มทยอยจ่ายในเดือนมิถุนายน -ธันวาคม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแล้ว
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) ถึงวันที่ 31 มกราคม 2557 มีความก้าวหน้ารวม 84.97% จากแผนงาน 86.44 % ล่าช้ากว่าแผนงาน 1.47% ,โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ) มีความก้าวหน้ารวม 53.19 % จากแผนงาน 53.34 % ยังล่าช้ากว่าแผนประมาณ 0.15 % ,โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้(แบริ่ง - สมุทรปราการ) มีความก้าวหน้ารวม 22.58 %
จากแผนงาน 20.67 %เร็วกว่าแผน 1.91%
เจอปัญหาเดียวกันเตรียมเร่งขอกู้ในประเทศอีก7 พันล.
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พ.ร.บ.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อมาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ ได้ส่งผลต่อการจ่ายค่าก่อสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ในปี2557 ซึ่งจะเริ่มจ่ายผู้รับเหมาในเดือนมีนาคมเป็นต้นไปรวมเป็นเงินประมาณ 11,000 ล้านบาท ดังนั้น รฟม.จึงได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้พิจารณา เงินกู้ภายในประเทศโดยกระทรวงการคลังค้ำประกันซึ่งเป็นการดำเนินการ ตามมติครม.เดิมเมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ที่ให้รฟม.ยกเลิกเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) งวดที่ 3 สำหรับค่างานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วง มาเป็นแหล่งเงินกู้ในประเทศแทนเพื่อลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และประกอบกับรัฐบาลมีพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทจึงนำโครงการไปผูกรวมกันไว้ด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 รฟม.ประเมินว่าพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทยังมีความไม่แน่นอนเกรงอาจจะล่าช้า จนไม่ทันเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งเป็นกำหนดเริ่มทยอยจ่ายค่างานก่อสร้างในทุกสัญญาตามผลงานเป็นเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงได้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมให้เร่งพิจารณาเงินกู้ในประเทศตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอเรื่องต่อครม.รักษาการแล้ว และมั่นใจว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากแหล่งเงินภายในประเทศให้ รฟม.เนื่องจากเป็นการกู้เงินตามมติครม.เดิม และเป็นโครงการผูกพัน
"แม้ครม.จะอนุมัติให้ใช้เงินกู้ในประเทศ แต่ก่อนที่กระทรวงคลัวจะกู้จริงๆ ต้องเข้าครม.อีกครั้ง คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ยอมรับว่า กระบวนการกู้เงินของกระทรวงการคลังอาจจะไม่ทันเดือนมีนาคม 2557 ที่่จะต้องเริ่มจ่ายก้อนแรกประมาณ 1,000 ล้านบาทดังนั้น รฟม.จะใช้วิธีการบริหารจัดการโดยนำเงินค่าก่อสร้างที่เหลือจากสัญญาอื่นๆ มาสำรองจ่ายไปก่อน
ซึ่งฝ่ายการเงินของรฟม.ประเมินว่าแต่คงมีเพียงพอประมาณเดือนเดียวเท่านั้น"นายยงสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ) และสายสีเขียวใต้(แบริ่ง-สมุทรปราการ) ที่รอใช้เงินจากพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จ่ายค่าก่อสร้างงานโยธา ในปี 2557 สายสีน้ำเงินประมาณ 5,400 ล้านบาท สายสีเขียวใต้ ประมาณ 1,600 ล้านบาท แต่พบปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีมติครม.เมื่อปี 2554 อนุมัติให้ใช้เงินกู้ในประเทศรองรับ ดังนั้น คาดว่าไม่มีปัญหาเช่นกัน โดยจะเริ่มทยอยจ่ายในเดือนมิถุนายน -ธันวาคม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแล้ว
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) ถึงวันที่ 31 มกราคม 2557 มีความก้าวหน้ารวม 84.97% จากแผนงาน 86.44 % ล่าช้ากว่าแผนงาน 1.47% ,โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ) มีความก้าวหน้ารวม 53.19 % จากแผนงาน 53.34 % ยังล่าช้ากว่าแผนประมาณ 0.15 % ,โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้(แบริ่ง - สมุทรปราการ) มีความก้าวหน้ารวม 22.58 %
จากแผนงาน 20.67 %เร็วกว่าแผน 1.91%
