xs
xsm
sm
md
lg

ถ้าไม่เคารพสิทธิกู-กูจะฆ่ามึง

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

หลังจากที่ถกเถียงกันมานานในหมู่มวลมหาประชาชนว่า จะไปเลือกตั้งดีหรือไม่ไปดี คือ พวกที่เคยคิดว่าจะไปก็ตั้งใจไป Vote No แต่ตอนนี้ข้อถกเถียงนี้คงตกไปแล้ว เพราะกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่า ไม่ต้องไป มวลมหาประชาชนก็คงจะเชื่อฟังกำนันสุเทพ

ส่วนใครที่ยังยืนยันจะไปเพื่อไปกาช่องไม่เลือกใครหรือ Vote No ก็ไปเถอะครับ นี่เป็นสังคมประชาธิปไตย เพียงแต่มีบางคนแย้งว่า ถ้าต้องการความเป็นเอกภาพเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็ไม่ควรไป

โดยสรุปก็คือว่าจะไป Vote No หรือไม่ไป No Vote ก็เป็นสิทธิของเราและขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนครับ ที่สำคัญเราต้องเคารพสิทธิและการตัดสินใจของกันและกัน

ที่ผมเห็นด้วยกับกำนันสุเทพครั้งนี้ก็คือ กำนันบอกว่า จะไม่ไปขัดขวางการเลือกตั้ง ใครจะไปเลือกก็ไป ผมว่าดีครับ เพราะเราควรจะเคารพสิทธิของบุคคลอื่น อย่างไรเสียถึงใครจะไปเลือกการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่มีวันจะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว แถมพวกเสื้อแดงจะได้ไม่ต้องมาดราม่าถือตะเกียง ถือไฟฉายเข้าไปในคูหา พวกเขาจะเลือกก็ปล่อยเขาไป

แต่ที่ต้องท้วงติงกันก็คือ ข้อความที่แชร์กันใน Social Media แบบผิดๆ ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ใช้สิทธิ 48 ล้านคน ถ้าไปไม่ถึง 24 ล้านคนจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้นไม่เป็นความจริง ถ้าใครเถียงก็ช่วยไปเอากฎหมายมายืนยันหน่อยครับ หรือถ้าไม่เชื่อผมก็เชื่อคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ก็ได้

คุณมีชัยบอกว่า มีคนส่งข้อความใน Social Media ชักชวนให้ทุกคนไม่ออกไปเลือกตั้ง เพื่อว่าถ้ามีคนออกไปเลือกตั้งไม่ถึงร้อยละ 50 แล้วจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

คนที่ส่งข้อความนั้นจะมีเจตนาอย่างไรไม่ทราบ แต่ความเข้าใจนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดเพราะถึงจะมีคนไปเลือกเพียงร้อยละ 10 การเลือกตั้งนั้นก็ไม่เป็นโมฆะ เพราะกฎหมายให้นับแต่เฉพาะคะแนนของคนที่ไปลง ไม่ได้นับคนที่ไม่ไปใช้สิทธิ

สมมติว่าในเขตเลือกตั้งหนึ่ง มีผู้มีสิทธิลงคะแนนจำนวน 100,000 คน มีผู้สมัคร 2 คน ในวันเลือกตั้งทั้งเขต มีคนไปลงคะแนนเพียง 10 คน นาย ก.ได้ 10 คะแนน นาย ข.ไม่ได้คะแนนเลย นาย ก.ก็ได้รับเลือกตั้ง ทั้งยังกล่าวอ้างอย่างเต็มปากด้วยความภูมิใจว่าได้รับเลือกมาด้วยคะแนน 100 เปอร์เซ็นต์ การเลือกตั้งนั้นก็ใช้ได้ตามกฎหมาย

ความเป็นโมฆะของการเลือกตั้ง จะไม่ได้เกิดจากจำนวนคนที่ออกไปใช้สิทธิ หากแต่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ไม่อาจจัดการเลือกตั้งได้ในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ซึ่งทั้งรัฐบาลก็รู้ และกกต.ก็รู้ เพียงแต่ยังไม่ได้พูดกันอย่างจริงจัง ซึ่งนั่นก็คงนำไปสู่ความรับผิดชอบ ทั้งทางอาญาและทางแพ่งที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐบาลและกกต.ในวันข้างหน้า ขึ้นอยู่กับว่าใครจะป้องกันตัวเองได้รอบคอบกว่ากัน

ข้างบนนั้นเป็นความเห็นของปรมาจารย์ด้านกฎหมายนะครับไม่ใช่ความเห็นของผม ส่วนใครจะมองว่าคุณมีชัยจะดีหรือชั่วนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ แต่จะเป็นโมฆะด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งทางกฎหมาย แม้จะไม่ใช่จากเหตุผลการใช้สิทธิไม่ถึงครึ่งอย่างที่ว่ามา

ส่วนเรื่องไม่ไปแล้วเสียสิทธิอะไรผมคิดว่า ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ เพราะอย่างไรเสียอีกไม่กี่เดือนก็จะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ถึงเวลานั้นเราไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สิทธิต่างๆ ของเราก็จะกลับคืนมา

ดูเหมือนเราจะหลีกเลี่ยงการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้ไม่ได้ เพราะรัฐบาลของทักษิณและทักษิณจะใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าพวกเขาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย

ทั้งๆ ที่ทักษิณรู้ว่าแม้พวกเขาจะชนะการเลือกตั้ง ก็ปกครองคนอีกครึ่งหนึ่งของประเทศไม่ได้ แต่อีกด้านเขาก็รู้ด้วยว่า เขาปล่อยให้ประเทศนี้เกิดการปฏิรูปการเมืองไม่ได้ เพราะกติกาที่เป็นอยู่มันง่ายที่จะทำให้เขายึดครองประเทศนี้

ทั้งๆ ที่รู้ว่าการปฏิรูปการเมืองเป็นหนทางเดียวที่จะระงับความแตกแยกของประชาชน ทำให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายหันหน้ามาคุยกันว่า จะหาทางออกของประเทศอย่างไร โครงสร้างของประเทศส่วนไหนที่เป็นปัญหา และเป็นทางออกที่จะไม่เสียเลือดเนื้อ

แต่รัฐบาลภายใต้การบงการของทักษิณไม่เลือกหนทางปฏิรูป ในขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้แล้วว่า การเลือกตั้งครั้งนี้สามารถเลื่อนออกไปได้ ก็คงเป็นเพราะทักษิณมองเห็นว่า การยึดโยงกับการเลือกตั้งทำให้ต่างชาติมองว่า ฝ่ายของเขาเป็นพวกที่ยึดมั่นในกติกา ในขณะที่มวลมหาประชาชน เป็นพวกขัดขวางการเลือกตั้งและไม่เคารพต่อวิถีทางประชาธิปไตย

ทักษิณไม่สนอยู่แล้วว่า ความแตกแยกในประเทศนี้ยิ่งมีมากขึ้นจนคนในชาติไม่อาจประสานรอยร้าวได้ เพราะคนอย่างทักษิณคิดอย่างเดียวว่า ถ้าตัวเองไม่บรรลุเป้าหมาย ประเทศชาติจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ลองคิดดูนะครับว่า คนที่ต้องการบรรลุเป้าหมายของตัวเองจนไม่สนใจชีวิตของผู้คน สามารถปลุกปั่นหลอกลวงคนรากหญ้ามาตายแทนตัวเองได้หลายสิบคนจะมีความโหดเหี้ยมอยู่ในตัวเองเพียงไหน

ไม่เพียงแต่ภาพมวลชนเสื้อแดงที่ถูกหลอกให้มาตายแทนเท่านั้น ในยุคของทักษิณคนอีกจำนวนมากถูกฆ่าเหมือนผักเหมือนปลาทั้งในกรณีฆ่าตัดตอนยาเสพติดนับพันศพซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมไปถึงกรณีตากใบ กรือเซะ และการอุ้มฆ่าโดยรัฐตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

รวมทั้งความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นกับฝ่ายตรงข้ามกับระบอบทักษิณในขณะนี้

ไม่ว่าจะเป็นการปาระเบิดใส่ขบวนพาเหรดของกำนัน การปาระเบิดคุกคามฝ่ายตรงข้ามทั้งในที่ชุมนุมและที่บ้าน การใช้อาวุธสงครามยิงถล่มฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล รวมถึงการปลิดชีวิตคุณสุทิน ธราทิน ซึ่งสุดท้ายตำรวจก็จะเป่าคดีเหล่านี้ให้เงียบหายไป เหมือนกับเหตุการณ์การยิงถล่มด้วยเอ็ม 79 และปาระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อนหน้านี้ที่ตำรวจไม่ยอมทำคดีเลย

ขณะเดียวกันฝ่ายที่สนับสนุนอำนาจรัฐก็ออกมาสร้างภาพด้วยการจุดเทียนเขียนสันติภาพ แม้ตอนต้นจะเผลอไปใช้โลโกเบนซ์แทนสัญลักษณ์สันติภาพก็ตาม แต่น่าประหลาดใจว่า พวกที่จุดเทียนโพสต์รูปจุดเทียนไปด้วย กลับพากันสะใจเมื่อฝ่ายตรงข้ามกับตัวเองถูกกระทำด้วยความรุนแรง

จนมีการพูดกันว่า คนเหล่านี้กลางวันใส่เสื้อแดงเรียกร้องประชาธิปไตย(ต้องไปเลือกตั้ง) หัวค่ำใส่ชุดขาวจุดเทียนเรียกร้องสันติภาพ แล้วตกดึกก็ใส่ชุดดำปาระเบิด ยิงเอ็ม 79

มันตลกนะครับเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยถือป้าย Respect My Vote ไปเลือกตั้งแต่อีกมือถือปืนพร้อมจะปลิดชีวิตกัน จงเคารพสิทธิของกู ถ้าไม่เคารพกูจะฆ่ามึง
กำลังโหลดความคิดเห็น