xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เปิดปูม..มือบึ้มม็อบ มาเฟียเมืองนนท์ -โกตี๋-ชายชุดดำ รับคำสั่ง…“แจ๊ด-เต้น-กี้ร์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

1)มือระเบิดซึ่งก่อเหตุที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เหตุยิงถล่มการ์ดอาสาและปาระเบิดเข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างอุกอาจชนิดที่เรียกว่าเดินเข้ามาปาระเบิดกันกลางวันแสกๆ ขณะที่มีการชุมนุมของมวลมหาประชาชนภายใต้ชื่อ กปปส.(คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ที่ออกมาขับไล่รัฐบาลทรราชของ 'น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' พร้อมทั้งประกาศโค่นระบอบทักษิณและปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง นั้นทำให้ประเทศไทยถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นประเทศที่มีความรุนแรง อยู่ในสภาพที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป แต่แทนที่รัฐบาลจะเร่งไล่ล่าหาตัวคนร้ายกลับให้ ศอ.รส.(ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย)ออกมาแถลงในทำนองว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมเอง และยังคงดึงดันที่จะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 ให้จงได้ เพียงเพื่อให้ตนเองได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง

จึงมีคำถามตามมาว่า ขณะที่เกิดเหตุยิงถล่มและมีระเบิดป่วนเมืองแถบทุกวันเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พร่ำรำพันถึงศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จึงไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แม้แต่รายเดียว ? กลุ่มคนร้ายมือระเบิดเหล่านี้เป็นใคร ? มีเป้าหมายอะไร ? และใครเป็นคนสั่งการ !! ?

ทั้งนี้ จากการสืบหาข้อมูลในเชิงลึกของหลายฝ่าย ทำให้ภาพของคนร้ายและผู้สั่งการเริ่มชัดเจนขึ้น โดยจากข้อมูลพบว่าเหตุระเบิดรายวันครั้งนี้มีกลุ่มแก๊งที่รับงานอยู่ 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะทำงานเชื่อมโยงกัน ประกอบด้วย 1.มาเฟียเมืองนนท์ 2.กลุ่มโกตี๋ และ 3.ชายชุดดำ

2มาเฟียเมืองนนท์ รับใบสั่ง'แจ๊ด'

กลุ่มแรกที่ถูกเปิดโปงออกมา คือ'กลุ่มมาเฟียเมืองนนท์' ลิ่วล้อของ 'แจ๊ด' ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พูดถึงครั้งแรกบนเวที กปปส.ที่ปทุมวัน ส่วน 'แจ๊ด'ที่ว่าจะเป็นคนเดียวกับนายตำรวจใหญ่เจ้าของวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้” หรือไม่นั้นก็คงต้องติดตามสืบเสาะกันต่อไป รู้แค่ว่า 'แจ๊ด' คนนี้เป็นที่ไว้วางใจของ 'นายใหญ่แห่งดูไบ' ไม่น้อยทีเดียว

ว่ากันว่างานนี้ 'แจ๊ด' มอบหมายให้ 2 มาเฟียขาใหญ่แห่งเมืองนนท์ คือ 'เสี่ย จ.' และ 'เสี่ย ห.' ปฏิบัติภารกิจ 'ป่วนเมือง' แลกกับการได้ทำมาหากินในธุรกิจตู้ม้า เปิดบ่อน รับแทงหวยรายวันอย่างเสรี โดยไม่มีตำรวจไปกวนใจ งานนี้สองมาเฟียเป็นนายทุนใหญ่จัดหาลูกน้องและอาวุธสงครามออกปฏิบัติการป่วนเมือง โดยมีตำรวจสายแจ๊ดคอยเปิดทางให้

สำหรับ 'เสี่ย จ.'นั้นเป็นอดีตนักมวยงานวัดซึ่งผันตัวมาทำธุรกิจค่ายมวย ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็คลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจมืดมานานนับสิบปีแล้ว โดยเฉพาะธุรกิจบ่อน โต๊ะสนุ้ก และตู้ม้า เก็บเงินค่าคุ้มครองวินรถตู้ วินรถสามล้อ วินมอเตอร์ไซด์นับสิบแห่งใน จ.นนทบุรี นอกจากนั้นยังทำธุรกิจมือปืนรับจ้าง โดยมีเครือข่ายตัวกลั่นไว้รับงานนับสิบๆคนทีเดียว เสี่ย จ.สนิทสนมกับ 2 นักการเมืองขาใหญ่ในเมืองนนท์ อย่างสมนึกเสื้อแดง และฉลองซีดีเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่มีกิจกรรมของเสื้อแดงเมืองนนท์เสี่ย จ.ก็ให้การสนับสนุนอยู่เนืองๆ นอกจากนั้นก็ยังสนิทกับกลุ่มนักจัดวิทยุเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์อีกด้วย

ที่เสี่ย จ.สามารถทำธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างเปิดเผยก็เพราะมี 2อดีตนายตำรวจระดับนายพล คือ พล.ต.ต. “ฉ.” และ พล.ต.ต. “พ.” ให้การสนับสนุนอยู่ โดยทั้งสองคนแนบแน่นกับระดับบิ๊กของระบอบทักษิณเป็นอย่างยิ่ง

ส่วน 'เสี่ย ห.' เป็นมาเฟียย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เป็นหัวคะแนนของพรรคการเมืองใหญ่ค่ายแดง ฉากหน้าค้าขายและทำธุรกิจทัวร์ แต่เบื้องหลังเปิดบ่อน และรับแทงหวยรายวัน ที่เรียกกันว่าห้วยกระป๋องหรือจับยี่กี ทั้งในย่านบางกรวยและตลาดไท ซึ่งการจะทำธุรกิจมืดเช่นนี้ได้ก็ต้องมีนายตำรวจหนุนหลัง เมื่อผลประโยชน์ลงตัวไม่ต้องแปลกใจที่งานนี้ 'แจ๊ด' จะเลือกใช้บริการของเสี่ย จ.และเสี่ย ห.ในการส่งกุ๊ยมาทำร้ายมวลชนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเพื่อสนองงาน 'นายใหญ่'

'กลุ่มโกตี๋'พี่แจ๊ดหนุน

มือป่วนแก๊งต่อมาคือ 'กลุ่มโกตี๋' ซึ่งงานนี้รับหน้าที่จัดมอเตอร์ไซค์ป่วนเมือง พร้อมทั้งส่งลูกสมุนเข้าไปลอบยิงและปาระเบิดป่วนเวทีแจ้งวัฒนะ และเวที คปท. ซึ่งเป็นเวทีแนวรุกที่สร้างความหนักใจให้แก่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ปวารณาตัวรับใช้ระบอบทักษิณอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู นอกจากนั้นโกตี๋ยังส่งสมุนเสื้อแดงออกไปสกัดและทำร้ายประชาชนที่จะร่วมชุมนุมกับ กปปส. โดยตั้งเต้นท์และจุดตรวจอยู่แถวเมืองเอก ปทุมธานี ใช้อำนาจถ่อยเถื่อนตรวจค้นรถยนต์ที่ขับผ่าน หากใครมีสัญลักษณ์ธงชาติ นกหวีด หรือมือตบ ก็จะทำการยึดและข่มขู่ทำร้ายเพื่อให้เกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าเดินทางมาชุมนุม

ล่าสุดโกตี๋ได้รับมอบหมายให้พาแก๊งเสื้อแดงไปดูแล 'เวทีเบอร์ 15' ในเมืองทองธานี ซึ่งเป็นเวทีที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียง และพื้นที่โดยรอบซึ่งมีเนื้อที่เกือบ 100 ไร่ กั้นไว้เป็นรั้วรอบขอบชิด สำหรับใช้เป็นจุดระดมพลและส่องสุมคนเสื้อแดงที่จะออกปฏิบัติการ โดยด้านในมีบริษัทยาม บ้านพักคนงาน และรถทัวร์สำหรับขนคนจอดอยู่จำนวนหนึ่ง

โดยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า “ จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่กระทรวงการคลังยกให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีแผนว่าในอนาคตจะมีการสร้างสำนักงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่ แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้เป็นจุดระดมพลคนเสื้อแดง เป็นที่ประชุมวางแผนของแก๊งแดงป่วนเมือง รวมถึงชายชุดดำที่จะออกปฏิบัติการด้วย เพราะตอนนี้บรรดาชายชุดดำเข้ามากบดานอยู่ในคอนโดเมืองทอง ซึ่งมีห้องว่างให้เช่าเยอะ ”

ทั้งนี้ เหตุที่โกตี๋สามารถกร่างไปทั่วและไล่ทำร้ายผู้คนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายก็เพราะมั่นใจว่ามีแบ็คดี นอกจากจะสนิทสนมกับ 'เก่ง-ตีนโหด' ณ ดอนเมือง และนักการเมืองขี้ข้าแม้วในจังหวัดปทุมธานีแล้ว ที่สำคัญยังมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ “แจ๊ด” อย่างลึกซึ้งเมื่อครั้งเป็นใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี กระทั่งกล้าโชว์ภาพถ่ายคู่กันหราในเฟซบุ๊กของตัวเอง

แก๊งกาละแม ลูกน้องเสธ.แดง และกองกำลังเขมร

กลุ่มสุดท้ายซึ่งเป็นกลุ่มที่อันตรายที่สุดคือ 'ชายชุดดำ' ซึ่งจากการข่าวพบว่าเป็นกลุ่มที่ส่องสุมอาวุธสงคราม ขนกระสุนปืนอาก้า M16 ระเบิด M79 พร้อมนำอาวุธปืนอาก้ามาดัดแปลงเป็นปืนสไนเปอร์ และเครื่องยิงระเบิด M79 ถล่ม เพื่อเตรียมถล่ม กลุ่ม กปปส.ที่ชุมนุมเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ โดยมีเครือข่ายแฝงตัวมาในกลุ่มผู้ชุมนุม มีการดักฟังวิทยุสื่อสารของทีมการ์ด กปปส.เพื่อเตรียมตัวก่อนก่อเหตุ!

ทั้งนี้ กลุ่มชายชุดดำ นั้นมาจากกองกำลัง 3 ส่วนคือ แก๊งกาละแม อดีตลูกน้องของเสธ.แดง และนักฆ่าจากเขมร โดยกลุ่มนี้จะขึ้นตรงกับ 2 แกนนำฮาร์ดคอร์ของคนเสื้อแดงคือ 'เต้น' และ “กี้ร์”

'กลุ่มกาละแม' หรือ 'กลุ่มทัพพญาเสือ' เป็นกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ที่ซ่องสุมกำลัง ฝึกฝนการใช้อาวุธ และวัตถุระเบิด ที่ทัพพระยาเสือ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มีประมาณ 50 คน เข้ารับการฝึกอบรมประมาณ 1 สัปดาห์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นกองกำลังต่อต้านการทำรัฐประหาร โดยบุคคลที่เข้ารับการอบรมส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มพิมลราช ที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นอกจากนั้นยังมีแดงฮาร์ดคอร์จากอีสาน และภาคตะวันออกร่วมอยู่ด้วย โดยมีสารวัตรหนุ่ม ซึ่งเป็นนิติกร ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.เสงี่ยม ซึ่งเป็นนายตำรวจลูกน้อง “ไอ้ริต” เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงิน โดยจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้คนละ 500 บาทต่อวัน

ทั้งนี้ มีรายงานที่ออกมาจากเอกสารลับของกลุ่มกาละแมว่ากลุ่มนี้ได้ดำเนินการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.2556 เพื่อขนย้ายอาวุธ กระสุนปืน ระเบิด M16 และ M 79 จากราชบุรี เข้ามาเพื่อเตรียมก่อเหตุกับผู้ชุมนุม กปปส. นอกจากนั้นในรายงานฉบับดังกล่าวยังระบุถึงแผนภูมิเครือข่ายกองกำลังชุดดำกลุ่มกาละแมว่ามีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นขั้นตอนด้วย มีแผนผังการทำงานของบุคคลชื่อ เปี๊ยก โจ อ้วน พงษ์ ในการทำงานไปรับอาวุธดังกล่าว อีกทั้งยังมีนายพงษ์เป็นแนวร่วมที่แฝงตัวอยู่ใน กทม.

นอกจากนั้นกลุ่มกาละแมยังขอรับการสนับสนุนกระสุนปืนจากเครือข่ายในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยเจาะจงว่าขอป็นกระสุนปืนอาก้า (AK47) ขนาด 7.65 มม.ชนิดที่ทำจากรัสเซีย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะกลุ่มนี้มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน AK 47 และมองว่ากระสุนปืนจากรัสเซียมีความแม่นยำสูงกว่ากระสุนที่ผลิตจากจีน ทั้งๆ ที่กระสุนปืนจากรัสเซียหายากในไทย และคาดว่ากลุ่มนี้น่าจะนำปืน AK47 ไปใช้เพื่อการซุ่มยิง (Sniper) เป้าหมายโดยเฉพาะ

ในรายงานฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่าชายชุดดำกลุ่มกาละแมได้แฝงตัวเข้ามาหาข้อมูลในกลุ่ม กปปส. และได้ติดตามการเคลื่อนไหวของคลื่นความถี่วิทยุสื่อสารของ กปปส. เพื่อหาจังหวะก่อเหตุ โดยจากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้แม่ข่ายกลุ่มวิทยุสื่อสารของการ์ด กปปส.ที่มีนามเรียกขานว่า “โมบาย” และกลุ่มลูกข่ายที่ติดต่อ ซึ่งมี กระเบนธง จงอางชล อินทรี ซึ่งมีคลื่นความถี่ ระดับ VIP เฉพาะ มีแม่ข่ายนั่งสั่งการผู้ที่ใช้นามว่า 'เสือ 1' ได้เผยแพร่ไปถึงมือชายชุดดำทั้งหมดแล้ว นอกจากนั้นกลุ่มกาละแมยังได้รายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของทีมงาน โฆษก กปปส.จำนวน 6 จุด คือ ห้าแยกลาดพร้าว ราชประสงค์ สวนลุมพินี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อโศก และสี่แยกปทุมวัน ไปแล้วด้วย

ส่วนชายชุดดำซึ่งมาจาก 'กลุ่มลูกน้องเสธ.แดงเก่า' นั้นเป็นกลุ่มที่เคยได้รับการฝึกฝนจาก 'เสธ.แดง' เพื่อออกปฏิบัติภารกิจในนาม 'ชายชุดดำ' ในการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ที่ราชประสงค์ เมื่อปี 2553 ซึ่งหลังจากที่เสธ.แดงเสียชีวิต บางส่วนก็แตกกระสานซ่านเซ็นไป ขณะที่บางส่วนก็ย้ายไปเข้าสังกัดของ “กี้ร์” และ “เต้น” เมื่อมีการระดมชายชุดดำเพื่อออกปฏิบัติการปกป้องระบอบทักษิณอีกครั้ง คนกลุ่มนี้จึงกลับมาร่วมปฏิบัติการด้วย

และสุดท้ายชายชุดดำที่มาจาก 'กองกำลังจากเขมร' ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันจากหลายฝ่ายว่า 'นายใหญ่' ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับ 'ฮุน เซน' ผู้นำเผด็จการของกัมพูชา ได้ขอให้สมเด็จฮุน เซน จัดนักรบเขมรเข้ามาร่วมปฏิบัติการในนาม'ชายชุดดำ' ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของ 'พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์' ผบ.หน่วยสงครามพิเศษทางเศษทางเรือ หรือ หน่วยซีล ซึ่งระบุว่าขณะนี้มีการขนนักรบเข้ามาอีก 10 คันรถตู้ เพื่อเข้ามาก่อเหตุในช่วงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่ม กปปส.

ขณะที่แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า “ ตอนนี้ 'คนไกลจากดูไบ' ได้ติดต่อขอให้ฮุน เซน จัดนักรบเขมรเข้ามาผสมกับตำรวจไทยเพื่อจัดการกับผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล ซึ่งฮุนเซนก็ได้มอบหมายให้เลขาที่ช่วยงานลับๆไปจัดการ ซึ่งเลขาฯ คนนี้เป็นคนกัมพูชาเชื้อสายไทย ทำธุรกิจอยู่ที่เกาะกง ซึ่งปัจจุบันเขาก็มีความสัมพันธ์เชิงเครือญาติกับคนที่ดูไบด้วย โดยให้เลขาฯ คนประสานกับกี้ร์ในการพานักรบเขมรเข้ามา เพราะกี้ร์สนิทกับเลขาฯ คนนี้เนื่องจากเคยได้รับความช่วยเหลือเมื่อครั้งหนีไปกบดานที่กัมพูชาเมื่อปี 53 เลขาฯ คนนี้เขาให้ลูกน้องพากี้ร์หนีลงเรือไปขึ้นที่เกาะกง ตอนนี้กลุ่มชายชุดดำทั้งหมดจึงขึ้นตรงกับกี้ร์และเต้น ซึ่งปฏิบัติการของชายชุดดำนั้นเพื่อมุ่งให้เกิดความหวาดกลัวแก่ผู้ชุมนุม และเป็นเหตุผลในการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่หากไม่สามารถจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 ได้ก็จะก่อสงครามกลางเมืองเพื่อให้ประเทศไทยย่อยยับ อีกทั้งขบวนการนี้ยังมีเป้าหมายถึงขั้นล้มล้างสถาบันเลยทีเดียว”

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข่าวทางลึกพบว่า ล่าสุดพรรคการเมืองใหญ่ของคนแดนไกล ได้สั่งการให้ชายชุดดำปฏิบัติการก่อกวนผู้ชุมนุมทั้งกลางวันและกลางคืน โดยอนุมัติค่าจ้าง “หลักพันล้าน” โดยมีอัตราดังนี้ ปฏิบัติการปาระเบิดใส่มวลชนลูกละ 100,000 บาท ยิงป่วนผู้ชุมนุม ได้ค่าจ้างคนละ 50,000 บาท แต่หากมีประชาชนบาดเจ็บล้มตาย คนแดนไกลจะมีโบนัสก้อนใหญ่ให้

ขณะที่ ทนายคนสนิทของ 'หญิงกระบังลม' จะเป็นผู้สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อาทิ ระเบิด RGD-5 จากรัสเซีย และอาวุธปืนนานาชนิด ซึ่งอาอาวุธดังกล่าวได้ถูกลำเลียงส่งเข้ามารอในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้นานแล้ว นอกจากนั้นยังมีอาวุธหนักทั้ง M 79 ระเบิด RPG ปืน ค.40 ด้วย ซึ่งมีแตงโมช่วยจัดหาและอำนวยความสะดวกในการขนย้ายเข้ามาในประเทศ

จากข้อมูลทั้งหมดจึงปฏิเสธได้ว่า 'ปฏิบัติการป่วนเมือง' โดยมือระเบิดทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวนั้น ล้วนเชื่อมโยงกับคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย รวมถึง 'นักโทษหนีคดีแห่งดูไบ'และบรรดาเครือญาติ ซึ่งนับเป็นความอำมหิตผิดมนุษย์ของนักการเมืองทรราชที่พร้อมจะละเลงเลือดสั่งฆ่าคนไทยเพื่อให้ตนเองได้กลับมามีอำนาจ !!


ผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง ขณะที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นำมวลชนเดินรณรงค์



กำลังโหลดความคิดเห็น