ศาลอนุมัติหมายจับ"ไอ้กบ วงศ์ยอด"มือปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมกปปส.อนุสาวรีย์ชัยฯ ผบช.น.ตั้งค่าหัว 5 แสน คนชี้แบะแสจนนำไปสู่การจับกุมมือปาระเบิดใส่เวทีกปปส.อนุสาวรีย์ชัยฯ-ถ.บรรทัดทอง เตือนหากไม่รีบมอบตัว อาจถูกฆ่าตัดทอน ชี้เป้าหมายคนร้ายต้องการขว้างระเบิดเข้าใส่เต็นท์สื่อมวลชน ขณะที่ สังคมโซเชียล เน็ตเวิร์กวิจารณ์แซด เอารูป "กบ วงศ์ยอด" ลูกน้องเก่า"เสธ.แดง" ที่เคยปรากฏเป็นชายชุดดำเมื่อปี 53 ปัจจุบันอยู่กับ"โกตี๋" คล้ายคนร้ายปาระเบิดเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
วานนี้ (20 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ชายไทยไม่ทราชื่อคำหนิรูปพรรณ ตามกล้องวงจรปิด ตามข้อเสนอของพนักงานสอบสวนสน.พญาไท หลังก่อเหตุปาระเบิดชนิดสังหารเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมกปปส.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 2 จุดเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บรวม 28 ราย โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งต่อไปยังท้ายซอยราชวิถี 14 ซึ่งเป็นทางตันและมีรั้วสังกะสีกั้น คนร้ายจึงได้พังรั้วสังกะสีและวิ่งหลบหนีไปตามทางเดินเลียบคลองสามเสน มุ่งหน้าไปทางวัดมะกอกทะลุออกใต้ทางด่วนวัดมะกอก (ซอยราชวิถี 18) และได้ขึ้นจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งคนร้ายได้ว่าจ้างให้ไปส่งที่สะพานซังฮี้ เมื่อไปถึงสะพานซังฮี้คนร้ายได้ให้ไปส่งต่อที่วัดรวก บางบำหรุ จึงได้เข้าไปส่ง จากนั้นคนร้ายได้หายไปในซอยวัดดังกล่าว
**ตั้งค่าหัวล่ามือบึ้ม ปัดทหารหน่อยซีล
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช. น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ธูปกระจ่าง ผบช.น. ร่วมกันประชุมคลี่คลายคดีในช่วงระหว่างการชุมนุมทั้งหมด ขณะนี้จากพยานหลักฐานมีความชัดเจนว่า คนร้ายที่ได้ทำการออกหมายจับนั้น เป็นผู้ที่ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ผู้ชุมนุมจริงที่ เวทีอนุสาวรีย์ชัยฯจริง โดยล่าสุดชุดสืบสวนพบเสื้อและหมวกที่คนร้ายใส่ ถูกนำไปทิ้งไว้ภายในซอยวัดรวกบางบำหรุ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนหาเบาะแสและติดตาม จับกุมตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้หากใครสามารถชี้เบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมได้ทั้งคดีที่ถนนบรรทัดทองและอนุสาวรีย์ชัยฯนั้น จะมีรางวัลให้คดีละ 5 แสนบาท ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพื่อเอาความจริงออกมาให้ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆนั้น เกิดจากอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามขอฝากเตือน ผู้ที่ก่อเหตุที่ถูกออกหมายจับว่า ให้รีบเข้ามอบตัว เพราะชีวิตอาจจะไม่ปลอดภัย
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เป็นการเกิดเหตุตอนกลางวัน ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก ซึ่งจะต้องหามาตรการป้องกันให้เข้มงวดมากขึ้นต่อไป แต่ในส่วนของการป้องกันช่วงกลางคืน หลังสามทุ่มเป็นต้นไปตำรวจมีการตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง และมีด่านตรวจร่วมระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม อยากขอความร่วมมือไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้ เข้ามาหารือในการวางแผนป้องกันเหตุร่วมกัน เพื่อไม่ให้มีพี่น้องประชาชนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอีก
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์ที่ถนนบรรทัดทองนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีความเชื่องโยงกับเหตุที่อนุสาวรีย์หรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดในช่วงใกล้เคียงกัน และจากการตรวจสอบของอีโอดีก็พบว่า ระเบิดที่ใช้เป็นชนิดเดียวกัน โดยต้องขอเวลาตรวจสอบสักระยะ ซึ่งระเบิดดังกล่าวยืนยันว่า ไม่มีการใช้ในหน่วยงานราชการตำรวจหรือทหาร และกระแสข่าวที่ระบุว่า คนร้ายที่ปาระเบิดใส่เวทีกปปส.อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นทหารหน่วยซีลก็ไม่ใช่ความจริง อีกทั้งกรณีการจับกุมผู้ต้องหา ที่พกพาอาวุธในพื้นที่สน.บางนา ซึ่งมีระเบิดชนิดอาร์จีดี 5 รวมอยู่ด้วยนั่น กำลังสืบสวนขยายผลอยู่เช่นกันว่า มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
**ตร.ชี้จงใจปาบึ้มใส่เต็นท์สื่อ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ว่าจากวิถีการปาคนร้ายพยายามขว้างระเบิดให้พ้นชายคาป้ายรถประจำทางโดยข้างหน้าเป็นเต็นท์พักของสื่อมวลชน ขณะที่ด้านข้างเป็นตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นที่พักของแกนนำกปปส. และจากวิถีการปาพบว่ากระเดื่องได้กระเด็นไปตกร่องระบายน้ำริมทางเท้า ส่วนตัวระเบิดซึ่งมีน้ำหนักได้แฉลบไปโดนกันสาดร้านโคโค่ ระเบิดจึงได้แฉลบออกขวามาตกตรงจุดดังกล่าว หากระเบิดไม่แฉลบถูกกันสาดเสียก่อน จะไปตกตรงเต็นท์ของสื่อมวลชน ซึ่งตามวัตถุประสงค์ของคนร้ายน่าจะเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ สำหรับจุดที่คนร้ายลงมือก่อเหตุเป็นจุดที่มีคนเดินผ่านไปมาได้ตามปกติ จากการตรวจสอบวัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ในครั้งนี้เป็นระเบิดขว้างสังหารแบบ RGD5 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันเหตุระเบิดที่ถ.บรรทัดทอง โดยระเบิดทั้ง 2 ลูก มีล็อตนัมเบอร์เดียวกัน คือ 48 ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่าระเบิดจากทั้ง 2 จุดมาจากแหล่งเดียวกัน
**วิจารณ์แซดฝีมืออดีตลูกน้องเสธ.แดง
วานนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค ได้มีการแชร์ภาพผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นคนร้ายที่ปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีการนำรูปถ่ายของ ส.ท.รชต หรือ กบ วงศ์ยอด ลูกน้องของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่เคยมีภาพปรากฏเป็นชายชุดดำในช่วงเหตุการณ์ทางการเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งปัจจุบันมาอยู่กับ โกตี๋ กลุ่มเสื้อแดงปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม สังคมออนไลน์มีการนำรูปถ่ายของ นายกบ วงศ์ยอด มาทำการใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์ นำมาเปรียบเทียบกับรูปภาพคนร้ายที่ก่อเหตุปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัย ที่กล้องวงนจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ โดยนำมาใส่หมวก ปรากฏว่ารูปลักษณะใบหน้าของนายกบ วงษ์ยอด มีลักษณะใกล้เคียงคนร้ายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก
**ลอบยิงรถกปปส.ที่ราชบุรี
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 01.30 น.วานนี้ (20 ม.ค.)พ.ต.ท.สมชาย ทองเสงี่ยม สารวัตรเวรสภ.เมือง จ.ราชบุรี รับแจ้งคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกระจะรถยนต์ หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เลขที่ 80/22 ถนนคฑาธร ต.หน้าเมือง บ้านพักของนายบุญมาก ศิริเนาวกุล อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และนางกัลยา ศิริเนาวกุล อดีตผู้สมัครส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ไปตรวจสอบพบเป็นรถกระบะยี่ห้อมิซูบิชิ ไทรทัน สีดำ 4 ประตู ทะเบียน กจ 5474 ราชบุรี ของน.ส.จิราธร จักรวัฒน์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 9 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยน.ส.จิราธรไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ที่กรุงเทพฯ เมื่อกลับมาตอนดึกเห็นมีร่องรอยถูกยิงกระจกหลังรถและและทะลุเป็นรู
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถไม่พบหัวกระสุนปืน สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นหัวน๊อตหรือก้อนหินที่ยิงด้วยหนังสติ๊กหรือใช้ขว้างปา แต่ก็ไม่พบหัวน๊อตและก้อนหิน จึงต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางสุกัลยา อันตะลา ภรรยาของนายสุชิน อันตะลา ลูกน้องคนสนิทของนายบุญมากและนางกัลยา นอนอยู่ในรถกระบะมาสด้าสีแดง ทะเบียน บย 4767 ราชบุรี ที่จอดอยู่คู่กัน หลังกลับจากชุมนุม แต่ไม่ได้ยินเสียงปืน มารู้อีกครั้งเมื่อเจ้าของรถกลับมาพบและแจ้งตํารวจ