โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
รัฐบาลเถื่อนประกาศภาวะฉุกเฉินได้หลายวัน อ้างมาตรการหน่อมแน้ม อย่างนั้นอย่างนี้ มีแต่สะสมแต้มความเกลียดชัง ทุกวันนี้เป็นเหมือนสัมภเวสีเร่ร่อน ไร้ที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง เสนาบดีถ่อยบางคนนอนบ้าน ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ ทำเอาสมาชิกครอบครัวพลอยรับกรรมพร้อมขี้ข้าบักเหลี่ยม
เป็นสภาพน่าทุเรศรกหูรกตายิ่งนัก แม้แต่ผู้นำรัฐบาลรักษาการ แม่นางโพยปูโพรกเน่าในก็ตาม ทุกวันนี้อาศัยลีลาหน้าด้านหน้าทน อำมหิตเลือดเย็น ลอยตัวเหนือปัญหาทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวหลักของวิกฤติ มือเปื้อนเลือด
เป็นสัญลักษณ์ของความหายนะ วิบัติวินาศของระบบในบ้านเมือง!
แต่ละวันต้องหลีกเร้นกายไปนั่งเป็นตัวตลกอยู่หัวโต๊ะประชุม หวาดหวั่นว่าจะตกอยู่ในวงปิดล้อมของมวลอภิมหาประชาชนซึ่งจัดชุดไล่ล่าปิดสำนักงานราชการ ไม่ให้สุมหัวทำชั่วให้แผ่นดิน ทำให้รัฐบาลนางโพยเป็นรัฐบาลลับ
อยู่แบบเร้นลับ ลับๆ ล่อๆ ไร้ยางอาย อาศัยกองกำลังตำรวจไร้จิตสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ค้ำบัลลังก์หุ่นเชิดประสานกับไอ้เหลี่ยมร้าย วางแผนชั่วร้ายว่าทำอย่างไรจะยื้ออยู่จนถึงวันเลือกตั้งหาความชอบธรรม
ถ้าสำเร็จก็จะอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง จัดการสลายการชุมนุมซึ่งกำลังทำให้หน่วยงานของรัฐบาลเป็นอัมพาต ข้าราชการมีวันหยุดยาว สร้างปรากฏการณ์ให้การเมืองไทยเป็นแห่งแรกในโลกที่มีการชุมนุมไล่รัฐบาลแต่มีการแสดงดนตรีกลางเมืองยิ่งกว่ามหกรรมบันเทิงต่อเนื่องยาวนานกว่า 3 เดือน
ไม่มีแห่งใดในโลกที่เห็นแกนนำการชุมนุมอย่างน้อย 7-8 เวทีพามวลชนเดินบนถนน มีประชาชนยืนเฝ้ารอคอยเป็นชั่วโมงๆ รอเอาเงินใส่มือเป็นทุนต่อสู้ กลางคืนมีดนตรี 7-8 เวที ผู้คนเต้นรำ การปราศรัยเปิดโปงการเมืองชั่วร้าย
เทียบกับการเมืองลักษณะเดียวกันในยูเครน มวลชนต่อต้านขับไล่รัฐบาลกรอกน้ำมันใส่ขวด เปิดฉากรบเต็มที่กับตำรวจปราบจลาจล มีความรุนแรงยืดเยื้อเหมือนเมืองไทย ยังไร้ทางออกเมื่อนักการเมืองใช้ความหน้าด้านเป็นยุทธวิธีหลัก ไม่ยอมลาออก อ้างว่าต้องรักษาระบอบการเมืองเลือกตั้ง
นางโพยก็เช่นเดียวกัน ส่งเสียงเจื้อยแจ้วซ้ำซากเหมือนนกแก้ว นกขุนทอง “ดิฉันมาจากการเลือกตั้ง ต้องอยู่ต่อเพื่อรักษาประชาธิปไตย” แต่นางใช้วิธีมือถือสาก ปากถือศีล เปิดช่องให้มือสังหาร กองกำลังป่วนเมืองลอบปาระเบิด ใช้อาวุธปืนยิงใส่มวลชนบาดเจ็บล้มตาย แต่นางยังไม่รู้สำนึก
นางถูกประณามว่าเป็นสตรีมือเปื้อนเลือด แต่นางก็แสดงความเลือดเย็นอำมหิต เปิดปากขอโทษสำหรับความรุนแรงหลังจากได้รับคำแนะนำ แต่จิตสำนึกของนางนั้นหาได้รู้สึกจากจิตใจก็หาไม่ นางคิดแต่ว่าเป็นการไม่ถูกต้องที่มวลชนให้นางลาออกแม้นางและพวกจะทำความชั่วร้ายหายนะสารพัด
ประกาศภาวะฉุกเฉินเพียงหวังจัดการกับมวลชน วางแผนจะปิดสถานีทีวี ยึดทรัพย์ผู้สนับสนุนเงินทอง หลังจากอายัดบัญชีเงินฝากแกนนำและผู้เกี่ยวข้อง อ้างกฎหมายทั้งๆ ที่รัฐบาลนั้นอยู่ในสภาพเถื่อน นอกรัฐธรรมนูญ
เห็นแกนหลักของผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายไต้ประกาศภาวะฉุกเฉินก็สะท้อนให้เห็นความระส่ำระสาย นั่งหน้าสลอนล้วนเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยมพร้อมทำความชั่ว เพื่อรักษาอำนาจแม้จะต้องเข่นฆ่าทำร้ายประชาชน เลือดตกยางออก ใช้เล่ห์กล โฆษณาชวนเชื่อให้รัฐบาลต่างชาติเชื่อว่าผู้ชุมนุมเป็นต้นตอความรุนแรง
ยืมปากรัฐบาลต่างชาติฮุบผลประโยชน์ในไทยแล้ว ขบวนการบักเหลี่ยมยังกุมสภาพเหนือสื่อต่างชาติใส่ร้ายป้ายสีมวลชน สร้างภาพให้ตัวเองว่ามาจากการเลือกตั้ง ขณะที่สื่อละเว้นการรายงานพฤติกรรมชั่วของกังฉินกินเมือง
ทุกวันนี้เหลือเพียงองค์กรตำรวจไร้ความน่าเชื่อถือเป็นฐานค้ำบัลลังก์ พร้อมจะทำรัฐประหารเงียบ ถ้ายังคิดว่าเสน่ห์นางโพยยังผูกจิตมิตรสัมพันธ์กับผู้นำเหล่าทัพบางรายซึ่งถูกมองว่าใช้อำนาจต่อรองแสวงหาผลประโยชน์
แต่ก็นั่นแหละ ผลสุดท้ายสถานการณ์จะบังคับให้กองทัพต้องเลือกปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ เมื่อแนวโน้มของรัฐบาลเถื่อนแสดงให้เห็นว่าพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำรัฐประหารเสมอไป
มีช่องทางมากมายที่จะจัดการรัฐบาลนางโพยซึ่งปัจจุบันถือว่าสิ้นสภาพ ไร้อำนาจการบริหาร ทุกส่วนของสังคมปฏิเสธ และรัฐมนตรี กลุ่มขี้ข้าบักเหลี่ยมไม่กล้าเสนอหน้ามาเดินพบปะชาวบ้าน กลายเป็นพวกลับๆ ล่อๆ
ศึกใหญ่ที่ต้องเผชิญกับมวลชนเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้งก็หนักหนาสาหัสเกินทนแล้ว ยังมีชาวนาทั่วประเทศลุกฮือไล่ทวงเงินจากการจำนำข้าว แต่ยากยิ่งกว่ารีดเลือดจากปูเมื่อรัฐบาลชั่วถังแตกเกินแก้
ผู้นำกองทัพเสมือนรอหาจังหวะให้สุกงอม ยอมให้กองกำลังเถื่อนผสมตำรวจเข่นฆ่าลอบทำร้ายประชาชนต่อเนื่อง เงื่อนไขปัจจุบันนับว่าได้ที่เมื่อขบวนการเสื้อแดงสิ้นสภาพเพราะรัฐบาลนางโพยโกงชาวนาแบบหน้าด้านๆ
การลุกฮือทั้งแผ่นดิน ปิดเส้นทางให้บักเหลี่ยมได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ และเป็นตัวเร่งให้นางโพยและเครือญาติอาจต้องอพยพลี้ภัยไปต่างประเทศถาวรถ้าสภาพของมือเปื้อนเลือดเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ บริหารงานอยู่บนกองศพ
การดิ้นรนเฮือกสุดท้ายของทรราชจนตรอกจะทิ้งทั้งซากศพและซากปรักหักพังของสภาวะเศรษฐกิจ แต่มองอย่างไรก็คุ้ม เมื่อเทียบกับการปล่อยให้ตระกูลกังฉินโกงทั้งโคตรเหลือรากเหง้าอยู่สร้างวิกฤติให้บ้านเมืองต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหาร หรือปฏิวัติของประชาชน ต้องไม่มีการตีงูให้หลังหัก ต้องขุดรากถอนโคนเครือข่ายขี้ข้าบริวารบักเหลี่ยมเพื่อฟื้นฟูชาติให้แผ่นดินไทยเหมาะสำหรับคนดีมีศีลธรรม คุณธรรมอยู่อาศัยเท่านั้น