xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดธ.ก.ส.ยันไม่ใช้เงินฝากอุ้มจำนำข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลต้องหา 1.3 แสนล้านเอง บอร์ด ธ.ก.ส.ประชุมด่วนมีมติไม่นำเงินฝากมาจ่ายจำนำข้าวเด็ดขาด รอ กกต.ชี้ขาดให้กระทรวงการคลังกู้เพิ่ม 1.3 แสนล้านบาทและเงินนำส่งจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์เท่านั้น รับมีประชาชนบางส่วนทยอยถอนเงินฝากบ้างแต่ไม่กระทบฐานะของ ธ.ก.ส.แต่อย่างใด

วานนี้ (21 ม.ค.) คณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้นัดประชุมบอร์ดอีกครั้งหลังจากที่ไม่สามารถประชุมได้เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมาเนื่องจากไม่ครบองค์ประชุม โดยระหว่างที่รอผลการประชุมทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธ.ก.ส.ได้ทยอยมารอมติที่ประชุมเช่นเดียวกันพร้อมชูป้ายคัดค้านการนำเงินฝากของธนาคารมาใช้ในโครงการจำนำข้าว

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รักษาการ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ ธ.ก.ส. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ธ.ก.ส.ยืนยันจะไม่นำเงินฝากของประชาชนไปใช้ในโครงการจำนำข้าวอย่างแน่นอน ขอให้ผู้ฝากเงินและประชาชนทั่วไปมีความสบายใจได้ ขณะนี้คงทำได้เพียงรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาเรื่องกู้เงิน 1.3 แสนล้านบาทที่สามารถนำมาจ่ายให้ชาวนาที่ยังรอไม่ได้เงินมานาน 2-3 เดือน ละหากกกต.ยังไม่มีการพิจารณาในเร็ววันนี้ที่ประชุมก็มีมติให้ฝ่ายบริหารของ ธ.ก.ส.เร่งพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรเพิ่มเติม โดยถือเป็นมาตรการที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)

"ช่วงนี้ขอให้พี่น้องเกษตรกรอดใจรออีกนิด หากธ.ก.ส.ยังไม่ได้รับเงินเข้ามาจ่ายค่าจำนำข้าวในเร็ววันนี้ก็จะมีมาตรการช่วยเหลือออกไปก่อน ซึ่งน่าจะบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง และหวังว่ากกต.จะพิจารณาให้กระทรวงการคลังกู้เงิน 1.3 แสนล้านบาทได้ เพราะถือเป็นโครงการต่อเนื่องเรื่องเดิมตามมติครม.เดือนกันยายน 2556 จึงหวังว่ากกต.จะเข้าใจและเห็นใจเกษตรกร"นายทนุศักดิ์ กล่าวพร้อมกับก้มหัวขอโทษพนักงานธ.ก.ส.ที่เคยพูดไม่ดีก่อนหน้านี้

ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า วันนี้มีความชัดเจนว่าบอร์ดธ.ก.ส.ไม่มีมติที่จะนำเงินฝากไปใช้ดำเนินโครงการจำนำข้าว และคาดหวังว่ากระทรวงการคลังจะจัดหาเงินกู้มาให้ 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งหากได้เงินเข้ามา ธ.ก.ส.ก็จะจ่ายเงินออกไปให้ชาวนากว่า 1 ล้านรายที่รอเงินอยู่ทันที ส่วนมาตรการช่วยเหลือเกษตกรนั้นถือว่าเป็นการดำเนินงานตามกรอบกฎหมายที่ธนาคารกำหนด ซึ่งมีทั้งมาตรการเดิมที่ทำอยู่แล้วและมาตรการที่จะออกมาเพิ่มเติมใน 1-2 วันนี้

รายงานข่าวเปิดเผยว่ามาตรการช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อน นอกเหนือจากการยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไป 1 ปี และการงดคิดเบี้ยปรับในอัตรา 3% แล้ว การให้สินเชื่อใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่องนั้นจะมีการปรับหลักเกณฑ์การให้กู้ใหม่จากที่ให้วงเงิน 20%ของมูลค่าผลผลิตที่รอการขายตามใบประทวน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ใบประทวนมาค้ำประกัน โดยอาจจะพิจารณาขยายวงเงินให้มากขึ้นเพื่อการจูงใจและพิจารณาปรับลดอตราดอกเบี้ยให้จากเดิมที่คิดในอัตรา 7% แต่ต้องดูไม่ให้กระทบกับธนาคารด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรไม่สนใจเข้ามาใช้เงินกู้ดังกล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาความคืบหน้าของการจ่ายเงินจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 2556/2557 โดยล่าสุดมีการจ่ายเงินไปแล้ว 5.1 หมื่นล้านบาท ปริมาณข้าว 3.2 ล้านตัน ขณะที่อนุมัติแล้วรอการจ่ายอยู่ที่ 5.4 หมื่นล้านบาท จากวงเงินที่สามารถจ่ายได้ 5.6 หมื่นล้านบาท ทำให้ขณะนี้ใกล้เต็มวงเงินแล้ว ส่วนใบประทวนมีการออกไปแล้วจนถึงขณะนี้ 1.7 แสนล้านบาท ปริมาณข้าว 10.9 ล้านตัน จากที่ประเมินไว้เดิม 10 ล้านตันใช้เงิน 1.5 แสนล้านบาท และคาดการณ์กันว่าจนถึงวันที่ 28 ก.พ.นี้ซึ่งเป็นวันปิดโครงการจะมีใบประทวนทยอยเข้ามาอีกเพิ่มเป็น 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งนอกจากใช้เงินกู้ 1.3 แสนล้านบาทแล้วยังรอเงินขายข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ที่จะนำส่งเข้าประมาณเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท โดยเดือนมกราคมนำส่งมาแล้ว 3-4 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การกู้เงินมาใช้ในการจำนำข้าว 1.3 แสนล้านบาทนั้นนอกจากต้องรอกกต.ชี้ชัดแล้วต้องรอให้รัฐบาลพิจารณาและมีมติ ครม.รองรับด้วยเพราะถือเป็นการขยายกรอบวงเงินเกิน 5 แสนล้านบาทชั่วคราว
รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาฐานะของของ ธ.ก.ส.ด้วย โดยพบว่าขณะนี้เงินฝากของธนาคารยังไม่มีปัญหา แม้จะมีความสับสนและมีลูกค้าไม่มั่นใจต้องการถอนเงินฝากก่อนหน้านี้ โดยยอมรับว่าบางสาขามีการถอนเงินจริงแต่เป็นเพียงเล็กน้อย และมี 2 สาขาที่สุราษฎ์ที่ถูกปิดโดยกลุ่มผู้ชุมนุมแต่สถานการณ์น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วหลังจากที่บอร์ด ธ.ก.ส.ยืนยันชัดเจนจะไม่ใช่เงินฝากอย่างแน่นอน

โดยขณะนี้เงินฝากของ ธ.ก.ส.มีเพิ่มขึ้นจากอีก 1.25 แสนล้านบาทมาอยู่ที่ 1.125 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% โดยสลากออมทรัพย์ทวีสินที่ครบกำหนด 2.5 หมื่นล้านบาท นั้นยังมีผู้สนใจฝากต่อถึง 2.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่สินเชื่อขยายตัว 10% และมีการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องล่าสุด 1.8 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 18% สูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 6%.
กำลังโหลดความคิดเห็น