xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"ตราช้าง!ซื้อเวลาคงอำนาจ ตั้งสภาปฏิรูปปาหี่ คปท.ลั่นขวางจับเบอร์พรรควันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปู"อย่างหนา เสนอตั้ง "สภาปฏิรูปประเทศ" หวังอยู่ในอำนาจต่อ และดันทุรังเลือกตั้งให้ได้ "ธงทอง"อย่างไว แจงเป็นฉากๆ คาด 7 วันได้ตัวแทน 2 พันคน ปลายม.ค.ได้สภาปฏิรูป ปชป. จวกแค่แทคติกซื้อเวลา กปปส. เมินเข้าร่วม คปท. ปิดล้อมสกัดสมัคร ส.ส.รายชื่อ ลั่นขวางจับเบอร์พรรคต่อ เพื่อไทยสุมหัวพรรคเล็กหาทางออก "ธาริต"รับใช้ไม่เลิก ชงศาลถอนประกัน 9 แกนนำพันธมิตร

เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (25ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ตนต้องขอบคุณนักวิชาการ นักธุรกิจ และพี่น้องประชาชน ผู้มีความหวังดีต่อประเทศ จากหลายภาคส่วนที่ช่วยกันแสดงความคิดเห็น เพื่อหาทางออกจากวังวนแห่งความขัดแย้งให้กับประเทศไทย และจากเวทีเสวนา สัมมนา หรือการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประมวลได้ว่า ส่วนใหญ่ก็คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะในการที่จะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกระดับ การสร้างความเข้มแข็งในทางการเมือง การพัฒนาการเมือง และการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในหลายเวทีมีการเสนอให้จัดตั้งองค์กรที่จะมาดำเนินการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วไม่เป็นการขัดหรือแย้ง และสามารถทำคู่ขนานไปกับกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.2557 ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดไว้เป็นที่แน่ชัดแล้ว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าถึงเวลาที่เราต้องช่วยกันพัฒนากลไกที่จะขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้เกิดขึ้น ในโอกาสนี้จึงใคร่ขอเสนอรูปแบบองค์กรที่จะจัดตั้งขึ้นรูปแบบหนึ่ง โดยอาจเรียกว่าเป็น “สภาปฏิรูปประเทศ” ซึ่งพี่น้องประชาชนอาจสงสัยว่า ใครหรือจะมาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ ตนขอยืนยันว่า สภาปฏิรูปประเทศ จะไม่ใช่เวทีของรัฐบาล ซึ่งถ้าทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน รัฐเป็นเพียงผู้จัดตั้ง โดยใช้คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบ เพื่อให้เรื่องนี้สามารถเดินหน้าได้ทันที

ทั้งนี้ สภาปฏิรูปประเทศ จะเป็นสภาของตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง โดยการสรรหาสมาชิก จะเริ่มจากการสรรหาตัวแทนประชาชนจากสาขาอาชีพต่างๆ จำนวน 2,000 คน แล้วให้ตัวแทนอาชีพจำนวน 2,000 คนดังกล่าว เลือกผู้ที่จะเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ จำนวน 499 คน

สำหรับคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการสมัคร การสรรหา การคัดเลือก และการแต่งตั้งตัวแทนวิชาชีพ ตลอดจนการเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศในขั้นตอนต่างๆ จะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการที่มีองค์ประกอบ ดังนี้

1.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผู้แทนซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดแต่งตั้งจากผู้ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นกรรมการ

2.หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า ซึ่งที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง เลือกจำนวน 2 คน เป็นกรรมการ

3.เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ

4.อธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ซึ่งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเลือกจำนวน 1 คน เป็นกรรมการ

5.ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน เป็นกรรมการ

6.ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน เป็นกรรมการ

7.ประธานสมาคมธนาคารไทย หรือผู้แทน เป็นกรรมการ

8.ประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน ซึ่งกรรมการที่กล่าวถึง เบื้องต้นเป็นผู้เสนอชื่อ และคณะกรรมการชุดนี้ จะมีกรรมการรวมทั้งสิ้น 11 คน

สำหรับหน้าที่ของสภาปฏิรูปประเทศ ดังนี้

1.ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งอาจรวมถึงการจัดเตรียม ร่าง แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

2.ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารภาครัฐ

3.ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการจัดให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม หรือการยกเลิกกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งต่างๆ เพื่อให้การเลือกตั้งในทุกระดับ การสรรหา และแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ การใช้อำนาจรัฐ และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม

4.ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงการราชการ ทั้งฝ่ายการเมือง และฝ่ายราชการประจำ เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้มีประสิทธิภาพ

5.ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการปรับปรุงการกระจายอำนาจ การสร้างความรู้ความเข้าใจกฎหมาย การเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน และท้องถิ่น โครงสร้างการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินในทุกระดับ การปรับปรุงระบบ และวิธีการงบประมาณ และการบริหารงานบุคคลภาครัฐ

ทั้งนี้ เมื่อสภาปฏิรูปประเทศได้ดำเนินการในข้อใดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำรายงานเสนอนายกรัฐมนตรี และให้สภาปฏิรูปประเทศ เปิดเผยรายงานดังกล่าวต่อสาธารณชน เพื่อที่จะได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ต่อไป โดยกรอบเวลาการดำเนินการขึ้นอยู่กับสภาปฏิรูปประเทศเป็นผู้กำหนดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

สำหรับผู้ที่เป็นห่วงถึงความต่อเนื่อง เมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 และมีรัฐบาลหลังการเลือกตั้งแล้วนั้น จะมีการกำหนดไว้ด้วยว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้การปฏิบัติงาน ตามคำสั่งนี้ดำเนินต่อไปอย่างสืบเนื่องตามเจตนารมณ์ และแนวทางที่ทุกฝ่ายให้ความเห็นชอบแล้ว

ทั้งนี้ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นรูปแบบที่เสนอเพื่อให้ได้มีการแลกเปลี่ยน ถกเถียง หารือ จากทุกฝ่าย ซึ่งรัฐบาลจะได้รวบรวมนำข้อคิดเห็น มาปรับปรุงแก้ไขและออกเป็นคำสั่งก่อนสิ้นปีนี้

"ดิฉันขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วน ตระหนักถึงภาระกิจการปฏิรูปประเทศที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่จะต้องช่วยกันทำให้การปฏิรูปประเทศครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน เพื่อสังคมที่สงบสันติ มีความปรองดอง รักและสามัคคี และเพื่ออนาคตของลูกหลานของเราทุกคน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

***รับใบสั่งเดินหน้าสภาปาหี่

นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนและวิธีการทางกฎหมายของการจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศว่า ขั้นตอนลำดับเวลาการดำเนินการ คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ ภาคส่วนต่างๆ ที่เป็นสาธารณะ จะเสนอความคิดเห็นเข้ามา แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ น่าจะลงนามได้ภายในวันที่ 27 ธ.ค. จากนั้นหลังเทศกาลปีใหม่ไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ จะเกิดคณะกรรมการขึ้นมา 1 คณะ ที่ประกอบด้วยผู้แทนหลัก 11 คน โดยทั้งหมดจะประชุมกันในเบื้องต้นเพื่อเสนอให้มีประธาน 1 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน

โดยคณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่กำหนดสัดส่วนอาชีพว่าจะให้ภาคส่วนใดบ้างเข้ามาร่วม รวมถึงกำหนดกติกาการเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ ยกตัวอย่างในตัวแทนอาชีพต่างๆ 2,000 คน น่าจะมีภาคเกษตรกร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ภาคธุรกิจ เป็นต้น รวมกันแล้วให้ได้จำนวนที่กำหนดไว้ แล้วจะไปประชุมเพื่อกำหนดสัดส่วนว่าแต่ละอาชีพจะมีตัวแทนเท่าไร ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือก 2 สัปดาห์ จากนั้นจะให้เลือกกันเองเหลือสมาชิกจำนวน 499 คน

"อยากเห็นสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศเกิดได้ประมาณปลายเดือน ม.ค.2557 หรืออย่างช้าต้นเดือน ก.พ.2557 ให้เข้ามาทำหน้าที่จัดทำข้อเสนอต่างๆ โดยในช่วงต้น ทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอาจช่วยทำหน้าที่ด้านธุรการให้ก่อน จากนั้นสมาชิกสภาปฏิรูปจะต้องดำเนินการกันต่อไป"นายธงทองกล่าว

***ชพน.แนะไม่ควรใช้เวลาเกิน1ปี

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปการเมืองให้โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับ โดยพรรคพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดตั้งองค์กรการปฏิรูปคู่ขนานไปกับการเลือกตั้ง เพื่อร่วมแก้ปัญหาและยกระดับมาตรฐานประเทศ ให้เป็นที่ยอมรับของสังคม โดยเห็นว่า กรอบการทำงานของสภาปฏิรูป ควรทำโดยเร็ว ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี นับจากการเลือกตั้งรอบนี้ หลังจากนั้น ให้คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินกับการเลือกตั้งครั้งใหม่

***ซัดแค่ยื้อเวลากลับมาเป็นรัฐบาลอีก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ว่าที่รองหัวหน้าพรรค ได้เขียนบทความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งว่า คำแถลงตั้งสภาปฏิรูปประเทศของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นแค่คำประกาศยืนยันว่า จะไม่ลาออกจากนายกรักษาการณ์ บวกกับจะเดินหน้า ไม่เลื่อนการเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งหากได้เป็นรัฐบาล ตนเองหรือคนในตระกูลก็จะเข้ามาครองอำนาจต่อไปอีกนั่นเอง ดูได้จากการจัดลำดับผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับ1 กับ 2 ของพรรค

ส่วนการเตรียมออกคำสั่งตั้งสภาปฏิรูป เป็นแค่ "แท็คติก" ยื้อเวลารักษาการณ์ โหนกระแสปฏิรูปหาเสียงเท่านั้น เพราะไม่ได้จริงใจเรื่องการปฏิรูปมาก่อน ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายบังคับให้สภาปฏิรูปไปหาคำตอบ 1ใน5ข้อ คือ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของรัฐบาลคู่กับการออกกม.นิรโทษกรรมตลอด 2 ปีที่ผ่านมาอีกจนได้

ส่วนการปฏิรูปกฏหมายและการแก้ปัญหาการทุจริตนั้น รัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิงแล้ว เพราะตลอด2 ปี รัฐบาลกระทำการทุจริตและกระทำผิดกฎหมายซํ้าซากมาตลอด ที่สำคัญเมื่อสภาปฏิรูปได้คำตอบแล้ว ต้องเสนอกลับไปที่นายกฯ คำถาม คือ ถ้ายิ่งลักษณ์ยังเป็นนายกฯ หากคำตอบของสภาปฏิรูปไม่ตรงกับที่ต้องการจะถูกเก็บเข้าลิ้นชักเหมือน คอป. สถาบันพระปกเกล้า หรือ108 เวทีหาแนวทางปรองดองประเทศอีกหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เวทีนี้ สุดท้ายก็จะเป็นแค่เวทีหาเสียงของรัฐบาล โดยรัฐบาลและเพื่อรัฐบาล ที่นับหนึ่งตั้งแต่การกำหนดตัวคนเขียนกติกาก็ล้วนแล้วแต่มาจากลูกน้องยิ่งลักษณ์เกือบทั้งสิ้น และที่สำคัญ ก็คือ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอ้างว่าสภาปฏิรูปของประชาชนตั้งไม่ได้ไม่มีกฎหมายรองรับ แล้วทำไมทีสภาปฏิรูปของน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงตั้งได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ท้าให้ใช้วันเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 ตัดสินตระกูลชินฯ ว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้กลับมามีอำนาจใหม่ ก็คงไม่ทำเรื่องการปฏิรูปอย่างเดียว แต่เชื่อว่าจะกลับมาทำเรื่องเดิม คือ ผลักดันโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ต่ออายุจำนำข้าว จะกู้เงินอย่างไร และอาจกลับไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนิรโทษกรรมด้วย

***กปปส. เมินร่วมสภาปฏิรูปปาหี่รัฐบาล

นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กปปส. กล่าวว่า รัฐบาลรับไปเพียงรูปแบบเท่านั้น เพราะยังดำเนินการเลือกตั้งควบคู่ไปเช่นเดิม ซึ่งต่างจากข้อเสนอที่แท้จริงของ 7 องค์กร ที่ต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เหมือนกับแนวทางของ กปปส. ดังนั้น สภาปฏิรูปดังกล่าวที่รัฐบาลจะตั้งขึ้น กปปส. จะไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยอย่างเด็ดขาด

ส่วนกรณีที่ นายอำนวย คลังผา อดีตประธานวิปรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย เสนอให้เชิญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มาเป็นคนกลางในการพูดคุย ระหว่างรัฐบาล, กปปส. และผู้บัญชาการเหล่าทัพนั้น ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง ที่จะดึงสถาบันลงมาเกี่ยวข้อง และถือเป็นข้อเสนอที่ไม่จริงใจ และมองว่าพรรคเพื่อไทย หวังผลทางการเมืองมากกว่า เพราะช่วงที่ผ่านมา ก็กล่าวหาประธานองคมนตรี และทำให้เสื่อมเสียมาโดยตลอด

ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมายังเวทีชุมนุม เพื่อพูดคุยหาทางออกเหมือนกับที่เดินเข้าหาประชาชนที่เป่านกหวีดไล่นั้น ยินดีที่จะพูดคุยด้วย แต่เชื่อว่าเหตุการณ์เช่นนี้ จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

**แนะให้ ส.พระปกเกล้า-ศาล คนกลาง

นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรนำสภาปฏิรูปประเทศมาฟอกขาวให้กับตัวเอง เพราะการทำสภาปฏิรูปในช่วงเวลานี้ ก็เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้การเลือกตั้งที่มีความวุ่นวายสับสนในขณะนี้ และรัฐบาลตั้งใจจริง ต้องหาคนกลางเข้ามาดำเนินการทำสภาปฏิรูปอย่างแท้จริง เช่น สถาบันพระปกเกล้า หรือองค์กรตุลาการ แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ยอมรับอำนาจตุลาการมาโดยตลอด ถ้ารัฐบาลจะแสดงความจริงใจในเรื่องหลักการคานอำนาจตามระบบประชาธิปไตย และให้ศาลเป็นตัวกลางทำเวทีปฏิรูปโดยอิสระ ซึ่งจะทำให้ได้คนที่หลากหลายและเป็นกลางเข้ามามีส่วนร่วม รัฐบาลเพียงแต่เป็นส่วนหนึ่งในการรับฟังเสนอความเห็น หรือการทำแบบสอบถามกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยสถาบันพระปกเกล้าหรือองค์กรตุลาการในลักษณะประชาเสวนา ซึ่งจะเกิดขึ้นจริงได้มากกว่ารัฐบาลทำปฏิรูปในแบบที่ตัวเองต้องการ

***ญาติวีรชนพฤษภา35ต้านสภาปฏิรูป

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวว่า ขอคัดค้านการจัดตั้งสภาปฎิรูปของรัฐบาลเพราะรัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะเป็นผู้เสนอให้มีการปฏิรูป เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากไม่ไว้วางใจผู้นำรัฐบาล แม้แต่รักษาการก็ไม่ยอมให้ทำหน้าที่ เห็นว่าเป็นรัฐบาลเถื่อน ไม่เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยขอเสนอให้นายกฯ ลาออกจากรักษาการ และให้นายกฯ คนกลางมาทำหน้าที่ พร้อมตั้งสภาปฏิรูปคู่ขนานกันไป และขอให้กองทัพออกมาแสดงจุดยืนเคียงข้างประชาชนได้แล้ว

***"ปู"หวานเจี๊ยบเชิญ กปปส.เข้าร่วม

ที่กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักวิชาการออกมาระบุว่าสภาปฏิรูปประเทศไทย กปปส. ไม่สนใจที่จะเข้าร่วมว่า คงต้องให้ทางทีมงานไปหารือก่อนดีกว่า เพราะความจริงแล้วเราก็อยากเชิญทุกๆ คนเข้ามาอยู่แล้ว เพราะเวทีที่ตั้งขึ้นมาเป็นเวทีกลางที่สุดแล้ว ที่ประกอบไปด้วยทุกกลุ่ม ก็พยายามให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นคนกลางไปเชิญชวนทุกกลุ่มเข้ามา

เมื่อถามว่าจะขอร้องให้กปปส.ยอมถอย เพื่อมาพูดคุยกันมาบ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็อยากให้เป็นเช่นนั้น อาจจะไม่ใช้คำว่าถอย แต่ขอเชิญชวนให้มาร่วมกัน เพราะทุกฝ่ายเองก็อยากเข้ามาแก้ไขปัญหา และเวทีสภาปฏิรูปประเทศก็เป็นเวทีที่อย่างเชิญชวนให้ทุกคนและกลุ่มผู้ชุมนุมนำเอาแนวทางปฏิรูปของกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาเสนอในสภาปฏิรูปประเทศเพื่อช่วยกันขบคิดและแก้ไขประเทศร่วมกันดีกว่า

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวที่เชียงใหม่ ถึงกรณี กลุ่ม กปปส. จะไปบุกบ้านว่า "ตอนนี้อยู่เชียงใหม่ค่ะ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้สัมภาษณ์เสร็จนายกฯได้เดินทางเข้าบ้านพักที่สนามกอล์ฟกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ของพล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่ชายและจะปฏิบัติภารกิจต่อถึงวันที่ 27 ธ.ค. จากนั้นจะถือเป็นวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมบุตรชายก็จะพักผ่อนจนหมดเทศกาลปีใหม่

***คปท.บุก ปิดล้อมห้ามสมัครส.ส.รายชื่อ

วันเดียวกันนี้ กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ชุมนุมอยู่ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล ได้ตั้งขบวนออกเดินทางไปที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง สถานที่รับสมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ โดยไปถึงเวลาประมาณ 08.10 น. หลังจากนั้นได้เข้าปิดล้อมอาคารกีฬาเวสน์ 2 ไม่ให้นักการเมืองเข้าไปยื่นใบสมัครได้ โดยผู้ชุมนุมได้เข้ากดดันตำรวจที่รักษาการอยู่บริเวณประตู ให้ถอยร่นออกไป ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ก็สำเร็จ แล้วรื้อแผงเหล็กกั้น เข้าไปชุมนุมที่ด้านหน้าอาคารกีฬาเวสน์ 2 ได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคุมสถานการณ์อยู่ห่างๆ หลังจากนั้นผู้ชุมนุมได้นำผืนธงชาติมาล้อมอาคารกีฬาเวสน์ 2

มีรายงานว่า ก่อนที่ คปท.จะเดินทางไปถึง นายโปรดปราน โต๊ะราหนี หัวหน้าพรรคพลังไทยเครือข่ายเดินทางไปยื่นใบสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคจำนวน 10 คน ต่อเจ้าหน้าที่ กกต.ภายในอาคารกีฬาเวสน์ 2 เมื่อผู้ชุมนุมเข้าปิดล้อมจึงต้องหลบหนีออกทางด้านหลังอาคาร

ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. กล่าวว่า ที่ คปท.เคลื่อนขบวนมาปิดล้อมครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และต้องมีการปฏิรูปการเมืองให้เสร็จก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะได้นักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันกลับเข้ามาเหมือนเดิม

ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันที่ 22 ธ.ค. กลุ่มมวลชนภายใต้การนำของ กปปส.ได้มาปิดล้อมทางเข้าอาคารกีฬาเวสน์ 2 ก่อนที่ กกต.จะเปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในช่วงเช้าวันที่ 23 ธ.ค. แต่ก็มีผู้สมัครจาก 9 พรรคการเมือง เข้าไปยังจุดรับสมัครได้ในช่วงดึก และเจ้าหน้าที่ กกต. ได้ออกมารับเอกสารที่ สน.ดินแดง พร้อมให้พรรคการเมืองที่ไม่สามารถเข้าไปยื่นใบสมัครได้ ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ทำให้ผู้ชุมนุม กปปส.บางส่วนมาปิดล้อม สน.ดินแดง จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 23 ธ.ค. ขณะที่ยังคงปิดล้อมศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่นต่อไป จนถึงช่วงเย็นวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จึงนำมวลชนกลับถนนราชดำเนิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทาง คปท. ได้ส่งตัวแทนเข้าไปสังเกตุการณ์ในอาคารกีฬาเสน์ 2 จากนั้นได้มีมวลชนบางส่วนพยายามจะเข้าพื้นที่ไปด้วย จึงเกิดเหตุชุลมุนมีการผลักดันกันระหว่างมวลชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้กระจกประตูแตก 2 บาน และเครื่องสแกนวัตถุระเบิดพังเสียหาย แต่ยังมีการผลักดันต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้สเปรย์แก๊สน้ำตา ผู้ชุมนุมจึงได้ยอมถอยร่นออกมา ก่อนที่เหตุการณ์จะสงบลง โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

เวลาประมาณ 12.45 น. เจ้าหน้าที่ของ กกต.แจ้งกับ คปท.ว่า จะนำเจ้าหน้าที่ออกจากอาคารกีฬาเวสน์ 2 ทางแกนนำ คปท. จึงได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมตั้งแถวและปรบมือให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ กกต. ที่เดินออกมา โดยมีนายนิติธร และนายอุทัย เดินไปส่งจนถึงบริเวณประตู 3 ของศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ด้านกระทรวงแรงงาน จากนั้นนายอุทัย ได้ชี้แจงต่อผู้ชุมนุมว่ากิจกรรมของ คปท.วันนี้สำเร็จตามเป้าหมายแล้ว โดย กกต.จะไม่มีการรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มเติมอีก

***ประกาศกร้าวขวางจับเบอร์พรรค

ต่อมา เวลา 15.00น. นายนิติธร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้งว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐบาลรักษาการ เพิ่งแถลงจะจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ และเรียกร้องมานานแล้ว แต่นายกฯ เพิ่งคิดจะทำ ดังนั้น เวทีการเมืองวันนี้ ประชาชนไม่ต้องการให้มีคนของพรรคเพื่อไทย เข้ามาในนั่งสภา และอยากฝากไปถึงนายกฯ และผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ รวมทั้งปลัดกระทรวงต่างๆ ว่า สิ่งที่นายกฯทำ ส่อขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 หาก ผบ.เหล่าทัพ ไม่เลือกข้างประชาชน ตนจะนำมวลชนไปนั่งในทุกกองทัพ

นายนิติธร กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ (26 ธ.ค.) จะต้องไม่มีการจับฉลากหมายเลขประจำพรรคการเมืองอย่างเด็ดขาด เพราะตนจะนำมวลชนเข้ายึดอาคารกีฬาเวสน์ 2 เอง โดยให้พี่น้องมวลชนมารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 06.00 น. วันที่ 26 ธ.ค.

จากนั้นนายนิติธร ได้ส่งสัญญาณผู้ชุมนุมที่เป็นสุภาพสตรี ตั้งแถวส่งจูบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารที่รักษาการณ์ภายในอาคารกีฬาเวสน์ 2 ก่อนจะนำผู้ชุมนุมทั้งหมดเคลื่อนขบวนกลับที่ตั้ง บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล

** กกต.นัดจับสลากหมายเลขพรรควันนี้

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงต่างๆ แล้ว ยังยืนยันจะใช้อาคารกีฬาเวสน์ 2 เป็นสถานที่รับสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อต่อไป จนถึงวันที่ 27 ธ.ค. ที่เป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร แม้ว่าจะมีรายงานว่าจะมีการไปชุมนุมปิดล้อมของกลุ่มคปท. ก็ตาม และในวันนี้ (26ธ.ค.) เวลา 09.00น. ขอให้ผู้แทนของ 34 พรรคการเมือง ที่ได้ยื่นความจำนงในการสมัคร เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เดินทางไปพร้อมกันยังอาคารกีฬาเวสน์ 2 เพื่อตรวจสอบเอกสารการสมัคร จ่ายเงิน และจับสลากหมายเลขประจำพรรค

** พท.สุมหัวพรรคเล็กหาทางจับสลาก

ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้มีการนัดประชุมพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพ และมีตัวแทนพรรคการเมืองที่น่าสนใจ อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และตัวแทนพรรคการเมืองอื่นๆรวม 16 พรรค เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ นายสมชายได้ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม และได้เสนอหัวข้อหารือแก้ปัญหาเรื่องการลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงวิกฤตการเมืองของประเทศในภาพรวม จากนั้นที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ แสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่เป็นผู้แทนพรรคการเมืองขนาดเล็ก และอภิปรายไปในทิศทางเดียวกันว่า ทุกพรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.

ส่วนประเด็นการจับสลากหมายเลข ได้มีการเสนอแนวทางต่างๆ เช่น ให้ไปจับในค่ายตำรวจ ค่ายทหาร หรือให้ กกต. จับให้ โดยนายบรรหารเสนอว่า เบื้องต้นต้องหาทางให้จับสลากให้ได้ ถ้าไม่ได้ ก็ให้ กกต. จับให้ ซึ่งจะเป็นทางเลือกสุดท้าย และขอให้พรรคการเมืองทำหนังสือยืนยันถึง กกต. ซึ่งนายสมชาย ก็เห็นด้วย

***“เหลิม”ลั่นไม่ยอมให้“เทือก”ขวางเลือกตั้ง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน พร้อมด้วย นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตนรู้สึกอึดอัดใจต่อพฤติกรรมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่จะปิด กทม. กปปส. เป็นหน่วยงานเถื่อน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้รับการโปรดเกล้าฯ นายสุเทพ เหิมเกริม บอกว่าจะไม่ให้มีการเลือกตั้ง จะมาห้ามไม่ให้ไปสมัครรับเลือกตั้งนั้น ไม่ถูกต้อง ตนเสียดาย หากยังเป็นรองนายกฯ คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ นายสุเทพจะทำอย่างนี้ไม่ได้

ทั้งนี้ ยังจะทำหนังสือถึง นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หากเก่งนัก ให้ยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับต่อไปมา แล้วหากทำเสร็จ ตนจะนำไปให้ประชาชนลงประชามติ และขอท้าทายทั้ง 3 คนว่า ใครก็ได้ไปดีเบตกับตน โดยเช่าฟรีทีวีกัน ส่วนนายสุเทพ ไม่ดีเบตด้วย เพราะจบแค่ปริญญาโท ส่วนตนจบปริญญาเอก

*** จี้กกต.แจ้งความเอาผิดแกนนำม็อบ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม คปท. นำมวลชนบุกเข้าไปภายในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ว่า ถือเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งอย่างชัดเจน และผิดกฎหมายอาญาด้วย และยังมีการไล่สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ กกต. และผู้ที่เดินทางมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จึงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นการแบ่งกลุ่มกันเล่นกับกลุ่ม กปปส. และยังดูเหมือนว่า นายสุเทพ น่าจะให้ท้าย พยายามจะทำให้ประเทศไทยเป็นแดนมิคสัญญี ซึ่งขณะนี้ผ่านเข้าสู่วันที่ 3 ของการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อแล้ว ดังนั้น กกต.อย่าทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ต้องแจ้งความเอาผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา และเอาผิดแกนนำตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ไม่เช่นนั้น ผู้ชุมนุมจะย่ามใจ

***"ธาริต"ยื่นศาลถอนประกัน9แกนนำพันธมิตร

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เดินทางไปยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลอาญา ในวันนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. เพื่อขอให้ศาลอาญาสั่งเพิกถอนการให้ประกันตัวแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 9 คน เพราะไปเป็นแกนนำชุมนุมสร้างความไม่สงบและความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเฉพาะการนำพาฝูงชนไปปิดล้อม บุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งการปลุกระดมให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมายแผ่นดิน อันล้วนเป็นความผิดต่อกฎหมายอาญาทั้งสิ้น ซึ่งการกระทำของแกนนำทั้ง 9 คนเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามของศาลอาญาที่อนุญาตให้ประกันไว้อย่างชัดเจน

สำหรับแกนนำทั้ง 9 คน ได้แก่ 1.นายพิภพ ธงไชย 2.นายสุริยะใส กตะศิลา 3.นายสมเกียติ พงษ์ไพบูลย์ 4.นายรัชต์ยุตม์ หรือนายอมรเทพ ศิรโยธินภักดี หรืออมรรัตนานนท์ 5.น.ส.อัญชะลี หรือปอง ไพรีรัก 6.นายพิชิต ไชยมงคล 7.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ 8.ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และ 9.นายสมบูรณ์ ทองบุราณ

***แฉสภาปฏิรูปชุด"ปู"มีแต่เด็กแม้ว

ช่วงค่ำเวลาประมาณ 21.00 น. นายสุเทพได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีราชดำเนินว่า ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ออดอ้อนประชาชนขออยู่ในอำนาจต่อ แต่ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่สนใจบริหารราชการบ้านเมือง ที่เดินสายไปเหนือ อีสานขณะนี้ เพราะกลัวพี่น้องประชาชน กลัวนกหวีด กลัวไล่ เลยหลบไป แล้วยังมาโอดครวญ การชุมนุมกระทบธุรกิจเอกชน กระทบเศรษฐกิจ กระทบท่องเที่ยว แต่ขอบอกว่า คุณโง่จริงๆ เมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา นายกสมาคมท่องเที่ยวแถลงว่าปีนี้ท่องเที่ยวเติบโต ไม่ตกเลย คนต่างชาติยังถือว่าการชุมนุมที่ราชดำเนินเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปแล้ว ไม่เหมือนการชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองแบบที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นแกนนำ ที่นักท่องเที่ยวกลัว

ส่วนการเสนอให้จัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ดูรายชื่อคณะกรรมการคัดเลือกทั้ง 11 คน ก็เป็นคนในระบอบทักษิณ แล้วจะให้มาเลือกคนอีก 2,000 คน ไปเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ 499 คน ก็จะได้คนในระบอบทักษิณอยู่ดี ถือเป็นสภากำมะลอ เพราะมันไม่ใช่สภา แต่เป็นคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาเป็นเครื่องมือรับใช้ระบอบทักษิณ ซื้อเวลาอยู่ในอำนาจ เพื่อให้คนมองโลกสวยยอมรับว่าทำแล้ว และเมื่อไปทำมาเสร็จ ก็ต้องส่งให้พ.ต.ท.ทักษิณดูก่อน จะทำเรื่องอะไร ไม่ทำเรื่องอะไร เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลมา 2 ปี ไม่เคยสนใจปฏิรูปอะไรเลยแม้แต่เรื่องเดียว เขาศึกษากันไว้หมดแล้ว ก็ไม่เคยทำ พอคนไล่ ก็มาหาทางออก

"ถ้ามีการเลือกตั้ง แล้วพรรคเพื่อไทยชนะ ได้เสียงเลือกตั้งเด็ดขาด 400 กว่าคน มันจะไม่สนอะไรแล้ว จะอ้างว่าประชาชนเสียงข้างมากให้อำนาจรัฐบาล จะทำอะไรก็ได้ อย่ามาห้าม เกิดขึ้นแน่นอน"นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวอีกว่า สภาปฏิรูปของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กับสภาประชาชน ที่ กปปส. เสนอ มีข้อแตกต่างกันอย่างมาก เพราะสภาประชาชน จะเป็นสภานิติบัญญัติ มีอำนาจที่จะออกกฎหมาย แก้กฎหมาย เขียนกฎหมายขึ้นมาใหม่ เพื่อนำไปใช้ปฏิรูประเทศในด้านต่างๆ เป็นสภาจริงๆ เหมือนสภานิติบัญญัติ เหมือนสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่มีนักการเมือง พรรคการเมือง และสมุนระบอบทักษิณอยู่ แต่สภายิ่งลักษณ์ ไม่ใช่สภา เป็นแค่คณะกรรมการ เหมือนกับที่เคยตั้งมาแล้วหลายๆ ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นคนทำ ก็ไม่ได้เรื่อง

"ผมขอท้ายิ่งลักษณ์ มาออกทีวีกัน ผลัดกันพูด แล้วดูว่า ประชาชนจะเลือกสภายิ่งลักษณ์ หรือสภาประชาชน แต่ชาติหน้าก็คงไม่รับคำท้า เพราะฉะนั้น เราต้องช่วยกัน เอาอำนาจอธิปไตยคืนมา จัดการด้วยมือของเราเอง"นายสุเทพกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น