“อภิสิทธิ์” ยัน “ยิ่งลักษณ์” ทัวร์หมิ่นเหม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง งงเจรจาบีอาร์เอ็นแต่กลับเกิดเหตุที่สะเดาได้ จวกทำไม่ถูกท้าเลือกตั้งตัดสินตระกูลชินวัตรอยู่หรือไป เชื่อโหวตไปก็ตอบโจทย์ปฏิรูปไม่ได้ คาดกลับเข้ามาก็ไม่เดินหน้าปฏิรูปต่อ ตำหนิ “สุรพงษ์” ดึงต่างชาติจุ้นการเมืองภายใน
วันนี้ (25 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าที น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าการที่รัฐบาลหรือผู้มีตำแหน่งนั้นใช้เวลาลงพื้นที่ในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ถือว่าหมิ่นเหม่มากต่อการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ดูเหมือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีความสะทกสะท้าน เกรงกลัว กลับใช้เวลาในช่วงนี้เดินหน้าอย่างเดียว
“ในอดีตเมื่อมีการยุบสภา หรือมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว คนที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ และ ครม. นอกจากที่จะมีกฎหมาย หรือรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ค่อนข้างชัดว่าทำอะไรได้ทำอะไรไม่ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งแล้ว ก็จะมีกฎ กติกา มารยาทอีกหลายอย่างซึ่งก็ยึดถือปฏิบัติกันมา ผมไม่แน่ใจว่าการไปตรวจราชการจะมีผลในเชิงบริหารแก้ไขปัญหาบ้านเมืองมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากไปภาคเหนือมีความเดือดร้อนของชาวไร่ข้าวโพดก้ไม่มีการไปแก้ไข แต่ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ที่ อ.สะเดา ที่ต้องติดตามว่าเหตุใดมีข้อตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็นแล้ว ทำไมจึงยังยุติความรุนแรงไม่ได้ และทำไมจึงเกิดเหตุในพื้นที่สะเดา ซึ่งปกติไม่มีเหตุรุนแรงหากยังดำเนินการเช่นนี้จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประชาชนจำนวนมากจนเหมือนอยู่คนละโลกไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนี้การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ท้าให้ใช้วันเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ตัดสินตระกูลชินฯ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนดเรื่องการทำประชามติว่าไม่ให้ทำเกี่ยวกับเรื่องบุคคล แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ก็ลุกลามมาถึงตรงนี้แล้ว แทนที่พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองจะพิจารณาทบทวนตรงนี้ แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ ดูเหมือนจะตรงกันข้าม กลายเป็นว่าส่งสัญญาณว่าที่วิพากษ์วิจารณ์หรือที่มีการต่อว่าต่อขานกันมาทั้งหมดนั้นไม่สนใจแต่จะเดินแบบนี้ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำทำให้เกิดความไม่เชื่อถือว่ารัฐบาล หรือสภาที่มาจากการเลือกตั้งในวันที่ 2 นี้จะสามารถตอบโจทย์ปฏิรูปได้ และการปฏิรูปประเทศจะไม่สำเร็จหากยังอยู่ในมือของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เนื่องจากประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ
“ถ้ารัฐบาลชุดนี้กลับมามีอำนาจใหม่ก็คงไม่ทำเรื่องการปฏิรูปอย่างเดียว แต่เชื่อว่าจะกลับมาทำเรื่องเดิมคือ ผลักดันโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ต่ออายุจำนำข้าว จะกู้เงินอย่างไร และอาจกลับไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ยังได้ตำหนินายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศรักษาการ ที่ดึงต่างชาติเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในประเทศว่าไม่เป็นผลดี เพราะเท่ากับพยายามทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง และเตือนพรรคเพื่อไทยว่าอย่าบิดเบือนเรื่องจำนำข้าวในการหาเสียงโดยกล่าวหาว่าชาวนาไม่ได้เงินจำนำข้าวเพราะ กปปส.ปิดกระทรวงการคลัง หรือว่าต้องเลือกเพื่อไทยเท่านั้นจึงจะได้เงิน เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีสิทธิ์ถูกร้องเรียนได้