ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการตรวจราชการภาคอีสาน โดยพักค้างคืนที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อคืนวันที่ 23ธ.ค.
ช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านเหล่าหญ้า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามการพัฒนาระบบการศึกษาตามนโยบายรัฐบาลในการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยได้รับฟังรายงานจัดหาแท็บเล็ตจาก นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับการจัดซื้อ และซ่อมแซมแท็บเล็ต รวมถึงปัญหาความสมดุลด้านทรัพยากรครูโรงเรียนต่างจังหวัด และปัญหาขาดแคลนครูสอนเทคโนโลยี
นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายว่า ควรผลักดันโครงการพี่ช่วยน้อง เปิดรับอาสาสมัครนักศึกษาอาชีวะมาช่วยสอนน้องด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยลดภาระครู และเป็นการร่วมสร้างสังคมสามัคคี ส่วนปัญหาขาดแคลนครู นั้น หลังจากนี้ต้องบรรจุอยู่ในเรื่องการปฎิรูปการศึกษาให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งเรื่องอุปกรณ์การเรียนการสอน และบุคลากรทั่วไป เพื่อรองรับการเติบโตของประชากรในภูมิภาคมากขึ้น
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาด้านแท็บเล็ต เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงระบบการเรียนการสอนให้ครอบคลุมทุกด้านมากขึ้น พร้อมกับร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเด็กนักเรียนด้วย
**"สาวทอม"ซ่าเป่านกหวีดใส่หน้านายกฯ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.15 น. วานนี้ (24 ธ.ค.) ระหว่างที่นายกฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมอนุสรณ์ ฐานยิงสนับสนุนพิธิภัณฑ์อาวุธ และการสู่รบ ที่บนเขาค้อ คณะของนายกฯได้แวะชมสินค้าข้างทาง ปรากฏว่า มีผู้หญิงทอมวัยประมาณ 30 ปี ขี่มอไซค์ เป่านกหวีดใส่นายกฯ ขณะที่นายกฯ ยิ้มให้ และเดินไปเรื่อยๆ ทำให้สาวทอมดังกล่าวต้องถอยมอเตอร์ไซด์พร้อมเป่านกหวีดไปเรื่อยๆ แต่นายกฯก็ไม่หยุดเดิน ทำให้สาวทอมถามว่า "จะจับไหมคะ" ซึ่งนายกฯ และทีมรปภ. บอกว่า "ไม่จับ ไม่ได้ผิดอะไร ตามสบาย" จนกระทั่งสาวทอมบอกว่า "ขอเดินคุยกับนายกฯหน่อย พร้อมกับถามนายกฯว่า มาทำอะไร" นายกฯได้บอกว่า"ทำไมหรอคะ มาทำงานคะ"
ขณะที่สาวทอมกล่าวอีกว่า "มาทำอะไร มาเที่ยวหรือไง จะกลับกรุงเทพไหม" นายกฯ กล่าวว่า "ทำไมคะ" สาวทอมกล่าวว่า "ถามไม่ได้หรือ อยากรู้ " นายกฯได้ตอบว่า "มาตรวจราชการอีก 2 วันก็กลับเข้ากรุงเทพฯ" จากนั้น นายกฯถามว่า "มีอะไรจะคุยกันไหม เป็นคนที่นี่หรือ" สาวทอมกล่าวตอบว่า "ไม่มีอะไร เป็นคนกรุงเทพฯ แต่มาทำงานที่นี่ " จากนั้นนายกฯได้กล่าวขอบคุณ และบอกว่าไม่เป็นไรนะ โดยนายกฯได้จับมือสาวทอมดังกล่าว ทำให้สาวทอมกำมือและแล้วชักมือออก บอกว่า "ไม่เป็นไร คุณอย่ามาจับ" จากนั้นนายกฯได้บอกว่า "โอเคคะ ไม่จับก็ไม่จับ" จากนั้นเพื่อนสาวก็ได้เข้ามาขอโทษ แล้วพาตัวออกไป
ทั้งนี้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้ตะโกนไล่ และบอกว่าออกไป อยากตายหรือ จากนั้นทีมงานรปภ. จึงบอกกับชาวบ้านว่า "ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไป"
**"ปู" เปลี่ยนใจบินกลับประชุมครม.
ผูัสื่อข่าวรายงานว่า จากที่ก่อนหน้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะรองนายกฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้(25ธ.ค.) แทน เนื่องจากติดภารกิจลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม นายกฯได้ตัดสินใจเปลี่ยนแผน โดยจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ด้วยเฮลิคอปเตอร์ จาก จ.เพชรบูรณ์ ไปยังกองบัญชาการกองทัพอากาศ กองบินที่ 6 เพื่อเป็นประธานการประชุมครม.ด้วยตัวเอง โดยจะมีการประชุมครม.ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ ในเวลา 10.00 น. จากนั้นจะไปประชุมร่วมกับศอ.รส. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประเมินสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อเสร็จแล้วก็จะบินกลับไป จ.เชียงใหม่ ทันที
**ชงครม.ต่ออายุกม.ความมั่นคง 60 วัน
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า จากการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.มั่นคง) จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. ในการประชุมครม.วันนี้ ฝ่ายความมั่นคงจะเสนอ ครม. ต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ออกไปอีก 60 วัน ตั้งแต่1 ม.ค.-1 มี.ค.57 โดยไม่มีการขยายพื้นที่เพิ่มเติม ส่วนสาเหตุต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากประเมินสถานการณ์แล้วว่า การชุมนุมมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อความมั่นคงไปจนถึงการเลือกตั้ง เพราะกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ประกาศชัดเจนจะขัดขวางการ เลือกตั้ง ส่วนที่ใช้กองบัญชาการกองทัพอากาศ เป็นที่ประชุมครม.เพื่อความสะดวกในการปฎิบัติราชการของคณะรัฐมนตรี และเพื่อความสะดวกของนายกฯ หลังกลับจากการปฎิบัติภารกิจต่างจังหวัด จะได้ประชุมครม.ได้ต่อเนื่องทันที
** ยื่นกกต.สอบ"ปู"ใช้เวลาราชการหาเสียง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเดินสายในภาคอีสานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า หลายคนไม่สบายใจที่เห็นพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเป็นการเดินสายหาเสียงตามสถานทีท่องเที่ยว อากาศดี ชีวิตน่าอิจฉา โดยเห็นได้ชัดว่า ภาพบนหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานเลย ตนตามเรื่องนี้มาตลอด 7 วัน ไม่เป็นว่าการเดินสายครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ถือเป็นการหาเสียงโดยใช้ทรัพยากรของประเทศมาสร้างความได้เปรียบทางการเมือง และขณะนี้มีผู้เตรียมการที่จะร้องเรียนเอาผิดกับนายกรัฐมนตรี ในการหาเสียงให้กับพรรคตนเอง และยังเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย
"นายกฯ ไม่สำนึกว่าขณะนี้ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะตัวเอง วิกฤตของบ้านเมืองกลางเมืองหลวงยังคงอยู่ แต่กลับใช้เวลาราชการไปทัวร์พื้นที่อีกสาน ดังนั้นฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ จะรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อร้องเอาผิดกับกกต.ในประเด็นนี้"
นายชวนนท์ กล่าวว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคิดที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ จะต้องเอาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่าเดินสายหาเสียง โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่ชาวนาพิษณุโลก ออกมาเดินขบวนเรียกร้องเงินจำนำข้าว ที่ยังค้างอยู่ ซึ่งขณะนี้เงินในการจำนำข้าวที่ยังไม่ถึงมือชาวนาที่ได้รับใบประทวนมีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท ต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า บัญชีจำนำข้าวจะต้องปิดตัวลงวันที่ 31 ธ.ค. นี้ และจะต้องใช้เงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท ตามมติครม. แต่ตอนนี้ใช้เงินไปแล้ว 6.9 แสนล้านบาท เท่ากับเบิกเกินบัญชีไป 1.9 แสนล้านบาท และบวกกับอีก1 แสน ล้านที่ต้องจ่ายให้ชาวนาภายในสิ้นปีนี้ เท่ากับว่าขณะนี้ประเทศติดลบ 2.9 แสนล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์มีเวลา 4 วันที่จะต้องหาเงินจำนวนนี้เพื่อแก้ไขปัญหามิเช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายชาวนาและทำผิดมติครม. แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างพระราชกฤษฏีกาเลือกตั้งไม่สามารถกู้ได้ มีทางเดียวต้องระบายข้าวให้ทัน
“แต่ผมฟันธงว่า เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นหากสิ้นเดือนนี้ชาวนาไม่ได้รับเงิน และรัฐบาลปิดบัญชีไม่ได้ นายกฯต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งตอกย้ำความล้มเหลวสะเพร่าในการคิดนโยบายประชานิยม ละเลยปัญหาของประชาชน ไม่ทราบว่าหัวใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ทำด้วยอะไร ทัวร์ภาคอีสานอย่างมีความสุข ขณะที่กรุงเทพร้อนเป็นไฟ ท่านนั่งรถไฟหนีปัญหาไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง ปัญหาอยู่ที่ไหนยิ่งลักษณ์ไม่อยู่ที่นั่น วันนี้ยังกล้ามาเสนอตัวเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยอีกหรือ ” นายชวนนท์ กล่าว
ช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านเหล่าหญ้า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามการพัฒนาระบบการศึกษาตามนโยบายรัฐบาลในการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยได้รับฟังรายงานจัดหาแท็บเล็ตจาก นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับการจัดซื้อ และซ่อมแซมแท็บเล็ต รวมถึงปัญหาความสมดุลด้านทรัพยากรครูโรงเรียนต่างจังหวัด และปัญหาขาดแคลนครูสอนเทคโนโลยี
นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายว่า ควรผลักดันโครงการพี่ช่วยน้อง เปิดรับอาสาสมัครนักศึกษาอาชีวะมาช่วยสอนน้องด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยลดภาระครู และเป็นการร่วมสร้างสังคมสามัคคี ส่วนปัญหาขาดแคลนครู นั้น หลังจากนี้ต้องบรรจุอยู่ในเรื่องการปฎิรูปการศึกษาให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งเรื่องอุปกรณ์การเรียนการสอน และบุคลากรทั่วไป เพื่อรองรับการเติบโตของประชากรในภูมิภาคมากขึ้น
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาด้านแท็บเล็ต เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงระบบการเรียนการสอนให้ครอบคลุมทุกด้านมากขึ้น พร้อมกับร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเด็กนักเรียนด้วย
**"สาวทอม"ซ่าเป่านกหวีดใส่หน้านายกฯ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.15 น. วานนี้ (24 ธ.ค.) ระหว่างที่นายกฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมอนุสรณ์ ฐานยิงสนับสนุนพิธิภัณฑ์อาวุธ และการสู่รบ ที่บนเขาค้อ คณะของนายกฯได้แวะชมสินค้าข้างทาง ปรากฏว่า มีผู้หญิงทอมวัยประมาณ 30 ปี ขี่มอไซค์ เป่านกหวีดใส่นายกฯ ขณะที่นายกฯ ยิ้มให้ และเดินไปเรื่อยๆ ทำให้สาวทอมดังกล่าวต้องถอยมอเตอร์ไซด์พร้อมเป่านกหวีดไปเรื่อยๆ แต่นายกฯก็ไม่หยุดเดิน ทำให้สาวทอมถามว่า "จะจับไหมคะ" ซึ่งนายกฯ และทีมรปภ. บอกว่า "ไม่จับ ไม่ได้ผิดอะไร ตามสบาย" จนกระทั่งสาวทอมบอกว่า "ขอเดินคุยกับนายกฯหน่อย พร้อมกับถามนายกฯว่า มาทำอะไร" นายกฯได้บอกว่า"ทำไมหรอคะ มาทำงานคะ"
ขณะที่สาวทอมกล่าวอีกว่า "มาทำอะไร มาเที่ยวหรือไง จะกลับกรุงเทพไหม" นายกฯ กล่าวว่า "ทำไมคะ" สาวทอมกล่าวว่า "ถามไม่ได้หรือ อยากรู้ " นายกฯได้ตอบว่า "มาตรวจราชการอีก 2 วันก็กลับเข้ากรุงเทพฯ" จากนั้น นายกฯถามว่า "มีอะไรจะคุยกันไหม เป็นคนที่นี่หรือ" สาวทอมกล่าวตอบว่า "ไม่มีอะไร เป็นคนกรุงเทพฯ แต่มาทำงานที่นี่ " จากนั้นนายกฯได้กล่าวขอบคุณ และบอกว่าไม่เป็นไรนะ โดยนายกฯได้จับมือสาวทอมดังกล่าว ทำให้สาวทอมกำมือและแล้วชักมือออก บอกว่า "ไม่เป็นไร คุณอย่ามาจับ" จากนั้นนายกฯได้บอกว่า "โอเคคะ ไม่จับก็ไม่จับ" จากนั้นเพื่อนสาวก็ได้เข้ามาขอโทษ แล้วพาตัวออกไป
ทั้งนี้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้ตะโกนไล่ และบอกว่าออกไป อยากตายหรือ จากนั้นทีมงานรปภ. จึงบอกกับชาวบ้านว่า "ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไป"
**"ปู" เปลี่ยนใจบินกลับประชุมครม.
ผูัสื่อข่าวรายงานว่า จากที่ก่อนหน้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะรองนายกฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้(25ธ.ค.) แทน เนื่องจากติดภารกิจลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม นายกฯได้ตัดสินใจเปลี่ยนแผน โดยจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ด้วยเฮลิคอปเตอร์ จาก จ.เพชรบูรณ์ ไปยังกองบัญชาการกองทัพอากาศ กองบินที่ 6 เพื่อเป็นประธานการประชุมครม.ด้วยตัวเอง โดยจะมีการประชุมครม.ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ ในเวลา 10.00 น. จากนั้นจะไปประชุมร่วมกับศอ.รส. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประเมินสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อเสร็จแล้วก็จะบินกลับไป จ.เชียงใหม่ ทันที
**ชงครม.ต่ออายุกม.ความมั่นคง 60 วัน
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า จากการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.มั่นคง) จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. ในการประชุมครม.วันนี้ ฝ่ายความมั่นคงจะเสนอ ครม. ต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ออกไปอีก 60 วัน ตั้งแต่1 ม.ค.-1 มี.ค.57 โดยไม่มีการขยายพื้นที่เพิ่มเติม ส่วนสาเหตุต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากประเมินสถานการณ์แล้วว่า การชุมนุมมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อความมั่นคงไปจนถึงการเลือกตั้ง เพราะกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ประกาศชัดเจนจะขัดขวางการ เลือกตั้ง ส่วนที่ใช้กองบัญชาการกองทัพอากาศ เป็นที่ประชุมครม.เพื่อความสะดวกในการปฎิบัติราชการของคณะรัฐมนตรี และเพื่อความสะดวกของนายกฯ หลังกลับจากการปฎิบัติภารกิจต่างจังหวัด จะได้ประชุมครม.ได้ต่อเนื่องทันที
** ยื่นกกต.สอบ"ปู"ใช้เวลาราชการหาเสียง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเดินสายในภาคอีสานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า หลายคนไม่สบายใจที่เห็นพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเป็นการเดินสายหาเสียงตามสถานทีท่องเที่ยว อากาศดี ชีวิตน่าอิจฉา โดยเห็นได้ชัดว่า ภาพบนหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานเลย ตนตามเรื่องนี้มาตลอด 7 วัน ไม่เป็นว่าการเดินสายครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ถือเป็นการหาเสียงโดยใช้ทรัพยากรของประเทศมาสร้างความได้เปรียบทางการเมือง และขณะนี้มีผู้เตรียมการที่จะร้องเรียนเอาผิดกับนายกรัฐมนตรี ในการหาเสียงให้กับพรรคตนเอง และยังเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย
"นายกฯ ไม่สำนึกว่าขณะนี้ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะตัวเอง วิกฤตของบ้านเมืองกลางเมืองหลวงยังคงอยู่ แต่กลับใช้เวลาราชการไปทัวร์พื้นที่อีกสาน ดังนั้นฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ จะรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อร้องเอาผิดกับกกต.ในประเด็นนี้"
นายชวนนท์ กล่าวว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคิดที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ จะต้องเอาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่าเดินสายหาเสียง โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่ชาวนาพิษณุโลก ออกมาเดินขบวนเรียกร้องเงินจำนำข้าว ที่ยังค้างอยู่ ซึ่งขณะนี้เงินในการจำนำข้าวที่ยังไม่ถึงมือชาวนาที่ได้รับใบประทวนมีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท ต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า บัญชีจำนำข้าวจะต้องปิดตัวลงวันที่ 31 ธ.ค. นี้ และจะต้องใช้เงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท ตามมติครม. แต่ตอนนี้ใช้เงินไปแล้ว 6.9 แสนล้านบาท เท่ากับเบิกเกินบัญชีไป 1.9 แสนล้านบาท และบวกกับอีก1 แสน ล้านที่ต้องจ่ายให้ชาวนาภายในสิ้นปีนี้ เท่ากับว่าขณะนี้ประเทศติดลบ 2.9 แสนล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์มีเวลา 4 วันที่จะต้องหาเงินจำนวนนี้เพื่อแก้ไขปัญหามิเช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายชาวนาและทำผิดมติครม. แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างพระราชกฤษฏีกาเลือกตั้งไม่สามารถกู้ได้ มีทางเดียวต้องระบายข้าวให้ทัน
“แต่ผมฟันธงว่า เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นหากสิ้นเดือนนี้ชาวนาไม่ได้รับเงิน และรัฐบาลปิดบัญชีไม่ได้ นายกฯต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งตอกย้ำความล้มเหลวสะเพร่าในการคิดนโยบายประชานิยม ละเลยปัญหาของประชาชน ไม่ทราบว่าหัวใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ทำด้วยอะไร ทัวร์ภาคอีสานอย่างมีความสุข ขณะที่กรุงเทพร้อนเป็นไฟ ท่านนั่งรถไฟหนีปัญหาไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง ปัญหาอยู่ที่ไหนยิ่งลักษณ์ไม่อยู่ที่นั่น วันนี้ยังกล้ามาเสนอตัวเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยอีกหรือ ” นายชวนนท์ กล่าว