xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” เตือนดันทุรังเลือกตั้ง “ปู-กกต.” ต้องรับผิดชอบ ไม่แปลกใจ ส.ส.สุราษฎร์ไม่ลงสมัคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
หน.ปชป.ชี้ กกต.แถลงสอดคล้องหลายฝ่าย หวั่นเดินหน้าเลือกตั้งประเทศวุ่นวาย เพราะแค่ช่วงชิงอำนาจการเมือง วอนถอดหัวโขนหาทางออกก่อน 23 ธ.ค.นี้ เตือนถ้าดันทุรังจนรุนแรง นายกฯ-ประธาน กกต.ต้องรับผิดชอบ อุบเรื่องส่ง-ไม่ส่ง ส.ส.สมัคร รอวันเสาร์ ไม่แปลกใจ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ไม่ลงเลือกตั้ง เพราะผูกพันสุเทพ

วันนี้ (19 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการแถลงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เสนอให้ฝ่ายการเมืองไปหารือเกี่ยวกับการเลื่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดความวุ่นวายว่า สอดคล้องกับที่หลายฝ่ายออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตนก็ได้เสนอแล้วว่าเป็นห่วงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่ความวุ่นวายได้ ซึ่งจะเป็นความเสียหายกับระบบ ส่งผลรุนแรงต่อความไว้วางใจของประชาชนที่พึงจะมีต่อนักการเมืองและพรรคการเมือง ในส่วนตัวแทนนักธุรกิจก็ฟันธงว่าสังคมไม่เชื่อถือสัตยาบันของพรรคการเมือง เพราะการเลือกตั้งถูกมองว่าเป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจของนักการเมืองเท่านั้นเอง พรรคภูมิใจไทยก็ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใย และ กกต.ก็ชี้ให้เห็นว่าอยากให้ฝ่ายการเมืองเป็นผู้เริ่มต้นในการแสดงเจตนาเลื่อนการเลือกตั้งออกไป

ตนในฐานะเป็นพรรคการเมืองหนึ่ง ยืนยันว่าการเลือกตั้งโดยยึดวันที่ 2 ก.พ.57 เป็นปัญหาแน่นอน และจะทำให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่มีความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น ตนมั่นใจว่านักการเมืองในทุกพรรค ถ้าไม่ปฏิเสธความจริงน่าจะรู้สึกเหมือนกับตน พรรคภูมิใจไทย และ กกต.จึงอยากให้ทุกฝ่ายถอดความเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ถอดหมวกออกมาว่าในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมือง กล้าพูดหรือว่าเมื่อเดินไปสู่การเลือกตั้ง 2 ก.พ.แล้วทุกอย่างจะเดินได้ ถ้าไม่กล้ายืนยันวันนี้มาช่วยกันป้องกันไม่ดีหรือ เพราะ กกต.ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าถ้านักการเมืองเห็นตรงกันในเรื่องนี้ก็เป็นเสมือนฉันทามติที่จะทำให้รัฐบาลกับ กกต.ที่มีหน้าที่รักษาการตามกฎหมายจัดการเลือกตั้งมีเหตุผลพิจารณาว่าสมควรจะทำอย่างไร ส่วนวิธีการต่างๆ จะต้องช่วยกันต่อไป อย่าได้เอาอะไรมาเป็นตัวตั้งแล้วบอกว่าอะไรก็ทำไม่ได้ ปล่อยให้บ้านเมืองเดินเข้าสู่ความเสียหายนี่คือสิ่งที่ตนอยากเรียกร้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ละพรรคได้ประกาศจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งแล้ว เท่ากับแนวทางนี้คาดหวังไม่ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าสถานการณ์วันนี้ไม่ใช่เรื่องจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัคร เพราะทุกคนก็ยอมรับว่าต้องมีการเลือกตั้ง แต่เห็นว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ทั้งที่ยังมีปัญหาหลายเงื่อนไขน่าจะไม่ราบรื่น จึงไม่ใช่เรื่องว่าจะลงสมัครหรือไม่ หรือปฏิเสธการเลือกตั้ง แต่เป็นภาวะการที่เรามองเห็นว่าการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นอยู่น่าจะนำไปสู่ความเสียหายให้กับบ้านเมือง ทำไมพวกเราทุกคนไม่มาขจัดเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดความเสียหาย แล้วเปิดทางให้ร่วมกันแก้ปัญหา เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะปล่ยอให้สถานการณ์ไหลไปสู่จุดที่ไม่พึงประสงค์ เท่ากับว่านักการเมืองไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อที่จะช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายของประเทศ อย่างไรก็ตามเห็นว่าการหาฉันทามติของพรรคการเมืองคงไม่มีรูปแบบตายตัว ต้องดูว่า กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองมีแนวคิดหรือไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพเรื่องนี้ แต่ถ้าพรรคการเมืองแสดงเจตจำนงเหมือนที่ตนแสดงในนามพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยก็แสดงท่าทีแล้ว พรรคอื่นก็ควรแสดงท่าทีถ้าพรรคหลักๆ เห็นด้วยคนคิดว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะเลื่อนการเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่าข้อเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งเป็นคนละประเด็นกับเรื่องการจะลงตัวผู้สมัคร เพราะขณะนี้มีอยู่ในขั้นตอนของพรรคที่จะพิจารณาในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ ซึ่งจะมีการรับฟังความเห็นจากสาขาพรรคทั่วประเทศ และอดีต ส.ส.ซึ่งทั้งหมดเตรียมทำข้อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมแล้ว ดังนั้นตนจึงไม่ได้พูดว่าจะลงหรือไม่ลงเลือกตั้ง เพียงแต่แสดงเจตนาว่าพรรคประชาธิปัตย์อยากให้มีการเลื่อนการเลือกตั้ง

“ผมเชื่อว่านักการเมืองทุกคนถ้าไม่ปฏิเสธความจริงย่อมรู้ดีว่าสถาการณ์ขณะนี้ไม่ปกติ มาช่วยกันหาทางออกดีกว่า โดยต้องทำอย่างเร็วที่สุดก่อนที่จะมีการรับสมัครบัญชีรายชื่อวันที่ 23 เพราะยิ่งล่าช้าออกไป ปล่อยให้เดินไปตามขั้นตอนเรื่อยๆ จะยิ่งมัดตัวเองจนปิดทางให้แคบลงเรื่อยๆ ซึ่งต้องถามพรรคพื่อไทย เพราะรัฐมนตรีบางคนยังบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ได้รับการยอมรับและสุดท้ายก็บอกว่าอาจไม่ลงสมัครด้วย แสดงว่ามีคนแสดงเจตนาไม่ลงสมัครกันแล้ว เป็นสิ่งเตือนว่าคนที่พยายามปลอกตัวเองว่าสถานการณ์ปกติจะก้ปัญหาให้บ้านเมืองไม่ได้ แต่ถ้ายอมรับว่าไม่ปกติแม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ก็น่าจะมาร่วมกันหาทางออกได้ นายกฯมีหน้าที่ในฐานะนักการเมือง ผมคิดว่าถ้าท่านไม่หลอกตัวเองก็จะรู้ว่าที่ต้องเดินสายอยู่วันนี้ก็เพราะเลี่ยงสถานการณ์ผิดปกติ แต่ท่านหนีไม่ได้ และหากใครยังมาคิดถึงเรื่องความได้เปรียบในการเลือกตั้งจากสถานการณ์นี้อยู่ก็แย่เต็มที หากเดินหน้าไปจนเกิดความรุนแรงคนที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายคือ นายกฯ และประธาน กกต.” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ได้พูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว เห็นตรงกันว่าควรเลื่อนวันเลือกตั้งโดย กกต.ก็ระบุชัดเจนว่าหากเลื่อนการเลือกตั้งก็มั่นใจว่าจะจัดการเลือกตั้งได้อย่างราบรื่น นี่คือประเด็น ซึ่งหากทุกพรรคการเมืองเห็นตรงกันก็ขอให้แสดงเจตจำนงออกมา ตนขอย้ำว่าให้ถามตัวเองว่ากล้าพูดหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ปกติเหมือนครั้งอื่นๆ อย่าหลอกตัวเองเอาความจริงมาเพื่อที่จะหาทางออกให้กับประเทศ เพราะขณะนี้ทุกคนก็เป้นห่วงว่าวันที่ 23 ธ.ค.นี้จะเกิดความรุนแรงหรือไม่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าถามว่ารู้ได้อย่างไรก็ต้องถามกลับว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ตามปกติ มีใครกล้ายืนยันหรือไม่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่าการเลื่อนการเลือกตั้งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่เมื่อเลื่อนแล้วจะเป็นการเปิดช่องทางให้ปัญหาคลายปมออกไป แต่ถ้าไม่เลื่อนจะยิ่งแก้ปัญหาไม่ได้ ลองทำการสำรวจความเห็นประชาชนระหว่างเลื่อนกับไม่เลื่อน ชาวบ้านจะเชื่อว่าวิธีการไหนที่จะคลี่คลายสถานการณ์ได้ดีกว่า เพราะความเห็นที่แตกต่างกันหากไม่มีกรอบเวลามาบีบคั้นจะหาคำตอบได้ง่ายกว่าการถูบีบให้ต้องเดินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ จึงอยากให้ถามตนเองก่อนว่าระหว่างเลื่อนกับไม่เลื่อนอะไรให้โอกาสประเทศมากกว่ากัน อย่าอ้างว่าทำไม่ได้ตามกฎหมาย เพราะถ้าอ้างแบบนี้ก็ไม่ต้องคิดอะไร เพราะแม้แต่ กกต.ก็บอกว่ามีช่องทางแต่ต้องเริ่มต้นที่ฉันทามติของพรรคการเมืองก่อน ตนเคยชี้ให้เห็นแล้วว่าโดยปกติการเลือกตั้งไม่ควรจะเลื่อนได้ เพราะถ้าไปอนุญาตให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งได้ก็จะอยู่ในอำนาจได้ตามใจชอบ หรือมีความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ถ้าทุกพรรคการเมืองบอกว่าที่ต้องเลื่อนเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตนถามว่าการเลื่อนการเลือกตั้งจะมีใครเป็นผู้เสียหาย เมื่อไม่มีใครเป็นผู้เสียหายทำไมไไม่คิดเดินทางนี้ จากนั้นจึงมาคิวด่ามีปมอะไรที่ต้องตลายก่อนซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพราะเป็นคู่ขัดแย่งอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้จะทำได้หรือไม่จึงขึ้นอยู่กับใจของรัฐบาลไม่ใช่ปัญหาในข้อกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี และประธานสาขาประกาศไม่ลงสมัครเลือกตั้งว่า หากน้องชายนายสุเทพบอกว่าจะลงสมัครเลือกตั้งจะเป็นข่าวใหญ่กว่านี้ จึงอยากให้เข้าใจว่า ส.ส.สุราษฎร์ธานี ทั้งจังหวัดผูกพันกันนายสุเทพ จะเป็นอื่นไปได้อย่างไร ซึ่งเป็นการตัดสินใจส่วนตัว รวมทั้งสาขาพรรคด้วย โดยทั้งหมดไม่ได้ก้าวล่วงการตัดสนของพรรคในวันที่ 21 ธ.ค.และไม่คิดว่าเป็นการกดดันแต่ในการประชุมจะรับฟังทุกความเห็นเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น