ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.56 ที่มวลมหาประชาชน 5 ล้านคน ออกมาเดินไปตามท้องถนนทั่วกรุงเทพ มีโอกาสเห็น “นักการเมือง” หลายคนที่ไม่ได้มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเดินร่วมด้วย ส่วนใหญ่อ้างว่า มาดูสถานการณ์
หนึ่งในนั้นเห็น “พินิจ จารุสมบัติ” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ยุครุ่งเรือง อดีตแกนนำกลุ่มวังพญานาค ในพรรคไทยรักไทย หนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ก็ออกมาเดินในวันนั้นด้วย แว่วว่าไม่ได้ออกมาเดินแค่วันนั้นวันเดียว แต่เกาะติดสถานการณ์บนถนนราชดำเนินมาตั้งแต่วันแรก ๆ
นับตั้งแต่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี นักการเมืองกลุ่มนี้ ได้รับสิทธิคืนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 บ้างเข้าสู่เวทีการเมือง เป็นรัฐมนตรี เช่น นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา กลับมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง กลับมานั่งเป็นรมว.ศึกษาธิการ นายวราเทพ รัตนากร กลับมารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรและสหกรณ์ นางปวีณา หงสกุล มานั่งรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มาเป็นรมว.พลังงาน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ หรืออีกหลายคนก็เข้ามานั่ง เป็นฝ่ายบริหารในทำเนียบรัฐบาลหลายคนไปเป็นนักวิชาการ เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทยเป็นต้น
ขณะที่อีกหลายคนก็ได้เข้าสู่เวทีการเมืองในพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายโภคิน พลกุลนายเสนาะ เทียนทอง นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์ พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ฯลฯ
ขณะที่กลุ่มบ้าน 111 ที่ยังคงรอเปิดเทอมใหม่อีกหลายคนในกลุ่มก้อนอื่น ๆ เช่น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำกลุ่มลำตะคอง ของพรรคชาติพัฒนา หรือ อย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำกลุ่มกทม.ในเพื่อไทย ก็กระสัน พร้อมจะเข้ามา เป็นทีม A อีกครั้ง ไม่รวมนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มภูมิใจไทย ที่บอกว่าหันหลังให้กับการเมืองแล้ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นักการเมืองอีกกลุ่ม จากบ้านเลข ที่ 109 จากพรรคพลังประชาชน จำนวน 37 คนพรรคชาติไทย จำนวน 43 คน และ พรรคมัชฌิมาธิปไตย จำนวน 29 คน ก็พ้นจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
คึกคัก คึกครื้น ที่พรรคเพื่อไทย “นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้นำอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน อาทิ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ ศิรินิล นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ นายสุธา ชันแสง เป็นต้น เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค
กลุ่มนี้มีอีกหลายคนที่กำลัง จะกลับมา เช่น นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายไชยา สะสมทรัพย์ นายศรีเมือง เจริญศิริ หรือ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นต้น
"ทีม A-ทีม B กลับมาแล้ว"
วันก่อน “นายจารุพงศ์ เรือสุวรรณ” รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลยประกาศว่า “พร้อมเลือกตั้ง”
"ตอนนี้ทีมเอ-ทีมบี กลับมาหมดแล้ว พวกผมแค่ทีมซีเท่านั้น" นายจารุพงศ์พูดกับสื่อมวลชนระหว่างให้สัมภาษณ์
ขณะที่ กรรมการยุทธศาสตร์ แกนนำภาค ยังมีมติ ให้ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 ฝันที่จะให้ เป็นนายกรัฐมนตรีหญิง 2 สมัย คนแรก แถมยังไปลือในโลกออนไลน์ว่า “พานทองแท้ ชินวัตร”มีชื่อในครั้งนี้แน่
แถมยังวางตัวผู้สมัคร ให้เสร็จไม่เกินสัปดาห์หน้า (16-20 ธ.ค.) โดยวางตัวแกนนำพื้นที่ “คนกลุ่นนี้ จะเป็นปาร์ตี้ลิสต์” ลำดับต้นๆ ประกอบด้วย ภาคเหนือ มี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายวราเทพ รัตนากร นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และนายสันติ พร้อมพัฒน์ ทำหน้าที่ ภาคอีสาน มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายไพจิต ศรีวรขาน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง และ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ทำหน้าที่
พื้นที่ภาคกลางมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และนายอำนวย คลังผา ทำหน้าที่ พื้นที่ กทม.มี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ทำหน้าที่ ขณะที่ภาคใต้มี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นผู้ทำหน้าที่
ดังนั้น “ข่าวดี” หากมีเลือกตั้ง ต่อไปนี้ก็อาจไม่ได้เห็นโควตาเสื้อแดงมายืนประท้วงจนเป็นที่น่ารำคาญ คนอย่าง “จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ” ที่พรรคเพื่อไทย อาจไม่ส่งลงเขตสุรินทร์ หรือชื่ออย่าง “ก่อแก้ว พิกุลทอง” “เหวง โตจิราการ” “วิภูแถลง พัฒนภูมิไท” เพราะคนพวกนี้อย่างเก่ง ก็อาจจะได้ลงปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 60 ขึ้นไป
แต่ข่าวร้าย คือซากศพจะฟื้นคืนชีพกลับมาเพ่นพล่านอยู่เต็มสภา
อีกพรรคคึกครื้นเช่นกัน 3 ธ.ค.56 นายบรรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้นำอดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทยทีเพิ่งพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปีจำนวน 14 คนจากทั้งหมด 43 คนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)
อาทิ ได้แก่ นายจองชัย เที่ยงธรรม, นายประภัตร โพธสุธน, นายอนุรักษ์ จุรีมาศ, นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล, นายนิกร จำนง, น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา, นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง, นายธรรมา ปิ่นสุกาญจนะ,นายนพดล พลเสน, นายเสมอกัน เที่ยงธรรม, นายกูเฮง ยาวอหะซัน, นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ นายศักดิ์ชัย จินตะเวช และนายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล
มีส.ส.ขอลาออกไปสังกัดพรรคเพื่อไทย 1 คน ชื่อ “ปารีณา ไกรคุปต์”ส.ส.ราชบุรี ที่หันไปทำงานการเมืองกับกลุ่มเพื่อไทยราชบุรีมานานแล้ว
ขณะที่แกนนำพรรค ก็นัดประชุมเพื่อหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้งทันที โดยชูประเด็นการปฏิรูปหลัก คือ 1.ก้าวข้ามความขัดแย้ง และ2. สร้างการปรองดองเพื่อนำไปสู่ปฏิรูปสังคม
เบื้องต้นมีกระแสข่าวว่า วาง บรรรหาร ศิลปะอาชา ลง จ.สุพรรณบุรี เขต 1 แถมมีโครงการสร้างบ้านให้คนจนที่ยากไร้ไม่มีที่อยู่อาศัยจำนวน 100 หลัง เป็นนโยบายเด็ด
อีกกลุ่ม “กลุ่มมัชฌิมา” ในพรรคภูมิใจไทย “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน”คนบ้าน 111 แกนนำกลุ่ม ก็ได้หารือถึงกับสมาชิกกลุ่มถึงอนาคตทางการเมือง
โดยวางไว้ 2 แนวทางคือ ตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ และเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย
แกนนำพรรค เชื่อว่า แนวทางหลังมีความเป็นไปได้สูงกว่า เนื่องจากที่ผ่านมา นายสมศักดิ์มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาก็มีการหารือทางการเมืองและนัดรับประทานอาหารร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยรับกลุ่มมัชฌิมาเข้าร่วมก็ได้จำนวน ส.ส.กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางบางส่วนเพิ่มด้วย
ล่าสุดเมื่อ วันที่ 11 ธ.ค. เวลา 09.00 น. สมาชิกมัชฌิมา หลายคนก็ได้เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทยเพื่อลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เพื่อเตรียมดำเนินการตามแนวทางการเมืองของกลุ่มตัวเอง อาทิ นายเรืองศักดิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายมนู พุกประเสริฐ อดีต ส.ส.สุโขทัย นางนันทนา สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.ชัยนาท ส่วนอดีต ส.ส.ที่ส่งตัวแทนมา ประกอบด้วย นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก นายประนอม โพธิ์คำ อดีต ส.ส.นครราชสีมา น.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร อดีต ส.ส.ราชบุรี.
ขณะที่“นายธนพร ศรียากูล” อดีตรองหัวหน้าพรรคและนายทะเบียนสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย คนใกล้ชิดนายสมศักดิ์ ก็เตรียมไปจดทะเบียนพรรคเอาไว้แล้ว โดยตั้งชื่อว่า “พีซีที” ชูนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และ มาตรา 309 ในรัฐธรรมนูญ 2550
ล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์ นัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 16-17 ธ.ค.นี้ ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 25 คน เพิ่มจากชุดปัจจุบันที่มีจำนวน 19 คน มากำหนดทิศทางของพรรค รวมทั้งปฏิรูปโครงสร้างพรรคใหม่ ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 หลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ว่าจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งหรือไม่
ใคร จะเป็น ทีมA ทีม B หรือ ทีมไหน ก็ต้องติดตามกันต่อไปในฐานที่จะต้องมีการเลือกตั้ง เพราะหากประเทศไทยเข้าสู่โหมด “การปฏิรูปการเมือง” ตามที่เสียงคนไทยส่วนใหญ่ต้องการนักการเมืองข้างต้องพวกนี้ ก็จะเป็นได้แค่เพียง “ขี้ครอกผสมพันธุ์ขี้ข้า”เท่านั้น และเชื่อว่าคนเหล่านี้ก็จะแว้งกัดทิ่มแทงกันอีกครั้งเมื่อมารวมกัน โดยเฉพาะการแยกกันลงสมัครแข่งขัน เพราะมีนักการเมืองกี่คนที่ยอมเป็นทีมบี ทีมซี