“ชายจืด” พาสมุนเข้า พท.ปัดนั่งนายกฯ ชี้สภา ปชช.ทำไม่ได้ - “เฮียตือ” ยันถ้ายุบก็ลงเลือกตั้งทัน

“สมชาย” นำอดีต กก.บห.พลังประชาชนกลับรังเก่าหลังพ้นโทษแบน “จารุพงศ์” หยอดรอมา 5 ปี เจ้าตัวบอกอยู่อย่างสงบมาตลอด โวพรรคที่น่าศรัทธา อ้างไม่ปรารถนาตำแหน่งการเมือง ปัดรัฐยอมแพ้ม็อบ โถ...อ้างคนไทยไม่จำเป็นต้องทำร้ายกัน อ้างสมัย พธม.ไม่เคยใช้กำลังทวงทำเนียบคืน ยันสภาประชาชนทำไม่ได้ ไม่มี กม.ทำ - “สมศักดิ์” ยังไม่สมัครเข้า ชทพ. อ้างสถานการณ์ไม่เอื้อ ยันทันลงเลือกตั้งถ้ายุบสภา

วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 11.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้นำอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่เคยถูกตัดสิทธิทางการเมือง หรือสมาชิกบ้านเลขที่ 109 อาทิ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ ศิรินิล นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ นายสุธา ชันแสง เป็นต้น หลังพ้นโทษการตัดสิทธิ ในวันที่ 2 ธ.ค. 2556 เดินทางมายังพรรคเพื่อไทย เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับ ในการพบปะกันครั้งนี้นายจารุพงศ์ได้กล่าวต้อนรับนายสมชายว่าทางพรรคตั้งใจรอนายสมชายเป็นเวลาถึง 5 ปี ขณะที่นายสมชายก็ได้ขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเลขาธิการพรรคเพื่อไทยที่มาให้การต้อนรับในวันนี้

นายสมชายกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองว่า การมาสมัครสมาชิกพรรคต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคที่ให้การต้อนรับ และการสมัครสมาชิกพรรคเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ตนโดนตัดสิทธิมา 5 ปี อยู่อย่างสงบเสงี่ยมเมื่อครบ 5 ปี ก็มีสิทธิมาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ และเห็นว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่น่าศรัทธา ทั้งในตัวหัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรค แนวนโยบายพรรค จึงมาสมัคร สมัครแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้มีตำแหน่งอะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี นายสมชายตอบว่า ตนไม่ปรารถนาตำแหน่งทางการเมือง เพราะมีตำแหน่งมาเยอะแล้ว คิดว่าจะให้คนรุ่นหลังที่มีความรู้ความสามารถ มีความคิดนำพาประเทศชาติ ช่วยให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนตัวขอสนับสนุนพรรค ถ้ามีการเลือกตั้งก็จะไปใช้สิทธิเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็น ส.ส. และขณะนี้ก็ไม่ได้วาดอนาคตทางการเมืองไว้เลย

ส่วนกรณีที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปล่อยให้ผู้ชุมนุม กปปส.เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล และ บช.น. นายสมชายกล่าวว่า ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ผลักดันผู้ชุมนุมอยู่หลายวัน หากจะดำเนินการต่อย่อมทำได้ แต่เมื่อเห็นว่าทำต่อไปจะทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บสูญเสีย ไม่เป็นประโยชน์ ดังนั้น การที่ม็อบเข้าไป อย่ามองว่ารัฐบาลยอมแพ้ หรือตำรวจยอมแพ้

“เราคนไทยด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องทำร้ายกัน ผมคิดว่าท่านคงเข้าไปอยู่ได้ไม่นาน เพราะจะเข้าไปทำไร่ทำนา หรือทิ้งลูกทิ้งเมีย ไปอยู่ในนั้นตลอดคงไม่ได้ วันนี้ตำรวจอยู่ในที่มั่นของตัวเอง เหมือนเราอยู่บ้าน ถ้ามีแขกมาหา แล้วมาดีๆ เจ้าของบ้านก็ให้เข้ามา แต่ถ้ามาไม่ดี มาแล้วบอกจะมายึดบ้าน เขาก็ไม่ให้เข้า เรื่องนี้ตำรวจกับรัฐบาล เหมือนจะเป็นจำเลยว่าทำไมทำรุนแรง ทำไมใช้แก๊สน้ำตา ถามว่าถ้าเราอยู่บ้านแล้วขโมยเข้ามา จะไม่ให้เจ้าของบ้านป้องกันก็ไม่เป็นธรรมกับเจ้าของบ้าน” นายสมชายกล่าว

นายสมชายกล่าวอีกว่า ใครจะประกาศว่าได้รับชัยชนะก็ประกาศได้ แต่ถ้าบอกว่าเป็นชัยชนะโดยการปฏิวัติเรียบร้อยแล้วคงไม่ได้ เพราะรัฐบาลยังทำหน้าที่อยู่ และสมัยที่ตนเป็นนายกฯ ก็มีคนมายึดทำเนียบฯ แต่ก็ไม่เคยคิดเอากำลังไปทำร้ายเพื่อขอพื้นที่คืน ก็ไปอยู่ดอนเมืองทำงานต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอการจัดตั้งสภาประชาชนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายสมชายตอบว่า นายกฯ ได้เปิดทางให้เจรจา ยอมลาออก ยอมยุบสภา แต่ถ้ายุบสภาแล้ว เหตุการณ์จะสงบหรือไม่ แต่นายกฯ ได้พูดแล้วว่า การตั้งสภาประชาชนไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ถ้าอยากทำอย่างนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญ ลงมติกันเลยว่า ให้ ส.ส.-ส.ว.ลงมติว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร เสร็จแล้วให้ยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่ อย่างนี้เป็นไปได้ แต่อยู่ๆ จะให้คืนอำนาจแล้วตั้งสภาประชาชน มันทำไม่ได้ เพราะไม่รู้จะตั้งโดยใคร ตั้งอย่างไร กติกาเป็นอย่างไร คิดไม่ออก ตนก็ไม่เคยเห็นพิมพ์เขียวของนายสุเทพ ว่าจะดำเนินการอย่างไร ตนว่าถ้อยทีถ้อยอาศัย คุยกัน จะเอาคนกลางมาก็ได้ แล้วแก้กติกา เลือกตั้งกันใหม่ แต่ต้องจบ ถ้าจบท่านยอม นายกฯ เปิดโอกาสให้เต็มที่ พูดด้วยเหตุผลดีกว่า อย่าใช้อารมณ์

อย่างไรก็ตาม ในสังคมออนไลน์ได้มีการส่งต่อภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงการจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG910 เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จำนวน 12 ที่นั่ง ออกเดินทางคืนวันที่ 4 ธ.ค.ต่อเนื่องวันที่ 5 ธ.ค. โดยมีชื่อของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยา และบุตร 2 คน ซึ่งมีการล็อกชื่อผู้โดยสารสำหรับตระกูลวงศ์สวัสดิ์ไว้แค่ 4 ที่นั่ง ซึ่งยังเหลืออีก 8 ที่นั่งที่มีการล็อกเก้าอี้ไว้เช่นกัน แต่ไม่มีการใส่ชื่อผู้โดยสาร ซึ่งสามารถนำชื่อผู้ใดก็ได้มาใส่ลงไปเป็นผู้โดยสารในภายหลัง

ทางฝั่งนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตแกนนำพรรคชาติไทย ที่เพิ่งได้รับสิทธิเลือกตั้งคืนมาเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) กล่าวว่า ขณะนี้อดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา จากเดิมที่กำหนดไว้วานนี้แต่ต้องยกเลิกไปเนื่องจากสถานการณ์การเมืองไม่เอื้ออำนวย ทั้งนี้ หากเกิดกรณีที่นายกฯ จะยุบสภาภายใน 1-2 วันนี้ก็ไม่เป็นปัญหาต่อการสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากตามกฎหมายต้องให้มีการเลือกตั้งใน 45 วัน แต่ผู้ที่สมัครต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 30 นับจากวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าการยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯที่จะพิจารณาหากบ้านเมืองแนวทางที่มีปัญหา โดยไม่ต้องถามความเห็นพรรคร่วม ส่วนกระแสข่าวเรื่องนายกฯจะลาออกตนยังไม่ทราบ

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยกำลังดูวันไว้ว่าจะเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรควันไหน เมื่อสมัครแล้วก็จะหารือกับกรรมการบริหารชุดปัจจุบันเพื่อวางนโยบาย กำหนดนโยบายและประเด็นที่ที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป