นายจุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2ก.พ.57 ว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีความชัดเจนในการเลือกตั้ง ก็ไม่แปลก เพราะพรรคแพ้เลือกตั้งมาตลอด แต่ในฐานะเป็นพรรคเก่าแก่ ก็อยากเชิญมาชนช้างกัน ไสช้างออกจากร่มไม้ได้แล้ว อย่ามายึกยัก วันนี้ถึงเวลาที่ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นผู้ตัดสิน เพราะนี้คือประชามติมวลมหาประชาชนอย่างแท้จริง คุณอ้างมวลมหาประชาชนมีมากแล้วจะกลัวอะไรกับการเลือกตั้งของมวลมหาประชาชนทั้งประเทศ
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่หากพรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้งแล้วจะให้เกิดปัญหา นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ห่วง แต่ทั้งหมดอยู่ที่มวลมหาประชาชน ซึ่งต้องไม่ใช่มวลมหาประชาชนจัดตั้ง ต้องเป็นมวลมหาประชาชนจาก 65 ล้านคน และหากพรรคประชาธิปัตย์ บอยคอตจริงๆ ต้องถามมวลมหาประชาชน 65 ล้านคน ที่กำลังจะเป็นผู้ขี้ขาดว่า จะเอาใครมาบริหารประเทศ และหากเกิดล้มการเลือกตั้งขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น ต้องถามมวลมหาประชาชนทั้งหมดว่า เขาจะยอมคุณหรือไม่ รัฐบาลพยายามเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งแต่อำนาจไม่ได้อยู่ในอำนาจของรัฐบาล อยู่ในอำนาจกกต. เพราะฉะนั้น ต้องถามกกต. แต่ทุกองค์กรทั้งหมดที่สุดแล้วต้องฟังมวลมหาประชาชน ทำดีที่สุดแล้วหากอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า บรรยากาศเวลานี้ประชาชนเขาไม่ยอม แต่มันแก้ปัญหาได้ด้วยการลงประชามติ เพราะมันเกิดความขัดแย้งขึ้น เพื่อสร้างกฎเกณฑ์กติกา จากนั้นก็บังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งทั้งสองส่วนทั่วโลกที่เขาเจริญแล้ว เขาใช้ 2 กฎนี้ คุณต้องเคารพเสียงข้างมาก แต่ไม่ใช่เสียงส่วนน้อยไม่มีที่ยืน แต่เมื่อออกประชามติแล้ว เสียงข้างน้อยต้องเชื่อเสียงข้างมาก ที่พูดกันวันนี้แถกันทั้งนั้น เมื่อมีปัญหาต้องประชามติ เมื่อโหวตแล้วเสียงข้างไหนชนะก็ปฏิบัติตาม ก็จะไม่เกิดปัญหาวุ่นวายต่อไป แต่ถ้าไม่ยอมรับก็วุ่นวายอยู่อย่างนี้ และที่วุ่นวายก็เกิดจากเสัยงส่วนน้อยไม่ใช่เสียส่วน ใหญ่
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย จะส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นปาร์ตี้ลิส เบอร์1 เพื่อชิงเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คิดว่าอย่างนั้น ส่วนการที่นายกฯ จะลงไม่ลง ก็อยู่ที่ท่านตัดสินเอง และรับฟังเสียงของสมาชิกพรรค และจากการสำรวจเสียงในพรรคส่วนใหญ่ ยังมีความต้องการให้นายกฯลงปาร์ตี้ลิสเบอร์ 1 และคงไม่ต้องหาใครสำรอง ลุยเลย
ส่วนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ลงสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่น่าทำให้พรรคมีปัญหา เมื่อเข้ามาสมัครแล้วถือว่าเป็นสมาชิกพรรค และต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ที่พรรคกำหนด
เมื่อถามว่า ยังมีความพยายามให้เกิดรัฐซ้อนรัฐ ตรงนี้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายจารุพงศ์ กล่าวว่า รัฐซ้อนรัฐมีมานานแล้ว อย่าไปตกใจ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะใช้ จ.เชียงใหม่ เป็นที่มั่นเลยหรือไม่ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ไม่ต้องใช้ นายกฯ อยากไปที่ไหนในประเทศไทยย่อมต้องไปได้ และหากจะใช้ จ.เชียงใหม่ในการประชุมครม. ก็ไม่แปลก แล้วแต่สถานการณ์พาไป รัฐบาลจะทำงานต่อไป คนที่คิดจะล้มรัฐบาลก็ทำต่อไปเถอะ
ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขอเข้าพบผู้นำ 4 เหล่าทัพนั้น นายจารุพงศ์ กลฃ่าวว่า ถือว่า นายสุเทพให้เกียรติทหารมาก ที่จะไปพบ ผบ.เหล่าทัพ
**นปช.เตรียมมวลชนสนับสนุนการเลือกตั้ง
นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการ รมช.พาณิชย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มกปปส. มีข้อเรียกร้องที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราใดที่มารองรับ ในการให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีลาออกจากการรักษาการในหน้าที่ซึ่งไม่สามารถทำไดั และมาตรา 111ของรธน. บัญญัติไว้ชัดเจน แต่หากทำได้ตามที่นักวิชาการออกมาแสดงความเห็นนั้นก็ชัดเจนว่า จะไม่มีการเลือกตั้งอย่างแน่นอนในปี 2557 เพราะกปปส.ต้องการให้รัฐบาลยุติการทำหน้าที่ และแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาเอง โดยสร้างกติกาในการปฎิรูปประเทศอย่างที่มวลชนต้องการ ซึ่งอย่างน้อยต้องใช้เวลา 8 เดือนถึง 1 ปี และไม่มีหลักประกันว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่จึงเหมือนเป็นการยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือเรียกว่าเครือข่ายอนุรักษ์นิยม
"วันนี้ต้องตั้งคำถามว่า ประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าทำตามนายสุเทพ ก็เป็นเผด็จการแบบสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าไม่รับ ต้องร่วมกันแสดงพลังสนับสนุนประเทศให้ไปสู่การเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นภารกิจของ นปช. คนเสื้อแดงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นของคนไทยทั้งประเทศ"นายณัฐวุฒิ กล่าว และว่า กลุ่มนปช.ได้ติดต่อพลังมวลชน ทั้งฝ่ายนักธุรกิจ และภาคการเกษตร มาร่วมกำหนดจุดยืนเดียวกันนำประเทศสู่การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะยังไม่มีการขับเคลื่อนมวลชนในเร็วๆ นี้ เป็นเพียงการประสานแนวร่วมในการขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้มีทีมงานที่ทำแคมเปญเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยจะนำคำฮิตในโลกไซเบอร์ที่ว่า "เอาเลือกตั้ง ไม่เอาเทือกตั้ง" ทำเป็นสติ๊กเกอร์ เพื่อมาเป็นแนวทางในการสนับสนุนให้เกิดการเลือกตั้งต่อไป
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวเรียกร้องให้คนไทยอย่ายินยอมให้ประเทศไทยกลับไปเป็นระบบเผด็จการ และมีการรัฐประหารแบบในอดีตที่ผ่านมาเพราะสร้างความเสียหายและไม่มีใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้นายสุเทพ กำลังคุกคามกดดันอำนาจต่างๆในประเทศให้ได้อยู่เหนือกองทัพและองค์กรต่างๆ. โดยเฉพาะทหารที่ต้องพิจารณาว่ากำลังถูกข่มขู่อยู่หรือไม่จากคำสั่งของนายสุเทพ เพราะถ้ากองทัพยอมทั่วโลกจะประหลาดใจได้.
ด้านนางธิดา กล่าวว่า มีการยกระดับสถานการณ์ในการต่อสู้อย่างรวดเร็วโดยใช้ทุกวิธีการที่มิชอบ ปลุกระดมมวลชนเป็นผลมาจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ไม่ยอมเสียอำนาจ ทั้งนี้นางธิดา ยังได้นำคลิปวีดีโอที่มีการบันทึกภาพความเสียหายในศูนย์ราชการหลังจากกลุ่ม กปปส. ใช้เป็นเวทีการชุมนุมมาเปิดให้แก่กลุ่มนปช.ดู และโจมตีว่าเป็นการสร้างทำทรัพย์สินทางราชการให้ได้รับความเสียหาย
ขณะที่ นายจตุพร กล่าวว่า นายสุเทพพยายามจะทำให้รัฐบาลเป็นสูญญากาศ แต่ความจริงนายสุเทพ กำลังทำให้ขณะนี้เป็นสูญญากาศ เองโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่มีหน่วยงานใดฟังคำสั่งของนายสุเทพ ตั้งแต่แถลงการณ์ฉบับแรก ที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออกภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่ทำจะดำเนินการฐานเป็นกบฎ และเพิ่มคำสั่งให้ผบ.ตร. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับกรมกอง และให้ทหารทำหน้าที่แทนนั้นก็ไม่มีใครปฎิบัติตาม ทั้งนี้เชื่อว่าการชุมนุมยังไม่จบง่ายๆ เพราะฝ่ายที่คิดว่าจะแพ้ต้องไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง และหากนายสุเทพ เป็นฝ่ายได้ชัยชนะ ก็จะมีความวุ่นวายตามมา ดังนั้น ทางออกเดียวคือการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่หากพรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้งแล้วจะให้เกิดปัญหา นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ห่วง แต่ทั้งหมดอยู่ที่มวลมหาประชาชน ซึ่งต้องไม่ใช่มวลมหาประชาชนจัดตั้ง ต้องเป็นมวลมหาประชาชนจาก 65 ล้านคน และหากพรรคประชาธิปัตย์ บอยคอตจริงๆ ต้องถามมวลมหาประชาชน 65 ล้านคน ที่กำลังจะเป็นผู้ขี้ขาดว่า จะเอาใครมาบริหารประเทศ และหากเกิดล้มการเลือกตั้งขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น ต้องถามมวลมหาประชาชนทั้งหมดว่า เขาจะยอมคุณหรือไม่ รัฐบาลพยายามเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งแต่อำนาจไม่ได้อยู่ในอำนาจของรัฐบาล อยู่ในอำนาจกกต. เพราะฉะนั้น ต้องถามกกต. แต่ทุกองค์กรทั้งหมดที่สุดแล้วต้องฟังมวลมหาประชาชน ทำดีที่สุดแล้วหากอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า บรรยากาศเวลานี้ประชาชนเขาไม่ยอม แต่มันแก้ปัญหาได้ด้วยการลงประชามติ เพราะมันเกิดความขัดแย้งขึ้น เพื่อสร้างกฎเกณฑ์กติกา จากนั้นก็บังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งทั้งสองส่วนทั่วโลกที่เขาเจริญแล้ว เขาใช้ 2 กฎนี้ คุณต้องเคารพเสียงข้างมาก แต่ไม่ใช่เสียงส่วนน้อยไม่มีที่ยืน แต่เมื่อออกประชามติแล้ว เสียงข้างน้อยต้องเชื่อเสียงข้างมาก ที่พูดกันวันนี้แถกันทั้งนั้น เมื่อมีปัญหาต้องประชามติ เมื่อโหวตแล้วเสียงข้างไหนชนะก็ปฏิบัติตาม ก็จะไม่เกิดปัญหาวุ่นวายต่อไป แต่ถ้าไม่ยอมรับก็วุ่นวายอยู่อย่างนี้ และที่วุ่นวายก็เกิดจากเสัยงส่วนน้อยไม่ใช่เสียส่วน ใหญ่
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย จะส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นปาร์ตี้ลิส เบอร์1 เพื่อชิงเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คิดว่าอย่างนั้น ส่วนการที่นายกฯ จะลงไม่ลง ก็อยู่ที่ท่านตัดสินเอง และรับฟังเสียงของสมาชิกพรรค และจากการสำรวจเสียงในพรรคส่วนใหญ่ ยังมีความต้องการให้นายกฯลงปาร์ตี้ลิสเบอร์ 1 และคงไม่ต้องหาใครสำรอง ลุยเลย
ส่วนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ลงสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่น่าทำให้พรรคมีปัญหา เมื่อเข้ามาสมัครแล้วถือว่าเป็นสมาชิกพรรค และต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ที่พรรคกำหนด
เมื่อถามว่า ยังมีความพยายามให้เกิดรัฐซ้อนรัฐ ตรงนี้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายจารุพงศ์ กล่าวว่า รัฐซ้อนรัฐมีมานานแล้ว อย่าไปตกใจ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะใช้ จ.เชียงใหม่ เป็นที่มั่นเลยหรือไม่ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ไม่ต้องใช้ นายกฯ อยากไปที่ไหนในประเทศไทยย่อมต้องไปได้ และหากจะใช้ จ.เชียงใหม่ในการประชุมครม. ก็ไม่แปลก แล้วแต่สถานการณ์พาไป รัฐบาลจะทำงานต่อไป คนที่คิดจะล้มรัฐบาลก็ทำต่อไปเถอะ
ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขอเข้าพบผู้นำ 4 เหล่าทัพนั้น นายจารุพงศ์ กลฃ่าวว่า ถือว่า นายสุเทพให้เกียรติทหารมาก ที่จะไปพบ ผบ.เหล่าทัพ
**นปช.เตรียมมวลชนสนับสนุนการเลือกตั้ง
นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการ รมช.พาณิชย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มกปปส. มีข้อเรียกร้องที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราใดที่มารองรับ ในการให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีลาออกจากการรักษาการในหน้าที่ซึ่งไม่สามารถทำไดั และมาตรา 111ของรธน. บัญญัติไว้ชัดเจน แต่หากทำได้ตามที่นักวิชาการออกมาแสดงความเห็นนั้นก็ชัดเจนว่า จะไม่มีการเลือกตั้งอย่างแน่นอนในปี 2557 เพราะกปปส.ต้องการให้รัฐบาลยุติการทำหน้าที่ และแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาเอง โดยสร้างกติกาในการปฎิรูปประเทศอย่างที่มวลชนต้องการ ซึ่งอย่างน้อยต้องใช้เวลา 8 เดือนถึง 1 ปี และไม่มีหลักประกันว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่จึงเหมือนเป็นการยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือเรียกว่าเครือข่ายอนุรักษ์นิยม
"วันนี้ต้องตั้งคำถามว่า ประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าทำตามนายสุเทพ ก็เป็นเผด็จการแบบสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าไม่รับ ต้องร่วมกันแสดงพลังสนับสนุนประเทศให้ไปสู่การเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นภารกิจของ นปช. คนเสื้อแดงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นของคนไทยทั้งประเทศ"นายณัฐวุฒิ กล่าว และว่า กลุ่มนปช.ได้ติดต่อพลังมวลชน ทั้งฝ่ายนักธุรกิจ และภาคการเกษตร มาร่วมกำหนดจุดยืนเดียวกันนำประเทศสู่การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะยังไม่มีการขับเคลื่อนมวลชนในเร็วๆ นี้ เป็นเพียงการประสานแนวร่วมในการขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้มีทีมงานที่ทำแคมเปญเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยจะนำคำฮิตในโลกไซเบอร์ที่ว่า "เอาเลือกตั้ง ไม่เอาเทือกตั้ง" ทำเป็นสติ๊กเกอร์ เพื่อมาเป็นแนวทางในการสนับสนุนให้เกิดการเลือกตั้งต่อไป
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวเรียกร้องให้คนไทยอย่ายินยอมให้ประเทศไทยกลับไปเป็นระบบเผด็จการ และมีการรัฐประหารแบบในอดีตที่ผ่านมาเพราะสร้างความเสียหายและไม่มีใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้นายสุเทพ กำลังคุกคามกดดันอำนาจต่างๆในประเทศให้ได้อยู่เหนือกองทัพและองค์กรต่างๆ. โดยเฉพาะทหารที่ต้องพิจารณาว่ากำลังถูกข่มขู่อยู่หรือไม่จากคำสั่งของนายสุเทพ เพราะถ้ากองทัพยอมทั่วโลกจะประหลาดใจได้.
ด้านนางธิดา กล่าวว่า มีการยกระดับสถานการณ์ในการต่อสู้อย่างรวดเร็วโดยใช้ทุกวิธีการที่มิชอบ ปลุกระดมมวลชนเป็นผลมาจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ไม่ยอมเสียอำนาจ ทั้งนี้นางธิดา ยังได้นำคลิปวีดีโอที่มีการบันทึกภาพความเสียหายในศูนย์ราชการหลังจากกลุ่ม กปปส. ใช้เป็นเวทีการชุมนุมมาเปิดให้แก่กลุ่มนปช.ดู และโจมตีว่าเป็นการสร้างทำทรัพย์สินทางราชการให้ได้รับความเสียหาย
ขณะที่ นายจตุพร กล่าวว่า นายสุเทพพยายามจะทำให้รัฐบาลเป็นสูญญากาศ แต่ความจริงนายสุเทพ กำลังทำให้ขณะนี้เป็นสูญญากาศ เองโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่มีหน่วยงานใดฟังคำสั่งของนายสุเทพ ตั้งแต่แถลงการณ์ฉบับแรก ที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออกภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่ทำจะดำเนินการฐานเป็นกบฎ และเพิ่มคำสั่งให้ผบ.ตร. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับกรมกอง และให้ทหารทำหน้าที่แทนนั้นก็ไม่มีใครปฎิบัติตาม ทั้งนี้เชื่อว่าการชุมนุมยังไม่จบง่ายๆ เพราะฝ่ายที่คิดว่าจะแพ้ต้องไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง และหากนายสุเทพ เป็นฝ่ายได้ชัยชนะ ก็จะมีความวุ่นวายตามมา ดังนั้น ทางออกเดียวคือการเลือกตั้ง