ASTVผู้จัดการรายวัน - โฆษกปชป. แนะ “ปู”เลิกบีบน้ำตา ควรเปิดอก 6 ข้อสงสัย ก่อนลงสนามเลือกตั้ง ประชดพท.ให้ขึ้นป้ายหาเสียงสุดซอย ปชป.พร้อมหาเสียงตรงข้ามปชป.เผย “มาร์ค”เตือนลูกพรรคระวังขึ้นเวทีชุมนุม หวั่นทำผิดกม.เลือกตั้ง ด้าน“ปานเทพ” ชี้หาก ปชป.ลงเลือกตั้ง มวลชนจะเสียงแตก ทำการต่อสู้ของ “สุเทพ” อ่อนแรง ซ้ำคะแนนเสียงของพรรคก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน เสนอ กปปส.พุ่งเป้าอารยะขัดขืนขวางการทำงานของ กกต.ไม่ให้จัดเลือกตั้งได้
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า อยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาว่า ก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 จะหาทางออกให้ประเทศได้อย่างไร เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่เหมาะสม และการที่ 7 องค์กรภาคธุรกิจเสนอให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งให้เป็นรูปธรรมก่อน น่าจะถือเป็นเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ของประเทศ พรรคยืนยันพร้อมให้คำตอบกับประเทศ และอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับไปพิจารณาว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นคำตอบของประเทศอย่าแท้จริง
นายชวนนท์ กล่าวว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้สึกอัดอั้นจนน้ำตาคลอ ถึงขนาดกล่าวหาว่ามีคนมาขับไล่ตระกูลชินวัตรออกจากประเทศนั้น ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่ควรพูดกับประชาชนอย่างเปิดอก อย่างน้อย 6 เรื่อง คือ 1. นายกฯ และพรรคเพื่อไทย ควรประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าหากได้กลับมาบริหารประเทศอีก จะไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อล้างผิดคนโกง แต่ถ้าไม่กล้าประกาศ ก็ขอให้ขึ้นป้ายหาเสียงว่า 2 ก.พ.57 เลือกพรรคเพื่อไทย คนโกงได้กลับบ้าน ได้เงินคืน คนเผาหลุดคดี อย่าทำตัวเป็นอีแอบเพราะจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับประเทศ 2.ขอให้พูดให้ชัดว่าไม่มีแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา291 มาตรา 68 และที่มาส.ส. แต่ถ้าไม่กล้า ก็ควรทำเป็นนโยบายหาเสียงว่า เลือกพรรคเพื่อไทย ประชาชนจะถูกปิดหูปิดตา องค์กรอิสระจะถูกแทรกแซง เรื่องจะได้จบกันไป 3. รัฐบาลรักษาการควรเร่งแก้ปัญหาโครงการจำนำข้าว โดยเฉพาะการที่ยังไม่จ่ายเงินให้กับชาวนาในรอบปี 56 ควรทำความสะอาดให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง
4. รัฐบาลรักษาการควรหยุดดำเนินโครงการจากร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ควรนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพราะรัฐบาลรักษาการไม่ควรดำเนินการในเรื่องที่จะทำให้ประชาชนเป็นหนี้ถึง 50 ปี แม้จะมีอำนาจทำได้ก็ตาม 5. ควรหยุดดำเนินการโครงการเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพราะเลยเวลาการกู้เงินไปแล้ว และ 6. ควรพูดให้ชัดว่ามีแนวคิดเรื่องการปฏิรูปประเทศ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างไร ที่สำคัญคือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับที่ 1 ในการเลือกตั้งที่จะถึง ไม่ควรเก็บตัวไม่ให้ความเห็นเหมือนการเลือกตั้งปี 54 แต่ควรออกมาแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าสามารถแบกรับปัญหาของประเทศได้
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จะเน้นนำเสนอนโยบายการหาเสียงในลักษณ์ไม่ฉายฉวย แต่ยั่งยืน เกษตรกรจะได้รับประโยชน์ที่แท้จริง ไม่เน้นประชานิยม ที่พิสูจน์แล้วว่า 2 ปีที่ผ่านมามีแต่นักการเมืองที่ได้ประโยชน์ แต่เกษตรกรรากหญ้าไม่ได้อะไรเลย ที่สำคัญพรรคจะยืนยันว่า เราจะไม่ล้างผิดคนโกง คนฆ่า คนเผา ไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้อง ไม่ตัดอำนาจประชาชน ไม่สนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชั่น
“ส่วนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงมีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้มีการเลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กำชับกับสมาชิกพรรคขอให้ระมัดระวังในการทำกิจกรรม โดยเฉพาะการขึ้นเวทีชุมนุมกับมวลมหาประชาชน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นส.ส. แต่ถ้าจะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าจะครั้งไหนก็แล้วแต่ ก็ขอให้ระวังตัวไว้ และต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย หรือกลายเป็นปัญหา ก็สามารถดำเนินการได้” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.
****“ปานเทพ”เตือนปชป.ลงลต.ทำมวลชนอ่อนแรง เสนอพุ่งเป้าขวาง กกต.
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงอุปสรรคการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชนว่า ปัจจัยแรก คือ การที่ประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง จะเป็นการบั่นทอนผู้ชุมนุมได้ส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งในนั้นอาจเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา ส่วนหนึ่งในนั้นอาจชื่นชอบประชาธิปัตย์ ยิ่งประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้ของนายสุเทพแน่นอน
ทั้งนี้ หากประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งจะแบ่งมวลชนเป็นสองฝั่ง คือ ฝั่งนายสุเทพกับฝั่งที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน เสียงประชาธิปัตย์ก็จะแตกด้วย เพราะจะมีส่วนหนึ่งมองว่าพรรคไม่เสียสละให้การชุมนุมของนายสุเทพ แล้วคะแนนเสียงที่เลือกพรรคอาจไม่มากอย่างที่คิด
" ถ้าประชาชนแยก 2 กลุ่ม ประชาชนอ่อนแรงลงทันที ถ้านายสุเทพเชื่อประชาธิปัตย์ยอมเสียมวลชน คนก็จะตั้งคำถามว่าที่พูดมาว่าไม่สู้เพื่อพรรค นายสุเทพก็จะเสียหายหนัก ส่วนประชาธิปัตย์ถ้าลง คะแนนเสียงอาจไม่มากไปกว่าเดิมมากนัก เพราะมวลชนแบ่งไปที่นายสุเทพด้วย เหมือนพันธมิตรฯตอนโหวตโน แต่อาจหนักกว่า เพราะกระแสของนายสุเทพสูงมาก ถ้าประชาธิปัตย์เดินเกมนี้ต่อไปอาจเสียเปรียบการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์อาจไม่สนใจว่าจะแพ้หรือชนะเพราะเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา แต่มันบั่นทอนการต่อสู้ของนายสุเทพไปทันที นอกจากนี้ยังเป็นการตอกย้ำความชอบธรรมให้ระบอบทักษิณให้สูงเด่นกว่าดิม ถ้ากลับมาจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม อาจทำอะไรหนักกว่าเดิม"
นายปานเทพกล่าวต่อว่า ถ้านายสุเทพชุมนุมที่ศูนย์ราชการฯ อาคารบี เป็นที่ตั้งสำนักงาน กกต. ชุมนุมถึงขั้นไม่มีใครเข้าทำงานได้เลย หรือถ้า กกต.เอาไฟล์ไปทำงานข้างนอก ถ้ารู้เขาทำที่ไหนต้องไปอารยะขัดขืนที่นั่น เพื่อให้จัดเลือกตั้งไม่ได้ แต่จะไล่ล่าทันหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง หรือไม่เช่นนั้นนายสุเทพต้องมีมาตรการใดทำให้ กกต.ลาออกจากตำแหน่งได้ทั้ง 5 คน.
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า อยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาว่า ก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 จะหาทางออกให้ประเทศได้อย่างไร เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่เหมาะสม และการที่ 7 องค์กรภาคธุรกิจเสนอให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งให้เป็นรูปธรรมก่อน น่าจะถือเป็นเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ของประเทศ พรรคยืนยันพร้อมให้คำตอบกับประเทศ และอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับไปพิจารณาว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นคำตอบของประเทศอย่าแท้จริง
นายชวนนท์ กล่าวว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้สึกอัดอั้นจนน้ำตาคลอ ถึงขนาดกล่าวหาว่ามีคนมาขับไล่ตระกูลชินวัตรออกจากประเทศนั้น ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่ควรพูดกับประชาชนอย่างเปิดอก อย่างน้อย 6 เรื่อง คือ 1. นายกฯ และพรรคเพื่อไทย ควรประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าหากได้กลับมาบริหารประเทศอีก จะไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อล้างผิดคนโกง แต่ถ้าไม่กล้าประกาศ ก็ขอให้ขึ้นป้ายหาเสียงว่า 2 ก.พ.57 เลือกพรรคเพื่อไทย คนโกงได้กลับบ้าน ได้เงินคืน คนเผาหลุดคดี อย่าทำตัวเป็นอีแอบเพราะจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับประเทศ 2.ขอให้พูดให้ชัดว่าไม่มีแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา291 มาตรา 68 และที่มาส.ส. แต่ถ้าไม่กล้า ก็ควรทำเป็นนโยบายหาเสียงว่า เลือกพรรคเพื่อไทย ประชาชนจะถูกปิดหูปิดตา องค์กรอิสระจะถูกแทรกแซง เรื่องจะได้จบกันไป 3. รัฐบาลรักษาการควรเร่งแก้ปัญหาโครงการจำนำข้าว โดยเฉพาะการที่ยังไม่จ่ายเงินให้กับชาวนาในรอบปี 56 ควรทำความสะอาดให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง
4. รัฐบาลรักษาการควรหยุดดำเนินโครงการจากร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ควรนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพราะรัฐบาลรักษาการไม่ควรดำเนินการในเรื่องที่จะทำให้ประชาชนเป็นหนี้ถึง 50 ปี แม้จะมีอำนาจทำได้ก็ตาม 5. ควรหยุดดำเนินการโครงการเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพราะเลยเวลาการกู้เงินไปแล้ว และ 6. ควรพูดให้ชัดว่ามีแนวคิดเรื่องการปฏิรูปประเทศ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างไร ที่สำคัญคือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับที่ 1 ในการเลือกตั้งที่จะถึง ไม่ควรเก็บตัวไม่ให้ความเห็นเหมือนการเลือกตั้งปี 54 แต่ควรออกมาแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าสามารถแบกรับปัญหาของประเทศได้
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จะเน้นนำเสนอนโยบายการหาเสียงในลักษณ์ไม่ฉายฉวย แต่ยั่งยืน เกษตรกรจะได้รับประโยชน์ที่แท้จริง ไม่เน้นประชานิยม ที่พิสูจน์แล้วว่า 2 ปีที่ผ่านมามีแต่นักการเมืองที่ได้ประโยชน์ แต่เกษตรกรรากหญ้าไม่ได้อะไรเลย ที่สำคัญพรรคจะยืนยันว่า เราจะไม่ล้างผิดคนโกง คนฆ่า คนเผา ไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้อง ไม่ตัดอำนาจประชาชน ไม่สนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชั่น
“ส่วนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงมีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้มีการเลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กำชับกับสมาชิกพรรคขอให้ระมัดระวังในการทำกิจกรรม โดยเฉพาะการขึ้นเวทีชุมนุมกับมวลมหาประชาชน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นส.ส. แต่ถ้าจะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าจะครั้งไหนก็แล้วแต่ ก็ขอให้ระวังตัวไว้ และต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย หรือกลายเป็นปัญหา ก็สามารถดำเนินการได้” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.
****“ปานเทพ”เตือนปชป.ลงลต.ทำมวลชนอ่อนแรง เสนอพุ่งเป้าขวาง กกต.
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงอุปสรรคการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชนว่า ปัจจัยแรก คือ การที่ประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง จะเป็นการบั่นทอนผู้ชุมนุมได้ส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งในนั้นอาจเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา ส่วนหนึ่งในนั้นอาจชื่นชอบประชาธิปัตย์ ยิ่งประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้ของนายสุเทพแน่นอน
ทั้งนี้ หากประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งจะแบ่งมวลชนเป็นสองฝั่ง คือ ฝั่งนายสุเทพกับฝั่งที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน เสียงประชาธิปัตย์ก็จะแตกด้วย เพราะจะมีส่วนหนึ่งมองว่าพรรคไม่เสียสละให้การชุมนุมของนายสุเทพ แล้วคะแนนเสียงที่เลือกพรรคอาจไม่มากอย่างที่คิด
" ถ้าประชาชนแยก 2 กลุ่ม ประชาชนอ่อนแรงลงทันที ถ้านายสุเทพเชื่อประชาธิปัตย์ยอมเสียมวลชน คนก็จะตั้งคำถามว่าที่พูดมาว่าไม่สู้เพื่อพรรค นายสุเทพก็จะเสียหายหนัก ส่วนประชาธิปัตย์ถ้าลง คะแนนเสียงอาจไม่มากไปกว่าเดิมมากนัก เพราะมวลชนแบ่งไปที่นายสุเทพด้วย เหมือนพันธมิตรฯตอนโหวตโน แต่อาจหนักกว่า เพราะกระแสของนายสุเทพสูงมาก ถ้าประชาธิปัตย์เดินเกมนี้ต่อไปอาจเสียเปรียบการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์อาจไม่สนใจว่าจะแพ้หรือชนะเพราะเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา แต่มันบั่นทอนการต่อสู้ของนายสุเทพไปทันที นอกจากนี้ยังเป็นการตอกย้ำความชอบธรรมให้ระบอบทักษิณให้สูงเด่นกว่าดิม ถ้ากลับมาจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม อาจทำอะไรหนักกว่าเดิม"
นายปานเทพกล่าวต่อว่า ถ้านายสุเทพชุมนุมที่ศูนย์ราชการฯ อาคารบี เป็นที่ตั้งสำนักงาน กกต. ชุมนุมถึงขั้นไม่มีใครเข้าทำงานได้เลย หรือถ้า กกต.เอาไฟล์ไปทำงานข้างนอก ถ้ารู้เขาทำที่ไหนต้องไปอารยะขัดขืนที่นั่น เพื่อให้จัดเลือกตั้งไม่ได้ แต่จะไล่ล่าทันหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง หรือไม่เช่นนั้นนายสุเทพต้องมีมาตรการใดทำให้ กกต.ลาออกจากตำแหน่งได้ทั้ง 5 คน.
