xs
xsm
sm
md
lg

พระบรมฯเสด็จวางพานพุ่ม สักการะร.7 วันรัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน มาถึง ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ทรงวางพุ่มดอกไม้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะถวายบังคม พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์ พระที่นั่ง ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ พระสงฆ์ 15 รูปเจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว ทรงประเคนผ้าไตร และจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสด็จพระราชดำเนินกลับ
โอกาสนี้ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่แทนประธานรัฐสภา พร้อมกด้วยสมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการรัฐสภาร่วมในพิธีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เนื่องในวันพระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ โดยตลอดทั้งวัน ยังมีส่วนราชการมาวางพานประดับพุ่มดอกไม้ อาทิ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา นายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้วางพานประดับพุ่มดอกไม้ในนามของครม.ด้วย
ขณะที่ นายอิสระ สมชัย กรรมการ กปปส. ได้นำตัวแทนกลุ่มมวลชน กปปส. วางพานพุ่ม ที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วย
นายอิสระ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. เป็นการดำเนินการภายในรัฐธรรมนูญ และเป็นไปตามพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน ในวันที่ทรงสละพระราชอำนาจ ที่ให้อำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

**เสวนาหาทางออกประเทศไทย

ในวันเดียวกันนี้ ที่รัฐสภา มีการจัดเสวนา "ทางออกประเทศไทย" โดยนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยนายนิคม กล่าวตอนหนึ่งว่า ความจริงประเทศยังมีทางออกอีกมาก ถ้าทุกคนหันหน้าเข้าหารือกัน ตนได้ติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชน นักวิชาการ และนักการเมือง ที่ต่างยึดแนวทางตัวเองที่คิดว่าถูกต้อง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ใช้มาเป็นปีที่ 6 แล้ว แต่ยังมีหลายคนนำไปใช้ในทางไม่ถูกต้อง โดยอ้าง มาตรา 3 มาตรา 7 จึงอยากให้เวทีเสวนานี้ เป็นเวทีทำความเข้าใจกับประชาชน และที่อยากจะฝาก คือ 1. เราต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 2. เคารพสิทธิและเสรีภาพ แต่ต้องไม่เกินขอบเขต เพราะสังคมไทยทุกวันนี้เอาแต่สิทธิ แต่ไม่ทำหน้าที่ 3. ต้องรับผิดชอบต่อสังคม ประเทศชาติ โดยการแสดงออกต้องอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ถ้าทำแบบนี้ได้ประเทศก็มีทางออก

**หวั่นป.ป.ช.โหมไฟการเมือง

พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผอ.สำนักสันติวิธี และธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องหันหน้าคุยกัน ที่ผ่านมา มีโอกาสคุยกันก็ทำให้เป็นวิกฤติ จนเกิดความรุนแรงแทน ซึ่งประชาชนต้องมีความเข้มแข็ง กดดันให้คู่ขัดแย้งหันหน้าคุยกัน ทางออกวันนี้ที่จะมีการเลือกตั้ง ในเมื่อฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ เสนอพิมพ์เขียว พรรคเพื่อไทย ก็เสนอแนวทางปฏิรูป ทำไมไม่นำตรงนี้มาเป็นข้อสรุปร่วมกัน เพื่อยกขึ้นมาเป็นแนวทางบริหารประเทศเลย
ทั้งนี้ ตนยังหวั่นจะเกิดสงครามมกลางเมือง หากป.ป.ช.ชี้มูลให้นายกฯต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ก็จะเข้าล็อกกลุ่ม กปปส. และหากมีการยุบพรรคการเมืองด้วย จะเกิดคำถามทันทีว่าเหตุใดองค์กรอิสระมาเร่งพิจารณาตอนนี้ ถือเป็นการสุมไฟเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจถูกบังคับไม่ให้มีการปฏิบัติหน้าที่
อมร วาณิชวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาวิจัย และพัฒนากระบวนการยุติธรรมไทย กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่ปกติ รัฐบาลตั้งรับอย่างเดียว เพราะอะไรอยู่เบื้องหลัง จนเป็นปรากฏการณ์รัฐบาลไม่กล้าปราบม็อบ จึงอยากวอนให้ผู้รักชาติช่วยกันหาทางออก ล่าสุดประกาศยุบสภากำหนดวันเลือกตั้งชัดเจนแล้ว ซึ่งถือเป็นพระราชวินิจฉัยลงมา ทุกคนต้องให้ความเคารพ และอยากขอร้องนักวิชาการทั้งหลายให้ถอยออกมา ที่บ้านเมืองวุ่นวายขณะนี้เป็นเพราะพวกเรากันเอง เหตุการณ์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงนั้น ตนไม่อยากเห็นใครเหยียบซากศพก้าวขึ้นมาสู่อำนาจอีก

**กปปส.ใช้ม.3-ม.7หวังเกิดสุญญากาศ

นายจีรพงศ์ วัฒนะรัตน์ ที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ข้อเสนอของกลุ่ม กปปส.ให้จัดตั้งสภาประชาชนนั้น ไม่ต้องไปหาวิธีอื่นให้เหนื่อย เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 เสนอทางออกไว้ โดยให้ทำประชามติถามความเห็นประชาชน เพื่อให้รัฐบาลนำไปปฏิบัติ แต่ถ้ายังไม่พอใจยังมี มาตรา 163 ที่กำหนดให้ประชาชนไม่น้อยกว่า 10,000 คน มีสิทธิเสนอ ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งสภาประชาชนได้
นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ กล่าวว่า รัฐบาลประกาศยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับมีแนวคิดจะบอยคอตเลือกตั้ง หากยังมีพรรคที่ไม่รู้จักสำนึกแบบนี้ ส.ส.ก็ควรสำนึกแล้วลาออกเองได้ การที่ กปปส. ออกคำสั่งให้นายกฯลาออกจากรักษาการภายใน 24 ชั่วโมง ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ชัดเจน เพราะนายกฯ ต้องเป็นผู้รักษาการจนกว่ามีนายกฯคนใหม่ แต่มีการนำมาตรา 3 มาตรา 7 มาอ้างเพื่อให้เกิดสุญญากาศการเมือง ไม่ให้มีเลือกตั้ง ให้มีสภาประชาชนแทน จึงสะท้อนให้เห็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำอยู่คือ ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ฝ่ายตัวเอง ได้ประโยชน์ แล้วประชาชนจะรู้ได้อย่างไรว่า คุณไม่ได้เสนอขนมหลอกเด็กอีก แม้รัฐบาลจะมีปัญหาหรือทำน่าเกลียดอย่างไร ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ควรใช้วิธีน่าเกลียดนอกรัฐธรรมนูญมาล้มล้างรัฐบาลเช่นนี้
นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า น่าสังเกตว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้เปลี่ยนเป้าหมายมาที่การทำหน้าที่ของกกต.และ ป.ป.ช. โดยเฉพาะคดี 312 ส.ส. ส.ว. ที่อยู่ในป.ป.ช. ถ้ามีการชี้มูลความผิดขึ้นมาจริง ส.ว. เลือกตั้ง 50 คน ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะเหลือแต่ ส.ว.สรรหาส่วนใหญ่ อย่าคิดว่าจะเกิดกระบวนการถอดถอนไม่ได้ เพราะองคาพยพของส.ส.พรรครัฐบาลก็อาจถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปีด้วย เป็นการพลิกแพลงใช้ระบบมาทำลายระบบชัดเจน รัฐธรรมนูญเป็นเหมือนเป็นขิง โสม ยิงแก่ยิ่งมีประสบการณ์ มันมีอิทธิฤทธิ์ แต่ถ้าเปลี่ยนบ่อยๆ ฉีกทิ้งบ่อยๆ มันจะโทรม สุด ท้ายถ้ารัฐประหารบ่อยๆ คนรุ่นใหม่ที่อยากเสนอตัวเข้ามาก็คงไม่เข้ามา ถ้าระบอบทักษิณมีอยู่จริง ก็จะมีอยู่ต่อไป ด้วยการกระทำของนายสุเทพเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น