แนวคิดนับหนึ่งสู่ความถูกต้อง “จุดหมายย่อมมาก่อนวิธีการเข้าสู่จุดหมาย ฉันใด หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ย่อมจะต้องมาก่อนกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น” “จุดหมายย่อมเป็นเหตุของวิธีการอันหลากหลาย ฉันใด หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ย่อมเป็นเหตุของกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ฉันนั้น
81 ปี ปรากฏการณ์ของการขัดแย้งทางการเมืองของลัทธิ (เผด็จการ) รัฐธรรมนูญ คือลัทธิที่เป็นไปตามกิเลส สอดคล้องกับกิเลส มันจึงทำลายประเทศชาติและประชาชนไทยให้ย่อยยับ ตามที่ได้เห็นๆ กันอยู่
นี่คือรากฐานของแนวทางธรรมาธิปไตย อันเกิดจากสัจธรรมสามประสานคือ1) กฎธรรมชาติ 2) ชีวิต (ขันธ์ 5) 3) หลักการปกครองธรรมาธิปไตย โดยสามารถจะขจัดความเลวร้ายของแผ่นดินให้สิ้นซาก เปลี่ยนการเมืองของนักการเมืองให้เป็นการเมืองของปวงชนอย่างแท้จริง ดังสัมพันธภาพ ดังนี้
นี่คือสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ใน 3 ลักษณะเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ 1) สภาวะความเป็นจริงของตัวมนุษย์ (ขันธ์ 5) การรู้แจ้งแห่งขันธ์ 5 ย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้รู้แจ้งกฎธรรมชาติ 2) สภาวะกฎธรรมชาติ เมื่อสภาวะทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงได้ประยุกต์ลงสู่ 3) การเมืองการปกครองแบบธรรมาธิปไตย ผู้มีปัญญาของชาติย่อมรู้แจ้งชัด สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ ก็สามารถเรียนรู้ได้ทุกคน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากว่าท่านมีความรักชาติอย่างสุดจิตสุดใจ และมั่นคงในอุดมการณ์ในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งนี้เป็นปัญญาของเราชาวไทยอย่างแท้จริงที่ได้สืบทอดกันมาร่วม 2,500 กว่าปี ยิ่งใหญ่กว่าแนวคิดลัทธิการเมืองแบบตะวันตกที่ไปร่ำเรียนมาแล้วนำมาใช้ อย่างผิดๆ เป็นการทำลายตนเอง และทำลายชาติของตนเอง ด้วยความหลงผิดอย่างร้ายแรงว่า “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย”หลงผิดว่า “ระบบรัฐสภาคือระบอบประชาธิปไตย”หลงผิดว่า “การเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย” เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงรูปแบบและวิธีการปกครองอย่างหนึ่งเท่านั้น ดุจดังเปลือกหอยเท่านั้น
การเมืองจะเป็นระบอบอะไร ต้องดูที่หลักการปกครอง และต้องสถาปนาหลักการปกครองนั้นขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงร่างรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับหลักการปกครอง รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายย่อมสะท้อนหลักการปกครองนั้นๆ หรือระบอบนั้นๆ นั่นเอง
แต่ประเทศไทยเรายังไม่เคยมีใครเสนอหลักการปกครอง ไม่เคยมีการสถาปนาหลักการปกครอง มีแต่ร่างรัฐธรรมนูญๆๆๆๆๆๆ มากมายมากถึง 18 ฉบับ ถึงแม้จะร่างกันร้อยครั้ง 1,000 ฉบับ ก็ไม่มีวันที่จะได้ระบอบประชาธิปไตย ท่านทั้งหลายคงเห็นชัดว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับ มันเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งทางการเมือง การเมืองไทยเลยไม่สามารถพัฒนาไปได้เลย พายเรือในอ่างน้ำตลอดมา 81 ปี มันจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจยิ่งนัก
เราได้ขยายความองค์ประกอบของรัฐธรรมนูญแบบธรรมาธิปไตย ให้ชัดยิ่งขึ้น เป็นความสัมพันธ์ระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย กับรัฐธรรมนูญ อย่างถูกต้อง ดังนี้
การสร้างและการสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม ท่านจะเห็นชัดว่าแท้จริงก็คือการนำเอาเนื้อหา แก่นสาร แห่งธรรมและลักษณะพิเศษของชาติไทยเรา อันเป็นรากฐานแก่นแท้ของไทยเรามายาวนาน คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำมาเป็นหลักการปกครอง (Principle of Government) โดยมีรูปการปกครอง Form of Government คือระบบรัฐสภา (Parliamentary System) และมีวิธีการปกครอง Methods of Government) คือรัฐธรรมนูญ ได้แก่ หมวดและมาตราต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักการปกครอง
การจัดความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ จะอธิบายยังไงๆ มันก็ถูกต้องยิ่งใหญ่เสมอไปทุกกาลเวลา และจะเป็นเหตุเป็นแนวทางที่จะทำให้ประชาชนมีปัญญาอย่างยิ่งใหญ่ ประเทศชาติมีความมั่นคง รุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่
ส่วนระบอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม มันจึงเป็นการปกครองแบบเผด็จการโดยคณะพรรครัฐบาลเพียงหยิบมือเดียว มันจึงเป็นเหตุของการคอร์รัปชัน และการบริหารประเทศที่ล้มเหลว และความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่มีวันจบสิ้นเพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างมาจากความกลัว ความโลภ ความโกรธ ความหลง ดังมีลักษณะ สัมพันธภาพที่ผิดผิดอย่างร้ายแรง ดังนี้
การเมืองการปกครองฯ ลักษณะนี้ ย่อมนำมาแต่ความพินาศ วอดวาย หายนะให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างไม่สิ้นสุด
สาธุชนปัญญาทั้งหลาย อธิบายยังไงๆ มันก็ผิด หาความถูกต้องไม่ได้ มีแต่พวกหลงผิด ยึดมั่นในลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเท่านั้นที่นิยมชมชอบ
ขบวนการทักษิณ ซึ่งเขามีลักษณะเป็นจอมคนพาล จอมเผด็จการ จอมคอร์รัปชัน จอมลัทธิรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 40 จอมทำลายชาติ แต่ก็ยังมีคนหลงเขาอยู่ ด้วยเงินและเหตุผลอื่นๆ
ทั้งรัฐบาล นำโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย บริหารประเทศภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ ผ่านมาเพียงสองปี ท่าน... ไม่มีนโยบาย ไม่ได้ลงมือแก้ไขเหตุวิกฤตชาติเลยแม้แต่น้อย เพราะท่าน... ไม่รู้ว่าอะไร คือเหตุวิกฤตชาติที่แท้จริง สิ่งที่รัฐบาลทำไปทั้งหมด ล้วนเป็นปัญหาปลายเหตุทั้งสิ้น ทั้งช่วยญาติและพวกพ้อง มวลมหาประชาชนจึงทนไม่ได้
มวลมหาประชาชนไม่พอใจอย่างรุนแรงและทางออกของมวลมหาประชาชน นักปราชญ์ ปัญญาชนจะมีการสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 โดยพระเจ้าแผ่นดิน สมดังพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
จึงเป็นทางออกทางเดียวเท่านั้น ที่จะเป็นชัยชนะของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง นอกนั้นหลอกลวงประชาชนทั้งสิ้น ตราบใดที่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญยังคงอยู่ ระบอบทักษิณ ระบอบ ฯลฯ ก็ยังคงอยู่ วงจร “อัปรีย์ไป จัญไรมา” ของพรรคการเมืองก็ยังคงอยู่ ท่านทั้งหลายคงจะได้เห็นการเมืองไทย จะไปทางทิศทางใด ถูกต้องยิ่งใหญ่ หรือจะย่ำอยู่ที่เดิมเร็วๆ นี้
81 ปี ปรากฏการณ์ของการขัดแย้งทางการเมืองของลัทธิ (เผด็จการ) รัฐธรรมนูญ คือลัทธิที่เป็นไปตามกิเลส สอดคล้องกับกิเลส มันจึงทำลายประเทศชาติและประชาชนไทยให้ย่อยยับ ตามที่ได้เห็นๆ กันอยู่
นี่คือรากฐานของแนวทางธรรมาธิปไตย อันเกิดจากสัจธรรมสามประสานคือ1) กฎธรรมชาติ 2) ชีวิต (ขันธ์ 5) 3) หลักการปกครองธรรมาธิปไตย โดยสามารถจะขจัดความเลวร้ายของแผ่นดินให้สิ้นซาก เปลี่ยนการเมืองของนักการเมืองให้เป็นการเมืองของปวงชนอย่างแท้จริง ดังสัมพันธภาพ ดังนี้
นี่คือสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ใน 3 ลักษณะเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ 1) สภาวะความเป็นจริงของตัวมนุษย์ (ขันธ์ 5) การรู้แจ้งแห่งขันธ์ 5 ย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้รู้แจ้งกฎธรรมชาติ 2) สภาวะกฎธรรมชาติ เมื่อสภาวะทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงได้ประยุกต์ลงสู่ 3) การเมืองการปกครองแบบธรรมาธิปไตย ผู้มีปัญญาของชาติย่อมรู้แจ้งชัด สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ ก็สามารถเรียนรู้ได้ทุกคน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากว่าท่านมีความรักชาติอย่างสุดจิตสุดใจ และมั่นคงในอุดมการณ์ในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งนี้เป็นปัญญาของเราชาวไทยอย่างแท้จริงที่ได้สืบทอดกันมาร่วม 2,500 กว่าปี ยิ่งใหญ่กว่าแนวคิดลัทธิการเมืองแบบตะวันตกที่ไปร่ำเรียนมาแล้วนำมาใช้ อย่างผิดๆ เป็นการทำลายตนเอง และทำลายชาติของตนเอง ด้วยความหลงผิดอย่างร้ายแรงว่า “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย”หลงผิดว่า “ระบบรัฐสภาคือระบอบประชาธิปไตย”หลงผิดว่า “การเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย” เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงรูปแบบและวิธีการปกครองอย่างหนึ่งเท่านั้น ดุจดังเปลือกหอยเท่านั้น
การเมืองจะเป็นระบอบอะไร ต้องดูที่หลักการปกครอง และต้องสถาปนาหลักการปกครองนั้นขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงร่างรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับหลักการปกครอง รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายย่อมสะท้อนหลักการปกครองนั้นๆ หรือระบอบนั้นๆ นั่นเอง
แต่ประเทศไทยเรายังไม่เคยมีใครเสนอหลักการปกครอง ไม่เคยมีการสถาปนาหลักการปกครอง มีแต่ร่างรัฐธรรมนูญๆๆๆๆๆๆ มากมายมากถึง 18 ฉบับ ถึงแม้จะร่างกันร้อยครั้ง 1,000 ฉบับ ก็ไม่มีวันที่จะได้ระบอบประชาธิปไตย ท่านทั้งหลายคงเห็นชัดว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับ มันเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งทางการเมือง การเมืองไทยเลยไม่สามารถพัฒนาไปได้เลย พายเรือในอ่างน้ำตลอดมา 81 ปี มันจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจยิ่งนัก
เราได้ขยายความองค์ประกอบของรัฐธรรมนูญแบบธรรมาธิปไตย ให้ชัดยิ่งขึ้น เป็นความสัมพันธ์ระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย กับรัฐธรรมนูญ อย่างถูกต้อง ดังนี้
การสร้างและการสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม ท่านจะเห็นชัดว่าแท้จริงก็คือการนำเอาเนื้อหา แก่นสาร แห่งธรรมและลักษณะพิเศษของชาติไทยเรา อันเป็นรากฐานแก่นแท้ของไทยเรามายาวนาน คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำมาเป็นหลักการปกครอง (Principle of Government) โดยมีรูปการปกครอง Form of Government คือระบบรัฐสภา (Parliamentary System) และมีวิธีการปกครอง Methods of Government) คือรัฐธรรมนูญ ได้แก่ หมวดและมาตราต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักการปกครอง
การจัดความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ จะอธิบายยังไงๆ มันก็ถูกต้องยิ่งใหญ่เสมอไปทุกกาลเวลา และจะเป็นเหตุเป็นแนวทางที่จะทำให้ประชาชนมีปัญญาอย่างยิ่งใหญ่ ประเทศชาติมีความมั่นคง รุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่
ส่วนระบอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม มันจึงเป็นการปกครองแบบเผด็จการโดยคณะพรรครัฐบาลเพียงหยิบมือเดียว มันจึงเป็นเหตุของการคอร์รัปชัน และการบริหารประเทศที่ล้มเหลว และความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่มีวันจบสิ้นเพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างมาจากความกลัว ความโลภ ความโกรธ ความหลง ดังมีลักษณะ สัมพันธภาพที่ผิดผิดอย่างร้ายแรง ดังนี้
การเมืองการปกครองฯ ลักษณะนี้ ย่อมนำมาแต่ความพินาศ วอดวาย หายนะให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างไม่สิ้นสุด
สาธุชนปัญญาทั้งหลาย อธิบายยังไงๆ มันก็ผิด หาความถูกต้องไม่ได้ มีแต่พวกหลงผิด ยึดมั่นในลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเท่านั้นที่นิยมชมชอบ
ขบวนการทักษิณ ซึ่งเขามีลักษณะเป็นจอมคนพาล จอมเผด็จการ จอมคอร์รัปชัน จอมลัทธิรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 40 จอมทำลายชาติ แต่ก็ยังมีคนหลงเขาอยู่ ด้วยเงินและเหตุผลอื่นๆ
ทั้งรัฐบาล นำโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย บริหารประเทศภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ ผ่านมาเพียงสองปี ท่าน... ไม่มีนโยบาย ไม่ได้ลงมือแก้ไขเหตุวิกฤตชาติเลยแม้แต่น้อย เพราะท่าน... ไม่รู้ว่าอะไร คือเหตุวิกฤตชาติที่แท้จริง สิ่งที่รัฐบาลทำไปทั้งหมด ล้วนเป็นปัญหาปลายเหตุทั้งสิ้น ทั้งช่วยญาติและพวกพ้อง มวลมหาประชาชนจึงทนไม่ได้
มวลมหาประชาชนไม่พอใจอย่างรุนแรงและทางออกของมวลมหาประชาชน นักปราชญ์ ปัญญาชนจะมีการสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 โดยพระเจ้าแผ่นดิน สมดังพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
จึงเป็นทางออกทางเดียวเท่านั้น ที่จะเป็นชัยชนะของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง นอกนั้นหลอกลวงประชาชนทั้งสิ้น ตราบใดที่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญยังคงอยู่ ระบอบทักษิณ ระบอบ ฯลฯ ก็ยังคงอยู่ วงจร “อัปรีย์ไป จัญไรมา” ของพรรคการเมืองก็ยังคงอยู่ ท่านทั้งหลายคงจะได้เห็นการเมืองไทย จะไปทางทิศทางใด ถูกต้องยิ่งใหญ่ หรือจะย่ำอยู่ที่เดิมเร็วๆ นี้