ผู้เขียนขอให้กำลังใจแกนนำมวลชนทุกมวลชน ทุกฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลภายใต้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ นี่คือความถูกต้องอย่างแท้จริง
อนึ่ง หากคิดโค่นแค่รัฐบาลหรือระบอบทักษิณเพียงอย่างเดียว ก็เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ส่วนเหตุที่แท้จริงของชาติไม่ได้รับการแก้ไข ดุจดังเล็งลูกธนูไปที่เงาของระบอบเผด็จการอันเป็นสมุทัยหรือเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติ
ทุกๆ รัฐบาลเลวๆ ต่างก็มีหัวใจอยู่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ดุจดังทศกัณฐ์ที่ถอดหัวใจใส่กล่องฝากฤษีไว้ ใครๆ ฆ่าก็ไม่ตาย หากไม่จัดการที่หัวใจอย่างแท้จริงคือระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ก็จะเสียแรงเปล่าประเทศชาติและประชาชนก็ไม่ได้อะไร รัฐบาลเลวๆ กู้ๆ ก็จะกลับมาดังเดิม เพราะเขาอยู่ในระบอบเลว ยุบสภาเขาก็จะกลับมาใหม่ ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะประชาชนยังไม่รู้ว่าระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร
ดังนั้นขอให้พิจารณาว่า เชิดชูหลักการคือความถูกต้องเป็นฝ่ายชนะ ส่วนการยึดถือตัวบุคคลเป็นความเห็นผิดและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับปัญญาชนของชาติและแกนนำประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ
เราขอย้ำว่าสภาพการณ์หรือสภาวการณ์ที่แท้จริงทางการเมืองไทยเป็นระบอบเผด็จการ ซึ่งเป็นเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ อันเป็นผลผลิตของขบวนการลัทธิรัฐธรรมนูญโดยคณะราษฎรได้สถาปนาขึ้นเมื่อ 24 มิถุนายน 2475
ผ่านมายาวนานกว่า 81 ปี ซึ่งลัทธิรัฐธรรมนูญนี้ เกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิดของคณะผู้ปกครองเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย โดยเข้าใจและยึดเอารูปการปกครอง (ระบบรัฐสภา) และวิธีการปกครอง (รัฐธรรมนูญ) ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย นี่คือความเบาปัญญาหรือความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง เห็นผิด คิดผิด ทำผิด ผู้ปกครองไทยชุดแรกทำผิด คณะผู้ปกครองไทยต่อๆ มาก็สืบทอดอย่างผิดๆ ทำผิดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้ประเทศไทยล้าหลัง กระทั่งล้าหลังกว่าประเทศเกิดใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้ว เช่น มาเลเซีย เกาหลี เป็นต้น และกำลังจะล้าหลังกว่าลาว เวียดนาม เขมร ในท้ายที่สุด
เราจะแสดงให้เห็นว่าสัมพันธภาพลักษณะการปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ยาวนานกว่า 81 มีลักษณะ ดังนี้
เรามาเปรียบเทียบกับสัมพันธภาพการปกครองแบบธรรมาธิปไตยหรือประชาธิปไตยที่แท้จริง มีลักษณะ ดังนี้
ถามว่า ปัญญาชน แกนนำมวลชนทุกสาขาอาชีพ ผู้มีปัญญาทั้งหลายจะเลือกสัมพันธภาพแบบไหนระหว่างเผด็จการรัฐธรรมนูญ 81 ปี กับสัมพันธภาพแบบธรรมาธิปไตย
แต่รัฐบาลทุกรัฐบาลยังคงรักษาการปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ และก็ทุกรัฐบาลหลอกลวงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งผู้ปกครองเข้าใจว่าประชาชนยังโง่เขลา รู้ไม่เท่าทันพวกปกครอง แต่ที่หารู้ไม่ว่า พวกผู้ปกครองนั่นแหละโง่เขลาเบาปัญญาเรื่องการเมืองการปกครอง สักวันพวกเขาจะไม่มีแผ่นดินอยู่
การปกครองแบบเผด็จการทุกชนิดเป็นอันตรายต่อชาติและประชาชน เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ยิ่งระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญด้วยแล้ว สามารถหลอกได้ละเอียด ยากที่ใครๆ จะจับได้ หรือแม้แต่สถาบันหลักของชาติก็ยังเข้าใจผิดและยังคงสนับสนุนการปกครองแบบเผด็จการนี้อยู่ เช่น การอนุมัติกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทุกครั้งที่แก้ไข ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทำลายชาติ
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ก็เช่นเดียวกัน เป็นรัฐบาลมา 2 ปีกว่าๆ ก็พิสูจน์ให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งแล้วว่ารัฐบาลนี้ยังคงรักษาและเสริมสร้างระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น
ผลของการปกครองแบบเผด็จการไม่ต้องดูอื่นไกล ดูได้จากรัฐบาลทักษิณ ดูได้จากรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยิ่งปกครองยิ่งเสื่อม ยิ่งปกครองยิ่งคอร์รัปชัน ยิ่งปกครองยิ่งเสียศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของชาติ ยิ่งปกครองยิ่งแตกแยก รัฐบาล ปู ยิ่งลักษณ์ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนยากจนๆ ลง
ก็ดูซิทั้งรัฐสภาและรัฐบาลยังไปไม่ถึงไหนมัวแต่เถียงกันเรื่อง ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นทำลายเจตจำนงของประชาชนอย่างร้ายแรง ถามว่าประชาชนจะได้อะไรไหม เสียเวลา เสียงบประมาณ ประชาชนไม่ได้อะไรเลย เห็นแต่ความโง่เขลาดักดานของพวกพรรคเพื่อไทย ความเห็นแก่ตัวของนักการเมือง
ปัญหาที่ควรจะแก้ไข ก็ไม่คิดจะแก้ไข รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มัวแต่ไปแก้ปัญหาปลายเหตุทั้งสิ้น ลองรัฐบาลเสนอนโยบาย เสนอหลักการปกครองโดยธรรม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ปวงชนไทยทุกคน และจะทำให้ทั้งประชาชนและนักการเมืองทุกพรรค ทุกฝ่ายมีความรู้เข้าใจในหลักการเมืองการปกครองเดียวกัน ปัญหาความแตกแยกของชนในชาติก็จะหมดไป
ขอย้ำว่าทุกรัฐบาลภายใต้ระบอบเผด็จการ ทุกรัฐบาลจะบริหารประเทศเฉกเช่นบริหารเทศบาล และสงสัยกันมากว่าทำไมสถาบันหลักของชาติ กองทัพแห่งชาติถึงได้สนับสนุนการปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เช่นนี้อยู่อีก ขอถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายทหารทุกคนหน่อยเถอะ มีไหม นายทหารแห่งชาติที่รักชาติอย่างแท้จริง “วินาสกาเล วิปริตพุทธิ ในกาลวินาศ ความฉลาดก็วิปริต” คือ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นระบอบเผด็จการชั่ว ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เห็นผิดนานเหลือเกินกว่า 81 ปีแล้ว
อนึ่ง หากคิดโค่นแค่รัฐบาลหรือระบอบทักษิณเพียงอย่างเดียว ก็เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ส่วนเหตุที่แท้จริงของชาติไม่ได้รับการแก้ไข ดุจดังเล็งลูกธนูไปที่เงาของระบอบเผด็จการอันเป็นสมุทัยหรือเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติ
ทุกๆ รัฐบาลเลวๆ ต่างก็มีหัวใจอยู่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ดุจดังทศกัณฐ์ที่ถอดหัวใจใส่กล่องฝากฤษีไว้ ใครๆ ฆ่าก็ไม่ตาย หากไม่จัดการที่หัวใจอย่างแท้จริงคือระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ก็จะเสียแรงเปล่าประเทศชาติและประชาชนก็ไม่ได้อะไร รัฐบาลเลวๆ กู้ๆ ก็จะกลับมาดังเดิม เพราะเขาอยู่ในระบอบเลว ยุบสภาเขาก็จะกลับมาใหม่ ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะประชาชนยังไม่รู้ว่าระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร
ดังนั้นขอให้พิจารณาว่า เชิดชูหลักการคือความถูกต้องเป็นฝ่ายชนะ ส่วนการยึดถือตัวบุคคลเป็นความเห็นผิดและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับปัญญาชนของชาติและแกนนำประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ
เราขอย้ำว่าสภาพการณ์หรือสภาวการณ์ที่แท้จริงทางการเมืองไทยเป็นระบอบเผด็จการ ซึ่งเป็นเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ อันเป็นผลผลิตของขบวนการลัทธิรัฐธรรมนูญโดยคณะราษฎรได้สถาปนาขึ้นเมื่อ 24 มิถุนายน 2475
ผ่านมายาวนานกว่า 81 ปี ซึ่งลัทธิรัฐธรรมนูญนี้ เกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิดของคณะผู้ปกครองเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย โดยเข้าใจและยึดเอารูปการปกครอง (ระบบรัฐสภา) และวิธีการปกครอง (รัฐธรรมนูญ) ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย นี่คือความเบาปัญญาหรือความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง เห็นผิด คิดผิด ทำผิด ผู้ปกครองไทยชุดแรกทำผิด คณะผู้ปกครองไทยต่อๆ มาก็สืบทอดอย่างผิดๆ ทำผิดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้ประเทศไทยล้าหลัง กระทั่งล้าหลังกว่าประเทศเกิดใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้ว เช่น มาเลเซีย เกาหลี เป็นต้น และกำลังจะล้าหลังกว่าลาว เวียดนาม เขมร ในท้ายที่สุด
เราจะแสดงให้เห็นว่าสัมพันธภาพลักษณะการปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ยาวนานกว่า 81 มีลักษณะ ดังนี้
เรามาเปรียบเทียบกับสัมพันธภาพการปกครองแบบธรรมาธิปไตยหรือประชาธิปไตยที่แท้จริง มีลักษณะ ดังนี้
ถามว่า ปัญญาชน แกนนำมวลชนทุกสาขาอาชีพ ผู้มีปัญญาทั้งหลายจะเลือกสัมพันธภาพแบบไหนระหว่างเผด็จการรัฐธรรมนูญ 81 ปี กับสัมพันธภาพแบบธรรมาธิปไตย
แต่รัฐบาลทุกรัฐบาลยังคงรักษาการปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ และก็ทุกรัฐบาลหลอกลวงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งผู้ปกครองเข้าใจว่าประชาชนยังโง่เขลา รู้ไม่เท่าทันพวกปกครอง แต่ที่หารู้ไม่ว่า พวกผู้ปกครองนั่นแหละโง่เขลาเบาปัญญาเรื่องการเมืองการปกครอง สักวันพวกเขาจะไม่มีแผ่นดินอยู่
การปกครองแบบเผด็จการทุกชนิดเป็นอันตรายต่อชาติและประชาชน เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ยิ่งระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญด้วยแล้ว สามารถหลอกได้ละเอียด ยากที่ใครๆ จะจับได้ หรือแม้แต่สถาบันหลักของชาติก็ยังเข้าใจผิดและยังคงสนับสนุนการปกครองแบบเผด็จการนี้อยู่ เช่น การอนุมัติกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทุกครั้งที่แก้ไข ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทำลายชาติ
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ก็เช่นเดียวกัน เป็นรัฐบาลมา 2 ปีกว่าๆ ก็พิสูจน์ให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งแล้วว่ารัฐบาลนี้ยังคงรักษาและเสริมสร้างระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น
ผลของการปกครองแบบเผด็จการไม่ต้องดูอื่นไกล ดูได้จากรัฐบาลทักษิณ ดูได้จากรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยิ่งปกครองยิ่งเสื่อม ยิ่งปกครองยิ่งคอร์รัปชัน ยิ่งปกครองยิ่งเสียศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของชาติ ยิ่งปกครองยิ่งแตกแยก รัฐบาล ปู ยิ่งลักษณ์ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนยากจนๆ ลง
ก็ดูซิทั้งรัฐสภาและรัฐบาลยังไปไม่ถึงไหนมัวแต่เถียงกันเรื่อง ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นทำลายเจตจำนงของประชาชนอย่างร้ายแรง ถามว่าประชาชนจะได้อะไรไหม เสียเวลา เสียงบประมาณ ประชาชนไม่ได้อะไรเลย เห็นแต่ความโง่เขลาดักดานของพวกพรรคเพื่อไทย ความเห็นแก่ตัวของนักการเมือง
ปัญหาที่ควรจะแก้ไข ก็ไม่คิดจะแก้ไข รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มัวแต่ไปแก้ปัญหาปลายเหตุทั้งสิ้น ลองรัฐบาลเสนอนโยบาย เสนอหลักการปกครองโดยธรรม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ปวงชนไทยทุกคน และจะทำให้ทั้งประชาชนและนักการเมืองทุกพรรค ทุกฝ่ายมีความรู้เข้าใจในหลักการเมืองการปกครองเดียวกัน ปัญหาความแตกแยกของชนในชาติก็จะหมดไป
ขอย้ำว่าทุกรัฐบาลภายใต้ระบอบเผด็จการ ทุกรัฐบาลจะบริหารประเทศเฉกเช่นบริหารเทศบาล และสงสัยกันมากว่าทำไมสถาบันหลักของชาติ กองทัพแห่งชาติถึงได้สนับสนุนการปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เช่นนี้อยู่อีก ขอถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายทหารทุกคนหน่อยเถอะ มีไหม นายทหารแห่งชาติที่รักชาติอย่างแท้จริง “วินาสกาเล วิปริตพุทธิ ในกาลวินาศ ความฉลาดก็วิปริต” คือ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นระบอบเผด็จการชั่ว ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เห็นผิดนานเหลือเกินกว่า 81 ปีแล้ว